คุณหนูซู?
ขอโทษ? !
สวีหว่านเอ๋อร์มองภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ
ผู้จัดการอู๋ขอโทษซูฉิงด้วยตัวเองหรอ
เป็นไปได้ยังไง
ไป๋หลานที่เป็นฝ่ายทนไม่ได้ก่อน เลยกัดฟันพูด”ผู้จัดการอู๋ คุณไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่มั้ย คุณไปขอโทษเขาทำไม!” และชุดนี้เป็นหว่านเอ๋อร์ของเราชอบก่อน คุณรู้จักหว่านเอ๋อร์นี่ คุณปู่สวีของเขานั้นรักหลานสาวมาก หากคุณให้หว่านเอ๋อร์ไม่พอใจก็เหมือนมีเรื่องกับตระกูลสวี คุณรู้มั้ยว่าหากมีเรื่องกับตระกูลสวีจะมีผลเป็นยังไง คุณจะรับผลที่ตามได้มั้ย”
ผู้จัดการอู๋กลับไม่เห็นไป๋หลานอยู่ในสายตา เช็ดเหงื่อที่อยู่ตรงหน้า “คุณหนูซู เพื่อเป็นการแสดงการขอโทษ ชุดนี้ผมของมอบให้คุณฟรีเลย หวังว่าคุณจะพอใจไม่โกรธเคืองนะครับ”
เมื่อกี้ยวี๋น่าผู้ดูแลห้องเสื้อloeโทรมาหาเขา บอกว่าเพื่อนของหล่อนได้รับความไม่ยุติธรรมที่ร้านrd ให้เขาเข้ามาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย จะต้องทำให้ซูฉิงพอในมากที่สุด
มิเช่นนั้น ห้องเสื้อloe ก็จะยุติสัญญาความร่วมมือ
กว่าที่ร้านrd ผ่านด่านมากมายถุงจะได้มีโอกาสได้ร่วมมือกับห้องเสื้อloeได้ หากห้องเสื้อloeจะยุติสัญญาความร่วมมือกับร้านrd กะทันหันจะต้องได้รับผลกระทบเสียหายอย่างประมาณการไม่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะต้องแลกอะไรก็ตามผู้จัดการอู๋ก็ยอมทั้งหมด ขอแค่ทำให้ซูฉิงพอใจ ให้ยวี๋น่าไม่เอ่ยถึงเรื่องยุติสัญญาอีก
ส่งให้ฟรีงั้นหรอ
สวีหว่านเอ๋อร์ตกใจจนต้องลูบหูของตัวเอง หล่อนไม่ได้ฟังผิดใช่มั้ย
ชุดนี้ราคาสิบล้านเลยนะ ทำไมผู้จัดการอู๋ถึงได้ยกให้ซูฉิงฟรีด้วยละ?!
“ผู้จัดการอู๋ คุณไม่ได้เข้าใจอะไรผิดมั้ย?! “สวีหว่านเอ๋อร์ที่มีสีหน้าไม่สู้ดี “ชุดนี้ฉันจองแล้ว ฉันจะจ่ายเงินซื้อเป็นสามเท่า!”
“ต้องขอโทษด้วยครับคุณหนูสวี ชุดนี้เป็นของคุณหนูซู แล้วผู้จัดการอู๋หันไปยิ้มให้สวีหว่านเอ๋อร์ “เอาอย่างนี้มั้ยครับคุณหนูทั้งสองลองมองดูชุดอื่นๆ นะครับ ทางร้านของเรามีชุดราตรีที่สวยหรูอยู่หลายชุด…..”
“ฉันจะเอาตัวนั้น!”สวีหว่านเอ๋อร์โมโห ของที่หล่อนถูกใจ ไม่เคยมีอะไรที่ไม่เคยได้มา!
ซูฉิงเห็นสวีหว่านเอ๋อร์ไม่ฟังเหตุฟังผล ก็ลุกขึ้นมาแล้วก็หันไปพูดผู้ผู้จัดการอู๋อย่างอารมณ์เสีย”ไม่ต้องฟรีหรอก พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอาเช็กมาให้”
พอพูดจบซูฉิงก็ไม่อยู่วุ่นวายกับทั้งสองคนต่อไป เดินหันหลังเดินออกจากร้าน
ตอนเย็นหล่อนมีนักกับหลินฮั่น ไม่อยากจะไปสาย
“ซูฉิงหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”สวีหว่านเอ๋อร์โกรธโมโหมาก “เธอจะไปหาฮ่อหยุนเฉิงออกหน้าช่วยเธอใช่มั้ย”
สวีหว่านเอ๋อร์ไม่รู้อยู่แล้วว่า ซูฉิงบอกยวี๋น่า หล่อนคิดว่าซูฉิงก็แค่คนบ้านนอกคอกนา นอกจากฮ่อหยุนเฉิงแล้ว ซูฉิงไม่น่าจะไปหาที่พึ่งคนอื่นได้
แต่ทำไมฮ่อหยุนเฉิงถึงได้แค่ซูฉิงด้วยละ
หรือว่าที่ไม่แคร์ที่จะมีปัญหากับตระกูลสวีก็เพราะต้องการปกป้องซูฉิงงั้นหรอ
ซูฉิงที่เห็นสวีหว่านเอ๋อร์โมโหบ้าก็รู้สึกอารมณ์ดี ยักคิ้วพูด “แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ”
“ซูฉิง เธอมันหน้าไม่อาย นอกจากจะเที่ยวไปอ่อยผู้ชายแล้วยังจะทำอะไรอีก เธอคิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะชอบเธอจริง ๆ หรอ “สวีหว่านเอ๋อร์โกรธโมโหมาก
ซูฉิงพูดยอกย้อน”ไม่ชอบฉัน แล้วชอบเธอหรอ”
“ซูฉิง เธอนังแพศยา!” สวีหว่นเอ๋อร์ที่ถูกย้อนกลับก็รู้สึกเจ็บใจ พ่นลมหายใจจนเกือบจะเป็นลม ใบหน้าสวยบิดเบี้ยว ง้างมือขึ้นหมายจะตบไปที่หน้าของซูฉิงแรง
ผู้จัดการอู๋รีบดึงซูฉิงมาอยู่ข้างหลัง จากที่ฟังสวีหว่านเอ๋อร์กับซูฉิงคุยกัน เขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่า ซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา
ฮ่อหยุนเฉิงคือใครกัน
น่าจะเป็นคนที่รวยอาศัยอยู่คฤหาสน์สักคนหนึ่ง
ไม่ว่าจะไปมีเรื่องกับใครก็แต่ แต่จะไปมีเรื่องกับฮ่อหยุนเฉิง
พอคิดได้อย่างนี้ ผู้จัดการอู๋เลยรีบให้พนักงานความปลอดภัยขวางสวีหว่านเอ๋อร์กับไป๋หลานไว้ “คุณหนูซู พวกเราต้อนรับไม่เรียบร้อย โปรดขออภัยด้วย!”
ซูฉิงยิ้มน่ารักให้ แล้วก็เดินออกไป
ปล่อยสวีหว่านเอ๋อเข้าใจผิดไป ให้เข้าใจฮ่อหยุนเฉิงไปก็แล้วกัน
ทำให้สวีหว่านเอ๋อร์โกรธจนกัดฟันกรอด ครั้งนี้ซูฉิงชนะ!
จนมาถึงตอนค่ำ เวลาหนึ่งทุ่ม ซูฉิงก็ไปตามนัด
ชาร์มบาร์เป็นบาร์ที่หรูหราที่สุดของเมือง a ลูกค้าที่มาที่นี่ล้วนแล้วมีแต่คนรวยๆ
“พี่ฉิง ทางนี้! “หลินหนานกับวงการเพื่อนที่อยู่ในวงการบันเทิงอยู่ในห้องที่คาดว่าจะดื่มเหล้าแล้ว
ซูฉิงก้าวไปหา เดินยิ้มแย้ม “จ๋ายจาย ละครเรื่องให้ตบแล้วหรอ ยินดีกับนายด้วยนะ”
หลินหนานลากเก้าอี้ให้กับซูฉิง “พี่ฉิง พี่มานั่งทางนี้ พี่อยากดื่มอะไร ไวน์แดงมั้ย ผมจะช่วยพี่ดื่ม”
ซูฉิงยิ้ม หล่อนไม่ชอบดื่มเหล้า “ไม่ต้องหรอก ฉันดื่มเครื่องดื่มก็พอแล้ว”
“ดื่มสักนิดเธอนะ พี่ฉิง วันนี้เป็นวันเกิดของผม ” หลินหนานรินไวน์แดงให้กับซูฉิงครึ่งแก้ว แล้วก็รินให้ตัวเองเต็มแก้ว “พี่ฉิง ผมขอดื่มให้พี่”
“น่าจะเป็นฉันที่ต้องดื่มให้นายนะ จ๋ายจาย สุขสันต์วันเกิดนะ!” ซูฉิงดื่มจนหมดแก้ว
“พี่ฉิงคอแข็งนะเนี่ย!”หลินหนานปรบมือชมอย่างเวอร์ ๆ
ซูฉิงกับหลินหนานคุยเล่นกัน ทันใดนั้นที่เวทีของบาร์ก็มีเพลงเพราะ ๆ ดังขึ้น
ซูฉิงหันไปตามเสียงเพลง แล้วก็เห็นบนหน้าเวทีมีหญิงสาวสวมชุดราตรีสีแดงสด ปล่อยผมหยักศก ดูสวยสะกดใจพร้อมกับเสียงร้องที่ไพเราะ
หลินนานที่เห็นซูฉิงมองไปบนเวที ก็พูดแนะนำ “เป็นนักร้องประจำของที่ชาร์มบาร์ มีชื่ออังกฤษว่าแองเจิ้ล”
ซูฉิงพยักหน้า “ร้องได้ไม่เลวเลย”
หลินหนานยิ้มพูดต่อว่า”ไม่เลว แต่ว่าถ้าเทียบกับพี่แล้วยังห่างไกลกันเยอะเลย พี่ฉิง ผมไม่ได้ฟังพี่ร้องเพลงมานานแล้ว พี่ร้องเพลงเป็นของขวัญวันเกิดให้ผมหน่อยนะ!”
พวกเพื่อนๆของหลินหนานก็พูดเชียร์ ” พี่ฉิง ร้องสักเพลงให้จ๋ายจายเถอะ”
“พี่ฉิง ได้มั้ย” หลินหนานมองอย่างเฝ้ารอ เมื่ออายุสิบเจ็ด พี่ซูฉิงร้องเพลงเพราะมากทำให้เขาประทับใจมาก
ซูฉิงมองดูเวทีของบาร์แล้วตอบว่า”โอเค”
ชาร์มบาร์สามารถให้ลูกค้าขอเพลงได้ ทุกคนก็ปรบมือ ซูฉิงสวมชุดสีขาวยาม เดินก้าวขึ้นเวทีอย่างช้าๆ
“เพลงต่อไป ขอมอบให้กับเพื่อนของฉันหลินหนาน สุขสันต์วันเกิดนะ!”
ซูฉิงได้เพลงภาษาฝรั่งเศส ร้องเพลงไพเราะราวกับปีศาจน้อยทำให้คนหลงใหล
ห้องvipที่อยู่บนชั้นสอง มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สายตาจดจ้องมองอยู่ แววตานั้นจ้องอยู่ที่สาวสวยดุจนางฟ้าลงมาจุติ แววตาวาวขั้นและแฝงไปด้วยความสับสนอย่างเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ฮ่อหยุนเฉิงนั้นมาคุยธุรกิจกับเพื่อนคู่ค้า คิดไม่ถึงว่ามาแล้วจะเจอซูฉิงด้วย
นึกถึงวันก่อนที่ได้ยินซูฉิงคุยโทรศัพท์นัดเจอที่บาร์ ก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
ที่คนคนที่ซูฉิงมีนัดด้วยคือหลินหนาน
คู่ร่วมมือเห็นฮ่อหยุนเฉิงมีสีหน้าไม่สู้ดี เลยพูดประจบว่า”ประธานฮ่อ คุณลองชิมเบียร์นี่ดูสิ นี่เป็นเบียร์ที่ทางร้านชาร์มบาร์แนะนำของทางร้าน รสชาติไม่เลวเลย……..”
พอเห็นแก้วเบียร์ขาว ฮ่อหยุนเฉิงก็ทำได้แค่รู้สึกบาดตาบาดใจ
ซูฉิงหญิงคนนี้จะรู้มั้ยว่าตนกำลังทำอะไรอยู่
ตามหลักแล้วหล่อนเป็นคู่หมั้นของเขาฮ่อหยุนเฉิงนะ แต่ตอนนี้หล่อนนัดเจอกับผู้ชายอื่นที่ร้านบาร์ และยังร้องเพลงให้กับเขาอีกงั้นหรอ?
ฮ่อหยุนเฉิงยิ่งหน้าเสีย คู่สัญญาก็รู้สึกงุนงง ตนไม่ได้พูดอะไรผิดใช่มั้ย ถึงได้ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงอารมณ์ไม่ดี หรอ?
ซูฉิงที่ร้องเพลงจบไปหนึ่งเพลง เสียงปรบมือก็ดังทั่วทั้งบาร์ และมีคนส่งเสียงเชียร์”ร้องอีกเพลง! ร้องอีกเพลง!”
ซูฉิงยิ้มอย่างมีมารยาท แล้วก็เดินหันหลังลงจากเวที แล้วก็เดินกลับเข้าไปห้อง
“พี่ซู พี่ร้องเพลงได้เพราะมาก เป็นเสียงไพเราะมาก ร้องเพราะกว่านักร้องประจำของชาร์มบาร์อีก!” หลินหนานชมซูฉิงไม่ขาดปาก
ซูฉิงก็ยกยิ้มบางๆ ให้ “นายนี่ก็ขี้ประจบเหมือนกันนะ เดี๋ยวฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไลน์ที่รีบดื่มไปเมื่อสักครู่รึเปล่า ที่ทำให้ตอนนี้รู้สึกไม่สบายท้อง
และพอเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ ก็มีชายวัยกลางคนสวมชุดสูทเดินเข้ามาขวางซูฉิงไว้ “เธอเป็นนักร้องคนใหม่หรอ”
ซูฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา ก็เห็นเป็นชายหัวล้านมีพุง สวมชุดสูทแบรนด์เนมที่ไม่เข้ากันเสียเลย ดูแล้วน่าจะเป็นพวกเศรษฐีผู้ดีใหม่
ซูฉิงหน้านิ่งส่ายหน้า “ไม่ใช่”