บทที 56 ให้ปลาแทนคำขอบคุณ
จางชุนเถาได้ยินก็มองจางซิ่วเอ๋ออย่างไม่อยากจะเชื่อ “อะไรนะ? เอามาจากแม่หลิน? เป็นไปได้อย่างไร! แม่หลินเก่งขนาดนั้น นางจะยอมให้ตำลึงง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน…..”
จางซิ่วเอ๋อเล่าโดยละประเด็นรุนแรงไว้ นางเล่าตอนที่ตัวเองเอาปังตอไล่ฟันคนเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น
จางชุนเถาฟังจบก็ทำหน้าหวาดกลัว “พี่ วันหลังพี่อย่าทำแบบนี้อีกนะ ถ้าพลั้งมือฟันใครตายจริง ๆ พวกเขาตายน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าพี่ต้องไปติดคุกมันไม่คุ้มค่าหรอก”
จางซิ่วเอ๋อเห็นจางชุนเถาเริ่มสั่งสอนตนอีกแล้วก็รีบรับประกัน “ข้าขอรับรองว่าหลังจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว…..”
แน่นอนว่านี่ก็เป็นแค่คำพูดที่หลอกจางชุนเถาเท่านั้น ถ้ามีคนมาหาเรื่องพวกนางอีก นางไม่ยอมใจอ่อนแน่
จางซิ่วเอ๋อเอาตำลึงเงินใส่ในอกของจางชุนเถาและเอ่ยขึ้น “ที่จริงต้องมี 15 ตำลึง ข้าให้พี่สวี่ไป 7 ตำลึง ถือว่าสะสางหนี้บุญคุณ ที่เหลือเจ้าเก็บไว้ก่อน……”
“พี่เก็บไว้เถอะ” จางชุนเถาดันกลับ
นางไม่เคยเห็นตำลึงเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน
จางซิ่วเอ๋อบอกด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นค่ายาที่ขอมาให้เจ้า ข้าใช้ไปเจ็ดตำลึงก็ไม่ควรแล้ว ที่เหลือเจ้าเก็บไว้เถอะ”
สีหน้าจางชุนเถาเย็นเยียบลง “พี่! นี่พี่พูดอะไรน่ะ? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พี่เป็นคนไปเอาเงินนี่มา ชีวิตของข้าพี่ก็เป็นคนช่วยไว้ ถ้าต้องแบ่งแยกกันชัดเจนขนาดนี้ งั้นที่ข้ากินของพี่ใช้ของพี่ตั้งแต่ที่มาอยู่บ้านผีสิงล่ะ คงจะมากจนคืนไม่หมดแล้ว…..”
“เราเป็นครอบครัวเดียวกัน พี่ทำแบบนี้ก็เหมือนจะห่างเหินกับข้า” จางชุนเถาพูดจบก็หันหลังอย่างโกรธเคือง ไม่คิดจะสนใจจางซิ่วเอ๋ออีก
จางซิ่วเอ๋อมองจางชุนเถาอย่างตกตะลึง นางคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
นางอยากเอาตำลึงให้ชุนเถาก็เพราะอยากให้ชุนเถามีตำลึงติดตัว จะให้นางกุมทุกอย่างในบ้านเลยคงไม่เหมาะสม
นางรู้ว่าตัวเองเกลี้ยกล่อมจางชุนเถาไม่ได้แล้ว และอุ่นใจกับความเชื่อใจที่จางชุนเถามีให้ นางหยิบออกมา 2 ตำลึงเงินยัดใส่ใต้หมอนจางชุนเถา
ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม “งั้นพี่เก็บตำลึงพวกนี้ไว้นะ 2 ตำลึงเงินนี่เจ้าเก็บไว้เป็นค่าขนม เจ้าอยากซื้ออะไรก็ซื้อได้เลย….ต่อให้เจ้าไม่อยากใช้เอง เอาไว้ซื้อของให้ซานหยาก็ได้”
จางซิ่วเอ๋อพูดจบก็ดับไฟและคลานขึ้นเตียงไปนอน
ตอนนั้นจางชุนเถาได้ลืมตาโพลง นัยน์ตาเปล่งประกายเปี่ยมด้วยความซาบซึ้ง
ชีวิตนางในตอนนี้เพียงพอสุด ๆ แล้ว
หลังจากที่มาอยู่บ้านผีสิง ไม่ต้องพูดเรื่องที่ไม่ต้องตื่นเช้ามาทำงานจนดึก เอาแค่เรื่องกินก็ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก ๆ แล้ว และไม่ต้องกลัวว่าจะโดนด่าเพราะทำผิดเพียงเล็กน้อย
มีพี่สาวแบบนี้นางรู้สึกเพียงพอมาก ๆ
วันต่อมาก็ได้มาถึง
จางซิ่วเอ๋อตื่นแต่เช้า ดึงแหครอบที่ลงไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมา ครั้งนี้ได้ปลามาไม่มากไม่น้อย มีปลาขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กอยู่ 8 ตัว
จางซิ่วเอ๋อผิดหวังนิดหน่อย แต่พริบตาเดียวก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า นี่นางเลี้ยงตัวเองจนพุงกางจริง ๆ ปลา 8 ตัวไม่น้อยแล้วนะ
ในความทรงจำของจางซิ่วเอ๋อเจ้าของร่างนั้น นางไม่เคยกินปลามาก่อนเลย
ต่อให้มี จางซิ่วเอ๋อก็ได้กินแค่น้ำแกงที่ไม่มีใครกิน ส่วนเนื้อปลานั้นไม่ต้องหวังเลย
ที่ตอนนี้พวกนางสองพี่น้องได้กินเนื้อปลาคำโตก็เป็นชีวิตที่เทียบเท่าเทพเซียนแล้ว
ถึงแม้ชีวิตในตอนนี้ถ้าเทียบกับชีวิตในยุคปัจจุบันจะต่างกันมากเกินไป แต่นางเชื่อว่าขอแค่ตัวนางเองมีความพยายาม ชีวิตก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ
จางซิ่วเอ๋อทำใจได้แล้วอารมณ์ก็ดีขึ้นตาม
นางหิ้วปลากลับมา อุ่นข้าวต้มในหม้อ แล้วเลือกที่ตัวใหญ่หน่อยออกมา 2 ตัวและออกจากป่า
จางซิ่วเอ๋อตรงดิ่งไปที่บ้านของจ้าวเอ้อร์หลาง เมื่อคืนนี้เด็กอย่างจ้าวเอ้อร์หลางได้ยืนหยัดเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้นาง จางซิ่วเอ๋อจึงจดจำบุญคุณนี้ไว้ วันนี้ตั้งใจจะมาคืนให้
จางซิ่วเอ๋อยืนอยู่นอกกำแพงรั้วบ้านของจ้าวเอ้อร์หลาง มองสอดส่องเข้าไปด้านใน
ตอนนี้จ้าวเอ้อร์หลางกำลังผ่าฟืนอยู่ในลานบ้าน เขายังเด็กแรงก็น้อย ตอนผ่าฝืนจึงลำบากอยู่นิดหน่อย และท่าทางเหมือนจะกินไม่อิ่ม คนทั้งคนดูโอนเอนไปทั้งร่าง
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจ คิดไปคิดมาก็หิ้วปลา 2 ตัวกลับบ้าน
นางลืมนึกไปว่าด้วยสถานการณ์บ้านตระกูลจ้าวแล้ว ต่อให้นางเอาปลาไปให้ ทางตระกูลจ้าวก็คงกินแบบดี ๆ ไม่ได้ บ้านพวกเขาคงจะไม่ค่อยมีเครื่องปรุงอย่างน้ำมัน เกลือ และไม่มีเครื่องปรุงอย่างอื่นที่ลดความคาว อย่างนั้นต้องไม่อร่อยแน่ ๆ
หลังจากที่กลับบ้านมาแล้ว จางซิ่วเอ๋อจึงตักข้าวต้มที่อุ่นได้ที่แล้วออกมา ตัวนางเองกับชุนเถากินไปสองถ้วย ที่เหลือเก็บไว้รอซานหยามากิน
นางจัดการปลาพวกนั้นอย่างช่ำชอง ก่อนจะตักแป้งข้าวโพดและแป้งขาว นำมาผสมกันเตรียมทำหมั่นโถว
แป้งที่บ้านมีไม่มากนัก ตอนนี้ก็ได้แต่กิน ๆ ไปก่อน
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อถือว่าพอมีตำลึงเงินอยู่บ้าง จึงนึกในใจว่าครั้งหน้าที่เข้าเมืองจะต้องซื้อแป้งกลับมาเพิ่ม
เห็นที่บ้านไม่มีเสบียงเพียงพอแล้ว นางรู้สึกไม่สบายใจเท่าไรนัก
พอจัดการของพวกนี้เสร็จ จางซิ่วเอ๋อก็เริ่มวุ่นวายอยู่กับชุดเครื่องเทศของตัวเอง
นางผสมผงเครื่องเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกันตามอัตราส่วนที่ตั้งไว้ และบรรจุผงเครื่องเทศลงในถุงผ้า
พอเห็นผลลัพธ์ความขยันของตัวเองในหลายวันมานี้ นางก็คลี่ยิ้มสบายใจ
ในมุมมองของจางซิ่วเอ๋อแล้ว การขึ้นเขาจับปลานั้นเหมือนเป็นเรื่องตามมีตามเกิด ไม่มั่นคงยืนยาว
เครื่องเทศพวกนี้ต่างหากคือความหวังในอนาคต
นางเช็ดเหงื่อ เมื่อมองท้องฟ้าก็เห็นว่าใกล้เที่ยงแล้ว จึงรีบเอาปลาใส่กระทะ และนึ่งหมั่นโถว
จางซิ่วเอ๋อนึ่งหมั่นโถวไม่ค่อยเป็นเท่าไรนัก ตอนหมักแป้งก็ใช้แป้งเก่าที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ พอไม่มียีสต์นางก็ควบคุมอัตราส่วนได้ไม่ดีนัก
หมั่นโถวนี่นึ่งได้แบบ….ไม่น่าดูเท่าใด ออกจะแข็งนิด ๆ
แต่ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว เพราะด้านในใส่แป้งขาวไปเกินครึ่ง ตอนกินอร่อยกว่าแผ่นแป้งข้าวโพดมากนัก
จริง ๆ แล้วจางซิ่วเอ๋อประหม่าเกินกว่าจะเอาหมั่นโถวแบบนี้ไปให้คนอื่น แต่พอนึกถึงสภาพบ้านตระกูลจ้าว ก็รู้สึกว่าแค่มีของให้กินก็ดีมากแล้วสำหรับคนตระกูลจ้าว
นางจะพิรี้พิไร้อะไรมากมาย อีกหน่อยคล่องมือแล้วค่อยเอาแบบดี ๆ ไปให้ก็ได้
สภาพหมั่นโถวไม่ค่อยดีเท่าไรก็จริง แต่ปลาในกระทะนั้นจางซิ่วเอ๋อทำได้น่ากินมาก นางใส่น้ำมันไปเต็มที่ ไอร้อนกรุ่นระเหยขึ้น แค่เห็นก็รู้สึกน้ำลายสอ
จางซิ่วเอ๋อเก็บปลาและหมั่นโถวไว้อย่างดี ก่อนจะใส่เข้าไปในถังไม้และออกจากบ้าน นางคิดว่าตัวเองควรซื้อตะกร้ามาอีกสองใบได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเอาแต่แบกตะกร้าสานและหิ้วถังไม้ก็ไม่ใช่เรื่อง
นางคิดไปพลางก็มาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลจ้าว
และเจอกับจ้าวเอ้อร์หลางที่เพิ่งลงมาจากเขาพอดี ในตะกร้าสานของเขาใส่ผักป่าไว้มากมาย ในมือถือผลไม้ป่ามาด้วยจำนวนหนึ่ง
………………………………