ซูฉิงเงยหน้าขึ้น “เธอกำลังทำอะไร?”
เซี่ยซิงซิงจ้องที่ซูฉิงอย่างถือตัว และพูดด้วยน้ำเสียงสั่งการ “บันทึกข้อมูลพวกนี้ลงไปคอมพิวเตอร์ ทำให้เสร็จก่อนเที่ยงนะ”
ซูฉิงเหลือบมองไปที่กองเอกสารขนาดใหญ่เกือบเท่าภูเขา
เสร็จก่อนเที่ยง ล้อกันเล่นเหรอไง?
ซูฉิงพูดเบาๆ “โทษนะ ตอนนี้ฉันรับผิดชอบโครงการที่ทำร่วมกับเลดี้แฟชั่นอยู่ ข้อมูลพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้เลย เธอหาคนอื่นทำแทนเถอะ”
ใบหน้าของเซี่ยซิงซิงเคร่งขรึม และพูดอย่างไม่อดทน “ให้เธอทำเธอก็ทำสิ ไม่เห็นเหรอว่าคนอื่นยุ่งอยู่?”
ซูฉิง: ? ? ?
แล้วดูเหมือนเธอว่างนักเหรอ?
หลังจากหายใจเข้า ซูฉิงก็หยักยิ้มที่มุมปาก “ประธานฮ่อก็บอกแล้วว่าให้ฉันรับผิดชอบแค่โครงการของเลดี้แฟชั่นเท่านั้น ฉันไม่จำเป็นต้องทำอย่างอื่น”
สีหน้าของเซี่ยซิงซิงเปลี่ยนไปทันที และเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์สำนักงานบนโต๊ะทำงานของซูฉิงก็ดังขึ้น
ซูฉิงมองลงไปก็เห็นหมายเลข”888″ อยู่ที่หน้าจอ
นั่นคือเบอร์ของประธาน
ซูฉิงรับต่อหน้าเซี่ยซิงซิง “สวัสดีค่ะ ซูฉิงของแผนกเลขานุการค่ะ”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงที่ต่ำและชัดเจนของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังขึ้น “เอากาแฟมาให้ฉันหน่อย”
ซูฉิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ฮ่อหยุนเฉิงให้เธอเอากาแฟไปให้เขา? หมายความว่าอะไร?
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ ฮ่อหยุนเฉิงก็วางสายไป และมีตู๊ดๆๆ ดังขึ้น
โอเค…เอาไปส่งก็ได้
ซูฉิงวางโทรศัพท์ จากนั้นก็ยืนขึ้นและพูดกับเซี่ยซิงอย่างจริงจังว่า “ผู้จัดการเซี่ยคะ คุณก็ได้ยินแล้วนะคะ ประธานฮ่อให้ฉันนำกาแฟไปเสิร์ฟให้เขา คุณให้คนอื่นทำเอกสารเหล่านี้เถอะค่ะ!”
ขณะที่เธอพูด เธอก็ผลักข้อมูลไปไว้ตรงหน้าเซี่ยซิงซิง “รบกวนหลบด้วยค่ะ!”
“เธอ…” เซี่ยซิงซิงโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
เมื่อเห็นซูฉิงเดินไปที่ประตูด้วยท่าทางที่สง่างาม เซี่ยซิงซิงก็กัดฟันแน่น และไฟแห่งความเกลียดชังในหัวใจของเธอกำลังลุกไหม้
ซูฉิง ฉันจะรอดูว่าแกจะเย่อหยิ่งอย่างนี้ได้นานแค่ไหน! !
ซูฉิงไปที่ร้านกาแฟเพื่อซื้อลาเต้ และตรงไปที่ห้องทำงานของประธาน
เธอยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานประธาน เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงก็ทำให้หัวใจของซูฉิงเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก
เมื่อเอื้อมมือไปเคาะประตู เสียงเย็นชาของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังขึ้น “เข้ามา”
ซูฉิงผลักประตูเข้าไป และเดินไปหาฮ่อหยุนเฉิง นำกาแฟวางลงบนโต๊ะ “กาแฟของนาย”
ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย และดวงตาอันนุ่มลึกของเขาจ้องไปที่ซูฉิง
ที่เขาเมาเมื่อคืน ตอนที่เขากำลังมึนๆ เขาเห็นถังถัง
เขารู้สึกว่าเหมือนถังถังมาก เขาคิดว่าถังถังของเขากลับมาแล้ว
แต่เมื่อเขาตื่นมาตอนเช้าวันนี้ กลับเป็นฮ่อเฉียนที่นั่งเฝ้าเขาอยู่ที่หัวเตียง
ฮ่อเฉียนบอกว่าเมื่อคืนเธอเป็นคนมาส่งเขากลับห้อง แต่ฮ่อเฉียนไม่ใช่ถังถัง
หรือว่าเมื่อคืนเขาฝัน?
แต่ทำไมความฝันถึงเหมือนจริงขนาดนั้นล่ะ?
“เอากาแฟมาส่งแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะ” ด้วยสายตาที่จ้องมองมาอย่างลึกซึ้งของฮ่อหยุนเฉิง ทำให้ซูฉิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับ จู่ ๆ ซูฉิงก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบกระดุมเพชรออกมาแล้วยื่นให้ฮ่อหยุนเฉิง “อ้อ นี่เป็นของนายน่ะ เอาไปสิ”
เมื่อฮ่อหยุนเฉิงก้มลงดู เขาก็บังเอิญได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์บนมือของซูฉิง
เหมือนกับเมื่อคืนนี้เป๊ะ ๆ
ด้วยฝ่ามือที่ใหญ่และแข็งแรงของเขา เขาจับมือของซูฉิงไว้แน่น และระมัดระวังเป็นพิเศษ ราวกับว่าเขากำลังถือสมบัติหายากไว้ยังไงอย่างนั้น
นัยตาของเขาสั่นไหว เสียงของเขาแหบต่ำ “ถังถัง…. เธอคือถังถัง”
ถังถัง?
อีกแล้วเหรอ……
ถังถังอะไร? !
ซูฉิงดิ้นอย่างโมโห “ฮ่อหยุนเฉิง พอได้แล้ว รีบปล่อยฉันนะ ถังถังอะไรกัน ฉันไม่เข้าใจ!”
ทัศนคติของซูฉิงเป็นเหมือนกับน้ำเย็นที่ราดลงบนหัวของฮ่อหยุนเฉิง ดับความร้อนรุ่มของเขาออกไป
นี่ไม่ใช่ถังถังของเขา
ถังถังจะไม่ต่อต้านเขาแบบนี้
ฮ่อหยุนเฉิงปล่อยซูฉิง กลับมานั่งตัวตรง และเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าของเขาก็กลับสู่ความเฉยเมยตามปกติ
เขาหยิบกระดุมขึ้นมาแล้วยกริมฝีปากบางขึ้นเล็กน้อย “กระดุมของฉัน ทำไมมันถึงไปอยู่กับเธอล่ะ?”
ซูฉิงลูบมือที่ถูกเขาจับไว้จนเจ็บ และพูดอย่างโกรธเคืองว่า “เมื่อคืนนายเมามาก นอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น ฉันก็เลยดึงนายขึ้นมา ไม่ทันระวังก็เลยดึงกระดุมนายหลุดออกมาด้วย”
ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เมื่อคืนนี้เธอส่งฉันกลับห้องเหรอ?”
“ใช่ แต่ฮ่อเฉียนบอกว่าเธอจะไปส่งนายเอง ความสัมพันธ์แบบพี่ชายและน้องสาวของนายไม่เลวเลยนะ” ซูฉิงตั้งใจพูดอย่างนั้น
บางคำเธอตั้งใจพูดให้มีประเด็น โดยหวังว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเข้าใจ
หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงมีแต่ถังถัง และเขาก็คิดกับฮ่อเฉียนแค่น้องสาวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ดังนั้นเขาจึงฟังเสียงที่ซูฉิงต้องการจะสื่อไม่ออก
ฉากเมื่อคืนปรากฏขึ้นในหัวเขาอีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะเมา แต่ความรู้สึกของเขานั้นเหมือนจริงมาก
เขาเจอถังถังจริงๆ เขาจับมือเธอ และคุยกับเธอ ขอให้เขาไม่นอนลงไปกับพื้น แล้วก็ดึงเขาขึ้นมา ซึ่งมันสมจริงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แต่ซูฉิงบอกว่าเมื่อคืนเธอเป็นคนประคองเขาขึ้นมาจากพื้น ดังนั้นคนที่เขาเห็นเมื่อคืนก็น่าจะเป็นซูฉิง
ซูฉิงไม่ใช่ถังถัง…
แต่ทำไมเธอถึงทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถังถังเลยล่ะ?
หัวใจของเขาพลุ่งพล่าน ฮ่อหยุนเฉิงลุกขึ้นยืนขึ้นทันที ขายาวของเขาก้าวเข้าไปใกล้ซูฉิง
เขามองลงมาที่เธอ และถามว่า “ซูฉิงเมื่อก่อนเธอไม่เคยถูกลักพาตัวจริงๆ เหรอ?”
ในตอนนี้ ความอ่อนโยนในดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงเป็นสิ่งที่ซูฉิงไม่เคยเห็นมาก่อน เสียงที่ต่ำและมีเสน่ห์ของเขาราวกับมีเวทมนตร์ที่น่าหลงใหล เหมือนกับกระแสน้ำวนปั่นป่วนที่สามารถดูดผู้คนเข้ามาใกล้
ซูฉิงตกใจเล็กน้อย ถ้าเธอจำไม่ผิด ดูเหมือนจะเป็นครั้งที่สองแล้วที่ฮ่อหยุนเฉิงถามคำถามนี้กับเธอ
ทำไมเขาถึงหมกมุ่นเรื่องเธอถูกลักพาตัวไปไหมขนาดนี้นะ?
เธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่ลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิง และซูฉิงก็พูดอย่างจริงจัง “ฮ่อหยุนเฉิง ฉันไม่รู้ว่าทำไมนายถึงชอบถามคำถามนี้นัก ฉันจะตอบนายเป็นครั้งสุดท้าย ฉันไม่เคยถูกลักพาตัว ไม่เคยเลย!”
ฮ่อหยุนเฉิงจ้องไปที่ดวงตาของซูฉิง เธอตอบอย่างจริงจังและนิ่งมาก สีหน้าของเธอไม่ได้มีอะไรปิดบังอยู่
ซูฉิงไม่เคยถูกลักพาตัว ซึ่งก็หมายความว่าซูฉิงไม่สามารถเป็นถังถังได้จริงๆ
แววตาที่ส่องประกายตาของฮ่อหยุนเฉิงค่อย ๆ นิ่งและดับลง
เมื่อเห็นท่าทางผิดหวังของฮ่อหยุนเฉิง ไฟแห่งความอยากรู้อยากเห็นของซูฉิงก็ถูกจุดประกายขึ้น
สุดท้ายเธอก็อดถามไม่ได้ “ใครคือถังถัง? ผู้หญิงที่นายชอบ?”
“เป็นผู้หญิงที่สำคัญกับฉันมาก” ฮ่อหยุนเฉิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถึงไม่ยอมรับว่าเขาชอบถังถังต่อหน้าซูฉิง
“อ๋อ” เมื่อเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่ยอมพูดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ซูฉิงจึงไม่ถามต่อ
“ทำไม เธอหึงเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยเสียงเข้ม ก่อนสิ้นเสียงก็พูดดังขึ้นอย่างจงใจ มีความคลุมเครือเล็กน้อย
หึง?
บ้านนายสิ!
ซูฉิงอดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองในใจว่าผู้ชายคนนี้หลงตัวเองมากเกินไป!
คิดว่าผู้หญิงทั้งโลกหมุนรอบตัวเขาจริง ๆ งั้นสิ?
โอเค ก็อาจจะมีผู้หญิงมากมายอยู่รอบตัวเขา แต่ซูฉิงเป็นข้อยกเว้น
ซูฉิงเม้มริมฝีปาก ขมวดคิ้วและพูดว่า “ฮ่อหยุนเฉิง นายเลิกบ้าได้แล้ว! ฉันไม่ได้สนใจเรื่องของนายสักนิด นายชอบผู้หญิงคนไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน โปรดจำความสัมพันธ์ของเราไว้ด้วย!
เรามีสัญญากันแค่สามเดือนเท่านั้น อ้อไม่สิ ตอนนี้ไม่ถึงสามเดือนแล้ว เหลือเวลาอีกแค่สองเดือนกับอีกสามสัปดาห์เท่านั้น และเมื่อเราถอนหมั้นกัน เราก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน เข้าใจไหม ”
คนแปลกหน้า?
ตอนที่เขาได้ยินคำนี้ ฮ่อหยุนเฉิงก็อารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก