“ผอ.เรียกฉันมามีธุระอะไรเหรอคะ?”
น้ำเสียงเส้นหมี่เย็นยะเยือกถึงขีดสุด หลังจากกวาดสายตามองปราดหนึ่งแล้วก็หยุดอยู่ที่อื่นด้วยความเย็นชาและเฉยเมย คล้ายกับไม่เคยรู้จักคนนี้มาก่อน
แสนรักหรี่ตาขึ้นอีกครั้ง
เขาจ้องมองแพทย์หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์และสวมเสื้อกาวน์ กลิ่นอายพิฆาตยิ่งร้ายกาจมากขึ้น!
“เอ่อ!สวยใส ท่านนี้คือประธานแสนรัก คือคนไข้ที่เรียกคุณมาพบเมื่อวาน ตอนนี้เขามาถึงแล้ว คุณรีบช่วยเขาตรวจอาการเถอะ”
“ผอ.ค่ะ ฉันพูดแล้วว่าเมื่อวานฉันดูวินิจฉัยอาการผิด เทคนิคทางการแพทย์ของฉันรักษาไม่หายหรอกค่ะ ท่านผอ.จัดหมอแผนปัจจุบันมารักษาเขาเถอะค่ะ ฉันไปทำงานก่อนนะคะ”
เส้นหมี่พูดเสียงราบเรียบเสร็จก็หมุนกายเตรียมจากไป
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล “……”
ผู้ช่วยเค:“……”
ในช่วงเวลาที่พวกเขาสองคนยังตอบสนองไม่ทัน เงาร่างหนึ่งก็พุ่งทะยานผ่านตัว จากนั้นก็คว้าข้อมือเส้นหมี่แบบมองไม่ทัน สุดท้ายก็โยนใส่ประตูอย่างจัง
โอ้พระเจ้าช่วย!!
แผ่นหลังเส้นหมี่เจ็บจนหน้ามืด
ส่วนผู้อำนวยการกับเคต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง
“เส้นหมี่!!คิดจะเล่นกับผมใช่ไหม?ได้ งั้นผมก็จะเล่นเป็นเพื่อน”
ผู้ชายที่ถูกยั่วโมโหถึงขีดสุด เผยใบหน้าดุดัน ดวงตาแดงก่ำของเขาจ้องเขม็งมายังเธอ คล้ายกับสัตว์ร้ายบ้าคลั่งก็ไม่ปาน ชั่วอึดใจก็กระชากหน้ากากอนามัยของเส้นหมี่ออกสำเร็จ จากนั้นก็ใช้มือบีบคอเธอ
เผยใบหน้าของเส้นหมี่สู่สายตาทันที
ทว่าเป็นใบหน้าที่ต่างจากห้าปีก่อนอย่างลิบลับ ห้าปีก่อน เธอทั้งอ่อนต่อโลก ใสซื่อไร้เดียงสา ซึ่งตอนนี้ถึงแม้ลักษณะหน้าตาไม่แปรเปลี่ยน ทว่าไม่ให้ความรู้สึกแบบเก่าแล้ว ตอนนี้มีเพียงความเย็นชาเท่านั้น
อย่างเช่นวินาทีนี้ ถึงแม้แสนรักอย่างเขาจะบีบคอเธอ ทว่าดวงตาคู่งามวิจิตรของเธอกลับไม่แสดงความหวาดหวั่นและกระวนกระวาย
มีเพียงความดูถูกและเย็นชาใส่เขา
แสนรักรู้สึกอึ้ง
“คุณเอาเลย แน่จริงก็บีบคอฉันให้ตายไปเลย เพราะฉันเคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ไม่กลัวตายครั้งที่สองหรอก แสนรัก คุณฟังฉันให้ดีนะ ถ้าวันนี้คุณฆ่าฉันไม่ตาย ต้องมีสักวันที่คุณต้องฆ่าในเงื้อมมือฉัน”
“!!!”
ชั่วพริบตาเดียว เส้นโลหิตดำบนมือเขาปูดโปน
“ท่านประธานทำอะไรครับ?ท่านบ้าไปแล้วหรือเปล่า?คนตรงหน้าคือคุณนายนะครับ ท่านรีบปล่อยคุณนายสิครับ”
โชคดีที่เวลานี้ผู้ช่วยเคดึงสติกลับมาได้ทัน เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปคว้าข้อมือบอสของตัวเอง จากนั้นก็ดึงออกสุดแรง
เส้นหมี่ได้รับการช่วยเหลือ จึงเกิดเสียง“ตง”จากนั้นก็ลื่นหล่นลงมาจากบานประตู คล้ายกับปลาได้น้ำ เธอจับหน้าอกตัวเองแล้วหายใจเข้าลึก ๆ
แบบนี้ไงที่เรียกว่าสัตว์เดรัจฉาน
เมื่อกลับมาสงบเงียบหลายนาที บรรยากาศภายในห้องทำงานจึงผ่อนปรนลงอย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากที่ผ่านศึกอันดุเดือดมาหมาด ๆ
“ได้ เส้นหมี่ ผมจะให้โอกาสคุณ คุณพูดความจริงแต่โดยดีว่าห้าปีก่อนมันเกิดอะไรขึ้น?ทำไมคุณยังมีชีวิตอยู่?แล้วลูกอีกสองคนล่ะ?คุณพาไปอยู่ที่ไหน?หรือว่าอยู่กับคุณ?เส้นหมี่วันนี้คุณต้องบอกผมให้หมด ไม่งั้นก็อย่าหวังจะได้ก้าวออกนอกประตูเลย”
ห้องทำงานที่เงียบกริบลง กลิ่นอายสังหารบนกายแสนรักยังคงเดือดพล่าน
เขาก้มหน้ามองผู้หญิงตรงหน้า สมองมีเพียงภาพวันวาน ซึ่งหลังจากนั้น ทันทีที่เขานึกถึงเรื่องนี้ เขาก็มักจะโทษตัวเองและรู้สึกเสียใจ
หลังเกิดเหตุเขาพยายามสุดความสามารถในการเลี้ยงดูฟูมฟักลูกที่รอดชีวิต บวกกับไม่ได้ปลูกต้นรักและคุยเรื่องแต่งงานกับผู้หญิงอื่น
แต่รู้เช่นนี้แล้วเขาก็รู้สึกว่าตัวเองโง่เง่ามาก อยากฆ่าผู้หญิงคนนี้ให้ตายเหลือเกิน
แสนรักอย่างเขาไม่เคยเจอใครบังอาจมาต่อกรมาก่อน
ทว่าเมื่อเส้นหมี่ได้ยินกลับหัวเราะเย้ยหยันอยู่ตรงนั้น
“ทำไมฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ?ทำไมเหรอ?การที่ฉันมีชีวิตอยู่ ประธานแสนรักเสียใจมากเลยหรือ?งั้นก็ต้องขอโทษด้วย เส้นหมี่อย่างฉันไม่ได้ติดค้างอะไรกับคนที่ชื่อแสนรัก เรื่องแต่งงานก็ดี หรือเรื่องลูกสามคนก็ช่าง คุณไม่ประสีประสา แล้วฉันผิดอะไร?ต่างก็ถูกคลุมถุงชนกันทั้งนั้น คุณตั้งมั่นอยู่กับความรักอิสระ ทำไมเหรอ?ฉันเสี่ยงชีวิตคลอดลูก จากนั้นก็มอบลูกให้คุณหนึ่งคนแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิ์มีชีวิตต่อหรือ?”
“คุณ——”
สิ่งที่เธอกล่าวนั้นแรงมาก ผู้ชายที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายสังหารจุกจนพูดไม่ออกทันที
เส้นหมี่เห็นแล้ว ความเย้ยหยันมุมปากยิ่งเข้มข้นมากขึ้น “อีกอย่าง ตอนนั้นฉันแกล้งตายก็เป็นการสนับสนุนความรักอันยิ่งใหญ่ของคุณไม่ใช่เหรอ?คุณพูดติดปากว่าคนที่คุณรักคือแป้งร่ำและจะแต่งงานกับเธอ ฉันให้คุณกลายเป็นพ่อม่าย จากนั้นคุณก็สามารถแต่งงานกับเธอคนนั้นได้ มันไม่ดีตรงไหน?”
“……”
แสนรักจ้องผู้หญิงตรงหน้าหลายวินาที รู้สึกว่าไม่รู้จักอีกฝ่ายเสียเลย
ผู้หญิงคนนี้กลายเป็นคนปากคอเราะรายตั้งแต่?แถมพูดทุกประโยคอย่างใจจืดใจดำ มันคล้ายกับมีดทิ่มแทงหัวใจ เธอในตอนนี้ไม่ใช่คนใสซื่อในวันวานแล้ว?
ถ้าเขาจำไม่ผิด เมื่อก่อนตอนเธอเจอหน้าเขา แม้แต่หน้าก็ไม่กล้าเงย
แสนรักหน้าเขี้ยวช้ำไปหมด