ตอนที่ 46 : ความโกรธแค้นของทุกคน

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 46 : ความโกรธแค้นของทุกคน

“หวังเย่า แกยังมีหน้าไปพึ่งผู้หญิงอีกหรือ ? ” เหลิ่งจื่อมู่พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

จ้าวซื่อเองก็พูดขึ้น “หวังเย่า ฉันไม่รู้ว่าแกโชคดีมาจากไหน แต่อย่านึกน่ะว่าแกจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ หัดมียางอายซะบ้างเถอะ ฉันบอกแกไว้เลยนะ โลกนี้ ไม่มีใครโชคดีไปตลอดชีวิตหรอก”

สำหรับการทะเลาะกันของสามคนนี้ คนอื่น ๆ เริ่มจะชินแล้ว แม้แต่ครูประจำชั้นก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง

หวังเย่ามองไปยังทั้งสองคนก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันพึ่งผู้หญิงแล้วยังไง ถ้าฉันคิดจะพึ่งเธอไปตลอดแล้วพวกแกจะทำไม ? ”

คำพูดนี้ทำให้จ้าวเมิ่งซีหน้าแดงขึ้นมา เธอรีบก้มหน้าลงเพราะกลัวคนเห็น

ผู้หญิงคนอื่น ๆ เบิกตากว้างและมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะมองไปที่จ้าวเมิ่งซี  เมื่อเห็นว่าจ้าวเมิ่งซีหลบสายตา ทุกคนต่างก็พากันแปลกใจขึ้นมา

แต่หวังเย่าก็ยังไม่ตระหนักถึงคำพูดที่คลุมเครือของตัวเอง เขายังคงยั่วโมโหจ้าวซื่อต่อ “จ้าวซื่อ ฉันจะบอกแกไว้อย่าง ฉันไม่ใช่คนกระจอก ฉันจะเป็นคนที่แกได้แต่ต้องแหงนหน้ามอง คอยดูไว้เถอะ”

หลังจากที่พูดจบ หวังเย่าก็แสยะยิ้มออกมา เขาถึงกับเผยท่าทีหยิ่งทะนงออกมาด้วย

แต่นอกจากเหลิ่งจื่อมู่และจ้าวซื่อแล้ว คนที่เหลือต่างก็มองมาที่เขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ

….

วันต่อมาทุกคนก็ได้แยกย้ายขึ้นเขาไปอีกครั้ง

พวกเขาเลือกที่ในการตั้งแคมป์กันใหม่ ก่อนจะพากันกระจายตัวออกไปตามพื้นที่โดยรอบเพื่อตามหาหนอนเงา

“หวังเย่า ไปด้วยกันเถอะ” จ้าวเมิ่งซีเปิดปากชวนเขาเข้าทีม สีหน้าของเธอดูผิดปกติเล็กน้อย

แน่นอนว่าหวังเย่าไม่เห็นสีหน้าที่ผิดปกตินี้ เขาคิดสักพักก่อนจะตกลง

ตอนนี้หงอคงมีผลไม้มากพอแล้ว เขาเองก็ได้เรียนรู้วิธีการเคลื่อนไหวจากหงอคงมาแล้วด้วย เขาเตรียมที่จะลงมือโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่น ๆ

ทั้งสองคนได้เดินทางไปในทิศทางหนึ่ง

“อาเฟย ออกมา” จ้าวเมิ่งซีพึมพำออกมาก่อนที่จะมีเทอร์โรซอร์ไฟตัวใหญ่โผล่มาตรงหน้า

“นายอยากเห็นของขวัญที่พ่อฉันให้มาไม่ใช่รึไง เมื่อวานนี้มันวิวัฒนาการแล้ว ฉันถึงเพิ่งเอาออกมาให้นายดู เป็นไง แปลกใจรึเปล่า ? ” จ้าวเมิ่งซีเห็นหวังเย่าแสดงสีหน้าสับสนก็ยิ่งรู้สึกพอใจ

เทอร์โรซอร์ไฟของเธอมีชื่อว่าอาเฟย มันเป็นอสูรที่มีพรสวรรค์สูง มันสามารถเอาชนะอสูรระดับทองเลเวลเดียวกันกว่า 10 ตัวได้  เดาได้ว่าในเมืองคงมีสัตว์อสูรไม่กี่ตัวที่จะเทียบกับมันได้  การที่หวังเย่าแสดงสีหน้าสับสนแบบนั้นก็เป็นเรื่องปกติ

แต่หวังเย่าไม่ได้ตกใจเพราะความแข็งแกร่งของมัน แต่เพราะเทอร์โรซอร์ไฟตัวนี่เขาเป็นคนฟักมันด้วยตัวเอง อีกอย่างมันได้ดูดซับเลือดของเขาไปด้วย

เพราะการฟักมันถึงทำให้เขาได้เงินมากว่า 3 ล้านเครดิตและชุดระดับ B ด้วย

ไม่คิดเลยว่าชายที่ใส่หน้ากากดาบจะเป็นพ่อของจ้าวเมิ่งซี  จ้าวจวินจ่าง

“น่าแปลกใจจริง ๆ ” หวังเย่าเหม่อไปสักพักก่อนจะใช้นิ้วชี้ไปที่เทอร์โรซอร์ไฟ

เทอร์โรซอร์ไฟนั่นรู้สึกคุ้นเคยกับหวังเย่าอย่างมาก เขาเหมือนมีการเชื่อมต่อแปลก ๆ กับมัน เมื่อเห็นหวังเย่า ตาของมันเป็นประกายทันที นี่คือคนแรกที่มันเห็นตั้งแต่ลืมตาขึ้นมา เขาไม่ต่างจากแม่ของมัน

อาเฟยพุ่งเข้าหาหวังเย่าด้วยความตื่นเต้น มันลงไปยืนที่พื้นแล้วใช้ขาหน้าดึงเสื้อของหวังเย่าพร้อมกับใช้ลิ้นเลียหน้าเขา ซึ่งทำให้หวังเย่ารู้สึกอึดอัดขึ้นมาและอยากผลักมันออก

“มันไม่เข้าใจรึไงว่ามันเหนียว”

เมื่อเห็นแบบนั้น จ้าวเมิ่งซีก็มีคำถามมากมายโผล่มาในหัว

“อาเฟย …แกเป็นอสูรของฉัน …พระเจ้า หวังเย่า นี่อสูรของฉัน นายทำอะไรกับมัน ทำไมมันถึงสนิทกับนายมากกว่าฉันได้” เธอคิดว่าเธอดูแลมันดีจนได้รับความเชื่อใจจากมันแล้ว แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องน่าแปลกใจแบบนี้ขึ้น

หวังเย่าปวดหัวขึ้นมาทันที “ฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแก ไปหาเจ้านายแกนู่น”

เขาผลักอาเฟยออกพร้อมกับเช็ดน้ำลายที่หน้า เขาทำท่าโกรธขึ้นมา “จ้าวเมิ่งซี เธอดูแลอสูรของเธอยังไง หรือเธออยากจูบฉันแต่ไม่กล้า ก็เลยสั่งให้อสูรของตัวเองมาทำแทนงั้นหรือ ? ”

จ้าวเมิ่งซีใจสั่นทันที เธอรีบเถียงขึ้นมา “ฉันจะไปอยากจูบกับนายทำไม นายไม่คิดว่านายหลงตัวเองไปหน่อยหรือ…เดี๋ยวนะ นี่หมายความว่ายังไง ? ”

เธอเหมือนรู้สึกได้ถึงบางอย่าง

“เธอหมายถึงอะไร ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา

“นายยังเสแสร้งอีกหรือ ? นายกำลังเอาเปรียบฉันอยู่ ทุเรศเอ๊ย ! ” จ้าวเมิ่งซีทั้งโกรธและอาย

หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะพอใจ “สมกับที่เป็นเธอจริง ๆ เธอก็ไม่ได้โง่นี่”

“ฮึ่ม ออกไปให้พ้นเลย ฉันไม่อยากเห็นหน้านายแล้ว” จ้าวเมิ่งซีสั่งให้อสูรไฟของเธอเตรียมโจมตีทันที

หวังเย่าไม่กล้าจะแกล้งเธอต่อ เขายอมรับผิดทันที “ก็ได้ ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด  ฉันจะไม่แกล้งเธอแล้ว ยกโทษให้ฉันเถอะ”

หลังจากที่ขอร้องอยู่หลายครั้ง สุดท้ายจ้าวเมิ่งซีก็ได้แต่กดความโกรธที่มีลงไป

“เห็นแก่การทดสอบหรอกนะ ฉันจะยกโทษให้นายก็ได้แต่ถ้ามีอีก นายอย่าหวังว่าจะได้ตายดี”

หวังเย่าจะเอาความกล้าจากไหนมามีเรื่องกับเธอ เขาได้แต่ตอบตกลงกับเธอ

ไม่นานทั้งสองคนก็ไปหยุดที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้

ต้นไม้นี้สูงกว่า 200 เมตร ร่มไม้ของมันครอบคลุมระยะกว่า 1 กิโลเมตร มันเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวแซมแดงทั้งต้น

“หวังเย่า นายรู้ไหมว่าต้นไม้นี่น่ะโด่งดังมากในอินเตอร์เน็ต”

ทั้งสองนั่งอยู่ข้างกันบนกิ่งไม้และมองลงไปที่ด้านล่าง

หวังเย่าส่ายหน้า เขาจะรู้จักมันได้ยังไง เพราะเขาเพิ่งมายังโลกนี้ ก่อนที่จะพูดขึ้น “ต้นไม้นี่น่ะหรือที่โด่งดัง ? ”

จ้าวเมิ่งซีขมวดคิ้วสักพัก

เขาเป็นคนปากหมาที่คอยพูดจาแทะโลมคนอื่นแบบนี้ตลอดรึไง ?

“บนโลกใบนี้ แค่ต้นไม้ต้นใหญ่แค่นี้ก็โด่งดังด้วยสินะ ? ”

“หวังเย่า นายพูดอะไร ? ”

ถึงเขาจะรับปากแล้ว แต่เขาก็ทำให้เธออารมณ์เสียอีก