คิวคิวที่กำลังดูกระเป๋าเดินทางและน้องสาวอยู่ รีบจูงน้องสาวแล้ววิ่งมาหา“หม่ามี๊เป็นอะไรครับ?เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“อะ……อะไรนะ?”
เส้นหมี่ที่กำลังโกรธจนควันขึ้นหู เมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยก็ค่อย ๆ ดึงสติกลับมาอย่างเชื่องช้า ก้มหน้ามองลูกชายและลูกสาวของตัวเอง
ใช่สิ เธอลืมไปได้ยังไง?เธอยังมีลูกอีกสองคน
เธอโดนจับก็ไม่เป็นไร แต่จะปล่อยให้ไอ้สวะเห็นหน้าลูกทั้งสองคนไม่ได้ ไม่งั้นเธอก็จะไม่เหลืออะไรอีกเลย
เส้นหมี่มีสติกลับคืนมาทั้งหมด ทันใดนั้นก็ย่อเข่าตรงหน้าลูกชายพร้อมกับจับแขนของเขา
“คิวคิว ฟังนะ หม่ามี๊ขอโทษ ตอนนี้หม่ามี๊มีธุระกะทันหัน อาจจะ……อาจจะพาพวกลูกไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้แล้ว หม่ามี๊โทรบอกน้าพิมแสงมารับพวกลูกกลับไปดีหรือไม่?”
คิวคิว:“……”
ถึงแม้จะรู้สึกแปลกใจกับการตัดสินใจกะทันหันของหม่ามี๊ แต่เมื่อเด็กชายตัวน้อย ๆ เห็นสีหน้ากระวนกระวายใจ และแววตารู้สึกผิดของผู้เป็นแม่ เขาก็รับปากอย่างเชื่อฟัง
“ได้ครับหม่ามี๊ หม่ามี๊วางใจได้เลย ผมจะพาน้องสาวกลับไปกับน้าพิมแสงครับ”
“อืม อืม คิวคิวเป็นเด็กดีมาก ฝากทุกอย่างไว้ที่ลูกแล้วนะ ตอนนี้หม่ามี๊จะส่งพวกลูกไปที่ร้านกาแฟ แล้วจะให้น้าพิมแสงมารับนะ”
เส้นหมี่มองลูกชายที่รู้จักแยกแยะกาลเทศะของตน ความขมฝาดในใจก็ผุดขึ้นมา ยากจะทานทน เธอเอื้อมมือกอดลูกชาย
หนูรินจังที่อยู่ด้านข้างกล่าวว่า “หม่ามี๊ หม่ามี๊ ทำไมถึงกอดพี่ชายคนเดียวล่ะ?ยังมีรินจังลูกรักอีกคนนะ”
“ออ ใช่ ยังมีรินจังลูกรักของแม่อีกคน มา มาให้หม่ามี๊กอดหน่อย”
เส้นหมี่ยิ้มด้วยน้ำตา รีบเอื้อมมือรับลูกสาวที่ถือตุ๊กตามากอด จากนั้นก็พาไปยังร้านกาแฟ
สิบนาทีต่อมา เส้นหมี่ได้รับสายจากทางโรงพยาบาลอีกครั้ง
“คุณหมอสวยใส จะมาทำงานหรือยังคะ?ผอ.รอหมออยู่ค่ะ”
“กำลังจะไปแล้วค่ะ”
เส้นหมี่เดินออกจากสนามบินแล้ว หลังจากที่ตอบแบบไร้อารมณ์ในสายเสร็จ เธอก็เปิดประตูรถแล้วรีบสตาร์ทรถทันที
อันที่จริง เส้นหมี่ไม่ได้กลัวเจอหน้าแสนรักหรอก
เพราะเธอไม่ได้ติดค้างอะไรเขาและไม่ได้ทำผิดต่อเขา
แต่สาเหตุที่หลบหน้าเขา เพราะเธอไม่อยากเห็นหน้าเขาคนนี้ บวกกับเธอกังวลว่าเขารู้เรื่องลูกทั้งสองคนแล้วจะมาแย่งไป
ทว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเธอก็คือ เธอหลบมาไกลเพียงนี้ ผู้ชายระยำก็ยังมาหาถึงที่
เมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เจอหน้ากันหน่อยเถอะ
ระหว่างทางอารมณ์ของ เส้นหมี่เงียบสงบมาก และสีหน้าของเธอก็กลับมาเย็นชาและตีตัวออกห่างเฉกเช่นปกติแล้ว ไม่มีคลื่นอารมณ์ใด ๆ หลงเหลืออยู่
แสนรักรออยู่ในห้องทำงานของผู้อำนวยการได้สักพักแล้ว ในมือถือบัตรทำงานของหมอท่านหนึ่ง
สวยใส?
ชื่อนี้เพราะดีนี่ เมื่อเทียบกับชื่อ“เส้นหมี่”แล้ว ไพเราะกว่ากันเยอะ
ดูเหมือนห้าปีมานี้ ผู้หญิงที่แกล้งตายใต้จมูกของเขา ตอนนี้ไม่เพียงแต่ใจกล้า แถมยังยกระดับวิสัยทัศน์ดีขึ้นอีก
เจ้าจ้องรูปถ่ายบนบัตรทำงาน นัยน์ตาพลันแดงก่ำประหนึ่งสัตว์ร้ายที่จะขย้ำ
“เค……ผู้ช่วยเค ประธานแสนรักเขาไม่ทำอะไรใช่ไหมครับ?คุณหมอสวยใสกำลังเดินทางมาแล้วครับ”
ผู้อำนวยการเฟอร์เรโรที่อยู่ในห้องทำงานด้วย มองเห็นใบหน้าน่าสะพรึงกลัวของผู้มั่งคั่ง บรรยากาศรอบกายยิ่งชวนให้หวาดหวั่นจนหายใจไม่สะดวก
เขาถามด้วยเสียงสั่นระริก
ผู้ช่วยเค:“……”
เขาไม่รู้หรอกว่าเจ้านายเหนือหัวจะทำอะไรบ้าง?
เขารู้เพียงว่า ตอนที่เจ้านายเหนือหัวได้ยินผู้หญิงคนนี้กับลูกตายในห้องคลอด บอสใหญ่ของเขาก็เลือกสุสานที่ดีที่สุดด้วยตัวเอง โดยใช้สถานะสามีและพ่อเพื่อทำพิธีฝังศพพวก
และบอสของเขาก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องแต่งงานกับคุณแป้งร่ำอีกเลย
ดังนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกไม่ถูก ไม่แน่อาจจะ……หั่นคุณนายน้อยเก่าคนนี้ทิ้ง?
เคสะดุ้งสั่นเมื่อนึกถึงจุดนี้
ในบรรยากาศน่ากลัวจนไม่กล้าหายใจเสียงดัง พวกเขารอประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดด้านนอกประตูห้องทำงานก็ส่งเสียงรองเท้าส้นสูงขึ้นมา
“ผอ.ค่ะ ฉันเองค่ะสวยใส”
“!!!!”
ชั่วพริบตานั้นคล้ายกับว่าห้องทำงานนี้มีชีวิตขึ้นมาผู้อำนวยการเฟอร์เรโรไปเปิดประตูห้องอย่างกระตือรือร้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เค:“……”
แสนรักนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกสีดำ ในมือถือบัตรทำงาน เมื่อเขาขยิบตา บัตรทำงานในมือเขาก็หักเป็นสองท่อน
เส้นหมี่มาได้ซะที สายตาเย็นเยียบมองไปยังประตูที่เปิดออกปราดหนึ่ง และแล้วเธอก็เห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงกลาง
คนนี้ยังเหมือนห้าปีก่อน โครงหน้าได้รูปเด่นชัด คิ้วหนาคมเฉียบสื่อให้รู้ว่าผู้ชายมีวุฒิภาวะสูง ดวงตาจมลึกดั่งมหาสมุทร ถึงแม้ตอนนี้จะแดงก่ำ ทว่ายังคงเผยความเย่อหยิ่งและสูงศักดิ์ออกมา ดังนั้นมองปราดเดียวก็จำได้
ผู้ชายคนนี้ ห้าปีก่อนเป็นคนที่โดดเด่นเหนือผู้อื่น
แต่เสียดายที่เส้นหมี่ไม่รู้สึกหวั่นไหวอีกต่อไปแล้ว