แม้แต่เรื่องที่ตัวเองให้เงินเซียวจื่อเซวียนไปซื้อข้าวสาร ท่านปู่เซียวผู้นั้นยังนึกว่าตัวเองหลอกเซียวจื่อเซวียนให้ใช้เงินของเด็กๆ เซียวจื่อเซวียนก็ไม่ได้ด้วยช่วยแก้ต่างแทนนาง
แม้จะรู้ว่าคนที่เด็กๆ ไม่ชอบคือเซี่ยยวี่หลัวคนเดิม แต่ภายในใจเซี่ยยวี่หลัวก็ไม่สบายใจนัก
ถึงจะไม่สบายใจ สุดท้ายเซี่ยยวี่หลัวก็ไม่มีความกล้าจะไปซักถามเซียวจื่อเซวียน
ถามแล้วอย่างไร ไม่ถามแล้วอย่างไร เมื่อหวนคิดถึงสีหน้าสงสารจับใจของท่านปู่เซียวขณะกล่าวถึงเซียวยวี่ จู่ๆ เซี่ยยวี่หลัวก็อยากตบหน้าตัวเองให้ตายเสีย
กรรมที่เซี่ยยวี่หลัวก่อ เซี่ยยวี่หลัวต้องชดใช้
เพียงแต่ ในเมื่อนางต้องชดใช้ เช่นนั้นก็แสดงให้เห็นไปเลย
คนอื่นจะได้ไม่หาว่าตนเองจงใจหลอกใช้เงินของเด็กสองคน
ตอนเย็น เซี่ยยวี่หลัวยังคงหุงข้าว ตอกไข่สามฟอง ทำไข่ตุ๋น และตอนผัดผักจี้ช่าย เซี่ยยวี่หลัวจงใจใส่น้ำมันลงไปไม่น้อย
เซี่ยยวี่หลัวคีบผักให้เซียวจื่อเมิ่งจำนวนมาก หลังจากตักข้าวจนเต็มชาม จึงจงใจกล่าวกับนาง “ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ใหญ่ของพวกเจ้าสอบเป็นอย่างไรบ้าง การสอบต้องใช้ความคิด ไม่รู้ว่าเขากินดีหรือไม่! อย่าได้ประหยัดเงินเชียว ต้องกินต้องใช้ ดูแลตัวเองให้ดีและตั้งใจสอบถึงจะสำคัญที่สุด!”
นางจงใจกล่าวเช่นนี้ ทั้งยังเหลือบมองเซียวจื่อเซวียนเป็นระยะ และแล้วนางก็ได้พบว่า สีหน้าของเซียวจื่อเซวียนเปลี่ยนไปมาก ดวงหน้าเล็กเปลี่ยนจากสีหน้าปกติเป็นขาวซีดในทันใด ราวกับปะแป้งขาวไว้หนึ่งชั้น
เย็นวันนั้น เซียวจื่อเซวียนกินข้าวเพียงครึ่งชามเล็ก ก็บอกว่าตัวเองกินอิ่มแล้ว เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว ก็กินข้าวจนอิ่มเหมือนเคย
หลังจากมื้ออาหารเย็น เซียวจื่อเซวียนยังคงนำชามกับตะเกียบไปล้างเหมือนเดิม
เซี่ยยวี่หลัวดูแลเซียวจื่อเมิ่งเสร็จ จึงแอบไปห้องครัว เห็นเซียวจื่อเซวียนก้มหน้าล้างชามเงียบๆ ยกมือขึ้นเช็ดตาเป็นครั้งคราว
“จื่อเซวียน…” เซี่ยยวี่หลัวมีเรื่องจะถามเขา
เซียวจื่อเซวียนหันหลังให้เซี่ยยวี่หลัว เมื่อได้ยินเสียงของนาง จึงรีบยกมือขึ้นเช็ดตา ก่อนหันกลับมามองเซี่ยยวี่หลัว
ขอบตาของเขาแดงเล็กน้อย เมื่อครู่น่าจะกำลังร้องไห้
“ก่อนพี่ใหญ่ของเจ้าจะไปสอบ เคยมอบเงินไว้ให้พวกเจ้าใช่หรือไม่?” เซี่ยยวี่หลัวถามอย่างเถรตรง
ร่างกายเซียวจื่อเซวียนพลันแข็งทื่อ
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าเขาไม่มีทางพูดความจริง จึงกล่าว “วันนี้ตอนไปซื้อน้ำมัน ได้ยินท่านปู่เซียวผู้นั้นบอกมา เหมือนเขากำลังตำหนิข้าว่าใช้จ่ายไม่เป็น ใช้เงินของพวกเจ้าจนหมด!”
เซียวจื่อเซวียนกัดริมฝีปาก ไม่ได้กล่าวอะไร
เซี่ยยวี่หลัวพิงอยู่บนเตาปรุงอาหาร มือคู่กอดอก ไม่ได้มองเซียวจื่อเซวียน แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันที่มืดสลัวส่องแสงจนเกิดเงาจางๆ เซี่ยยวี่หลัวมองเงามืดใต้เท้าตัวเองพร้อมกล่าว “ข้าเพียงอยากให้ทุกคนได้กินดีบ้าง ไม่มีเจตนาอื่น!”
เงินที่ใช้ซื้อข้าวสาร เนื้อหมู ไข่ไก่ น้ำมัน ซีอิ๊ว และสุราขม เซี่ยยวี่หลัวเป็นคนออกทั้งหมด
เซียวจื่อเซวียนก็ออกเงินเหมือนกัน ครั้งก่อนซื้อน้ำตาลทรายแดงจำนวนหนึ่งให้นาง
เซี่ยยวี่หลัวคิดจะสะสางให้ชัดเจน
นางนำเงินออกมาจำนวนหนึ่ง วางไว้บนเตาปรุงอาหาร “นี่เป็นเงินที่เจ้าช่วยซื้อน้ำตาลทรายแดงให้ข้าครั้งก่อน เจ้าเก็บไว้เถิด!”
นางเป็นคนเถรตรงและชัดเจน
นางยินยอมออกเงินเพื่อสองพี่น้องจากใจจริง นั่นเป็นเรื่องที่นางยินยอม แต่ถูกคนอื่นเข้าใจผิด ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เซี่ยยวี่หลัวคนเดิมทำเรื่องชั่วร้ายไว้ไม่น้อย นางรู้ดี แต่อดีตคืออดีต ปัจจุบันคือปัจจุบัน นางกำลังค่อยๆ ดีขึ้น แต่ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องที่คนอื่นใส่ร้ายได้
ภายในห้องครัวเหลือเซียวจื่อเซวียนเพียงคนเดียว
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้กล่าวถึงเงินที่พี่ใหญ่มอบให้เขา ทั้งยังวางเงินที่เขาใช้ซื้อน้ำตาลทรายแดงไว้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่อยากติดค้างเขา
แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันท่ามกลางความมืด สาดส่องบนเตาปรุงอาหารสีดำ มีเหรียญอิแปะวางไว้หลายสิบเหรียญ
เหรียญอิแปะแต่ละเหรียญ ทุกเหมือนกำลังมองดูเซียวจื่อเซวียน ราวกับกำลังแสยะยิ้มหัวเราะเยาะเขา