บทที่ 38 ในที่สุดโชคชะตาขององค์ชายก็เปลี่ยนแล้ว

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 38 ในที่สุดโชคชะตาขององค์ชายก็เปลี่ยนแล้ว?
เสิ่นเทียนเคยเรียนความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเมื่อภพที่แล้ว

การผายปอดและปั๊มหัวใจก็เป็นหนึ่งในนั้น

เพื่อสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในเวลาจำเป็น เสิ่นเทียนตั้งใจเรียนมาก

เพราะเหตุนี้ หลังจากเสิ่นเทียนทำการปฐมพยาบาลไปได้สักพัก ลมหายใจของเสี่ยวหลิงเซียนค่อยๆ กลับมาเป็นปกติทีละนิด

“อืม…”

เสี่ยวหลิงเซียนลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า แต่ทันใดนั้นเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ

ตอนนี้มีใบหน้าที่หล่อเหลาเกินต้านกำลังเข้าใกล้ตนเองทีละนิด

เป็นเสิ่นเทียน!

ทันใดนั้น เสี่ยวหลิงเซียนตกใจจนหน้าถอดสี รีบหลับตาลงทันที

ซ่า!

คิดไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะอาศัยโอกาสที่ข้าหมดสติจูบข้า

แค่จูบก็ช่างเถอะ แถมยังเป่าลมใส่ปากของข้าไม่หยุด

เดี๋ยวก่อน เขา…เขากำลังกดหน้าอกของข้า!

รังแกกันเกินไปแล้ว!

ข้ายังเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนะ!

เจ้าทำแบบนี้กับข้า แล้วต่อไปข้าจะแต่งออกไปอย่างไร

เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกโมโหมาก คิดจะกระโดดขึ้นมาสู้กับเสิ่นเทียนสุดชีวิต

แต่หลังจากที่ครุ่นคิด ในสถานที่รกร้างไร้ผู้คนแห่งนี้

โดยรอบมีเพียงเสิ่นเทียนและผู้ติดตามของเขาสองคน

แม้กระโดดลุกขึ้นมาขัดขืนจริง

ดูเหมือนจะขัดขืนไม่ไหวกระมัง!

หรือว่า…หรือว่าข้ามองคนผิดไป

อันที่จริงคนแซ่เสิ่นผู้นี้ไม่ใช่คนดีอะไร แต่เป็นจอมปีศาจที่วิปริต?

……

นึกถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนกลัวจนไม่กล้าขยับตัว

แต่มีความรู้สึกพิเศษหนึ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของนาง

ความรู้สึกเช่นนี้มันลึกลับซับซ้อน นางไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน

ทันใดนั้น การสัมผัสระหว่างริมฝีปากหายไป

หน้าอกที่โดนกดทับก็หยุดลงเช่นกัน

ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเสี่ยวหลิงเซียน

นางหลับตา ฟังเสิ่นเทียนสนทนากับกุ้ยกงกง

“ลุงกุ้ย ข้าเหนื่อยแล้ว หรือไม่ลองเปลี่ยนท่านมาฝังเข็มดู!”

เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันใด

ฝังเข็ม?

ฝังเข็มอะไร!!

“แค่กๆ ทักษะการแพทย์ของบ่าวไม่ดีมากนัก กลัวจะทำร้ายแม่นางหลิงเอ๋อร์ เชิญองค์ชายทำต่อดีกว่า!”

ดังนั้น เมื่อกี้คนแซ่เสิ่นไม่ได้กำลังลวนลามข้า แต่กำลังช่วยข้าหรือ

มีเช่นนี้ที่ไหนกัน!

ช่วยคนเช่นนี้มีที่ไหน แถมยังบ่นว่าเหนื่อยอีก

ทำไม ช่วยข้าแค่นี้มันทำให้เจ้าต้องเหนื่อยมากเลยหรือ

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ความขุ่นเคืองก็ผุดขึ้นเต็มอกเสี่ยวหลิงเซียน

……

ลูกประคำที่อยู่ตรงหน้าอกของเสิ่นเทียนก็เริ่มสั่น

“นายท่าน นายท่าน จิ่วเอ๋อร์สัมผัสได้ถึงความอาฆาตบนตัวของแม่นางผู้นี้!”

เสิ่นเทียนเริ่มตระหนก “หรือว่าโจรชั่วเฮยเสวี่ยทิ้งลูกสมุนอะไรไว้บนตัวของยัยผู้หญิงคนนี้”

สีหน้าของกุ้ยกงกงก็เริ่มเคร่งเครียดเช่นกัน “ไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออก!”

ผู้บำเพ็ญพรรคมารขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้าย กระทำชั่วโดยไม่เลือกวิธีการ

เนื่องจากไม่มีข้อผูกมัด ดังนั้นการใช้กลอุบายมีหลากหลายวิธี ยากที่จะรับมือ

เสิ่นเทียนถือป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ไว้ในมือ “มีวิธีอะไรสามารถกำจัดความอาฆาตหรือไม่”

ฉินเกาที่อยู่ด้านข้างครุ่นคิด “ได้ยินมาว่าฉี่ของเด็กมีพลังหยางและพลังแห่งความรุ่งโรจน์ สามารถขจัดความชั่วร้าย…”

“หยุด!”

ฟังมาถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนตกใจจนหน้าถอดสี กระโดดลุกขึ้นจากพื้นอย่างกะทันหัน

“ข้าข้าข้าข้าข้าไม่เป็นไร!”

เห็นท่าทางที่ตื่นตระหนกของเสี่ยวหลิงเซียน สีหน้าของเสิ่นเทียนดูแปลกประหลาดขึ้นมาทันที “เจ้า…เจ้าฟื้นนานแล้วหรือ”

เสี่ยวหลิงเซียนอึ้ง พยักหน้าด้วยความมึนงง “เพิ่งฟื้นมาได้สักพัก”

“ฟื้นแล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่พูด” เสิ่นเทียนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเหนื่อยแทบตาย”

เสี่ยวหลิงเซียนไม่รู้ควรจะพูดอย่างไร

อึ้งไปสักพัก เสี่ยวหลิงเซียนชักมีอารมณ์

“คนแซ่เสิ่น เจ้าสารเลว!”

“เมื่อกี้เจ้าทั้งจูบทั้งกดข้า ต่อไปจะให้ข้าแต่งงานออกเรือนได้อย่างไร”

กุ้ยกงกงยิ้มจนตาหรี่ “แต่งกับองค์ชายก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ”

แหะๆ โชคดีที่เมื่อกี้ไม่ได้ฝังเข็ม

องค์ชายฉลาดยิ่งนัก!

……

“ใคร ใครจะแต่งกับเจ้าสารเลวคนนี้!”

ใบหน้าของเสี่ยวหลิงเซียนแดงเล็กน้อย กล่าวพึมพำ “อาศัยตอนที่คนอื่นเขาหมดสติ ทำเรื่องแบบนั้นกับคนอื่น”

เสิ่นเทียนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ที่ข้าทำก็เพราะต้องการช่วยเจ้า ไม่ได้มีความคิดอื่นจริงๆ”

เสี่ยวหลิงเซียนโมโห “ไม่ได้มีความคิดอื่น? ข้าอัปลักษณ์มากเลยหรือ”

เสิ่นเทียนหมดหนทาง แม่นางผู้นี้หลงประเด็นไปแล้ว!

เขาถอนหายใจ “เจ้าต้องให้ข้าทำอย่างไรถึงจะเชื่อ”

เสี่ยวหลิงเซียนเบือนหน้าหนี ความโกรธในใจยิ่งอยู่ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

สารเลว เจ้าสารเลวผู้นี้บอกว่าทำเพื่อช่วยคน ไม่ได้คิดอย่างอื่น

เห็นได้ชัดว่ากินแล้วเตรียมตัวบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่าย

บัดซบ น่าบัดซบที่สุด!

เสี่ยวหลิงเซียนโมโหจนขึ้นหัว ชี้ไปทางหน้าผาที่อยู่ด้านข้างในทันใด

นางจงใจกล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง “ไม่อยากรับผิดชอบหรือ ฮึ่ม เจ้ากระโดดลงไปจากที่นี่ ข้าก็จะเชื่อว่าเจ้าไม่มีความคิดอื่น!”

เสิ่นเทียนมองหน้าผาแล้วกลืนน้ำลาย “โดด…โดดลงไปจากหน้าผานี่?”

เสี่ยวหลินเซียนพยักหน้าอย่างมีชัย ยิ้มแล้วกล่าว “ว่าอย่างไร กลัวแล้วรึ!”

ฮึ่ม สารเลว

เห็นแก่ที่เจ้าช่วยข้า ข้ายอมปล่อยให้ตนเองขุ่นเคืองหน่อยก็ได้!

แต่หากเจ้าคิดจะไม่รับผิดชอบ ฝันไปเถอะ

ว่าแต่ หลังจากที่แต่งงานกันแล้ว ใครจะเป็นคนดูแลศิลาวิญญาณในบ้านล่ะ!

……

ในขณะที่เสี่ยวหลิงเซียนกำลังจินตนาการเป็นเรื่องเป็นราว!

ทันใดนั้นเห็นร่างคนพุ่งผ่านไปทางหน้าผาอย่างรวดเร็ว

“วันนี้ข้าเสิ่นเทียนล่วงเกินแม่นางแล้ว แต่ข้าทำเพียงเพื่อช่วยคนจริงๆ”

“ในเมื่อแม่นางไม่ยอมเชื่อ สิ่งเดียวที่ข้าทำได้คือใช้ความตายยืนยันความบริสุทธิ์!”

ทันทีที่สิ้นเสียง กลับเห็นร่างของเสิ่นเทียนกระโดดลงหน้าผาในทันใด

ดั่งมังกรฟ้าลงสู่มหาสมุทร หายไปในกลีบเมฆในพริบตา

เขา โดดลงไปจริงๆ

แม้กระทั่งกุ้ยกงกงและฉินเกาที่อยู่ด้านข้างก็ห้ามไม่ทัน

……

ขณะมองดูภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า เสี่ยวหลิงเซียนตกตะลึง

‘ทำ…ทำไมเจ้าถึงโดดลงไปจริง

ข้าทำให้เจ้ารู้สึกรังเกียจมากเลยหรือ

เพื่อที่จะไม่รับผิดชอบข้า เจ้ายอมกระโดดหน้าผาตาย

หรือเจ้ารู้สึกว่าคำพูดของข้ามันไปทำลายความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเจ้า

เจ้าโง่ ใครจะไปใส่ใจว่าเจ้ามีความคิดอื่นหรือไม่!

ถึงขั้นยอมโดดหน้าผาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

เจ้าคงไม่ใช่คนโง่หรอกกระมัง!’

เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกว่าหน้าของตนเองเปียกไปหมด

ยื่นมือไปแตะ กลับพบว่ามีน้ำตาไหลนองหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

นำเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้มาเชื่อมโยงกัน

นางจำได้แล้วว่าตนเองถูกผู้จริงเเท้เฮยเสวี่ยลักพาตัว

จำตอนที่ตนเองโดนควันยาสลบจนหมดสติได้แล้ว

“ดังนั้นสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพื่อช่วยข้า แต่ข้ากลับมาทำตัวงี่เง่าไร้สาระ บีบบังคับให้เขาโดดลงจากหน้าผาฆ่าตัวตาย?”

นึกถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกอ่อนแรงไปหมดทั้งตัว

นางเดินไปที่หน้าผาทีละก้าว

ฮึๆ พี่เสิ่นท่านไม่กลัวตาย แล้วคิดว่าข้าจะกลัวตายอย่างนั้นหรือ

รอข้าก่อนพี่เสิ่น หลิงเอ๋อร์จะไปอยู่เป็นเพื่อนท่านเดี๋ยวนี้!

เสี่ยวหลิงเซียนเดินไปที่ขอบหน้าผาอย่างเชื่องช้า มองดูเมฆหมอกที่หนาทึบ

นางยิ้ม จากนั้นก้าวเท้าซ้ายของตนเองออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว

ก้าวออกไปอีกเพียงแค่ก้าวเดียว ก็คือการกลับสู่จุดเริ่มต้นของความเป็นและความตาย

ในตอนนั้นเอง

มีเสียงของเสิ่นเทียนดังมาจากหน้าผาที่ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้งอย่างกะทันหัน

“ฮ่าๆๆ ตรงกลางหน้าผานี้มีแท่งหินยื่นออกมาแหละ

ลุงกุ้ย เสี่ยวเกา แม่นางหลิงเอ๋อร์ ข้ายังไม่ตาย!

ตอนข้าตกลงมาถูกแท่นหินรับเอาไว้ ที่นี่มีถ้ำด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นถ้ำเซียนที่บุกเบิกโดยผู้บำเพ็ญเซียน

พวกเจ้ารีบไปหาเชือกปีนลงมาสิ!”

หลังจากเสียงของเสิ่นเทียนดังขึ้น เสี่ยวหลิงเซียนที่ก้าวเท้าออกจากขอบหน้าผาหนึ่งข้างตกตะลึง

ส่วนกุ้ยกงกงที่ทำหน้าสิ้นหวังในตอนแรกก็ดีใจจนน้ำตาไหล

“โดดหน้าผาไม่ตาย แต่กลับพบถ้ำเซียนที่ผู้บำเพ็ญเป็นคนบุกเบิกไว้?”

“องค์ชายที่โดนบดบังพรสวรรค์และความสามารถมาตลอดสิบห้าปี ในที่สุดโชคชะตาของเขาก็เปลี่ยนไปแล้วหรือ”

ทว่าความจริงไม่ได้ง่ายเช่นนั้น!

………………………………