โม่หลินกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าจะไว้หน้ากัน จึงทำได้เพียงพูดว่า “ดูเหมือนผมทำเรื่องไม่เหมาะสม แต่ถ้าวันอื่นคุณว่าง ประตูตระกูลโม่เปิดต้อนรับคุณเสมอ”

โม่หลินโค้งคำนับและบอกลา ลู่หาวเดินมาจากอีกด้าน

ลู่หาวก้าวเข้ามาข้างลู่ฝาน แล้วพูดว่า “คุณผู้ชาย ถ้าเมื่อครู่ล่วงเกินอะไรไป โปรดอภัยให้ด้วย”

พูดพลาง ลู่หาวคารวะและคำนับ ลู่ฝานรีบประคองเขาขึ้นมา ตลก ให้พ่อทำความเคารพตัวเอง อายุจะสั้นลงเชียวนะ

ลู่ฝานพูดเสียงแหบพร่าออกมาอย่างผ่อนคลาย “คุณลู่ไม่จำเป็นหรอกครับ”

ลู่หาวขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “คุณผู้ชายรู้เหรอ ว่าผมแซ่ลู่”

ลู่ฝานขยับมุมปากเล็กน้อย ถ้าไม่ระวังต้องถูกเปิดเผยแน่นอน ลู่ฝานกลอกตาไปมา แล้วอธิบายว่า “ผมรู้จักลูกชายคุณ แน่นอนว่าต้องรู้อยู่แล้ว”

“คุณผู้ชายรู้จักลู่ฝานเหรอ”

ลู่หาวตกใจเข้าไปใหญ่ เขาคิดไม่ถึงว่าลู่ฝานจะรู้จักผู้ฝึกชี่

ลู่ฝานพยักหน้า นับว่าเป็นการตอบกลับ ลู่หาวรีบพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเชิญคุณผู้ชายมาเป็นแขกที่ตระกูลลู่สิครับ ถ้าไอ้ลูกชายลำบากใจคุณ ผมจะได้ให้เขาขอโทษคุณผู้ชายต่อหน้า”

ลู่ฝานพูดว่า “คุณลู่คิดมากไปแล้ว ลูกชายคุณ……นับว่าไม่เลว ผมยังมีธุระ ไว้ครั้งหน้าจะมาเยี่ยมใหม่”

พูดจบ ลู่ฝานรีบเดินไป เขากลัวว่าขืนพูดอีก จะเปิดเผยตัวตนออกมา

พูดเสียงแหบมันทรมานมาก แต่ถ้าให้พ่อรู้ว่าตัวเองหลอกเขาแบบนี้ กลับไป ต้องมีจุดจบไม่สวยอย่างแน่นอน

หนีคือยอดกลยุทธ์! หนีคือยอดกลยุทธ์!

ลู่หาวมองตามลู่ฝานเดินออกไป ปากพึมพำคำว่า “นับว่าไม่เลว” ที่ลู่ฝานเพิ่งพูดเมื่อครู่

ทันใดนั้น ลู่หาวหัวเราะออกมา

“ไอ้ลูกเวร รู้จักผู้ฝึกชี่ แต่ไม่บอกฉัน ไม่……เลว…..จริงๆ อย่าบอกนะว่าลู่ฝานลูกชายฉัน จะมีความสามารถเป็นผู้ฝึกชี่เหมือนกัน”

ลู่หาวตาเป็นประกาย เดินกลับเข้าไป ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

โม่หลินยืนอยู่ไม่ไกล มองลู่หาวคุยกับ “ชายหน้ากากเงินลึกลับ” อย่างมีความสุข แววตามีความโมโหขึ้นมาทันที

ชายหน้ากากเงินคนนี้ ไม่ไว้หน้าเขา แต่กลับคุยกับลู่หาวอย่างมีความสุข โม่หลินอยากส่งคนไปสืบตอนนี้เลยว่า ชายหน้ากากเงินคนนี้เป็นใครกันแน่ แต่สติของเขาไม่ให้เขาทำเช่นนี้ ช่างเถอะ แค่ผู้ฝึกชี่ที่ผ่านมาคนหนึ่งเท่านั้น

ฉันไม่เชื่อหรอกว่า ตระกูลลู่ของนาย จะเอาผู้ฝึกชี่มาเป็นพวกได้

โม่หลินสะบัดแขนเสื้อ เดินออกไปอย่างโมโห

……

ลู่ฝานกลับมาถึงนอกร้านเหล้าด้วยความระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา เขาจึงถอดเสื้อคลุมดำกับหน้ากากเงินออก

เดินเข้าไปในร้าน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เห็นหวูเฉินกำลังดื่มเหล้าอยู่พอดี

“กลับมาแล้วเหรอ ผลที่ได้เป็นยังไงบ้าง”

หวูเฉินยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น เขาเห็นสีหน้าสดใสของลู่ฝาน ก็รู้ว่าลู่ฝานต้องได้เงินมาเยอะแน่นอน

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “อาจารย์ ต่อไปจะซื้อสมุนไพรอะไร ขอให้บอก ผมซื้อกลับมาให้ท่านได้แล้ว”

หวูเฉินส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หาเงินได้เยอะขนาดนี้ ดูนายดีใจเข้าสิ นายเกิดจากตระกูลร่ำรวยนะ เฮ้อ”

ลู่ฝานนั่งลงตรงข้ามหวูเฉิน แล้วพูดว่า “อาจารย์ ผมได้ของดีมาด้วย”

พูดพลาง ลู่ฝานเอาผลเพลิงออกมา

หวูเฉินเห็นผลเพลิง ยิ้มอย่างเบิกบานเข้าไปใหญ่

“นายหาสิ่งนี้เจอแล้วเหรอ ดีๆๆๆ ถ้ามีมัน การฝึกของนายจะรวดเร็วขึ้นอีก ปิดประตูสิ”

ลู่ฝานได้ยิน รีบปิดประตูทันที หวูเฉินหยิบผลเพลิงขึ้นมา แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน วันนี้จะให้นายได้เห็นวิธีการกลั่นยาของผู้ฝึกชี่ที่แท้จริง”

ลู่ฝานเบิกตาโต เห็นมือของหวูเฉินมีกระแสลมออกมา ผลเพลิงทั้งลูก เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมา

หลังจากนั้น หวูเฉินคว้ามือในอากาศ ขณะเดียวกัน มีแสงห้าแสงปรากฏออกมาด้วย รวมอยู่ที่มือหวูเฉิน

แผดเสียงออกมาเบาๆ ผลเพลิงในมือหวูเฉิน กลายเป็นรูปร่างเลือนรางในพริบตา ผงสีดำหล่นลงมาจากมือ นี่เป็นสิ่งปนเปื้อนในสมุนไพร ลู่ฝานเพิ่งเคยเห็นวิธีกำจัดสิ่งปนเปื้อน ที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ เป็นครั้งแรก

ต่อมา ทั้งร้านเริ่มสั่นขึ้นมาเล็กน้อย มีเสียงลมพัด เสียงน้ำ เสียงฟ้าผ่า เสียงเผาไหม้ดังขึ้น สุดท้ายมีเสียงพื้นดินดังขึ้นเบาๆ

ลำแสงทั้งห้าทะลุเข้าไปในผลเพลิง ยาเม็ดกลมหนึ่งเม็ด แข็งตัวอย่างรวดเร็ว

ทั้งร้านเต็มไปด้วยลำแสงของยาเม็ด หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ลำแสงหายไป กลั่นยาออกมาสำเร็จ

ในมือหวูเฉิน มียาเม็ดสีแดงก่ำหนึ่งเม็ด หวูเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “ยาเพลิง ยาเม็ดระดับสอง”

ลู่ฝานรับยาเม็ดมา ในหัวมีแต่ภาพเมื่อครู่ปรากฏขึ้นมา

“อาจารย์ เมื่อกี้ทักษะการกลั่นยาของอาจารย์ เหนือชั้นมาก”

หวูเฉินพูดว่า “นี่เรียกว่าวิชาฟ้าดินแปลงเป็นยา รอให้ตอนไหน นายได้เป็นนักเรกิ ฉันจะสอนนาย”

ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ มองยาเม็ดแล้วพูดว่า “กินตอนนี้เลยไหมครับ”

หวูเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “แล้วแต่นายเลย”

ลู่ฝานคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเก็บยาเอาไว้ แล้วพูดว่า “อีกสักสองสามวันค่อยกินดีกว่า ผมเพิ่งกินยาเม็ดระดับหนึ่งไปหนึ่งเม็ด ดูดซึมฤทธิ์ยาที่เหลือให้หมดก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

หวูเฉินพยักหน้าอย่างพอใจ สิ่งล่อตาล่อใจอันยิ่งใหญ่อยู่ตรงหน้า ยังนิ่งสงบได้ นี่สิถึงจะเป็นลูกศิษย์ของเขา

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะ รู้ทุกอย่างโดยไม่ต้องพูดออกมา