ตอนที่ 49 ประเมินเธอสูงเกินไป

ลืมรักเลือนใจ

หลังจากที่หลินเยียนและวังจิ่งหยางกลับไปพร้อมพนักงานขนของ หวังเฉี่ยวฮุ่ยก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วโอดครวญเสียงดังลั่น 

 

 

“นังสารเลว…นังคนชั่ว ใจไม้ไส้ระกำ…” 

 

 

ก่อนหน้านี้ เฮ่อซานซานทนดูพนักงานขนของแบกโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแสนรักของเธอออกไป ทั้งยังแกะวอลล์เปเปอร์แสนสวยออกจากผนังห้องของเธออีกด้วย เมื่อไม่มีสิ่งกำบังแล้ว ผนังที่ทั้งเป็นรอยและมีรูก็ปรากฏให้เห็น หญิงสาวรู้สึกได้ว่าเลือดภายในร่างกายกำลังเดือดพล่าน เธอกำลังจะคลั่ง “หนูจะไม่ปล่อยให้มันลอยนวลได้แน่ๆ!” 

 

 

“ใช่! เราจะทนดูเฉยๆ ไม่ได้! โทรหาซูหย่าเดี๋ยวนี้เลย นังนั่นมันกล้าดียังไงถึงหาเรื่องเราแบบนี้!” 

 

 

ได้ยินดังนั้น เฮ่อซานซานจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาหลินซูหย่า 

 

 

“ฮัลโหล พี่ซูหย่า…” 

 

 

เฮ่อซานซานรัวคำพูดเป็นชุดเมื่อหลินซูหย่ารับสาย “พี่ซูหย่า พี่ต้องช่วยฉันนะ ฉันเกือบตายเพราะหลินเยียน! มันเอาแก๊งอันธพาลมาที่บ้านเราวันนี้แล้วก็ขนของในบ้านเราไปจนเกลี้ยงเลย แม่ฉันเกือบเป็นลมเป็นแล้งก็เพราะมัน!” 

 

 

“หลินเยียนเอาของในบ้านเธอไปเหรอ” 

 

 

“ใช่! พี่ซูหย่า พี่รู้ไหมว่าวันนี้มันหน้าด้านขนาดไหน มันปล้นเรากลางวันแสกๆ อย่างกับโจร!” 

 

 

“แหม จริงเหรอ นี่หลินเยียนตกอับขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” 

 

 

หลินซูหย่าไม่ได้ใส่ใจว่าเฮ่อซานซานกับแม่จะถูกกลั่นแกล้งอย่างไร แต่เธอสนใจการกระทำของหลินเยียนมากกว่า 

 

 

หลินเยียนคอยดูแลสองแม่ลูกอย่างดีมาตลอด เธอจึงไม่เคยคาดคิดว่าหลินเยียนจะกล้ามีเรื่องมีราวเช่นนี้ 

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็เข้าใจได้ว่าหลินเยียนอาจจะกำลังตกอยู่ในสถานะหมาจนตรอกที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อมีชีวิตรอด 

 

 

หวังเฉี่ยวฮุ่ยส่งสายตาเป็นนัยให้เฮ่อซานซาน หญิงสาวจึงพูดต่อว่า “ถึงเราจะโดนมันรังแกพวกเราก็ไม่เป็นไรหรอกพี่ ที่สำคัญกว่าคือหลินเยียนมันไม่สนใจพี่เลยด้วยซ้ำ พี่ซูหย่า พี่ช่วยให้ฉันได้ไปออดิชันบทสมทบ บทนั้นก็ควรจะเป็นของฉันแต่นังนี่มันกลับมาคาบไปเฉยเลย! พี่ซูหย่า พี่จะยอมให้ทนให้มันลูบคมแบบนี้เหรอ” 

 

 

หลินซูหย่าได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตอนออดิชันแล้ว 

 

 

เธอไม่ได้คิดว่าโจวเฟิงจะถูกไล่ออกโดยกะทันหันจนทำให้หลินเยียนได้รับบทสมทบไปในที่สุด 

 

 

“พี่ซูหย่า พี่ว่านังนี่มันมีคนหนุนหลังหรือเปล่า ไม่อย่างนั้น ทำไมโจวเฟิงถึงถูกไล่ออกในเวลาเดียวกันเลย มันบังเอิญเกินไป…” เฮ่อซานซานพยายามยุยงมากขึ้นอีก 

 

 

หลินซูหย่ายิ้มเยาะเล็กน้อยก่อนพูดช้าๆ “คิดมากไปหรือเปล่า พี่ถามคนอื่นมาแล้ว โจวเฟิงถูกไล่ออกเพราะมีคนเจอหลักฐานมัดตัวว่าเขาทำผิดนโยบายบริษัท ไม่เกี่ยวกับหลินเยียนหรอก” 

 

 

เฮ่อซานซานพยักหน้าเร็วๆ “ไม่แปลกใจเลย! นังนี่มันมากับดวง!” 

 

 

ความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวของหลินซูหย่าที่อยู่ปลายสายทำให้เธอรู้สึกกลัดกลุ้ม 

 

 

ช่วงนี้หลินเยียนดูโชคดีเป็นพิเศษ… 

 

 

“พี่ซูหย่า พี่ต้องหาทางนะ จะให้มันได้บทไปไม่ได้! พี่จะยอมให้มันหยามพี่เหรอ” เฮ่อซานซานเอ่ยอย่างกังวล 

 

 

หลินซูหย่ารู้สึกอารมณ์เสียเมื่อได้ยินเช่นนั้น เพราะเธอไม่ยอมให้หลินเยียนมีโอกาสกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งอย่างแน่นอน 

 

 

แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีซัมมิท เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นผู้ผลิต โจวเฟิงเองก็ถูกไล่ออกไปแล้ว เธอจึงไม่มีเส้นสายใดๆ ที่จะช่วยแย้งการตัดสินใจของทีมกองถ่ายได้เลย 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทที่ควบคุมซัมมิท เอนเตอร์เทนเมนต์อยู่คือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีอำนาจมากอย่าง เจเอ็ม คอร์เปอร์เรชั่น 

 

 

หลินซูหย่าซึ่งไม่ได้ยี่หระอะไรกับเรื่องนี้มากนักเอ่ยถามผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องอย่างไม่ใส่ใจว่า “ทำไมถึงกังวลขนาดนั้น ยัยนั่นได้บทไปแล้วก็จริง แต่เรามาลุ้นกันดีกว่าว่ามันจะกำบทไว้ได้แน่นพอหรือเปล่า!” 

 

 

ยังมีอีกหลายวิธีที่เธอสามารถสรรหามาเล่นงานหลินเยียนได้ สำหรับหลินซูหย่าแล้วก็ถือเป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนบี้มดตัวหนึ่ง 

 

 

เฮ่อซานซานเข้าใจแล้วว่าหลินซูหย่าจะจัดการกับหลินเยียนยังไง เธอจึงแสดงอาการดีอกดีใจออกมา “จริงด้วย พี่ซูหย่า ถึงมันจะได้บทไปแล้ว พี่ก็บีบให้มันสละสิทธิ์ได้!”