บทที่ 55: การประณาม (?) อย่างเป็นทางการจากแฟนคลับ

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END

บทที่ 55: การประณาม (?) อย่างเป็นทางการจากแฟนคลับ

“เชื่อมโยงพลังสายเลือดของฉันกับเธอ?” นั่นมันหมายความว่ายังไงนะ? เด็กชายมีสีหน้าตกใจอย่างชัดเจน คงไม่ใช่การเชื่อมโยงแบบ… โรเอลต้องส่ายหัวไล่ความคิดนั้นออกไป

“ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ ไม่ต้องกังวลไป ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ เจ้าแค่ทำตามการชี้นำของข้าไปก็พอ”

“…”

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ประสบการณ์? ทำตามการชี้นำของเธอ? ทำไมมันฟังดู …แค่ก แค่ก

โรเอลมองไปทางเด็กสาวผมสีทองที่จ้องมองกลับมายังเขาด้วยสายตาอันแรงกล้า ใบหน้าของเด็กชายเริ่มแดงขึ้นมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว นอร่ามองปฏิกิริยาของเขาพลางบังคับให้ตัวเองยังสามารถคงสีหน้าปกติไว้ให้ได้ แต่ในที่สุดเธอก็ไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้อีกต่อไปแล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า บางครั้งเจ้าก็น่ารักมากเลยจริง ๆ! ไม่ต้องกังวลไปน่า มันไม่เจ็บหรอก”

ไม่หรอก ถ้าใครจะเจ็บล่ะก็ มันก็ควรจะเป็นเธอไม่ใช่เหรอ…?

นอร่าไม่รู้เลยว่าคำพูดโดยไม่ได้ตั้งใจของเธอ ทำให้ความคิดของโรเอลที่มีความรู้สูงล่องลอยออกไปไกล เด็กสาวคิดง่าย ๆ เพียงแค่ว่าโรเอลนั้นกลัว เธอจึงเอื้อมมือออกไปเพื่อจับฝ่ามือของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะวางมือทั้งสองข้างลงบนดาบสั้น ด้วยความคมกริบของดาบทำให้เลือดไหลซิบออกมาจากนิ้วทั้งสองของพวกเขา ย้อมดาบสั้นจนกลายเป็นสีแดง

โรเอลไม่ได้ส่งเสียงอะไรเมื่อต้องเผชิญกับอาการเจ็บแปลบที่นิ้วของเขาอย่างกะทันหัน แต่ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีแรงดูดบางอย่างเกิดขึ้นกับบาดแผลที่นิ้วของเขา ทำให้เลือดของเขาไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าดาบสั้นเล่มนี้กำลังดูดมันเข้าไป

“นี่คือ?”

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า เชื่อข้าเถอะ”

นอร่าจับมือของโรเอลไว้แน่น ดวงตาสีไพลินอันสงบนิ่งของเด็กสาวจ้องเข้าไปที่ดวงตาสีทองของเด็กชาย เมื่อนอร่าสังเกตเห็นว่าท่าทางของโรเอลนั้นเริ่มสงบลงเล็กน้อย ทำให้เธอหลุดหัวเราะคิกคักออกมา ก่อนจะหลับตาและเริ่มพึมพำบทสวด

ทันใดนั้นเองโรเอลก็สัมผัสได้ถึงพลังอันลึกลับที่เข้ามาห่อหุ้มเขาไว้

พลังลึกลับนี้หลั่งไหลออกมาจากเลือดของพวกเขา จากนั้นเลือดของพวกเขาก็ถูกดาบเอสเซนด์วิงดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว ราวกับพื้นดินอันแห้งแล้งได้ดูดซับความชุ่มชื้นที่ห่างหายมานานเข้าไป ความมืดบนพื้นผิวของดาบสั้นค่อย ๆ จางออกไปเผยให้เห็นแสงอันงดงามที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง ตอนนั้นเองที่เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น

“อ๊ะ!”

โรเอลที่กำลังจ้องมองไปยังดาบสั้นอย่างอยากรู้อยากเห็น ทันใดนั้นเขาก็เห็นภาพอันพร่ามัวบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวของเขา ราวกับทุกสรรพสิ่งกลายเป็นภาพนิ่งเหมือนมีใครบางคนกำลังพลิกดูอัลบั้มรูปเก่า ๆ โรเอลพยายามมองให้ชัดเจนขึ้น แต่เขาก็ไม่สามารถตั้งสติเพ่งสมาธิไปที่สายตาได้เลย ความรู้สึกอันร้อนรนราวกับไฟแผดเผาได้แวบเข้ามาในสมองของเขา ทำให้เด็กชายเซไปเล็กน้อย

“มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ โรเอล?” นอร่าร้องถามด้วยความกังวล

“อา?”

เสียงของนอร่าทำให้โรเอลได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกดึงเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง เด็กชายสบตาเข้ากับดวงตาสีไพลินที่เต็มไปด้วยความสับสนเบื้องหน้าครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตอบกลับไป

“…ฉันสบายดี”

โรเอลรีบตรวจดูสภาพของตัวเองพลางครุ่นคิดถึงความรู้สึกที่เขาเพิ่งได้สัมผัสมา

เมื่อกี้นี้มันคืออะไรกัน? เรารีบเกินไปจนมึนหัวงั้นเหรอ?

ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน การมึนหัวแบบไหนกันถึงทำให้เกิดภาพหลอนได้? หรือว่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้เราออกกำลังกายหนักเกินไป?

สัญชาตญาณแรกของโรเอลคือการหาเหตุผลเข้าข้างตนเองจากมุมมองทางวิทยาศาสตร์ แต่เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่

ทางด้านนอร่าเมื่อเธอได้รับคำตอบจากโรเอลแล้วเด็กสาวก็ทำพิธีต่อไป

นอร่าใช้เวลาราว ๆ ห้านาทีก่อนที่บทสวดจะสิ้นสุดลง จากนั้นเด็ก ๆ ทั้งสองคนก็ปล่อยมือออกจากเอสเซนด์วิง ใบมีดของมันเปลี่ยนไปเป็นรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมมาก แสงเย็นสาดส่องออกมาจากใบมีดสีขาวราวกับหิมะของมัน

“ลองใช้มันดูสิ ตอนนี้มันเป็นของเจ้าแล้ว”

“เมื่อกี้พวกเราทำอะไรกันงั้นเหรอ…” เด็กชายกำลังประมวลผลอย่างงุนงง

“คิดซะว่ามันเป็นพิธีการที่จำเป็นในการปลดผนึกอาวุธ ดาบแห่งนักบุญ 12 ปีก จะสามารถเปิดผนึกได้ก็ต่อเมื่อใช้สายเลือดของทูตสวรรค์และพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ส่วนเหตุผลที่พวกเราต้องผสมเลือดของเราเข้าด้วยกันก็เพื่อที่จะทำให้มันยอมรับเจ้า”

นอร่าอธิบายแล้วจึงส่งกล่องไม้สีดำให้กับโรเอล

โรเอลหยิบดาบสั้นที่มีใบดาบสีขาวราวหิมะยาวครึ่งเมตรออกมาจากภายในกล่อง เด็กชายพบว่าน้ำหนักของมันเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานของเขา โรเอลลองแกว่งมันไปมาอย่างระมัดระวังแล้วจึงถามขึ้นว่า

“สมบัติระดับนี้น่าจะมีพลังพิเศษบางอย่างใช่ไหม? ความสามารถของดาบสั้นเล่มนี้คืออะไร?”

“ขึ้นอยู่กับเจ้า” นอร่าบอกพร้อมกับมองไปที่โรเอลที่ในตอนนี้กำลังชื่นชมอาวุธชิ้นใหม่ของเขา

“หมายความว่ายังไง?” โรเอลถามอีกครั้ง เขาเองก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่นอร่าต้องการจะสื่อ

“พิธีก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพียงแค่ให้เอสเซนด์วิงยอมรับในตัวเจ้าเท่านั้น แต่ยังบ่มเพาะความสามารถอันยอดเยี่ยมจากการสังเวยเลือดของพวกเราให้กับมัน มันคือของขวัญจากทูตสวรรค์ ซึ่งมอบให้แก่เจ้าแต่เพียงผู้เดียว โดยปกติแล้วกระบวนการนี้จะต้องใช้เวลาราว ๆ หนึ่งเดือน”

ของขวัญที่เป็นของเรา แต่เพียงผู้เดียว?

คำพูดเหล่านั้นทำให้โรเอลมองดาบสั้นในมือด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม มันเป็นความรู้สึกอิ่มเอมใจที่ชวนให้นึกถึงการถูกรางวัล

จากนั้นนอร่าก็ได้หยิบดาบสั้นที่เปล่งประกายสีทองอันหรูหราออกมา

“มันทำให้ข้านึกถึงสิ่งนี้ขึ้นมาเลย ขอบคุณสำหรับของขวัญที่เจ้ามอบให้แก่ข้า แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในด้านประโยชน์ใช้สอย แต่ข้าก็พึงพอใจกับการออกแบบของมันมาก”

นอร่าลูบของขวัญวันเกิดที่โรเอลสั่งทำให้เธอเป็นพิเศษอย่างพึงพอใจ ซึ่งโรเอลก็ทำได้เพียงยิ้มตอบไปอย่างอ่อนแรง

หึ มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันใช้เงินไปกว่าร้อยเหรียญทองและอัญมณีอีกสามชนิดในการออกแบบเลยนะรู้ไหม! จะมีใครบนโลกนี้ไม่พึงใจเล่า?

เรียกได้ว่าโรเอลยังคงรู้สึกจุกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของมันอยู่ในใจ ทว่าเมื่อเขามองไปยังสมบัติระดับชาติในมือของตน อารมณ์ขุ่นมัวนั้นก็ถูกกวาดล้างออกไปในพริบตา เขาโบกมืออย่างใจกว้าง

“ดีจริง ๆ ที่เธอชอบ ดูเหมือนว่าเรื่องในวันนี้ทำให้พวกเราได้แลกดาบสั้นกันซะแล้วสิ”

อืม สำหรับวันนี้จบแค่นี้เถอะ!

ระหว่างที่โรเอลกำลังยุ่งอยู่กับการผ่อนคลายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจ เด็กชายก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าจู่ ๆ ร่างกายของนอร่าก็แข็งทื่อไปในทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น

เธอจ้องไปที่โรเอลด้วยใบหน้าอันแดงก่ำอย่างโกรธเกรี้ยว จนเธอต้องหอบหายใจเข้าออกอย่างแรงเพื่อระงับอารมณ์โกรธ เด็กสาวใช้เวลานานมากพอสมควรกว่าที่จะรีดเร้นคำพูดออกมาจากปากของเธอได้

“เจ้ารู้ความหมายสำคัญของการแลกเปลี่ยนดาบสั้นรึเปล่า?”

“ความหมายสำคัญ? เธอพูดถึงอะไร? มันมีความหมายลึกซึ้งอะไรด้วยเหรอ?” เด็กชายงุนงงกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

“…เจ้าโง่ ไปถามใครสักคนเอาก็แล้วกัน” ว่าแล้วเธอก็กอดอกพร้อมกับมองค้อนโรเอล

“หา?” โรเอลที่ตอนนี้งงเป็นไก่ตาแตกยิ่งกว่าเดิมจากปฏิกิริยาของนอร่า พลางคิดว่าเขาทำอะไรพลาดไปรึเปล่านะ

“ข้าเอ้อระเหยลอยชายอยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้ว หลังจากนี้ข้ายังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการอีกมาก เจ้าจงพักผ่อนให้ดีแล้วรีบฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บให้ได้โดยเร็ว”

นอร่ารีบตัดบทลุกขึ้นยืนพลางจ้องเขม็งไปยังโรเอลผู้กำลังงงเป็นไก่ตาแตก โดยที่แก้มของเธอยังคงแดงก่ำ หลังจากนั้นเด็กสาวก็รีบกล่าวอำลาแล้วเดินทางกลับไปในทันที

ท่าทีการกระทำอย่างกะทันหันของนอร่า ทำให้โรเอลต้องสับสนงุนงงยิ่งกว่าเก่า

“ห…หา นี่มันเกิดอะไรขึ้น? บรรยากาศแบบนี้คืออะไรกัน? เราทำอะไรผิดร้ายแรงลงไปงั้นเหรอ?! มันมีความหมายแฝงแบบไหนกันเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีใช่ไหม?”

ด้วยความงุนงงและสับสน โรเอลมองกลับไปยังสมบัติที่ส่องแสงเป็นประกายในมือของเขา ก่อนจะร้องเรียกสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ประตูเพื่อขอความช่วยเหลือ

“แอนนา เข้ามาที! เธอรู้ไหมว่าการแลกเปลี่ยนดาบสั้นมีความหมายสำคัญถึงอะไร?”

“แลกเปลี่ยนดาบสั้น? อ่า นายน้อยหมายถึงประเพณีนั้นเองเหรอคะ?” แอนนาเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันที่จู่ ๆ นายน้อยของเธอก็เอ่ยถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ประเพณี?”

“ใช่แล้วค่ะนายน้อย มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่มาจากตระกูลทหารหรืออัศวิน ที่จะมอบดาบสั้นให้กับหญิงสาวที่พวกเขาหลงรักเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการสารภาพรัก ถ้าหากหญิงสาวคนนั้นยินยอมเธอจะมอบของขวัญกลับไปเป็นดาบสั้นเช่นกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายของการตอบตกลง …

ทว่าแทบจะไม่มีตระกูลไหนในปัจจุบันที่ปฏิบัติตามประเพณีโบราณนี้กันแล้วค่ะ สิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คือการให้ของขวัญเป็นเครื่องประดับเช่นแหวนและสร้อยคอ หืม? นายน้อยในมือท่านกำลังถืออะไรอยู่เหรอคะ”

แอนนาผู้เป็นตัวตั้งตัวตีของเหล่าแฟนคลับคู่รัก โรเอล X อลิเซีย หรี่ตาลงเมื่อได้เห็นดาบสั้นในมือของนายน้อย ทันใดนั้นบรรยากาศรอบตัวเธอก็เริ่มหนักอึ้ง ใบหน้าของเธอดูไม่สู้ดีเท่าไหร่ เธอนิ่งเงียบไปสักพัก

แล้วจึงเอ่ยขึ้นกับนายน้อยของเธออย่างใจเย็นว่า

“นายน้อยคะ ตอนนี้ร่างกายท่านอยู่ในช่วงกำลังพักฟื้น ท่านไม่ควรนำอาวุธออกมาแกว่งเล่นนะคะ นายน้อยพอจะบอกได้ไหมคะว่าดาบสั้นในมือเล่มนี้มาจากไหน?”

“อา นี่มาจะ…”

โรเอลสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันลึกลับครู่หนึ่งทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เด็กชายรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะวูบไป ดวงตาของเขามองไปรอบ ๆ ห้อง พยายามคิดหาคำตอบที่พอจะเป็นทางรอดให้เขาได้

“นี่มันเป็นของขวัญจากองค์ชายเคนน่ะ!”

หญิงสาวส่งยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบ “อ่า… เข้าใจแล้วค่ะ ได้โปรดระวังด้วยนะคะ หากท่านมีปัญหาอะไร อย่าลังเลที่จะเรียกดิฉัน”

หลังจากนั้นแอนนาก็เดินออกจากห้องแล้วปิดประตูตามหลัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็นเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าของสาวใช้ก็หายไป และสีหน้าของเธอก็มืดมนลงพร้อมกับตัวตนภายในใจที่กำลังกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

แย่แล้วค่ะ นายหญิงอลิเซีย นี่มันข่าวร้ายชัด ๆ! ยัยจิ้งจอกนั่นมันลงมือแล้ว!

นายน้อยโรเอล คนเจ้าชู้!