เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ สุญญตาอวี้ก็ยิ่งไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เขาหมุนตัวหันหลังแล้วทำลายหยกที่มูลค่ามหาศาลไปหลายชิ้น
ถ้าหากมีผู้ชายมาเกี่ยวพันกับเธอ เขาจะทำให้ผู้ชายคนนั้นตายทั้งเป็น!
เหลิ่งรั่วปิง คุณอย่าทรยศหักหลังผมเป็นอันขาด! ไม่อย่างนั้น…
บางทีอาจจะเป็นเพราะสัมผัสได้ ขณะที่เหลิ่งรั่วปิงกำลังนอนคุยกับหนานกงเยี่ยอยู่บนเตียง จู่ๆ หัวใจของเธอก็เต้นแรง สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นซีดขาว เหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียงร้องเรียกที่เย็นชาจากเจ้าแห่งวิหารซีหลิง
ทันใดนั้นเอง เธอก็นึกถึงสุญญตาอวี้ขึ้นมา ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เขาคือผู้ชายที่น่ากลัวไม่น้อยไปกว่าหนานกงเยี่ย ทั้งโหดเหี้ยมและทั้งเป็นคนจอมบงการ แล้วยังต้องการเป็นเจ้าของ เขามองเธอเป็นสิ่งของส่วนตัวของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยแตะต้องเธอมาก่อน แต่แววตาที่เขาจ้องมองมาที่เธอนั้น ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกแผดเผาอยู่ตลอดเวลา
ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวมาก ภายใต้การจับตามองของเขา ตลอดหกปีที่เธอฝึกฝนด้านการต่อสู้ เธอก็รู้สึกกลัวเขามาโดยตลอด
“เป็นอะไรไป” หนานกงเยี่ยขมวดคิ้ว
“…” เหลิ่งรั่วปิงพยายามควบคุมหัวใจของเธอที่สั่นเทา “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่รู้สึกหิว”
หนานกงเยี่ยไม่ได้พูดอะไร จิ้มไปยังโทรศัพท์ภายในที่วางอยู่บนโต๊ะ “เสิร์ฟอาหารเช้า”
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น หนานกงเยี่ยลุกขึ้นไปเปิดประตู เขารับรถเข็นอาหารมาจากคนรับใช้ แล้วเข็นเข้ามาในห้อง จากนั้นปิดประตูเสียง “ปั้ง” เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะเห็นสุดที่รักของเขาอย่างไรอย่างนั้น
เหลิ่งรั่วปิงคิดไม่ถึงว่า หนานกงเยี่ยจะไปเปิดประตูด้วยตนเอง เธอควรจะเป็นคนทำหน้าที่นี้ไม่ใช่หรอ คุณหนานกงที่สูงศักดิ์ไปเปิดประตูเอาอาหารเช้ามาให้เธอ!
เมื่อเห็นเหลิ่งรั่วปิงเหม่อลอยไป หนานกงเยี่ยจึงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ “ยังนิ่งอยู่ทำไม คุณบอกว่าหิวไม่ใช่หรอ เราให้ผมป้อน?”
“เอ่อ…ไม่เป็นไรค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงรีบลงจากเตียง เธอพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเอาไว้ จึงรีบหยิบผ้าขนหนูมาพันตัว แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
“หึ ซุ่มซ่ามจริงๆ!” หนานกงเยี่ยหัวเราะในลำคอ เขาเหลือบตากลมโตดวงนั้นมองไปที่ประตูห้องน้ำ เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตนเองทำเรื่องที่น่าตกใจลงไป อีกทั้งกลับยังรู้สึกว่าเหลิ่งรั่วปิงมีด้านที่น่ารัก ตอนที่เธอพยายามวิ่งไปนั้นเป็นอะไรที่น่ารักมาก
เหลิ่งรั่วปิงอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองเธอก็พึ่งรู้ตัวว่าไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้ามาในห้องน้ำ เหลิ่งรั่วปิงจึงต้องพันผ้าเช็ดตัวออกไปด้วยความจำใจ เพื่อไปเอาชุดที่ห้องแต่งตัว เธอไม่กล้าเรียกใช้คุณหนานกงที่สูงศักดิ์ไปเอาเสื้อผ้าให้เธอหรอก!
เมื่อเห็นเหลิ่งรั่วปิงเดินออกมาด้วยความหอม หนานกงเยี่ยหรี่ตาลงในทันที “เหลิ่งรั่วปิง คุณอยากจะยั่วผมอีกแล้วหรอ”
“เปล่าค่ะ…ไม่ใช่แบบนั้น พอดีฉันลืมเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยน” เหลิ่งรั่วปิงเขินอายเล็กน้อย
หนานกงเยี่ยมองไปที่เธอ จากนั้นวางตะเกียบลง เขาลุกขึ้นไปที่ห้องแต่งตัวแล้วชุดสำหรับใส่อยู่บ้านมาให้กับเธอ จากนั้นโยนเสื้อผ้าชุดนั้นไปบนตัวเธอด้วยความรังเกียจ พร้อมพูดเสียงเย็นชา “รีบเปลี่ยนแล้วรีบไปกินข้าว!
เหลิ่งรั่วปิงตกใจอีกครั้ง คุณหนานกงเยี่ยที่เย็นชาและสูงศักดิ์ไปช่วยเลือกเสื้อผ้าให้เธอ!
เมื่อวานเขาพึ่งเอาปืนชี้หน้าเธอ และเกือบจะฆ่าเธอทิ้ง แต่วันนี้เขากลับดีกับเธอมาก แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ
เพราะความแปลกใจ ดังนั้นท่ารับเสื้อผ้าของเหลิ่งรั่วปิงเล่นใหญ่ไปหน่อย จึงทำให้ผ้าเช็ดตัวร่วงลงพื้น
“อ๊า! ” เหลิ่งรั่วปิงร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ จากนั้นรีบเอาเสื้อผ้ามาปิดเรือนร่างตัวเองไว้ เธอหมุนตัวหันหลังแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ยังไม่ทันได้วิ่งไปถึงประตู มือหนาก็คว้าจับร่างของเธอเอาไว้ ทำให้เธอหมุนตัวกลางอากาศแล้วถูกโยนลงบนเตียง ร่างสูงโปร่งของหนานกงเยี่ยก็ขึ้นมาคร่อมบนตัวเธอ