หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.355 – ชายผู้ถือกำเนิดใหม่

 

“ดูจากท่าทีเป็นกังวลของนาย ใช่ว่ามีเรื่องไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นรึเปล่า?” เย่เฟย์หยูเอ่ยถาม

 

“ไม่มีอะไรหรอก” กู่ฉิงซานส่ายหัวของเขา

 

หลังจากทั้งหมดนี้ ทุกสิ่งล้วนเป็นเพียงการคาดเดาทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงมัน

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ควรจะรีรออีกต่อไปแล้ว เขาจะต้องเร่งความเร็วยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเองให้ไวที่สุด!

 

ณ วิลล่าบนภูเขา

 

กู่ฉิงซานขังตัวเองอยู่ในห้อง

 

ดาบเช่าหยินวางอยู่บนตักของเขา

 

“มาต่อกันเลย” กู่ฉิงซานเอ่ยเบาๆ

 

ดาบเช่าหยินส่งเสียงฮึมฮำอยู่ครู่หนึ่ง และจมลงไปในร่างกายของเขา

 

มันบินเข้าไปในทะเลแห่งห้วงสติ ก่อนจะลอยเคียงบ่าเคียงไหล่กับดาบพิภพ

 

กู่ฉิงซานจับตาดูสถานการณ์ต่อไปอีกสักพัก แต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นปกติ

 

ในที่สุดเขาก็สามารถทำความคุ้นเคยกับดาบเช่าหยินได้อย่างสมบูรณ์ และเก็บมันในทะเลแห่งห้วงสติได้

 

เกือบจะในเวลาเดียวกัน กู่ฉิงซานก็เห็นเส้นแสงหิ่งห้อยหลายบรรทัดขึ้นในวิสัยทัศน์ของเขา

 

“คุณสามารถรวบรวมสองดาบเข้าไปในทะเลแห่งห้วงสติของตัวเอง”

 

“ภารกิจที่สอง ปลุกนักดาบนิรันดร์ : สองมือชี้นำ(เสร็จสมบูรณ์)”

 

“ต่อไปคือภารกิจที่สาม : ทดสอบระเบิดพลังนับร้อยนับพันครั้ง”

 

“วัตถุประสงค์ภารกิจ : กระตุ้นสองดาบบิน และฝึกฝนเทคนิคดาบทั่วไปที่คุณเคยได้เรียนรู้มากับพวกมันอีกครั้ง”

 

กู่ฉิงซานขมวดคิ้วทันทีหลังจากได้อ่านคำอธิบายของภารกิจ

 

ที่พูดมาน่ะ มันไม่ใช่เทคนิคลับแห่งดาบนะ แต่เป็นเทคนิคดาบธรรมดาที่ตนครอบครองอยู่กว่าหลายพันกระบวนท่า

 

แม้ว่าจะเริ่มต้นทำมันเลยในตอนนี้ น่ากลัวว่าต่อให้ฝึกทั้งวันทั้งคืน ก็คงจะใช้เวลาอีกหลายวันกว่าที่จะบรรลุภารกิจจนสมบูรณ์

 

เขาขบคิดและเอ่ยถาม “ระบบ ยังไงตัวฉันเองก็มีความรู้ความสามารถในวิถีดาบจากชีวิตก่อนหน้าอยู่แล้วนี่ คุณไม่สามารถปลุกฉันให้ตื่นขึ้นทันทีแบบให้มันจบๆไปไม่ได้เลยหรอ?”

 

ติ๊ง!

 

ระบบตอบคำถาม

 

“นี่เป็นส่วนสุดท้ายของความทรงจำในชีวิตก่อนหน้าของคุณ หากคุณเต็มใจที่จะยอมแพ้ ละทิ้งความทรงจำนี้ คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงพวกมันเป็นพลังงาน และทำการปลุกขอบเขตนักดาบนิรันดร์ขึ้นมาทันทีเลยก็ได้ แต่หากไม่ คุณก็ต้องค่อยๆปลุกมันผ่านทางภารกิจ”

 

“ส่วนสุดท้ายของความทรงจำในชีวิตก่อนหน้า … ที่ว่ามานั่นคือเทคนิคดาบทั้งหมดเลยใช่ไหม? ยังมีอะไรที่สำคัญๆที่ฉันยังจดจำมันไม่ได้อีกรึเปล่า?

 

“เป็นเทคนิคดาบทั้งหมด ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น” ระบบตอบกลับ

 

พอได้ฟัง กู่ฉิงซานก็รู้สึกโล่งใจ

 

“แล้วมันจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะบรรลุภารกิจปลุกนักดาบนิรันดร์จนเสร็จสมบูรณ์?”เขาเอ่ยถาม

 

“ยังเหลือภารกิจคงค้าง : 98 ภารกิจ จากการคำนวณ คาดการณ์ว่าคุณน่าจะใช้เวลาทั้งหมดสองเดือนจึงจะเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์”

 

98 ภารกิจ!

 

สองเดือน!?

 

กู่ฉิงซานเกือบจะร่วงตกลงจากเตียง

 

หากเขาจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูพื้นฐานวรยุทธของนักดาบนิรันดร์โดยใช้เวลาสองเดือนจริงๆ นั่นก็นับว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก แต่ …

 

มันอาจจะสายเกินไปสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้

 

ในโลกจริง นรกกำลังจะมาเยือนอยู่รอมร่อแล้ว

 

ส่วนอีกด้านหนึ่งในโลกเทวะ ตัวเขาก็กำลังมุ่งหน้าสู่โลกที่ทรงพลังยิ่งกว่าอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

 

ด้วยเหตุนี้ เขาจะไปรอถึงสองเดือนได้ยังไง!

 

พอถึงเวลาที่ภารกิจทั้งหมดเสร็จสิ้น คาดว่ากว่าถั่วจะสุกงาก็คงจะไหม้ไปหมดแล้ว

 

ฉันจะต้องเร่งเพิ่มความแกร่งของตัวเองในทันที มันต้องตอนนี้เลยเท่านั้น!

 

กู่ฉิงซานครุ่นคิดอยู่สักครู่จึงเอ่ยถาม “คุณไม่สามารถผ่อนปรนกฏเกณฑ์ได้เลยหรอ อย่างเช่นให้ฉันทะลวงผ่านเข้าสู่นักดาบนิรันดร์ด้วยพลังของตัวเอง จากนั้นคุณก็ค่อยคืนเทคนิคดาบนิรันดร์ให้แก่ฉัน แบบนี้เป็นไง?”

 

เสียงของระบบฟังดูรุนแรงเป็นพิเศษ “มีเพียงครั้งนี้เท่านั้น ที่คุณจะไม่สามารถทะลวงผ่านมันไปด้วยตัวเองได้”

 

“ทำไมล่ะ?”

 

“เพราะว่าคุณคือนักดาบนิรันดร์ที่ได้ตัดสะบั้นฆ่าสังหารเทพมารบนเส้นแบ่งมิติและเวลาในอนาคต และเทพมารที่ว่านั่นก็มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับชะตากรรมของโลกในช่วงเวลาวิกฤติเช่นกัน”

 

ระบบยังคงกล่าวต่อ “นี่เป็นการระบุตัวตนของมิติและเวลาสำหรับคุณ และถ้าคุณทำการระบุตัวตนที่ว่านี้หายไป(หมายถึงทะลวงเองไม่ให้ระบบช่วย) มันจะเกิดเรื่องน่ากลัวขึ้น”

 

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?”

 

“เส้นแบ่งมิติเวลาเป็นมาตรวัดสภาวะภายนอกของโลกจริง ถ้าตัวคุณในอนาคตกลับมาสู่อดีตอีกครั้ง โลกก็จะสูญเสียคุณภาพและมวลพลังงานของคุณในจุดนั้น .. ในอนาคตไป”

 

“แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะเมื่อคุณปรากฏตัวขึ้นในอดีต โลกก็จะระบุตัวตนคุณตามสถานะปัจจุบันของคุณ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณยังเป็นตัวของตัวเองอยู่”

 

“โลกจะทำการระบุตัวตนและสถานะในอดีตให้แก่คุณ เพื่อให้แน่ใจว่า จะยังคงสามารถรักษาพลังงานมวลรวมในโลกจริงให้คงอยู่ไว้ได้”

 

“อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณเสียสถานะการระบุตัวตนนี้ไป กฏเกณฑ์ของโลกก็จะไม่อาจระบุตัวตนของคุณได้ และมันจะตัดสินว่าคุณเป็นปรากฏการณ์พิเศษ มิได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกตามมิติและเวลาในปัจจุบัน”

 

“หากเป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่กฏเกณฑ์ของโลกจะปรับใช้มาตรการณเพื่อทำการตอบโต้คุณ แต่กระทั่งกฏเกณฑ์ของมิติและเวลาที่เกี่ยวข้องกับอดีตและอนาคตก็จะตอบสนองเช่นกัน – และบางทีนั่นอาจเป็นการทำให้เทพมารค้นพบว่าคุณเป็นคนที่ไร้ซึ่งโชคชะตา หรือบางทีมันอาจจะสร้างอีกตัวตนนึงของคุณขึ้นมาทดแทนก็ได้”

 

“ตัวฉันอีกคนหนึ่งอย่างงั้นหรอ?” กู่ฉิงซานอุทานด้วยความสงสัย

 

“ใช่ นั่นคือการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกันกับคุณ – เพราะร่องรอยที่สำคัญที่สุดที่คุณได้ทิ้งเอาไว้ในมิติและเวลามันได้หายไปแล้ว และคุณไม่ได้ตายลง ซึ่งนั่นทำให้โลกสูญเสียพลังงานและคุณภาพไป ดังนั้นกฏเกณธ์ของโลกจึงจำเป็นต้องสร้างสิ่งที่คล้ายคลึงกันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพและพลังงานมวลรวมของโลกจะไม่เกิดความสับสนหรือผิดแผกไป”

 

นอกจากนี้ความวุ่นวายหรือผิดแผกของกฏเกณฑ์แห่งมิติและเวลา ยังจะเป็นตัวดึงดูดความสนใจของเทพมารอันทรงพลังชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานมาอีกด้วย เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด

 

“พวกเขาจะตามหาคุณ และมั่นใจได้เลยว่าจะต้องพบอย่างแน่นอน”

 

กู่ฉิงซานกล่าว “ถ้าเป็นไปตามที่คุณพูดมา เจ้าสิ่งที่ทำการระบุตัวตนว่าฉันยังคงเป็นตัวฉัน ก็คือการสังหารเทพมารในคราวนั้น รวมไปถึงความแข็งแกร่งและความทรงจำในช่วงเวลานั้นด้วย ใช่ไหม?

 

“นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น”

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจ “มันดูเหมือนว่า การก้มหน้าก้มตาทำภารกิจปลุกนักดาบนิรันดร์ต่อไปแบบนี้นี่แหละดีที่สุดแล้ว”

 

“ถูกต้อง คุณมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่ากฏเกณฑ์ของโลกและเส้นแบ่งมิติเวลายังคงปกติดี”

 

“หนึ่ง ค่อยๆดึงความทรงจำเกี่ยวกับเทคนิคดาบนิรันดร์ไปตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และกลายมาเป็นนักดาบนิรันดร์

 

“สอง แปลงความทรงจำที่กล่าวมานี้เป็นพลังงาน และใช้มันทะลวงเข้าสู่นักดาบนิรันดร์ได้ในตอนนี้เลย เพียงแต่คุณจะสูญเสียเทคนิคดาบเหล่านั้นไป”

 

กู่ฉิงซานจมลงสู่ความเงียบ

 

มันสายเกินไปที่จะต้องมานั่งทำภารกิจที่ละขั้นตอน

 

หากคุณเลือกตัวเลือกที่สอง มันก็ใช่ที่คุณจะยกระดับไปอีกขั้นหรือหลายๆขั้นได้เลยทันที แต่ต้องแลกเปลี่ยนกับเทคนิคดาบในชีวิตก่อนหน้า อันที่จริงแล้วแผนนี้ก็ยังพอมีความเป็นไปได้

 

—ด้วยเพราะความรู้ความเข้าใจของตนเองเกี่ยวกับสกิลดาบในปัจจุบัน มันได้ก้าวเลยเหนือล้ำยิ่งกว่าในชีวิตก่อนหน้าไปแล้ว

 

เทคนิคดาบเหล่านั้นมันไม่สำคัญอีกต่อไป

 

ตราบใดที่เขาได้กลายเป็นนักดาบนิรันดร์ รังสีดาบจะเพิ่มขึ้นมหาศาลอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

เขาไม่จำเป็นต้องใช้มือของตัวเองในการควบคุมดาบอีกต่อไป เพียงแค่นึกคิดในจิตใจ พวกมันก็เคลื่อนไหวตามปรารถนาแล้ว

 

ด้วยวิธีนี้ ความเร็วในการโจมตีและสไตล์การต่อสู้ก็จะแปรผันและลื่นไหลเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

 

กล่าวได้ว่าหากเขาได้พบเจอกับโครงกระดูกชุดคลุมดำอีกครั้ง มันยังมิทันตอบสนอง ก็ถูกตัดหั่นกระดูกลงเป็นชิ้นๆให้หมาคาบไปแทะเรียบร้อยแล้ว

 

กู่ฉิงซานเอ่ยถามอีกครั้งในทันทีว่า “แล้วถ้าฉันละทิ้งเรื่องสกิลดาบเอาไว้ชั่วคราว แล้วหันมาสนใจกับการยกระดับขอบเขตก่อนล่ะ?”

 

“แบบนั้นไม่ใช่เรื่องดี” ระบบกล่าวอย่างเฉียบขาด

 

“ทำไม?”

 

“นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องให้ความระมัดระวังมากที่สุด คุณจะต้องบรรลุขอบเขตสกิลดาบให้ไปถึงในระดับเดียวกันกับชีวิตก่อนหน้าเสียก่อน เพื่อทำการระบุตัวตนและให้มั่นใจว่า คุณได้กลับมาเป็นตัวเองแล้วจริงๆ ไม่ใช่สิ่งอื่น”

 

“ด้วยวิธีนี้ คุณก็จะถูกรวมอยู่ในเส้นแบ่งของมิติและเวลานี้ โชคชะตาจะไม่สนใจคุณอีกต่อไป แน่นอนว่ารวมไปถึงเหล่าเทพมารด้วย”

 

“แล้วต่อมาถ้าฉันยกระดับเป็นประทับเทพล่ะ? มันจะยังคงมีข้อจำกัดที่คล้ายกันอยู่รึเปล่า?”

 

“เพราะในชีวิตที่ผ่านมา คุณไม่ได้ก้าวขึ้นสู่ประทับเทพ ดังนั้น ในครั้งนี้ หลังจากที่คุณสามารถทะลวงขึ้นสู่ประทับเทพ คุณจะสามารถเขียนอะไรทับลงไปก็ได้ในหน้าอนาคตที่ยังคงว่างเปล่าอยู่ด้วยตัวคุณเอง”

 

“ฉันเข้าใจแล้ว”

 

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป “เทคนิคดาบอะไรนั่นฉันไม่ต้องการ ฉันต้องการที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตนักดาบนิรันดร์ในตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย”

 

“คุณแน่ใจหรือไม่?”

 

“ฉันแน่ใจ”

 

ด้วยคำพูดนี้ของเขา บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม บังเกิดข้อมูลจำนวนมากเริ่มไหลผ่านไปมาอย่างบ้าคลั่ง

 

“ตรวจพบว่าผู้เล่นมีดาบยาวอันยอดเยี่ยมหาที่ใดเปรียบอยู่สองเล่ม”

 

“ตรวจพบว่าผู้เล่นสามารถเก็บพวกมันไว้ได้ในทะเลแห่งห้วงสติ”

 

“ตรวจพบว่าผู้เล่นสามารถควบคุมการโจมตีของดาบบินได้ด้วยมือ”

 

“เงื่อนไขพื้นฐานขั้นต่ำสุดสำหรับการปลุกนักดาบนิรันดร์มีความสอดคล้อง”

 

“เริ่มต้นทำการเปรียบเทียบร่องรอยของมิติและเวลา”

 

“ยืนยันสถานะส่วนบุคคล”

 

“เริ่มถ่ายโอนความทรงจำของตัวตนจากเส้นแบ่งเวลาในชีวิตก่อนหน้า”

 

“การเคลื่อนย้ายประสบความสำเร็จ”

 

“ปิดช่องทางการตรวจสอบย้อนหลังของห้วงเวลาลงโดยสมบูรณ์”

 

“ตัดการเชื่อมต่อเส้นแบ่งเวลาทั้งหมดโดยสิ้นเชิง”

 

“ทำลายข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง : เสร็จสิ้น”

 

……

 

กู่ฉิงซานเฝ้ามองดูฉากนี้อย่างเงียบๆ

 

เห็นได้ชัดว่าแม้จะเป็นเพียงคำพูดไม่กี่คำ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจมากเป็นพิเศษ

 

เหงื่อเย็นเริ่มเข้าปกคลุมแผ่นหลังแต่ละชั้น แต่ละชั้น

 

นี่เป็นปฏิกริยาของสัมผัสที่หกที่ทำการตอบสนองอย่างไม่ตั้งใจ

 

ทันทีที่เขาหลับตาลง กู่ฉิงซานรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในลวดเล็กๆที่ถูกขึงอยู่กึ่งกลางระหว่างสองหน้าผาสูงชัน

 

ตอนนี้มันเป็นการเดินก้าวสุดท้ายบนเส้นลวดแล้ว

 

เขาตระหนักชัดในจิตใจ ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด

 

ตราบใดที่ช่วงเวลานี้ไม่เกิดปัญหาใดๆ มันก็จะไม่มีความผิดปกติใดๆกับการกำเนิดใหม่ของตนเอง

 

ราวกับรอมาเนิ่นนานนับศตวรรษ

 

ติ๊ง!

 

“คุณได้เกิดใหม่โดยสมบูรณ์แล้ว”

 

“การไหลของเวลายังคงปกติ”

 

“ความผันผวนของมิติยังคงปกติ”

 

“ไม่พบความผิดปกติใดๆ นี่คือช่วงชีวิตใหม่ที่สมบูรณ์แบบ”

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจบรรเทาความตึงเครียด

 

กล่าวได้ว่าบัดนี้ เท้าของเขาได้ย่ำลงบนผาอีกฟากนึงแล้วโดยสมบูรณ์

 

สามบรรทัดตัวอักษรเด้งขึ้นมาบนหน้าต่างระบบเทพสงครามทันที

 

“คุณได้จ่ายความทรงจำทั้งหมดของนักดาบนิรันดร์เพื่อให้ได้รับมาซึ่งพลังแห่งการถูกปลุกให้ตื่น”

 

“คุณได้ถูกปลุกให้ตื่นแล้ว”

 

“คุณได้ก้าวขึ้นสู่ขอบเขตนักดาบนิรันดร์”

 

กู่ฉิงซานจ้องค้างไปยังเส้นตัวอักษรบรรทัดสุดท้าย

 

ในที่สุด … ในที่สุดตัวฉันก็กลับมาแล้ว!

 

นี่คือสถานะดั้งเดิมของเขา – นักดาบนิรันดร์!

 

มือที่กำลังอ้าออก ค่อยๆหุบเข้าหากันเป็นกำปั้นอีกครั้ง

 

พลังที่คุ้นเคย และความแข็งแกร่งอันน่าแปลกประหลาดเติมเต็มอยู่ในร่างกาย

 

ไม่จำเป็นต้องไปทำสิ่งอื่นใดอีก ไม่จำเป็นต้องทำการทะลวงขอบเขตอีกครั้ง – นี่คือความแข็งแกร่งดั้งเดิมของเขา

 

เพื่อที่จะต่อสู้กับวิกฤติที่กำลังใกล้เข้ามา คุณจำเป็นต้องใช้พลังที่ว่านี้!

 

นี่คือจุดสูงสุดแห่งการฝึกยุทธ

 

ตั้งแต่บัดนี้ไปในอนาคต จะไม่มีประสบการณ์ล่วงหน้าให้พึ่งพาอีกต่อไป

 

ในเส้นทางแห่งการฝึกฝนอันไร้ที่สิ้นสุด ทั้งหมดล้วนเป็นเส้นทางใหม่ – เส้นทางที่เขายังมิเคยได้ก้าวเดิน!

 

กู่ฉิงซานสูดหายใจลึก

 

เพียงนึกคิดในจิตใจเล็กน้อย สองดาบก็ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าในทันที

 

ไม่จำเป็นต้องใช้มือจีบออกด้วยเทคนิคใด ดาบพิภพก็กวัดแกว่งโดยอัตโนมัติ และเพียงหนึ่งลมหายใจ มันก็ฟาดออกด้วยหนึ่งชุดวิชาดาบเผยขุนเขา

 

ส่วนดาบเช่าหยินก็แปรเปลี่ยนเป็นภาพติดตาอย่างรวดเร็ว ฟาดออกด้วยวิชาดาบตัดสายลมกลับไปกลับมาอย่างฉับไว

 

สองดาบเวียนวนฉวัดเฉวียนไปรอบห้องราวกับนกฟินิกส์ที่พึ่งจุติใหม่

 

“จงมา” กู่ฉิงซานเอ่ยกระซิบเบาๆ

 

และสองดาบก็ลดระดับลงอย่างเชื่อฟัง ปลายดาบหันทิ้งดิ่งลงเบื้องล่าง ลอยล่องมาแขวนนิ่งอยู่ในอากาศข้างกายกู่ฉิงซาน