ภาคที่ 1 บทที่ 44 คลิปวิดีโอที่น่าตกตะลึง

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

บทที่ 44 คลิปวิดีโอที่น่าตกตะลึง

“น่าสนใจ” มุมปากของซูเย่ยกยิ้มขึ้น

“คนจากทีมสืบสวนเป็นคนขอให้เราลองเล่นเกมนี้ และมันก็มีพลังบางอย่างภายในเกมที่พยายามจะตรวจสอบพลังจิตของเรา วิธีการเพิ่มระดับในเกมเองก็ดูเหมือนจะเกี่ยวโยงกับพลังจิต นอกจากนี้ หลังจากที่เล่นเกมเป็นเวลานาน หรือว่าเลื่อนระดับ มันก็สามารถพัฒนาพลังจิตของเราได้จริง ๆ….”

“จุดประสงค์ของการสร้างเกมนี้ขึ้นมาคืออะไรกันแน่?” เขาพึมพำกับตัวเอง

ซูเย่รู้ดีว่าความแข็งแกร่งของพลังจิตนั้นมีความเชื่อมโยงกับความเร็วในการฝึกฝนพลังลมปราณ

และการที่จะบอกว่าบุคคลผู้นั้นเหมาะสมที่จะเป็นผู้ฝึกพลังลมปราณหรือไม่นั้น ก็ล้วนขึ้นอยู่กับพลังจิตของเจ้าตัว

ยิ่งเป็นผู้ที่มีพลังจิตเข้มแข็งมากเท่าไหร่ พรสวรรค์ในการฝึกตนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

และเมื่อพลังจิตแข็งแกร่งถึงจุดหนึ่งแล้ว คนผู้นั้นก็จะสามารถมองเห็นออร่าต่าง ๆ และเริ่มฝึกฝนได้

“หรือว่าพวกระดับสูงต้องการที่จะส่งเสริมการฝึกพลังจิตไปในวงกว้าง?” ซูเย่ถามกับตัวเองในใจ

หากเบาะแสทั้งหมดนี้เชื่อมเข้าด้วยกัน มันก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นอย่างที่เขาคิด

ในระดับชาติ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้ว่าการเล่มเกมนี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังจิตได้ และมันก็ไม่มีทางเลยที่จะไม่รู้ว่าการฝึกปราณนั้นเกี่ยวโยงกับพลังจิตของผู้ฝึก

แต่มันก็อาจจะเป็นไปไม่ได้เลยเช่นกัน!

“ฝึกฝนคนทั้งประเทศโดยอาศัยความเข้มข้นของพลังปราณในยุคสมัยนี้น่ะหรือ?”

“ไม่มีทางทำได้หรอกมั้ง?”

ในเมื่อพวกระดับสูงรับรู้ถึงการมีอยู่ของการฝึกปราณ พวกเขาก็ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้และรู้ดีว่าความเข้มข้นของพลังปราณในยุคสมัยนี้นั้นเบาบางลงกว่าเดิมมาก เพราะฉะนั้นมันจึงมีไม่เพียงพอสำหรับคนทั้งประเทศเด็ดขาด

หากเป็นแบบนี้ ทำไมจีนถึงใช้เกมที่สามารถเพิ่มพลังจิตของผู้คนในการส่งเสริมการฝึกพลังลมปราณกันล่ะ?

นี่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศอื่นด้วย

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลยอมสนับสนุนการฝึกฝนที่ขัดแย้งกับสภาพแวดล้อมทั่วไปของโลกในปัจจุบันกันแน่?

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ซูเย่ก็ส่ายศีรษะและเอ่ยกับตัวเองในใจ

“คงจะมีแต่ต้องเล่นเกมนี้ให้จบเราถึงจะหาเบาะแสเพิ่มเติมได้”

แต่เมื่อนึกได้ว่าเรื่องระดับสูงสุดของเกมนี้คือระดับ 100 เขาก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เกม “Fantasy Dream” ได้ให้ความสนใจกับการเพิ่มระดับตั้งแต่เริ่มเล่น ทว่าหลังจากที่เล่นไประยะหนึ่ง ความรู้สึกและความเข้าใจของเขาที่มีต่อเกมนี้ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

ไม่เหมือนกับเกมอื่น ๆ เกมความฝันไม่ได้มีไว้เพื่อการเก็บเงิน ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับการเลื่อนระดับ

ดูเหมือนว่าเบาะแสเพียงอย่างเดียวของมันน่าจะเป็นดาบเวหาเล่มนั้น

“ดาบเวหา?”

เมื่อนึกได้ ซูเย่ก็รีบหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาและลงชื่อเข้าใช้ในฟอรัมเกมเพื่อหาวิธีขายดาบทันที

ปราศจากคุณสมบัติอื่น ๆ จุดประสงค์หลักของมันก็คือการใช้เป็นยานพาหนะ และก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าสำหรับเขาในการจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินและเอาไปบริจาคเพื่อเพิ่มแต้มศีลธรรม

ทันทีที่เข้าไปในฟอรัม เขาก็พบว่าโพสต์ทั้งหมดที่ปรากฏขึ้นมาในฟอรัมล้วนได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ซึ่งทุกโพสต์ล้วนมีเนื้อหาเช่น ‘ระดับ 10’ ‘บั๊ก’ และ ‘ผู้เล่นX’

ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างกำลังหาคำตอบว่าผู้เล่นนิรนามคนนั้นเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 10 ได้อย่างไร?

มันคือบั๊กใช่ไหม?

หรือว่า ผู้เล่น ‘X’ จะเป็นคนวงในของเกมนี้?

หรือว่าจะมีภารกิจลับที่ทำแล้วจะได้รางวัลเป็นค่าประสบการณ์สูง ๆ?

มันมีอะไรที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ทันทีหลังจากที่หาเจอหรือว่ากินบ้างหรือเปล่า?

มันใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนจะปิดเซิร์ฟเวอร์แต่ในฟอรัมกลับมีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานา

ซูเย่ไม่ได้เข้าไปดูอย่างละเอียด เขาเพียงพิมพ์ข้อความลงในแถบค้นหา: ขาย

ผลการค้นหา

ว่างเปล่า…

ดาบเวหา

ผลการค้นหา

ยังคงว่างเปล่า

“มันมีข่าวลือว่าดาบเวหามีค่าถึง 100,000 หยวนเลยไม่ใช่เหรอ?”

ซูเย่ขมวดคิ้วและค้นหาต่อไป

แต่เมื่อผ่านไปสักพักใหญ่ เขาก็ยังไม่สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายได้ ทุกโพสต์มีแต่วิธีการในการเพิ่มระดับให้ไปถึงระดับ 10 เท่านั้น

“ช่างมันก็แล้วกัน” ซูเย่เอ่ยพร้อมปิดหน้าจอโทรศัพท์

“เปล่าประโยชน์ รอให้เรื่องระดับ 10 นี้ซาก่อนดีกว่า แล้วค่อยถามว่ามีใครอยากจะได้ดาบนี่บ้าง เพราะตอนนี้ต่อให้เราโพสต์ลงไปก็ไม่มีใครสนใจอยู่ดี”

“อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่อยู่เหนือระดับ 10 เป็นต้นไปต้องถูกปลดล็อกหมดแล้ว และอีกไม่นานก็น่าจะสามารถเข้าได้ แถมยังมีตัวเขาแค่คนเดียว เมื่อถึงเวลานั้น เห็นทีเขาคงต้องไปสู้กับมอนสเตอร์แล้วเพิ่มระดับเพื่อให้ได้พาหนะพวกนี้เสียแล้ว ดูเหมือนว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากได้ของแบบนี้”

หลังจากที่ได้รับคำเรียกร้องจากผู้เล่นจำนวนมาก ในที่สุดเจ้าหน้าที่ของทาง “Fantasy Dream” ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว

“เกี่ยวกับเรื่องของผู้เล่น “X” หลังจากที่ทางเราได้ตรวจสอบ เราพบว่าภายในเกมไม่ได้มีข้อบกพร่องแต่อย่างใด ไม่มีการโกง และในเกมไม่มีภารกิจลับใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อที่จะคลายความสงสัยของผู้เล่นส่วนใหญ่ ในอีก 3 นาทีต่อจากนี้ ทางเราจะลงวิดีโอต้นฉบับของผู้เล่น X ขณะที่เลื่อนขั้นเป็นระดับ 10 ให้ทุกท่านได้ดู ดังนั้นโปรดรอติดตาม”

ประกาศนี้ปรากฏขึ้นบนหน้าแรกของเว็บไซต์เกม

เมื่อความคิดเห็นภายในโพสต์ต่าง ๆ เริ่มแย่ลง ประกาศที่ปรากฏขึ้นจึงดึงความสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก

จะอัปโหลดวิดีโอในอีก 3 นาที?

เมื่อเห็นประกาศนี้ ผู้เล่นทุกคนก็ไม่สามารถสงบใจได้อีกต่อไป

ทางผู้จัดการจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้จริงจัง!

ต่อให้ตายยังไงฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาขึ้นไปถึงระดับ 10 ได้ยังไง!

มันจะต้องมีการโกงเกิดขึ้นแน่นอน!

ผู้เล่นทั้งหมดต่างจ้องหน้าจอโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของตัวเองอย่างไม่ละสายตา เพื่อรอดูวิดีโอที่จะถูกโพสต์ลงบนหน้าเว็บไซต์ในอีกสามนาที

ซูเย่เพียงลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาของตัวเอง

ซุนชือและจินฟานเองก็ยังคงจ้องหน้าจอโทรศัพท์และกดรีเฟรชหน้าแรกของฟอรัมอยู่ตลอดเวลา

3 นาทีต่อมา

คลิปวิดีโอถูกนำมาโพสต์ลงบนหน้าเว็บไซต์อย่างตรงเวลา

ผู้คนจำนวนมากต่างเข้าไปดูในทันที

เริ่มเล่น….

สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาคือตัวละครเกมที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าครึ่งล่างพร้อมกับถือดาบเล่มใหญ่ไว้ในมือกำลังเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อน

ทันใดนั้น ด้านหน้าของตัวละครก็มีมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นพร้อมกับข้อมูลรายละเอียด พุ่งตรงเข้าหาตัวละครอย่างป่าเถื่อน

“บอสระดับ 10 เหรอ?”

“เชี่ย! นี่มันบอสระดับ 10 เลยนะ! บ้าไปแล้วเหรอ?”

“นี่ไง เขาคือคนที่อยู่ที่หมู่บ้านผู้เล่นใหม่! คิดบ้าอะไรอยู่ถึงไปสู้กับบอสระดับ 10 ด้วยตัวคนเดียว?”

ทุกคนที่ได้ดูต่างพูดไปในทำนองเดียวกัน เมื่อได้ดูคลิปนั้น

แต่ยังไม่ทันที่คนทั้งหมดจะหายตกตะลึง ภาพที่ตอบข้อสงสัยของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น

สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือภาพของตัวละครที่ใช้มือในการเหวี่ยงมอนสเตอร์ขึ้นไปบนอากาศ

จากนั้นก็ต่อยมันจนตาย…

“ให้ตายเถอะ เขายังใช่คนหรือเปล่า? นี่มันบอสระดับ 10 นะ! ทำไมเขาถึงฆ่ามันได้ด้วยหมัดเดียว?”

“ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ถึงกล้าสู้กับมันด้วยมือเปล่า แถมยังสามารถฆ่ามันได้ด้วยเนี่ยนะ?”

“เดินเป็นกิโลไปโจมตีมอนสเตอร์บอสระดับ 10 ได้ด้วยตัวคนเดียว แน่ใจเหรอว่ามันไม่ใช่ NPC?”

“บอสมันตายจริง ๆ เหรอ?”

“มันคอหักนี่”

“เขาโชคดีชะมัด บอสตายก่อนที่มันจะได้แสดงพลังเสียอีก!” ทุกคนที่ได้ดูต่างก็แสดงความคิดเห็นอย่างออกรสออกชาติ

“ไม่! ไม่ใช่โชคช่วย ฉันว่าจุดอ่อนของมอนสเตอร์บอสน่าจะอยู่ตรงลำคอ เพราะฉะนั้นมันเลยถึงตายไง!”

ในที่สุดก็มีคนตาดีที่สังเกตเห็นว่าจุดอ่อนของมอนสเตอร์บอสคือส่วนคอของมัน

ส่วนเรื่องที่ทำไมผู้เล่น X ถึงมีความว่องไวและแข็งแกร่งถึงขนาดที่สามารถจัดการบอสได้…นั่นคือสิ่งที่ทุกคนจะต้องคิดด้วยตัวเอง

คลิปวิดีโอดังกล่าวไม่ได้มีความยาวมากนัก ดังนั้นมันจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ทว่าด้วยเหตุผลบางประการ ในวิดีโอไม่ได้มีภาพตอนที่ดาบเฟยเจียนปรากฏขึ้นในตอนท้ายที่สุด

หลังจากดูจบ ทุกคนก็กดดูซ้ำอีกครั้ง

สามครั้ง สี่ครั้ง…

พวกเขาพูดอะไรไม่ออกไปสักพักใหญ่

ผู้ใดจะไปคิดว่าผู้เล่นระดับ 3 คนหนึ่งจะเลือกไปยังพื้นที่ของมอนสเตอร์บอสระดับ 10 เพียงลำพัง แถมยังสามารถสังหารบอสได้ด้วย?

และสิ่งที่น่าเครียดมากที่สุดสำหรับคนทั้งหมดก็คือ แม้ว่าพวกเขาจะเห็นวิธีการทั้งหมดอย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็รู้ตัวว่าตนเองไม่สามารถทำเช่นเดียวกันกับผู้เล่นในคลิปได้

ความสามารถและความแข็งแกร่งที่พวกเขาไม่สามารถมีได้

“ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเกมนี้ถึงไม่มีคุณสมบัติอื่น ๆ นอกจากระดับของผู้เล่น ผู้เล่น X คนนี้ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าความแข็งแกร่งภายในเกมไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับ ตราบใดที่เรามีความสามารถ เราก็ไปจัดการบอสระดับ 10 ได้โดยที่ตัวเราอยู่แค่ระดับ 1 หรือจะจัดการมอนสเตอร์ระดับ 100 โดยที่เราเพิ่งอยู่แค่ระดับ 10 ก็ได้เหมือนกัน! แต่แค่มอนสเตอร์ระดับ 1 ตัวฉันยังไม่สามารถจัดการได้เลย ห่วยโคตร ๆ!”

“ฉันเองก็ห่วยเหมือนกัน! แต่ของคุณเทพ X ที่บอกวิธีการเพิ่มระดับให้เรา คืนนี้ฉันกับเพื่อนจะรวมกลุ่มกันไปจัดการมอนสเตอร์ที่ระดับสูงกว่านี้!”

“วันนี้คงต้องเข้าเกมให้ไวเลย”

“นั่นสิ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้มีเทพ X อยู่ในกลุ่ม แต่ปริมาณคนของเราก็มีมาก เพราะฉะนั้นร่วมมือกันไปสู้กับบอสกันเถอะ! ความเร็วในการเลื่อนระดับจะต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่าแน่ ๆ”

“เอาล่ะ ใครจะไปกับฉัน รีบทักมาเร็ว ๆ เลย!”

ในขณะที่ซูเย่กำลังตกตะลึง ผู้เล่นจำนวนมากก็เริ่มติดต่อเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง เตรียมตัวที่จะไปสู้กับมอนสเตอร์และเพิ่มความเร็วในการเลื่อนระดับ

หัวข้อของโพสต์ยอดนิยมในฟอรัมกลายเป็นโพสต์ประกาศหาเพื่อนร่วมทีมภายในไม่กี่นาที

ซุนชือและจินฟานที่กำลังรอดูวิดีโอต่างก็ตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกหลังจากที่ดูคลิปซ้ำเป็นรอบที่สิบ

“นี่มันเก่งเกินไปแล้ว ไปพื้นที่ระดับสามและสู้กับบอสระดับ 10! แถมยังเอาชนะบอสได้ด้วย!”

ดวงตาของซุนชือเป็นประกายขึ้นขณะที่กล่าวว่า “คืนนี้ฉันจะไปเพิ่มเพื่อนกับเขา ฉันจะต้องเกาะติดผู้ชายคนนี้ให้แน่น แล้วเราก็จะสบาย!”

“เลิกคิดซะเถอะ นายยังไม่รู้ชื่อเขาเลยด้วยซ้ำ”

จินฟานเอ่ยกับเพื่อนของตนก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ

ณ หอพักนักศึกษาหญิง สถาบันดนตรีซิงเหมิง

สองพี่น้องตระกูลไป๋เพิ่งดูวิดีโอจบ ดวงตาคู่งามของทั้งคู่เบิกกว้าง ตกใจจนพูดไม่ออก

“เขาเก่งเกินไปแล้ว! ฉันขอคืนคำที่บอกว่าจะได้เห็นดีกัน และข้อสงสัยที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้เลย เทพ X คนนี้เก่งสุด ๆ ไปเลย!”

ไป๋จือเหยียนเอ่ยตาเป็นประกาย

“เก่งถึงขนาดที่สามารถเอาชนะบอสได้ด้วยตัวคนเดียว! ตัวจริงของเขาก็จะต้องเก่งเหมือนกันแน่ ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็จะยิ่งชื่นชอบเขามากกว่าเดิมอีก”

ไป๋จือหรานที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้างามขณะที่เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “อยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขาคือใคร อายุเท่าไหร่”

เช้าวันต่อมา

ภายในโรงงานร้างแถบชานเมืองจี้หยาง

“รวม!…” เสียงเสียงหนึ่งดังก้องไปทั่ว

ร่างของคนห้าคนที่อยู่ในเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันรีบวิ่งมายืนเรียงกัน เป็นชาย 4 หญิง 1

คนหนึ่งในกลุ่มสวมเสื้อยืดคุ้นตา

พวกเขาคือกลุ่มลูกน้องของเจ้าหน้าที่หมายเลข 197 ที่ซูเย่เคยพบในมหาวิทยาลัย

“ผู้กองครับ พวกเราพอจะทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เชิญคุณสั่งการมาได้เลยครับ” อีกคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ย

“ภารกิจของเราในครั้งนี้ง่ายมาก”

ชายหนุ่มผู้สวมเสื้อยืดผู้มีนามว่า หวังห่าว มองสมาชิกในทีมชั่วคราวของตนแล้วจึงกล่าวว่า “สิ่งที่เราจะต้องหาในครั้งนี้ก็คือหมวก VR ที่ถูกนำออกมาจากห้องปฏิบัติการ จากข้อมูลเบื้องต้นที่หน่วยสืบสวนได้มา หมวกนี้ถูกติดตั้งตัวระบุตำแหน่งเอาไว้ด้วย แต่หลังจากที่มันหายไปไม่ถึง 30 นาที เครื่องระบุตำแหน่งที่อยู่ภายในตัวหมวกก็ถูกถอดออกไป”

“หน้าที่ของพวกเราก็คือสืบหาข้อมูล ระบุตัวผู้ต้องหาและเอาหมวกกลับคืนมาให้ได้!”

“ขอย้ำอีกครั้ง สืบหาข้อมูล ระบุตัวเป้าหมาย และเอาหมวกกลับคืนมา!”