บทที่ 49 ภูต

ไหปีศาจ

บทที่ 49

ภูต

แก้วตาดำของลั่วอู๋สะท้อนแสงอันอ่อนโยนและน่าหลงใหลนั้น

“สวยงามมาก” ลั่วอู๋พูดพึมพำด้วยเสียงต่ำโดยไม่รู้ตัว เขายื่นมือออกมาและสัมผัสพลังงานตรงหน้าเบา ๆ ราวกับกำลังแยกแยะว่ามันเป็นอะไร

พลังงานวิญญาณกระโดดไปมาราวกับว่ามันมีชีวิต ราวกับพยายามหลีกเลี่ยงนิ้วมือของลั่วอู๋

จากนั้นเปลือกของก้อนพลังงานวิญญาณก็เปิดออกช้า ๆ เหมือนรังไหม แสดงใบหน้าที่แท้จริงของตัวเองออกมา

มันคือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากที่เหมือนกำลังหลับ ใบหน้าของมันคล้ายกับมนุษย์ แต่มีขนาดตัวเพียงเท่าฝ่ามือและดูละเอียดอ่อนน่ารัก

มันมีแสงสว่างเปล่งออกมาจากร่างกาย ลักษณะร่างกายเหมือนสวมกระโปรงสีชมพูที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ ปีกเป็นคริสตัลที่มีรูปแบบเหมือนผีเสื้ออยู่ด้านหลังดั่งภูตในเทพนิยาย

กลุ่มพลังงานวิญญาณนั้นค่อยๆ แผ่ตัวออกไปอย่างช้า ๆ เหมือนดอกโบตั๋นที่กำลังบาน สวยงามพอที่จะทำให้ผู้คนหลงใหล

“นี่มัน ภูตนี่นา!”

ลั่วอู๋พูดด้วยความประหลาดใจ

ภูตได้โผล่ออกมา

ภูตวิญญาณเป็นสัตว์วิญญาณชนิดหนึ่งที่ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น ส่วนใหญ่พวกมันอาศัยอยู่ในอาณาจักรเซียนโบราณอันลึกลับ

ซึ่งในสมัยโบราณภูตเหล่านี้ได้รับการเคารพสักการะเยี่ยงเทพเจ้า

ลั่วอู๋ตรวจสอบข้อมูลของภูตผ่านไหปีศาจ

เผ่าพันธุ์: ภูต

มิติ: เงิน 2

ระดับ: ทอง

ทักษะ: รุ่งอรุณแห่งการฟื้นฟู (ระดับA) เร่งการเจริญเติบโต (ระดับA) การบิน (ระดับA) พลังลึกลับ (ระดับB) สัมพรรคภาพ (ระดับA)

พื้นเพ: สิ่งมีชีวิตลึกลับที่เกิดจากพลังวิญญาณ มีความฉลาดสูงและสามารถเร่งการเจริญเติบโตของพืชได้ รักธรรมชาติ ไม่ชอบการฆ่าฟัน

ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ

มันมีความสามารถที่คู่ควรกับการถูกเรียกว่าภูต ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนจำนวนมากต้องการที่จะได้ภูตเป็นสัตว์วิญญาณ

ในบรรดาสัตว์วิญญาณที่อยู่ในระดับเดียวกันทักษะที่ภูตครอบครองไว้นั้นเหนือกว่าของสัตว์วิญญาณอย่างสมบูรณ์

แต่ภูตส่วนใหญ่นั้นไม่ชอบการต่อสู้ พวกมันอ่อนแอในการต่อสู้จริง และทักษะส่วนใหญ่ที่มีเองก็ไม่ใช่ทักษะที่ใช้ในการต่อสู้

[รุ่งอรุณแห่งการฟื้นฟู]: ระดับ A ทักษะซึ่งใช้พลังงานวิญญาณลึกลับระหว่างสวรรค์และโลก เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองได้อย่างรวดเร็ว

[เร่งการเจริญเติบโต]: ระดับ A ทักษะที่สามารถทำให้พืชเติบโตได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่กำหนด

[พลังลึกลับ]: ระดับ B ปล่อยพลังอันทรงพลังโดยคุณลักษณะของพลังจะเปลี่ยนไปแบบสุ่มและไม่สามารถถูกยับยั้งได้

[สัมพรรคภาพ]: ระดับA, ทักษะติดตัว ทักษะที่จะไม่ทำให้ได้รับผลเสียใด ๆ

การเจริญเติบโตของ สัตว์วิญญาณ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน

วัยเด็ก วัยกำลังเติบโตและวัยโตเต็มตัว

ยกตัวอย่างแมวผีของหลี่หยินนั้นยังอยู่ในวัยเด็ก ส่วนภูตวิญญาณตนนี้นั้นอยู่ในวัยกำลังเติบโต ดังนั้นมิติของมันจึงยังไม่ได้เข้าสู่ระดับทอง

“น่าเสียดายที่เจ้านี่ ไม่มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งพอ” ลั่วอู๋รู้สึกเสียดาย

ขนตาอันงอนยาวของภูตสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นมันก็ตื่นจากการหลับ ดวงตาของมันสดใสเหมือนดวงดาว มันมองลั่วอู๋ด้วยความงุนงงจากนั้นก็กระพือปีกบิน

มันยังคงกลัวลั่วอู๋อยู่บ้างเล็กน้อย

มันคงคิดว่าลั่วอู๋นั้นดูอันตรายเกินไป

แต่นั่นไม่ใช่ความจริงเลยสักนิด

ตัวข้าดูอันตรายงั้นเหรอ ไม่หรอกอย่ากลัวเลย

อย่างไรก็ตามด้วยที่มันเป็นสัตว์วิญญาณที่มาจากไหปีศาจ มันจึงเกิดมาพร้อมกับพันธสัญญาเล็กน้อยกับเจ้าของ ภูตที่ตื่นตระหนกจึงได้สงบลงอย่างช้าๆ

มันสั่นปีกอันวาววับของมันเข้าหาลั่วอู๋อย่างระมัดระวัง เพื่อยืนยันว่าไม่มีอันตรายและเมื่อโล่งใจแล้วก็บินเข้าไปในบ้านของเขา

ลั่วอู๋หยิบเม็ดยารวบรวมพลังวิญญาณออกมาแล้วมอบให้กับภูต

สัตว์วิญญาณส่วนใหญ่นั้นชอบกินยา

แต่ภูตนั้นกลับหยุดเบา ๆ บนไหล่ของ ลั่วอู๋ มองยารวบรวมพลังวิญญาณแล้วดมกลิ่น ก่อนจะส่ายหัวด้วยความผิดหวัง เห็นได้ชัดว่ามันไม่ชอบยารวบรวมพลังวิญญาณ

“แล้วภูตกินอะไรละเนี่ย” ลั่วอู๋คิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็จำได้ว่าภูตส่วนใหญ่ไม่ได้กินสมุนไพร แต่ดื่มน้ำค้าง

ภูตอาจกินน้ำหวานและดื่มน้ำอมฤต

ลั่วอู๋เป็นทุกข์เล็กน้อย ภูตวิญญาณนั้นเป็นอะไรที่บอบบาง ถ้ามันไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง มันก็อาจจะตายและเขาก็ต้องเสียมันไปเปล่า ๆ

หากภูตวิญญาณเติบโตขึ้นในสถานที่เช่นทะเลทรายเหลือง เขากลัวว่าภายในสองสามวัน มันก็คงจะรู้สึกหดหู่ใจและตรอมใจตาย

“ภูตวิญญาณคงจะไม่เหมาะสำหรับข้าจริง ๆ” แม้ว่ามันจะเป็นวิญญาณระดับทอง แต่ลั่วอู๋ก็ยังไม่คิดว่ามันควรเป็นสัตว์วิญญาณตัวที่สองของเขา

ขณะเดียวกันภายนอกเขาก็ได้ยินเสียงเรียกของหลี่หยิน

รถของพวกเขาได้มาถึงที่พักแล้ว

ลั่วอู๋จัดเก็บภูตและออกจากโลกไห

ที่พักที่พวกเขาเลือกนั้นดูธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ หลังจากพักผ่อนสั้น ๆ พวกเขาทั้งสามก็ออกจากที่พักและมุ่งตรงไปที่โรงประมูลในเมืองหมิงหนาน

จุดประสงค์หลักของการมาเมืองหมิงหนานของลั่วอู๋นั้นก็เพื่อเข้าร่วมการประมูลของเมืองหมิงหนาน

การพัฒนา ศาลาไป่หยู่นั้นยังต้องการหินวิญญาณอีกมากมาย

ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่เพื่อขายของ

ลั่วอู๋เลือกโรงประมูลขนาดกลางที่ชื่อว่า เฉิงเทียน มันเป็นโรงประมูลที่อยู่ตรงข้ามโรงประมูลของคฤหาสน์ชวนเทียนและเคร่งครัดมาก ผู้คนทั้งในและนอกร้านต่างก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณและแน่นอนว่ามีผู้คนมากมายในร้าน

“ยินดีต้อนรับขอรับ มีอะไรให้ช่วยไหมขอรับนายท่าน ” เพียงแค่เพิ่งเข้ามาในห้องโถงของโรงประมูลก็มีคนเข้ามาทักทายแล้ว

“ข้ามีบางอย่าง ที่อยากนำมาประมูลผ่านโรงประมูลของคฤหาสน์เฉิงเทียน” ลั่วอู๋กล่าว

“ขออภัยด้วยจริง ๆ ขอรับ เนื่องจากมีแขกจำนวนมากเกินไป ในการประมูลวันนี้ ดังนั้นผู้ตรวจสินค้าของโรงประมูลของเราจึงกำลังยุ่งมากตอนนี้ ท่านคงต้องรออีกพักใหญ่ ๆ ขอรับ” คนงานชายกล่าว

ลั่วอู๋สงสัย “ทำไมช่วงนี้ถึงมีคนมายื่นสินค้าประมูลมากกันล่ะ”

คนงานชายคนนั้นอธิบาย “เร็ว ๆ นี้จะมีการประมูลสินค้าประจำปีของคฤหาสน์ชวนเทียนขอรับ ผู้ใช้พลังวิญญาณทั้งหมดของกลุ่มหนานจุน จะมารวมตัวกันที่นี่ มีคนจำนวนมากจึงต้องการนำสินค้าขึ้นประมูลและในจำนวนพวกนั้นก็มีสินค้าที่ไม่เข้าตาทางคฤหาสน์ชวนเทียนขอรับ ดังนั้นสินค้าของพวกเขาก็จะถูกคัดแยกและส่งมอบให้กับโรงประมูลอื่น ๆ เช่นโรงประมูลของเราขอรับ”

ลั่วอู๋เข้าใจในทันที

นั่นคือขั้นตอนวิธีการของโรงประมูล

โรงประมูลสินค้าประจำปีของคฤหาสน์ชวนเทียนกำลังจะเริ่ม แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกลุ่มหนานจุน แต่ก็ยังสามารถดึงดูดผู้ใช้พลังวิญญาณจำนวนมากมาได้

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่โรงประมูลโดยรอบต้องรับของเหลือมาจนยุ่งมากเช่นนี้

คงไม่ใช่เพียงแค่โรงประมูลนี้เพียงเท่านั้น แต่โรงประมูลอื่น ๆ ในภูมิภาคทั้งหมดเองก็คงมีงานยุ่งมาก

“งั้นข้าจะรอ” ลั่วอู๋ไม่มีปัญหา

“ถ้าอย่างนั้นรบกวนลงทะเบียนรายการที่ท่านต้องการประมูลก่อนขอรับ นี่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ของเราสามารถระบุตัวตนของท่านในฐานะเจ้าของสินค้าได้” คนงานชายคนนั้นกล่าวต่อ

ลั่วอู๋ครุ่นคิดแล้วจึงหยิบดอกไม้ฟีนิกซ์ออกมาเพื่อลงทะเบียน

ต่อมาลั่วอู๋ก็ถูกพาไปที่ห้องและถือบัตรหมายเลขรอคิวเอาไว้

เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ และในไม่ช้าก็ถึงมาถึงตาของลั่วอู๋

ซึ่งบุคคลที่รับผิดชอบการประเมินสินค้าของเขาเป็นชายวัยกลางคน เขาเป็นผู้ประเมินราคาสินค้าระดับอาวุโสของโรงประมูลเฉิงเทียน ชื่อฮู่อู๋

ฮู่อู๋พูดด้วยน้ำเสียงสุขุม “โปรดนำสินค้าที่ท่านต้องการนำขึ้นประมูลออกมาด้วยขอรับ”

ลั่วอู๋พยักหน้าและหยิบดอกไม้ฟีนิกซ์เก้ากลีบขึ้นมา

ดอกไม้ฟีนิกซ์นั้นเป็นสีแดงทั้งหมด รัศมีของมันรุนแรงและให้ความรู้สึกคุกคาม ออร่าที่แผ่ออกมาดูเหมือนน่าเกรงขาม ราวกับว่ามีนกฟีนิกซ์เก้าตัวที่ทอดยาวอยู่ในสมุนไพร

ในพื้นที่เขตหวงชามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีสมุนไพรระดับสูงเทียบเท่ากับสิ่งนี้ จึงไม่มีใครสามารถสร้างยาระดับสูงได้ ดังนั้นลั่วอู๋จึงคิดที่จะประมูลสมุนไพรวิญญาณนี้

แน่นอนว่า ลั่วอู๋ ต้องการขายนกหน้าโง่ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามมันก็เป็นนกกลายพันธุ์ที่มีราคาสูง

ในขณะได้เสียงดังลั่นออกมาจากฝั่งตรงข้ามที่เป็นมุมของคฤหาสน์ชวนเทียน ชายในชุดคลุมสีม่วงเดินเข้ามาหาเขาเหมือนด้วยออร่าอันน่าเกรงขามเหมือนมังกรหรือเสือ

เขาเป็นคนหน้าตาดีมากและดึงดูดผู้คนมากมายที่เห็น

สีหน้าของผู้ตรวจสินค้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ขอเวลาสักครู่ แล้วข้าจะกลับมาหาท่าน”

จากนั้น ฮู่อู๋ผู้ตรวจสินค้าก็เดินจากลั่วอู๋ไป

ลั่วอู๋มีสีหน้างงงวย เขารู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่