ตอนที่ 42 สอนผมหน่อย

ลืมรักเลือนใจ

“แค่ก แค่ก…” 

 

 

หลินเยียนตกใจที่เผยอวี่ถังเรียกเธอว่าพ่อจนเกือบสำลักน้ำลาย “ว่าไงนะ?” 

 

 

เผยอวี่ถังตะโกน “คุณพ่อ คุณสุดยอดมาก! สอนผมหน่อย!” 

 

 

หลินเยียนพูดอะไรไม่ออก 

 

 

จุดยืนของนายอยู่ที่ไหนกัน พ่อหนุ่ม? ก่อนหน้านี้เขาตราหน้าว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์และเหยาะแหยะ แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นพ่อของเขาไปแล้ว? 

 

 

ถ้าเธอรู้ว่าเขาสามารถเอ่ยปากเรียกใครต่อใครว่าพ่อได้ง่ายๆ แบบนี้ เธอคงไม่เอาตัวไปพัวพันกับปัญหาต่างๆ นานาเพื่อช่วยเขาแน่ๆ 

 

 

โชคยังเข้าข้างที่การแข่งนั้นไม่ได้ยากเย็นจนเธอต้องลงแรงมากมายนัก ไม่อย่างนั้น เธออาจต้องโหมใช้ขาข้างที่บาดเจ็บของเธอจนทนไม่ไหวก็ได้ 

 

 

หลินเยียนไม่พูดอะไร เธอมองตาชายหนุ่มที่กำลังฉายแววเปล่งประกายสดใสราวกับมีดวงอาทิตย์เก้าดวงอยู่ในนั้น 

 

 

แววตาของเขาระยิบระยับจนเธอสบตาเขาตรงๆ ไม่ไหว 

 

 

เผยอวี่ถังยังคงจ้องเธอด้วยดวงตาสดใสของเขาต่อไป “พ่อครับ! ทำแบบนั้นได้ไงอะ? ขนาดต่อให้ตั้งรอบหนึ่ง แต่คุณก็ยังเอาชนะซ่งเย่าหนานได้!” 

 

 

หลินเยียนตอบไม่ถูก 

 

 

ที่เธอทำก็แค่เอาชนะมือสมัครเล่น มันน่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นเลยหรือ? 

 

 

เผยอวี่ถังพูดต่อ “ฝีมือคุณนี่ระดับโปรเลยนะ! คุณเป็นหัวหน้าทีมแข่งรถอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า” 

 

 

หลินเยียนขัดจังหวะ “เดี๋ยวก่อนนะคะ…นายน้อยที่สาม เราคุยกันเรื่องอื่นดีกว่าไหม แล้วก็หยุดเรียกฉันว่าพ่อได้หรือยัง” 

 

 

เธอตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเผยอวี้เฉิงและเผยหนานซวี่ 

 

 

เผยอวี่ถังถามกลับ “แล้วให้เรียกว่าอะไรดี” 

 

 

หลินเยียนตอบ “อะไรก็ได้ ยกเว้นพ่อ” 

 

 

“พี่สะใภ้ใหญ่!” เผยอวี่ถังเสนอ 

 

 

หลินเยียนตอบ “ไม่เอา…” 

 

 

“พี่สะใภ้รอง?” เผยอวี่ถังถามกลับ 

 

 

หลินเยียนรู้สึกโมโหสุดๆ ให้ตายเถอะ! 

 

 

เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนตอบว่า “เรียกหลินเยียนก็พอ” 

 

 

เผยอวี่ถังตกลงอย่างว่าง่าย “โอเค พี่เยียน! ไม่มีปัญหา! ว่าแต่พี่เยียนยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะ” 

 

 

“ก็ยกยอกันเกินไป คุณเคยเจอหัวหน้าแก๊งแบบฉันด้วยเหรอ? ฉันแค่ขับเร็วกว่าเขาก็เท่านั้น” หลินเยียนตอบอย่างขอไปที 

 

 

เผยอวี่ถังเบิกตาโพลง “แค่เร็วกว่านิดหน่อย? พี่เยียนน่าจะเข้าใจผิดเรื่องการแข่งรถระดับมือโปรแล้วนะ สำหรับนักแข่ง ความเร็วคือทุกอย่าง!” 

 

 

“ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ฉันแค่เคยมีเอี่ยวกับการแข่งรถพักหนึ่งน่ะ” 

 

 

หลินเยียนไม่อยากพูดถึงอดีตของเธอนัก เพราะถึงยังไง ชื่อของเธอก็ถูกลบออกจากสารบบของรายการแข่งรถมืออาชีพไปแล้ว 

 

 

เผยอวี่ถังกะพริบตาอย่างสงสัย “ทำไมพี่ถึงเป็นนักแข่งรถล่ะ มันอันตรายมากเลยนะ” 

 

 

หลินเยียนเกาจมูกพลางพยายามเลี่ยงคำถามนั้น “มัน…เรื่องมันยาว…” 

 

 

เผยอวี่ถังตอบกลับ “ไม่เป็นไร! ค่อยๆ เล่ามาก็ได้!” 

 

 

ราวกับว่าเผยอวี่ถังอยากจะจดบันทึกทุกคำที่เธอกำลังจะพูด 

 

 

หลินเยียนหมดทางหนี เธอได้แต่ครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะตอบคำถามอย่างไร 

 

 

ในอึดใจต่อมา เธอเริ่มเล่าเรื่อง “จริงๆ แล้วเรื่องมันเป็นอย่างนี้…ฉันเริ่มแข่งรถเพราะอยากมีโอกาสเจอคนคนหนึ่ง คือตอนนั้นฉัน…ชอบผู้ชายที่เป็นนักแข่งรถเหมือนกัน…ฉันเลยเข้ามาพัวพันในวงการแข่งรถเพราะเขานั่นแหละ” 

 

 

เผยอวี่ถังนิ่งไปชั่วขณะ “พี่มาแข่งรถเพราะผู้ชาย…” 

 

 

หลินเยียนตอบ “ทำไมล่ะ” 

 

 

เผยอวี่ถังรีบแก้ตัว “ไม่มีอะไรครับ…แล้วหลังจากนั้นล่ะ พี่ชนะใจเขาได้ไหม ได้คบเป็นแฟนกันรึเปล่า” 

 

 

หลินเยียนแสดงสีหน้าโหยหาและเศร้าโศกขณะที่นึกถึงอดีต “ฉันเริ่มศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการแข่งรถมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งฉันเก่งขึ้นมากเท่าไร ฉันยิ่งขับรถได้เร็วมากเท่านั้น สุดท้ายแล้วฉันก็รู้ว่า…ฉันสนุกกับการแข่งรถมาก แล้วทำไมฉันต้องมีแฟนด้วย แฟนกินไม่ได้หน่อย” 

 

 

เผยอวี่ถังตอบ “โอ้…” 

 

 

เขาแอบเดาเรื่องราวไว้อยู่บ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าจะจบแบบนี้