จู่ๆ ฉากที่ฮั่วหยุนเฉิงจูบเธอในห้องน้ำก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธออีกแล้ว ซูฉิงพยายามขยับไปด้านข้าง แต่ฮั่วหยุนเฉิงก็ยังตามเธอไปด้านข้าง ทั้งสองคนก็ยังคงอยู่ใกล้กันมากอย่างนั้น
ช่างเถอะๆ ก็แค่คนเมาทั่วๆ ไปเท่านั้น
เธอกัดฟันแน่น และพยุงฮ่อหยุนเฉิงไปที่บันได
ไม่ง่ายเลยกว่าจะเดินมาถึงชั้นสอง ขณะที่ซูฉิงกำลังจะถอนหายใจ เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดเสียงแหลม “พวกเธอกำลังทำอะไรกันน่ะ!”
ซูฉิงเงยหน้าขึ้นไปมอง จึงเห็นว่าเป็นฮ่อเฉียน
ซูฉิงขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบาย จึงประคองฮ่อหยุนเฉิงผ่านหน้าฮ่อเฉียนไป เดินตรงไปที่ห้องของฮ่อหยุนเฉิง
“ซูฉิง หยุดนะ!” ฮ่อเฉียนเดินเข้ามา
เธอตื่นขึ้นมากลางดึก และได้ยินเสียงในห้องนั่งเล่น ฮ่อเฉียนจึงลุกขึ้นมาดู ใครจะไปรู้ว่าทันทีที่เธอเดินออกมา เธอก็เห็นซูฉิง และฮ่อหยุนเฉิงเดินกอดกันขึ้นชั้นบนมา
เมื่อมองดูดีๆ ก็ดูเหมือนว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเมาเสียด้วย
ฮ่อเฉียนรู้สึกกังวล เธอมาที่ตระกูลฮ่อตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เธอไม่เคยเห็นฮ่อหยุนเฉิงเมาเลย
แต่ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงเมามากอย่างเห็นได้ชัด
แถมยังถูกซูฉิงประคองมาอีก
ต้องเป็นแผนของซูฉิงแน่ๆ เพื่ออ่อยฮ่อหยุนเฉิง!
เธอดึงซูฉิงไว้ “ดึกดื่นขนาดนี้เธอมอมเหล้าพี่ชายฉันทำไม? เธอฉวยโอกาสนี้อ่อยพี่ฉันใช่ไหม?”
ซูฉิงมองไปที่ฮ่อเฉียนที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างเฉยเมย “ฉันเป็นคู่หมั้นของลูกพี่ลูกเธอ เขาเป็นของฉัน ฉันต้องมอมเหล้าเขาเพื่ออ่อยเขาเหรอ?”
“แก!” ฮ่อเฉียนพูดไม่ออก ได้แต่ยืนกัดริมฝีปากอยู่ด้านหลังซูฉิง “พี่ฉันไม่ต้องการให้เธอประคอง”
“โอเค งั้นเธอมาประคองนะ” ซูฉิงผลักฮ่อหยุนเฉิงไปหาฮ่อเฉียน ก็ดีเหมือนกัน เธอรู้สึกดีมาก
“พี่คะ ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ฮ่อเฉียนรีบพยุงฮ่อหยุนเฉิงไว้ แววตาเขินอายปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ
ซูฉิงตกตะลึง
สายตาแบบนี้ เธอรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร
เธอเคยเห็นมันในดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์ และเซี่ยซิงซิง
ฮ่อเฉียนก็ชอบฮ่อหยุนเฉิง?
แต่ฮ่อเฉียนเป็นลูกพี่ลูกน้องของฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่หรือ?
พวกเขามีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดนะ!
เมื่อเห็นฮ่อเฉียนพยุงฮ่อหยุนเฉิงกลับห้องอย่างระมัดระวัง ซูฉิงก็ส่ายหัว และหันหลังเดินกลับห้องของเธอ
ฮ่อเฉียนพยุงฮ่อหยุนเฉิงไปที่เตียง และช่วยถอดรองเท้าให้เขา “พี่คะ พี่เป็นอะไร ทำไมดื่มเยอะขนาดนี้?”
ฮ่อหยุนเฉิงลืมตาขึ้น และพูดด้วยเสียงอู้อี้ “เธอไม่ใช่ถังถัง”
“อะไรนะ? พี่พูดว่าอะไรคะ?” ฮ่อเฉียนได้ยินไม่ชัด จึงถามขึ้น
แต่ฮ่อหยุนเฉิงกลับหลับตาลง และผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
ฮ่อเฉียนนั่งอยู่บนหัวเตียงจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาของชายตรงหน้าเธออย่างว่างเปล่า
ฮ่อหยุนเฉิงที่กำลังหลับสนิทอยู่ในขณะนั้น มีใบหน้าที่อ่อนโยนกว่าปกติ ความเข้มงวดที่มีน้อยลดน้อยลง มีความไร้เดียงสามากขึ้น แต่ก็ยังหล่อเหลา ทำให้หัวใจของคนอื่นเต้นแรงอยู่
แต่หัวใจของฮ่อเฉียนกลับเจ็บปวดเล็กน้อย
“ทำไมพี่ไม่เคยมองมาที่ฉันเลย? ฉันไม่อยากให้พี่เห็นฉันเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้อง” ดวงตาของฮ่อเฉัยนเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เธอชอบฮ่อหยุนเฉิง ตอนเธอมีรักครั้งแรกเมื่ออายุสิบสี่ เธอก็ตกหลุมรักเขาแล้ว
แต่ฮ่อหยุนเฉิงเห็นเธอเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องของเขาเท่านั้น ไม่เคยสนใจเธอเลย
เธอไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของฮ่อหยุนเฉิงจริงๆ เสียหน่อย! เธอเป็นเพียงลูกบุญธรรมเท่านั้น
สายตาที่เต็มไปด้วยความหวั่นไหว ความหลงใหล และความชื่นชม ฮ่อเฉัยนค่อยๆ เอนตัวลงไปจูบชายที่เธอแอบรักมานานหลายปี
…….
เมื่อซูฉิงกลับมาที่ห้องของเธอ เธอก็เห็นว่ามีกระดุมเพชรมาอยู่ในมือของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เธอจำได้ว่าเป็นกระดุมที่แขนเสื้อสูทของฮ่อหยุนเฉิง
ต้องเป็นตอนที่ยื้อกันไปมาเมื่อกี้แน่ๆ เธอคงไม่ระวังไปดึงมันหลุดติดมือมาด้วย
ซูฉิงคิดได้อย่างนั้นก็หันหลังกลับและเดินไปที่ห้องของฮ่อหยุนเฉิง ตั้งใจจะเอามันไปคืนมันให้เขา
เธอไม่อยากถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยอีก
ประตูของฮ๋อหยุนเฉิงถูกเปิดทิ้งไว้ ซูฉิงจึงค่อยๆ ผลักเข้าไปเบาๆ
“ฮ่อหยุนเฉิง…” ก่อนที่ซูฉิงจะพูดจบ เธอก็ตกตะลึงกับฉากที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ฮ่อเฉียนกำลังจูบฮ่อหยุนเฉิงงั้นเหรอ? ? ?
เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฮ่อเฉียนก็หันกลับมาเห็นซูฉิงยืนอยู่ที่ประตู เธอก็ตกตะลึงทันที
ซูฉิงขมวดคิ้ว “ฮ่อเฉียน เธอกำลังทำอะไรน่ะ?”
ฮ่อเฉียนหลบตาโดยไม่รู้ตัว และพยายามสงบสติอารมณ์ “พี่เขาเมาแล้ว ฉันจะเช็ดปากให้เขา”
“ก็เลยใช้ปากเช็ดเหรอ?” ซูฉิงยกยิ้มเยาะเย้ย และมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิง
เขายังหลับตาสนิท หายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ และดูเหมือนกำลังหลับสนิท
ดูจากสภาพที่เขาเมาเมื่อกี้ เขาคงไม่รู้ว่าฮ่อเฉียนกำลังทำอะไรอยู่
ถ้าอย่างนั้นสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลับอะไรกันงั้นเหรอ?
ซูฉิงพยายามสลัดความคิดนี้ออกไป
เมื่อกี้ฮ่อหยุนเฉิงยังคงตะโกน “ถังถัง” อยู่เลย ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับฮ่อเฉียน
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคนอย่างฮ่อหยุนเฉิง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเรื่องความรักต้องห้ามระหว่างพี่น้องอย่างนี้
นั่นคือความปรารถนาของฮ่อเฉียนฝ่ายเดียว
“ฉันขอเตือนเธอไว้เลยนะว่าอย่าพูดเรื่องไร้สาระ!” ฮ่อเฉียนอดไม่ได้ที่จะโมโหเล็กน้อยเมื่อความลับของเธอถูกเปิดเผย
ต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิง เธอเป็นน้องสาวที่น่ารักมาโดยตลอด ถ้าเขารู้ว่าเธอแอบจูบเขา…
ฮ่อเฉียนไม่กล้าคิดถึงเรื่องนี้
ซูฉิงเหลือบมองเธอนิ่งๆ “ฉันไม่ได้สนใจอยากจะดูการแสดงของพี่ชายน้องสาวของเธอหรอก แต่ฮ่อเฉียนฉันเตือนเธอไว้เลยนะว่าตราบใดที่ฉันยังอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลฮ่อ และยังไม่ได้ถอนหมั้นกับฮ่อหยุนเฉิง เธอควรจะกำจัดความคิดสกปรกของเธอออกไปเสียดีกว่า มิฉะนั้น…”
เธอหยุดพูด และดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นแววตาที่เฉียบแหลม “มิเช่นนั้น ความรักต้องห้ามของพี่น้องตระกูลฮ่อ จะกลายเป็นคำค้นหาสุดฮอตในอินเตอร์เน็ต และเธอก็น่าจะรู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร”
“ซูฉิงแกกล้าดียังไง!” สีหน้าของฮ่อเฉียนเปลี่ยนไปทันที เธอยกมือขึ้นแล้วตบหน้าซูฉิงอย่างแรง
ซูฉิงเอื้อมมือออกไปคว้าแขนของฮ่อเฉียนไว้ และผลักออกไปอย่างแรง ฮ่อเฉึยนจึงล้มลงกับพื้น
“ซูฉิงแกกล้าทำฉันเหรอ?” ฮ่อเฉียนเจ็บปวดจากการล้ม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ซูฉิงยิ้มเยาะเย้ย และเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อกลับมาที่ห้อง ซูฉิงก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเธอก็ส่งข้อความหาแอนโธนี่ “ช่วยฉันสืบหน่อยว่าฮ่อเฉียนและฮ่อหยุนเฉิงมีความสัมพันธ์กันอย่างไร”
แฮ็กเกอร์ที่โด่งดังที่สุดในโลกมี 2 คน คือ แอนโธนี่ และเอด้า ความสามารถที่ยอดเยี่ยมของ แอนโธนี่ ทำให้โลกตกตะลึงมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
เอด้าเป็นบุคคลที่ลึกลับยิ่งกว่า ว่ากันว่าเป็นอาจารย์ของแอนโธนี่
แต่ซูฉิงก็คือเอด้าผู้หยั่งรู้ในตำนานคนนั้นนั่นเอง
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่อาจารย์ของแอนโทนี่ มีครั้งหนึ่งที่แอนโธนี่พยายามจะโจมตีสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ของเธอ ซูฉิงก็เป็นคนเจอและยับยั้งไว้ได้ทันเวลา
ทั้งสองไม่รู้จักกัน แต่ก็ผูกพันกันจนกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
“พี่เอด้า กลางดึกกลางดื่นไม่ให้ผมนอนบ้างเหรอ…” ไม่นานแอนโธนี่ก็ตอบกลับซูฉิง
“ให้นายหาก็หาไปเถอะ พูดมากทำไม?” มิตรภาพระหว่างซูฉิงกับแอนโธนี่ คือการทะเลาะกันทุกวัน
แอนโธนี่คร่ำครวญ “ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้พี่ร์เอด้าก็หาได้ภายในห้านาที ต้องให้ผมทำด้วยเหรอ?”
ซูฉิงส่งอิโมจิมองบนให้เขา “พี่ขี้เกียจ นายรีบทำเร็วเข้า!”
สิบนาทีต่อมา แอนโธนี่ก็ส่งข้อมูลของฮ่อเฉียนมาให้ซูเฉียน
ฮ่อเฉียนเป็นลูกบุญธรรมของน้าของฮ่อหยุนเฉิงที่รับมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับฮ่อหยุนเฉิงเลย
ซูฉิงหรี่ตาของลงเล็กน้อย ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
ดูเหมือนว่าฮ่อเฉียนจะมีความคิดแบบนั้นกับฮ่อหยุนเฉิงจริงๆ ไม่น่าล่ะเธอถึงกลั่นแกล้ง “คู่หมั้นของฮ่อหยุนเฉิงที่มาจากชนบท”
ความเน่าเฟะของตระกูลฮ่อนั้นช่างน่าสะอิดสะเอียนเสียจริง ซูฉิงกำลังสงสัยอย่างยิ่งว่าเธอตัดสินใจผิดที่สัญญากับคุณปู่ว่าจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามเดือนหรือไม่
ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าสามเดือนนี้จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อเธอกับฮ่อหยุนเฉิงถอนหมั้น ทุกอย่างก็จะจบลง
เธอสามารถกลับไปเป็นตัวของตัวเองได้อีกครั้ง ไปทำในสิ่งที่เธอต้องการทำ
วันหยุดสุดสัปดาห์อันเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว วันต่อมาซูฉิงไปที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ปแต่เช้าตรู่
ซูฉิงกำลังนั่งอยู่ในสำนักงาน กำลังดูข้อมูลของโครงการที่ทำร่วมกับเลดี้แฟชั่นอยู่
จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้น เซี่ยซิงซิงวางกองเอกสารกองใหญ่ไว้บนโต๊ะซูฉิง ซึ่งทำให้โต๊ะของซูฉิงสั่น