บทที่ 55 สิบห้าตำลึงเงิน

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 55 สิบห้าตำลึงเงิน

“ข้าไม่เห็นด้วย! ชุนเถามีแผลติดตัวอยู่แล้ว ต่อให้ตอนนี้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราขนาดนั้น 15 ตำลึงเงินนี่ข้าไม่ให้หรอกนะ!” แม่หลินแย้งในทันที

จางซิ่วเอ๋อมองแม่หลินด้วยสายตาเย็นชา “ท่านไม่ให้ก็ได้ งั้นเราก็ไปคุกกันเลยเป็นไง! ดูสิว่าถึงตอนนั้นคนของทางการจะว่าอย่างไร! ถ้าทางการบอกว่าพวกท่านไม่ผิด งั้นข้าจางซิ่วเอ๋อก็จะยอมรับ แต่ถ้าทางการตัดสินว่าพวกท่านคือคนร้าย ถึงตอนนั้นพวกท่านจะโดนจับเข้าคุกหรือโดนเนรเทศก็ไม่ใช่อะไรที่ข้าตัดสินได้แล้ว…..”

พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็เสริมอีกด้วยน้ำเสียงอึมครึม “ท่านคิดให้ดีนะ ถ้าเรื่องถึงขนาดนั้นแล้วจริง ๆ ไม่มียาเสียใจทีหลังให้กินหรอกนะ……”

ตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านก็มองแม่หลินอย่างไม่พอใจ นี่เขายอมบากหน้าประหยัดให้นางไป 5 ตำลึงเงินแล้วนะ ใครจะรู้ว่าแม่หลินกลับได้คืบจะเอาศอก

ผู้ใหญ่บ้านซ่งรู้สึกว่าแม่หลินผู้นี้ยิ่งมองยิ่งขัดหูขัดตา

“เมิ่งหลิน เจ้าจะไม่พูดอะไรหน่อยเลยเหรอ?” ผู้ใหญ่บ้านซ่งทอดสายตาไปที่สวี่เมิ่งหลิน

สวี่เมิ่งหลินรีบเดินเข้ามา หน้าแดงเล็กน้อย เดิมเขาเป็นคนซื่ออยู่แล้ว ครั้นตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขารู้สึกว่าเสียหน้าสุด ๆ

เขาเหลือบมองแม่หลิน พูดขึ้นอย่างลังเล “ทำตามที่ท่านผู้ใหญ่บ้านบอกแล้วกัน”

แม่หลินได้ยินก็ถลึงตาใส่สวี่เมิ่งหลิน

“ได้ ในเมื่อผู้นำครอบครัวพูดเช่นนี้แล้ว งั้นเรื่องนี้ก็เป็นไปตามนี้” ผู้ใหญ่บ้านซ่งพูดขึ้นในที่สุด

จางซิ่วเอ๋อคิดไปคิดมาก็พูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นรบกวนท่านลุงสวี่ไปเอาตำลึงมาตอนนี้เลย ให้ชาวบ้านทั้งหลายเป็นพยาน ข้าจะได้ใส่ร้ายพวกท่านทีหลังไม่ได้ว่าพวกท่านยังไม่ให้ ทั้งที่ให้แล้ว!”

ปากจางซิ่วเอ๋อก็พูดไปแบบนั้น ทั้งยังทำสีหน้าเหมือนหวังดีกับตระกูลสวี่

ความจริงแล้วในใจนางกลัวตระกูลสวี่ชักดาบ

แต่คำพูดของจางซิ่วเอ๋อก็ไม่มีจุดไหนที่ไม่เหมาะสม

“ไม่ได้หรอกนะ ตอนนี้บ้านเราไม่มีตำลึงมากขนาดนั้น” แม่หลินเอ่ย

จางซิ่วเอ๋อจึงมองผู้ใหญ่บ้าน ถอนหายใจเบา ๆ “ท่านผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนชอบบีบคั้นหรอกนะ แต่ประเด็นคือมีคนคิดจะฉวยโอกาสชักดาบ หากตัดสินไม่ได้จริง ๆ เราก็ไปหาทางการเถอะ…..”

ผู้ใหญ่บ้านมีสีหน้าอึมครึม รู้สึกว่าแม่หลินนี่เกินจะรับได้จริง ๆ

เขาเอ่ยเสียงเย็นทันที “ถ้าวันนี้พวกเจ้าไม่เอาตำลึงออกมา ก็ทำตามที่แม่นางน้อยซิ่วเอ๋อบอก ส่งพวกเจ้าไปหาทางการคืนนี้แหละ!”

สวี่อวิ๋นซานครุ่นคิด และเอ่ยขึ้นในตอนนี้ “ข้ารู้ว่าตำลึงที่บ้านเก็บไว้ตรงไหน ที่บ้านมีอยู่ 15 ตำลึงเงิน ข้าไปเอาให้”

แม่หลินตาโตมองสวี่อวิ๋นซานไปเอาตำลึงเงิน สีหน้านางดูอึมครึมจนน่ากลัว

จางซิ่วเอ๋อก้มเก็บมีดปังตอของตัวเองมาถือเล่นในมือ ของนี่จะทิ้งไม่ได้เด็ดขาด ราคาไม่ใช่น้อยเลย

ไม่นานนัก สวี่อวิ๋นซานก็เอาตำลึงเงินมาให้จางซิ่วเอ๋อ

แม่หลินอยากเข้ามาแย่ง แต่ก็กลัวมีดในมือของนาง

“เอาล่ะ ๆ ในเมื่อเรื่องนี้แก้ปัญหาได้แล้ว ก็สลายตัวกันเถอะ” ผู้ใหญ่บ้านเองก็ไม่ได้อยากออกมามีเรื่องให้เหนื่อยในตอนกลางคืน เขาจึงเอ่ยขึ้น

จางซิ่วเอ๋อมองซานหยาแล้วบอกเสียงอ่อนโยน “ซานหยา เจ้ารีบกลับไปเถอะ พรุ่งนี้ออกมาเช้าหน่อย”

พรุ่งนี้เช้านางจะทำกับข้าวให้หลากหลายมากขึ้น

ตอนนี้ชุนเถาบาดเจ็บ นางได้ตำลึงมาบวกกับตำลึงของท่านหมอเมิ่ง ตอนนี้นางไม่ขาดตำลึงเงินแล้ว ย่อมต้องทำของที่อร่อยหน่อย

ไม่ใช่ว่านางตะกละ ประเด็นคือสามพี่น้องผอมแห้งเกินไป

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อนาคตอาจจะมีลูกไม่ได้ด้วยซ้ำ

จางซิ่วเอ๋อหยิบตำลึงและเดินกลับ สวี่อวิ๋นซานเห็นก็รีบไล่ตามเข้ามาและเอ่ย “ข้าไปส่งเจ้านะ”

จางซิ่วเอ๋อไม่ได้พูดอะไร นางต้องการโอกาสในการอยู่กับสวี่อวิ๋นซานจริง ๆ

แม่หลินมองจางซิ่วเอ๋ออย่างนึกแค้นใจ ส่วนหลีฮวามีน้ำตาคลออยู่เต็มเบ้า

“พี่ชาย!” หลีฮวากระทืบเท้าร้องเรียก ท่าทางน้อยใจสุด ๆ

จางซิ่วเอ๋อรอจนเดินพ้นจากสายตาตระกูลสวี่แล้วจึงชะงักฝีเท้าและเอ่ย “ท่านไม่ต้องไปส่งข้าหรอก”

“ 15 ตำลึงนี่เป็นราคาที่แม่ท่านควรจ่าย ข้าไม่รู้สึกผิดที่รับมา….” จางซิ่วเอ๋อมองสวี่อวิ๋นซานแล้วเอ่ย

นางอาจจะเรียกมากไป แต่ถ้าไม่เรียกมากขนาดนี้ก็ไม่มีทางทำให้แม่หลินรู้ว่าการรังแกคนอื่นมีราคาที่ต้องจ่าย และนางก็จะกำเริบเสิบสานขึ้นเรื่อย ๆ

เทียบกับเรื่องหวาดเสียวที่ชุนเถาผจญมา เงิน 15 ตำลึงเงินน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับการเรียกค่าเสียหายจากแม่หลิน!

พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็มองสวี่อวิ๋นซานและเอ่ยขึ้น “เมื่อก่อนท่านทำดีกับข้าไว้มาก แล้วยังเอายารักษาแผลให้ข้าอีก 7 ตำลึงเงินนี้ให้ท่าน ถือว่าคืนให้”

เดิมทีจางซิ่วเอ๋อก็ตั้งใจจะคืนตำลึงเงินให้สวี่อวิ๋นซานอยู่แล้ว แต่แค่ไม่มีโอกาสเท่านั้น

นอกจาก 2 ตำลึงเงินค่ายารักษาแผล สวี่อวิ๋นซานก็ดีกับนางมาตลอด แล้วยังเอาของกินมาให้พวกนางสามพี่น้องบ่อย ๆ

จึงชดเชยให้เขาอีก 5 ตำลึงเงิน

ตำลึงเงินที่ให้อาจจะดูมากเกินไป แต่จางซิ่วเอ๋ออยากให้เรื่องนี้จบอย่างสิ้นเชิง

ส่วนความรักที่สวี่อวิ๋นซานต้องการ นางมอบให้เขาไม่ไหว และไม่มีทางให้เขาหรอก

สวี่อวิ๋นซานมองตำลึงเงินในมือจางซิ่วเอ๋ออย่างตกตะลึง และเอ่ยขึ้น “ซิ่วเอ๋อ นี่เจ้าทำอะไรน่ะ?”

จางซิ่วเอ๋อบอก “พี่สวี่ ท่านเก็บตำลึงพวกนี้ไว้เถอะ ไม่ให้แม่ท่านรู้จะดีที่สุด ข้าไปล่ะ”

นางไม่อยากให้แม่หลินคิดว่านางยังอยากแต่งเข้าตระกูลสวี่อยู่ ถึงได้คืนตำลึงเงินให้สวี่อวิ๋นซานเพื่อเอาใจ

สวี่อวิ๋นซานยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่จางซิ่วเอ๋อก็จากไปโดยไม่หันหลังกลับ

สวี่อวิ๋นซานอยากจะไล่ตามไป แต่ในใจกลับรู้สึกหมดแรง เหมือนเขาจะเริ่มรู้สึกได้ในใจแล้วว่า

ซิ่วเอ๋อตอนนี้ไม่เหมือนกับซิ่วเอ๋อเมื่อก่อนแล้ว นางจะไม่ยิ้มขวยเขินให้เขา และไม่ต้องการการปกป้องจากเขาแล้ว

จางซิ่วเอ๋อเดินมาถึงบ้านที่อยู่ข้างในสุดแล้วก็มองเข้าไปด้านใน

นี่คือบ้านของจ้าวเอ้อร์หลาง ภายในบ้านมืดสนิท มีเพียงเสียงคนคุยกันดังออกมาแว่ว ๆ

พอจะดูออกว่าบ้านของจ้าวเอ้อร์หลางไม่อยากเสียค่าน้ำมันตะเกียง

ตอนนี้ก็ดึกแล้ว นางเองก็เป็นผู้หญิงไม่สะดวกจะเข้าไปในบ้านของจ้าวเอ้อร์หลาง จึงคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมแล้วขอบคุณด้วยตัวเอง

ตอนจางซิ่วเอ๋อกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นชุนเถากระเสือกกระสนจะลุกขึ้นจากเตียง

จางซิ่วเอ๋อร้อนใจทันที “ชุนเถา นี่เจ้าจะทำอะไร?”

จางชุนเถาเห็นจางซิ่วเอ๋อก็มีสีหน้าสบายใจขึ้น “พี่ ข้าตกใจแทบตาย นึกว่าพี่ไม่อยู่เสียอีก…..”

จางซิ่วเอ๋อพยุงจางชุนเถานอนในท่าที่สบายที่สุด หยิบ 8 ตำลึงเงินออกจากอกเสื้อตัวเองพลางยิ้มกว้าง แล้วยื่นให้จางชุนเถา

จางชุนเถามองตำลึงเงินอย่างดีอกดีใจ “พี่….ไปเอาตำลึงเงินนี่มาจากไหน?”

จางซิ่วเอ๋อมองจางชุนเถายิ้ม ๆ และเอ่ยตอบ “แม่หลินกับหลีฮวารังแกเจ้า ข้าย่อมไม่ให้พวกนางได้อยู่สบาย ตำลึงเงินนี่ก็เอามาจากพวกนางนี่แหละ”

………………………………………………