เล่มที่ 2 บทที่ 45 เบียดกับขอทานอยู่ในวัดร้าง

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซียวจื่อเซวียนนำเงินเหรียญอิแปะที่เหลือออกจากอกเสื้อโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ตะโกนผ่านทางหน้าต่าง “ซื้อข้าวกลับมาแล้ว เหลือเงินอยู่จำนวนหนึ่ง ข้าวางไว้หน้าประตู”

เซี่ยยวี่หลัวหันตัวมองไป เห็นมือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาทางหน้าต่าง วางเงินหกอิแปะไว้ตรงขอบหน้าต่าง

เหรียญอิแปะกระทบกับขอบหน้าต่าง ดังกริ๊งๆ น่าฟังยิ่งนัก

จากนั้นจึงชักมือกลับไป ไม่นานก็มีเสียงปิดประตูดังจากด้านนอก น่าจะออกไปอีกแล้ว

เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้าพร้อมยิ้มด้วยความขมขื่นน้อยๆ เซียวจื่อเซวียนผู้นี้ซื้อใจยากเสียจริง! หันกลับมามองเซียวจื่อเมิ่งที่กะพริบตาคู่โตขณะขดตัวอยู่ในอ้อมอกตัวเอง เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกปลงอนิจจัง อายุมากกว่าสองปีก็คือมากกว่าสองปี เอาใจยาก

ยังไม่ต้องพูดเซียวยวี่ที่ยังไม่กลับบ้าน เขาอายุมากกว่าตนเองสองปี ทั้งยังร่ำเรียนตำรามามาก จะเอาใจยากเพียงใด!

เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกว่าหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอุปสรรค หนทางยาวไกลจนแทบไม่เห็นความหวัง!

ส่วนเซียวยวี่ในยามนี้กำลังก้มหน้าอ่านตำราในวัดร้างแห่งหนึ่งที่สามารถบังลมหลบฝนได้เท่านั้น มือข้างหนึ่งของเขาถือขนมปังแห้งที่ไม่รู้ว่าเก็บไว้กี่วันแล้ว กัดกินทีละคำเป็นระยะ เมื่อไม่สามารถกลืนลงไปได้ จึงหยิบถ้วยใบหนึ่งที่มีรอยแตกด้านหนึ่งขึ้นมา ดื่มน้ำในถ้วยนั้น

น้ำในถ้วยนั้นเย็นเยียบ บวกกับขนมปังแห้งรสชาติจืดชืด เซียวยวี่กลืนลงไปก็ถึงกับไอไม่หยุด

ทว่าแม้กำลังไอ ก็ไม่วางตำราในมือลง และไม่ละสายตาจากตำราแม้แต่เสี้ยววินาที

อีกไม่นานก็จะสอบแล้ว เขาต้องอ่านตำราให้มาก อ่านมากขึ้นก็จะมีความรู้มากขึ้น ตอนสอบก็เขียนได้มากขึ้น

ด้านนอกมีขอทานที่ไปขอทานกลับมา ในมือถือเนื้อและหมั่นโถวที่ขอทานมาได้ เมื่อเห็นเซียวยวี่ที่หลบอยู่ในมุมหนึ่งของวัดร้างเพื่ออ่านตำรา ก็รู้สึกประหลาดใจ “คนผู้นี้เป็นขอทาน หรือเป็นคนเรียนหนังสือกันแน่? ดูจากท่าทาง ถ้าเป็นคนเรียนหนังสือ ทำไมอาหารการกินถึงแย่กว่าพวกเราเสียอีก แต่หากเป็นขอทาน เหตุใดในสัมภาระนั่นกลับมีแต่ตำรา”

ขอทานที่อยู่ข้างๆ ส่ายหน้า “ใครจะไปรู้!”

ตอนนี้พวกเขาเอาตัวเองยังไม่รอด จะไปสนใจคนอื่นได้อย่างไรกัน

อาหารที่ขอทานมาได้ พวกเขากินแป๊บเดียวก็หมด หลังจากพักผ่อนในวัดร้างครู่หนึ่งจึงออกไปขอทานกันต่อ เมื่อกลับมาอีกครั้งในช่วงพลบค่ำ คนเรียนหนังสือที่อยู่ในวัดร้างก็หายไปแล้ว

เซียวยวี่ในยามนี้ สะพายสัมภาระที่เต็มไปด้วยตำราและเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนสองชุด ออกจากวัดร้างเข้าไปในตัวอำเภอ เขามาถึงล่วงหน้าก่อนวันสอบสี่ถึงห้าวัน แต่หากพักในโรงเตี๊ยมก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงหาวัดร้างแห่งหนึ่งเป็นที่พักอาศัย

พรุ่งนี้ก็จะเริ่มสอบแล้ว เขาต้องหาสถานที่แห่งหนึ่ง เตรียมตัวให้ดีค่อยไปเข้าสอบ

เคาะประตูโรงเตี๊ยมแห่งแล้วแห่งเล่า หากไม่ใช่ว่าห้องเต็มก็เพราะราคาสูงลิ่ว เขามีเงินไม่พอ จนในที่สุดก็พบโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างกันดาร ลองถามดูก็ยังต้องจ่ายยี่สิบอิแปะต่อหนึ่งคืน ทว่าเซียวยวี่ก็ไม่ได้ตอบตกลงทันที

นี่เป็นโรงเตี๊ยมราคาถูกที่สุดในบรรดาโรงเตี๊ยมทั้งหมดที่เขาลองถาม เซียวยวี่เอ่ยถาม “ยังมีห้องที่ถูกกว่านี้อีกหรือไม่?”

เถ้าแก่เห็นว่าคนผู้นี้แม้จะแต่งกายเรียบร้อย หน้าตาก็หล่อเหลา ทว่าเสื้อผ้าบนกายผ่านการปะแล้วปะอีก มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นเด็กที่ทางบ้านมีฐานะยากจนข้นแค้น

ตอนนี้โรงเตี๊ยมดีๆ ที่อยู่ใกล้สนามสอบมีผู้สอบที่มาถึงก่อนพักเต็มนานแล้ว โรงเตี๊ยมของเขาห่างไกลเกินไป จึงไม่มีผู้ใดมา ยังดีที่ค่าพักราคาถูก จึงดึงดูดผู้สอบจำนวนหนึ่งที่ไม่มีเงิน

ยี่สิบอิแปะถือว่าราคาถูกที่สุดแล้ว แต่คนผู้นี้ยังถามอีกว่ามีราคาถูกกว่านี้หรือไม่

สวรรค์ ฐานะทางบ้านของเด็กคนนี้ยากจนเพียงใดกัน แม้แต่ห้องพักราคายี่สิบอิแปะต่อคืนยังไม่อาจพักได้

เถ้าแก่ผู้นั้นไม่รู้จริงๆ ว่าเซียวยวี่ยากจนเพียงใด หากเขารู้ว่าคนหนุ่มตรงหน้ามาถึงตัวอำเภอตั้งแต่เมื่อสี่ห้าวันที่แล้ว แต่เพื่อประหยัดเงินค่าพักโรงเตี๊ยม จึงอยู่อย่างเบียดเสียดกับขอทานกลุ่มหนึ่งที่เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยในวัดร้างสี่ถึงห้าวัน เกรงว่าคงรู้สึกคาดไม่ถึงเป็นอย่างยิ่ง

เถ้าแก่ผู้นั้นไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน รู้ว่าผู้เรียนหนังสือที่ยากจนเหล่านี้ยากลำบากนัก จึงกล่าว “ที่นี่ยังมีห้องเก็บฟืนอีกหนึ่งห้อง เก็บฟืนไว้จำนวนหนึ่ง แต่ในห้องมีเตียงหนึ่งหลัง หากเจ้าไม่รังเกียจ ก็สามารถนอนในนั้นได้ จะคิดค่าพักคืนละห้าอิแปะก็แล้วกัน”

คืนละห้าอิแปะ เช่นนั้นหนึ่งคืนจะประหยัดเงินได้สิบห้าอิแปะ เซียวยวี่รู้สึกซาบซึ้งยิ่ง รีบโค้งคำนับพร้อมเอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณเถ้าแก่ ขอบคุณมาก!”

เซียวยวี่พักอยู่ในห้องเก็บฟืนของโรงเตี๊ยม ในนั้นเต็มไปด้วยกองฟืน และเตียงไม้แข็งกระด้างหนึ่งหลัง อัตคัดยิ่งนัก แต่เซียวยวี่กลับรู้สึกว่าดีเยี่ยม อย่างไรเสีย ในที่สุดคืนนี้ก็จะได้นอนหลับสบาย ทั้งยังเสียเงินไปไม่มาก

ในภายหลัง เขาขอน้ำร้อนจำนวนหนึ่งจากห้องครัว เดิมทีเถ้าแก่ไม่ได้เก็บเงิน แต่เซียวยวี่ก็ยังให้ไปหลายอิแปะ เถ้าแก่ผู้นั้นรู้ว่านี่ถือเป็นศักดิ์ศรีของคนเรียนหนังสือ จึงรับไว้ เซียวยวี่ทำความสะอาดร่างกายจนสะอาด

พรุ่งนี้เช้าต้องไปสอบ สนามสอบอยู่ไกล พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า

หลังจากเซียวยวี่ทำความสะอาดแล้ว จึงนอนลง

แต่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัวไปมาก็นอนไม่หลับ ในห้วงความคิด นอกจากบทความมากมาย ก็ยังมีน้องชายและน้องสาวของตน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะสบายดีหรือไม่ กินอิ่ม นอนหลับอุ่นสบายไหม สตรีชั่วร้ายผู้นั้นจะทั้งดุด่าและตีน้องชายน้องสาวของตนเองอีกหรือไม่

ระหว่างที่เขาอยู่ นางยังทำตามอำเภอใจ คิดจะด่าก็ด่า คิดอยากตีก็ตี ทว่าตอนนี้เขาไม่อยู่…

เซียวยวี่ครุ่นคิดอย่างหนัก ข่มตาหลับได้ยากเย็นนัก

ในใจมีเรื่องให้คิดมากมาย แม้จะนอนหลับแล้ว ดวงหน้าของคนหนุ่มผู้นี้ก็ยังขมวดคิ้วเป็นปม

ภายในใจมีปมนับพัน ทำอย่างไรก็คลายไม่ออก

ส่วนเซี่ยยวี่หลัวกลับนอนหลับสบายตลอดคืน

เช้าวันรุ่งขึ้น นางตื่นแต่เช้า เมื่อนางลุกขึ้น เซียวจื่อเมิ่งที่อยู่ข้างๆ ก็ขยี้ตาตื่นขึ้นเหมือนเคย

จากนั้นจึงหาเสื้อผ้าและลุกจากเตียง เซี่ยยวี่หลัวสวมเสื้อผ้าและถักเปียเสร็จแล้ว ก็ไปผูกผมให้เซียวจื่อเมิ่ง เส้นผมของเซียวจื่อเมิ่งทั้งบางและอ่อนนุ่ม เส้นผมยาวไม่พอ ยังคงทำทรงซาลาเปาเหมือนเดิม วันนี้เปลี่ยนเป็นแถบผ้าผูกผมสีเหลือง ผูกผมทรงซาลาเปาไว้ จากนั้นจึงปล่อยส่วนที่เหลือให้ลู่ลง หากมองโดยละเอียด จะเห็นว่าปลายแถบผ้าสีเหลือง ปักมุกไว้สองเม็ดด้วย

เซี่ยยวี่หลัวเป็นคนปักเอง

หลังจากนางรื้อตู้ค้นหีบจึงได้พบว่า เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ยังมีข้าวของอีกไม่น้อย ทั้งแถบผ้าผูกผม ไข่มุกและกระดุม มีกล่องเล็กหนึ่งกล่อง น่าจะเป็นของเก็บส่วนตัวของเซี่ยยวี่หลัว

นางจึงนำของที่ใช้ได้ออกมาทั้งหมด ก่อนแสดงฝีมือเย็บปักของตัวเอง ตัดแถบผ้าผูกผมออกมาหลายเส้น มีทั้งสีแดง สีเหลือง สีม่วง บางอันมีการปักลายดอกไม้ไว้ บางอันปักไข่มุก มีอยู่หลายชิ้นทีเดียว ดูงามจนเซียวจื่อเมิ่งเข้ามาหอมแก้มเซี่ยยวี่หลัว

เด็กคนนี้ ชอบเซี่ยยวี่หลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากทั้งสองแต่งตัวเสร็จ จึงไปล้างหน้าบ้วนปากที่ห้องครัว

เซี่ยยวี่หลัวนำเกลือมาเล็กน้อย ถูไปบนฟัน จากนั้นจึงใช้น้ำล้างจนสะอาด เซียวจื่อเมิ่งทำท่าทางเลียนแบบเซี่ยยวี่หลัว ถูบนฟัน หลังจากใช้เกลือบ้วนปากก็รู้สึกว่าสะอาดกว่าการใช้เพียงน้ำบ้วนปากมากนัก

เซี่ยยวี่หลัวกระซิบ “ชั่วชีวิตมีฟันเพียงสองชุด เจ้ายังไม่ได้เปลี่ยนฟัน แต่ก็จะละเลยไม่ได้ ฟันดีปากถึงจะดี หากมีฟันดี ต่อไปพอแก่ตัว อยากกินอะไรก็กินได้”

นอกจากนั้น มีฟันดี ตอนยิ้มถึงจะดูงาม!

เซี่ยยวี่หลัวในภพก่อนดูแลฟันตัวเองดีมาก ยังดีที่ฟันของเจ้าของร่างเดิมทั้งขาวและเป็นระเบียบ ภายใต้แสงไฟที่สาดส่อง เพียงยิงฟันก็สามารถสะท้อนแสงสีขาว เป็นประเภทที่สามารถรับถ่ายโฆษณายาสีฟันได้เลย

รูปลักษณ์ดีทั้งยังมีฟันดี เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกชอบใจเสียยิ่งกว่าอะไร