เซียวจื่อเซวียนหลับไม่สนิทตลอดคืน
ความเปลี่ยนแปลงของเซี่ยยวี่หลัวตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาเห็นและจดจำอยู่ในใจ
นางเปลี่ยนไป ยิ้มแย้มและเป็นกันเอง ทำอาหารอร่อยให้พวกเขา ทั้งยังแต่งตัวให้น้องสาวจนงดงาม เขาเห็นและจดจำไว้ทั้งหมด
เพียงแต่ นอกจากความรู้สึกขอบคุณ เขากลับรู้สึกผิดเสียมากกว่า
ไม่ใช่ความรู้สึกผิดต่อเซี่ยยวี่หลัว แต่เป็นพี่ใหญ่
พวกเขาอยู่บ้านได้กินดีอยู่ดี แต่พี่ใหญ่อยู่ข้างนอก ต้องใช้ชีวิตอย่างไร? บางทีอาจกินอยู่ยากลำบาก เขาพกเงินติดตัวแค่นั้นจะพอใช้ได้อย่างไร!
ถึงอย่างไรเซียวจื่อเซวียนก็ยังเป็นเด็ก เมื่อคิดได้ว่าตัวเองทำผิดต่อพี่ใหญ่ ก็มุดเข้าไปใต้ผ้านวม ร้องไห้อย่างหนัก
เขาส่งเสียงสะอื้นไห้ท่ามกลางราตรีที่เงียบสงัด แม้จะได้ยินไม่ชัดเจนนัก แต่เซี่ยยวี่หลัวก็ได้ยิน
เซียวจื่อเมิ่งที่อยู่ข้างๆ หลับสนิทแล้ว เหมือนจะฝันถึงเรื่องสนุก จึงเผยรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
ภายในใจเซี่ยยวี่หลัวทั้งรู้สึกดีใจและหดหู่ เสียงสะอื้นไห้ในห้องข้างๆ ดังอยู่นาน ก่อนจะค่อยๆ เบาลงจนเงียบหายไป
นางถอนหายใจยาว
อย่างไรเสียก็ยังเป็นเด็ก ไม่อาจทนอดหลับอดนอนได้ตลอดคืน แต่นาง ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับอีก
เช้าวันรุ่งขึ้น เซี่ยยวี่หลัวตื่นแต่เช้าเข้าห้องครัว น้ำในโอ่งถูกเติมจนเต็มนานแล้ว
ระหว่างที่นางกำลังเหม่อมอง เซียวจื่อเซวียนก็หิ้วผักจี้ช่ายที่ล้างสะอาดแล้วกลับมาหนึ่งตะกร้า
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้กล่าวอะไร เพียงเริ่มเตรียมอาหารเช้าดัง “ก๊องแก๊งๆ” ตลอดการทำอาหาร นางไม่ได้พูดกับเซียวจื่อเซวียนแม้แต่คำเดียว เซียวจื่อเซวียนก็ปิดปากเงียบ นั่งอยู่หลังเตาไฟคอยใส่ฟืน มองดูแสงไฟทั้งอบอุ่นและเจิดจ้า
หลังกินอาหารเช้า เซี่ยยวี่หลัวให้เซียวจื่อเมิ่งตามเซียวจื่อเซวียนไปเก็บผักป่า
ระหว่างที่กล่าว เซียวจื่อเซวียนตกใจสะดุ้ง
เขาเหลือบมองเซี่ยยวี่หลัวแวบหนึ่งด้วยความตื่นกลัว ก่อนหลบสายตาอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าให้เซี่ยยวี่หลัวเห็นประกายตื่นตระหนกในแววตาของตน
“ให้จื่อเมิ่งอยู่กับท่านเถอะ นางก็ทำอะไรได้หลายอย่าง!”
ทว่าตอนนี้เซี่ยยวี่หลัวกลับค่อนข้างดื้อรั้น “วันนี้ข้ามีธุระ ให้จื่อเมิ่งตามเจ้าไปเถิด กลับมาเร็วหน่อยก็พอแล้ว!”
เซียวจื่อเซวียนบุ้ยปาก เหมือนอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด จูงมือเซียวจื่อเมิ่งออกไป
เซียวจื่อเมิ่งหันกลับมามองเซี่ยยวี่หลัว แย้มยิ้มให้นางก่อนโบกมือ
นางยังเด็กมาก ดูไม่ออกเลยว่าเซี่ยยวี่หลัวทำตัวห่างเหินกับเซียวจื่อเซวียน
เซี่ยวจื่อเซวียนพาเซียวจื่อเมิ่งไป จู่ๆ เขาก็รู้สึกเศร้าสลด ช่วงหลายวันที่ผ่านมา ตั้งแต่เซี่ยยวี่หลัวเปลี่ยนไป นางก็คอยดูแลน้องสาวมาตลอด แต่วันนี้ นางกลับไม่อยากดูแลแล้ว
ความรู้สึกหวาดวิตกจนทำอะไรไม่ถูกแผ่กระจายไปทั่วร่าง มองดูน้องสาวที่ไม่รู้ความซึ่งกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ ภายในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายถาโถม ถ้าหลังจากกลับไปคราวนี้ จื่อเมิ่งพบว่าพี่สะใภ้ใหญ่ที่นางชอบกลับไปเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ที่นางหวาดกลัวอีกครั้ง นางจะเศร้าใจหรือไม่ จะเสียใจหรือไม่
และทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะเขา หากไม่ใช่เพราะเขาไม่เชื่อใจเซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวก็คงไม่แบ่งแยกกับเขาชัดเจนเช่นนี้
นางคืนเงินค่าซื้อน้ำตาลทรายแดงให้เขาแล้ว เช่นนั้นเขาก็ต้องคืนเงินค่าอาหารตลอดหลายวันที่ผ่านมาให้เซี่ยยวี่หลัวหรือไม่?
เขาคิดไปต่างๆ นานา ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว สุดท้ายไปถึงสถานที่เก็บผักป่าแห่งหนึ่ง รอบข้างมีผู้คนไม่น้อย ค่อนข้างปลอดภัย เขาอ้างว่าลืมหยิบของบางอย่างมา แอบกลับบ้านไป
เวลานี้ในบ้านเหลือเซี่ยยวี่หลัวเพียงคนเดียว
นางให้เซียวจื่อเมิ่งไป เพียงต้องการให้ตัวเองได้สงบใจเท่านั้น
เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ในลานบ้าน จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไร จากนั้นจึงนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองถอดผ้าปูเตียงของเซียวยวี่ออกมา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ซัก
ผ้าปูเตียงทั้งบางและเก่า ไม่รู้ว่าใช้มากี่ปีแล้ว แทบไม่เห็นสีและลวดลายเดิม เพราะไม่ได้ตากแดดมานาน บนผ้าปูเตียงจึงมีกลิ่นอับเล็กน้อย
เซี่ยยวี่หลัวต้มน้ำร้อนก่อนแช่ผ้าปูเตียง ระหว่างที่กำลังนั่งซักอยู่ในลาน นางก็ได้ยินเสียงประตูใหญ่สั่นไหวทีหนึ่ง เหมือนจะมีลมพัด
เหมือนว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมา นางไม่ได้หันกลับไป สัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่ปลอดภัย
จากนั้นจึงมีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังแว่วมา ครู่เดียวก็หายไป
นางหวนนึกถึงช่วงหลายวันที่ผ่านมา นางเคยได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาอยู่สองครั้ง นางขมวดคิ้ว คราวนี้นางไม่หันไปมอง หลังจากชะงักไปชั่วครู่ก็เริ่มซักผ้าปูเตียงต่อ
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ออกไป ด้วยรู้ว่าต่อให้ออกไป คนที่แอบดูนางอยู่ในที่ลับ ก็คงหนีไปนานแล้ว ประตูใหญ่ลงกลอนจากด้านใน นางไม่กลัวว่าคนผู้นั้นจะพุ่งพรวดเข้ามา
ครั้งนี้สัมผัสได้ชัดเจนว่าที่ผ่านมานางไม่ได้คิดไปเอง
หากมีแค่หนึ่งหรือสองครั้ง นางเชื่อว่าอาจคิดไปเอง แต่มีครั้งที่สาม ความรู้สึกไม่เป็นมิตรและเสียงฝีเท้าแผ่วเบานั่น ปรากฏอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน เซี่ยยวี่หลัวก็เข้าใจแล้ว ว่ามีคนกำลังเฝ้าจับตามองนางอยู่จริง
ครอบครัวเดิมของนางฐานะดีมาก เพื่อเลี้ยงดูบ่มเพาะนาง จึงส่งนางไปเรียนสิ่งต่างๆ มาไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่นเทควันโด นางเรียนรู้ได้เร็ว อยู่ระดับสายดำขั้นห้านานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พื้นฐานร่างกายของเซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ถือว่าไม่เลว นางลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย ร่างกายยืดหยุ่นมีพลัง หากหมั่นฝึกฝนสักช่วงหนึ่ง จะสามารถฝึกถึงขั้นเดิมได้
เซี่ยยวี่หลัวตวัดมุมปากเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ ข้าจะจับตัวเจ้าออกมาให้จงได้!
นางนำผ้าปูเตียงที่แช่น้ำเสร็จแล้วใส่ไว้ในถังไม้ หิ้วถังไม้ออกจากประตู
หลังจากลงกลอนประตูใหญ่ นางจึงเดินไปทางริมแม่น้ำโดยใช้เส้นทางปกติ แต่ระหว่างที่นางเดินกลับทำตัวลับๆ ล่อๆ เหลียวซ้ายแลขวา เมื่อเห็นด้านข้างมีเส้นทางเล็กสายหนึ่ง จึงเดินเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางสายนั้น
เมื่อคนที่ตามอยู่ด้านหลังตลอดซึ่งเดิมทีคิดจะจากไปแล้วเห็นนางเดินเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางที่นางไม่เคยไป จึงเดินตามเข้าไปด้วยความสงสัย
เพียงแต่ เพิ่งเลี้ยวเข้าไป ยังไม่ทันได้แอบ ก็ถูกนางจับได้พอดี
ขายาวข้างหนึ่งฟาดมาอย่างคล่องแคล่ว ขวางคนผู้นั้นไว้ในตรอก เซียวจื่อเซวียนคิดหนีก็ไม่ทันแล้ว
เส้นทางหนีถูกขายาวข้างนั้นขวางไว้
“เจ้าเฝ้าจับตาดูข้ามาตลอด?” น้ำเสียงของเซี่ยยวี่หลัวฟังดูเกรี้ยวกราด คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเซียวจื่อเซวียนจะเฝ้าจับตาดูนาง “วันก่อนที่จื่อเมิ่งหกล้ม ข้าได้ยินเสียงจากข้างนอก ก็เป็นเจ้าเหมือนกันใช่หรือไม่?”
น้ำเสียงของนางสั่นเครือเพราะความโมโห
เมื่อนางอยู่บ้านคนเดียว เซียวจื่อเซวียนก็มาเฝ้าจับตาดู มิน่าเล่าเขาถึงให้เซียวจื่อเมิ่งอยู่ข้างกายนางตลอด ให้อยู่เป็นเพื่อนเป็นเพียงข้ออ้าง แท้จริงแล้วให้มาจับตาดูนางต่างหาก
เซียวจื่อเซวียนก้มหน้า ไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว
ไม่ตอบ เช่นนั้นก็คือยอมรับ
ความจริง เซียวจื่อเซวียนกำลังหวาดกลัว
เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะเสียงเย็น “เจ้าคิดว่าเจ้าไม่พูด ข้าจะเดาเหตุผลที่เจ้าจับตาดูข้าไม่ได้งั้นหรือ? เจ้ากลัวว่าข้าจะทำเรื่องผิดต่อพี่ใหญ่เจ้าสินะ?”
เซียวจื่อเซวียนกำหมัดแน่น ยังคงไม่กล่าวอะไร
เซี่ยยวี่หลัวเข้าใจแล้ว ยิ้มพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “เซียวยวี่ให้เจ้ามาจับตาดูข้า?”
จู่ๆ นางก็ขึ้นเสียงสูง แฝงเร้นด้วยความโกรธและขุ่นเคืองไม่ปิดบัง
หากเซียวยวี่เป็นคนบงการจริง เช่นนั้นนางขอถอนคำพูดครั้งก่อนที่ว่าตอนนี้เซียวยวี่ยังเป็นคนที่มีจิตใจดี
ตัวเขาไปแล้ว กลับบงการให้น้องชายมาเฝ้าจับตาดูภรรยาของตัวเอง มีเจตนาไม่ดีชัดๆ
ต่อให้เซี่ยยวี่หลัวเป็นคนมากรักจริง เช่นนั้นในเมื่อเขียนหนังสือหย่าแล้ว พวกเขาต่างก็สามารถไปสมรสใหม่ได้ ไม่เกี่ยวข้องกันอีก!