ภาคที่ 1 บทที่ 45 รวมกลุ่มเฉพาะกิจเพื่อสังหารมอนสเตอร์ระดับบอส!

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

บทที่ 45 รวมกลุ่มเฉพาะกิจเพื่อสังหารมอนสเตอร์ระดับบอส!

หลังจากที่ลากเพื่อนร่วมห้องทั้งสองที่ยังคงจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ให้ลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำได้ ทั้งสามก็พากันไปทานอาหารเช้าก่อนจะเดินไปยังคลาสเรียน

ภายในคลาส

ในขณะที่นั่งฟังการบรรยายอยู่ ซูเย่ก็เดินหาข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจดูสภาพลิ้นในชั้นหนังสือโบราณที่อยู่ภายในพระราชวังแห่งความทรงจำ

เกม “Fantasy Dream” ที่เล่นเมื่อคืนได้ทำให้เขาสังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง

“เกมนี้จะต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ ๆ ”

“ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะยังไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร แต่เราคงต้องรีบเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมเสียแล้ว”

ในตอนนี้ แต้มศีลธรรมเพียงแต้มเดียว เขาก็สามารถเลื่อนระดับวิชาห่าวหรานให้ไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าเดิมได้

แน่นอน ซูเย่รู้เช่นกันว่าการบริจาคคือวิธีที่เร็วที่สุดในการเพิ่มแต้มศีลธรรม แต่ตอนนี้เขามีเงินอยู่กับตัวเพียง 800 หยวนเท่านั้น เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่สามารถบริจาคได้เลยแม้แต่หยวนเดียว

ตอนนี้ ทางเดินเบื้องหน้าของเขามีเพียงการรีบหาเงินและเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ให้ได้เร็วที่สุด

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาได้รับแต้มศีลธรรมอย่างต่อเนื่อง

“สงสัยวันพุธนี้คงจะต้องไปที่ศูนย์การแพทย์แล้วขอเรียนวิธีการฝังเข็มเสียแล้ว”

เขาพอจะรู้จุดในการฝังเข็ม และรู้ดีว่าการฝังเข็มและการรมยาสามารถรักษาโรคได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ หนังสือและภาพเกี่ยวกับการตรวจดูสภาพลิ้นจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกหยิบออกมาจากชั้นภายในพระราชวังแห่งความทรงจำ

สมองยังคงทำการประมวลผลและซึมซับข้อมูลทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง

หากลิ้นมีสีซีดขาวและมีรอยแตก นั่นแสดงถึงภาวะเลือดลมบกพร่อง หยางพร่อง ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยพักผ่อนน้อยหรือทานอาหารน้อยเกินไป หากลิ้นมีสีแดงเข้มกว่าลิ้นปกติและมีรอยแตกแสดงถึงความร้อนภายในร่างกาย มีความร้อนมาก หยินพร่อง”

“สีของลิ้นในบริเวณต่าง ๆ บ่งบอกถึงความผิดปกติที่แตกต่างกัน ปลายลิ้นสีแดงแสดงถึงความผิดปกติของหัวใจ หัวใจมีความร้อนมาก ขอบลิ้นมีสีแดงหมายความว่าตับและถุงน้ำดีร้อนเกินปกติ เลือดไหลเวียนไม่ดี”

ในขณะเดียวกัน ร่างจำแลงภายในพระราชวังแห่งความทรงจำก็ยังคงกดแป้นคีย์บอร์ดที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศเป็นจังหวะเพื่อจด บันทึกสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนเอ่ยภายในชั้นเรียน

เช้าวันใหม่ผ่านพ้นไปอย่างสงบสุข

หลังจากเรียนคลาสเช้าเสร็จ ซุนชือและจินฟานก็เตรียมที่จะเก็บของบนโต๊ะและไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรทาน

ทว่าซูเย่กลับคว้าร่างของทั้งคู่เอาไว้เสียก่อน

“อย่าเพิ่งไป”

“นายมีอะไร?” ซุนชือถาม

“นับว่าวันนี้พวกนายโชคดีมาก เพราะฉันจะช่วยตรวจดูอาการของพวกนายให้โดยไม่คิดเงิน”

ซูเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม เขาอยากจะลองทดสอบความรู้ที่ได้เรียนมาเมื่อเช้า

“หมอนี่ไม่สบาย! ส่วนฉันสบายดี!”

ซุนชือกลอกตาและหันไปกดร่างของจินฟานให้นั่งลงตรงหน้าของซูเย่และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ติดจะเยาะเย้ยเล็กน้อยว่า “หมอนี่เป็นไข้ ไข้ใจน่ะ นายลองใช้ความรู้ที่เรียนมาจากอาจารย์หลี่ดูอาการเขาหน่อยก็แล้วกันว่ามีแววจะหาแฟนได้สักคนไหม…”

จินฟานที่ได้ยินเช่นนั้นจึงชี้นิ้วไปที่ซุนชือและกล่าวว่า “เพราะฉันช่วยปรับเปลี่ยนลุคให้นายหรอกนะ นายถึงดูดีขึ้นกว่าเดิมแล้วไปจีบหญิงได้น่ะ”

“ถ้าฉันไม่กล้าเข้าไปจีบ ทุกอย่างที่ทำมามันก็ศูนย์เปล่าอยู่ดีนั่นแหละ!” ซุนชือพึมพำ

จินฟานเมินอีกฝ่าย จากนั้นจึงหันกลับมามองซูเย่และถามว่า

“แล้วนี่นายเรียนอะไรมาบ้าง?

ในความเป็นจริงแล้วเขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าซูเย่ได้เรียนอะไรมาบ้าง

ซุนชือเองก็หันมามองซูเย่ด้วยสีหน้าอยากรู้เช่นกัน หากพูดกันตามตรง ทุกคนในคณะต่างก็อิจฉาและอยากรู้เรื่องนี้ทั้งนั้น แต่ในเมื่อซูเย่ไม่พูด พวกเขาก็ไม่ถาม

“ฉันเรียนการวินิจฉัยชีพจรจบแล้ว ตอนนี้กำลังเรียนตรวจดูสภาพลิ้นอยู่ เพราะฉะนั้นนายรีบอ้าปากซะ” ซูเย่รีบตัดบท

จินฟานทำตามที่เพื่อนของตนบอกอย่างเชื่อฟัง

ซูเย่ดูฝ้าบนลิ้นของอีกฝ่าย ด้วยตาคู่คมเป็นประกายขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับการวินิจฉัยลิ้นมากมายปรากฏขึ้นมาในหัว เทียบเคียงกับภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

“ลิ้นของนายมีสีเข้มกว่าปกติ ฝ้าบนลิ้นน้อย ตับมีความร้อนมาก” ชายหนุ่มเอ่ยสรุป

ซุนชือที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ และเอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “มีฝ้าน้อยแถมแดงกว่าปกติจริง ๆ ด้วย! ไหนลองดูของฉันด้วยสิ!”

หลังจากเอ่ยจบเจ้าตัวก็รีบอ้าปากทันที

ซูเย่ตรวจดูแล้วจึงเอ่ยว่า “พวกนายทั้งสองคนเป็นเหมือนกัน”

จินฟานที่เดินมาดูฝ้าบนลิ้นของซุนชือพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“นายนี่เจ๋งชะมัดเลย!”

….

“หงุดหงิดจริง ๆ! ตอนนี้ฉันก็รู้สึกอิจฉาและเกลียดผู้เล่นนิรนาม “X” อะไรนั่นด้วย! เลื่อนขึ้นระดับ 10 ภายในคืนเดียวเนี่ยนะ?! ฉันล่ะอยากรีบเข้าเกมแล้วรีบเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 10 ตอนนี้เลย” ซุนชือเอ่ยอย่างหัวเสียเล็กน้อย

“ระหว่างที่เรียนฉันลงชื่อเข้าในฟอรัมและดูสถิติที่ออกอย่างเป็นทางการแล้ว บอสแรคคูนอะไรนั่นถูก “X” ฆ่าจริง ๆ เวลาคืนชีพกำหนดแล้วด้วย คืนนี้พอพวกเราเข้าเกม มันก็คืนชีพพอดี” จินฟานกล่าว

“เยี่ยมไปเลย!”

ดวงตาของซุนชือเป็นประกายลุกโชนด้วยความตื่นเต้น เขากำมือแน่นและพูดอย่างห้าวหาญว่า “ฉันโพสต์นัดในฟอรัมแล้ว เพื่อที่จะเลื่อนระดับ คืนนี้ พวกเราจะจับกลุ่มเป็นกองทัพขนาดใหญ่เพื่อจัดการ

มอนสเตอร์บอสตัวนั้นให้ได้! ถ้า “X” ทำได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน!”

จินฟานเองก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ว่าจะยากแค่ไหน วันนี้พวกเราก็ต้องฆ่าบอสระดับ 10 ให้ได้!”

“เอาล่ะ เราไปกินข้าวกันเถอะ!” ซูเย่เอ่ยกับทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม

….

เวลา 22.00 น.

หลังจากอ่านทบทวนและตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าเสร็จแล้ว ซุนชือและจินฟานก็รีบอาบน้ำให้ไวที่สุดและรีบเข้าเกมทันที

ในขณะเดียวกัน ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนก็รีบเข้าเกมเช่นกัน

“ไปเร็วพวก!”

“ไปสู้กับบอสกัน!”

“คนในทีมยังน้อยอยู่เลย เร็วเข้า! กล้า ๆ หน่อย! ไปจัดการบอสกัน!”

ณ บริเวณตีนเขานอกหมู่บ้านซินโซว เสียงตะโกนของกลุ่มคนจำนวนมากยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เห็นได้ชัดเลยว่าการเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 10 ของซูเย่ภายในข้ามคืนเมื่อวานนี้ ส่งผลกระตุ้นต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ดูวิดีโอของผู้เล่น X ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อเช้านี้ พวกเขาก็ยิ่งหิวกระหายความรู้สึกนั้นเป็นพิเศษ

ถ้านายทำได้ พวกเราก็ทำได้เหมือนกัน!

นายทำได้ด้วยตัวคนเดียว พวกเราทำแบบนั้นไม่ได้ แต่พวกเราก็ร่วมมือกันได้!

มีมดหลายตัวเชียวล่ะที่กำลังรอแทะเนื้อช้างอยู่!

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงรวมกลุ่มกันและเริ่มลงมืออย่างรวดเร็ว

ทุกกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปที่เขตอสูรร้ายจากรอบทิศ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความมั่นใจและตื่นเต้น

พื้นที่ของกอริลลาเหล็ก มอนสเตอร์ระดับ 2 ถูกพวกเขาจัดการได้ภายในครั้งเดียว

เดินหน้าต่อ…

มอนสเตอร์ระดับ 3 ถูกบดขยี้จนสิ้นซาก

มอนสเตอร์ระดับ 4 และ 5 เองก็เช่นเดียวกัน

ด้วยผู้คนจำนวนมากที่ถือดาบอยู่ในมือ มอนสเตอร์ทั้งหมดถูกสังหารอย่างง่ายดาย และค่าประสบการณ์ของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าบางตัวจะฆ่าไม่ได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป!

เพราะเป้าหมายของพวกเขาก็คือบอสสูงสุด! พวกเขาต้องจัดการมันให้ได้!

ยังคงเดินหน้าไปเรื่อย ๆ

จนกระทั่งเข้าสู่พื้นที่ของมอนสเตอร์ระดับ 7

ครั้งนี้พวกเขาได้เผชิญหน้ากับการต่อต้านของผู้เล่นระดับล่าง

คนในกลุ่มส่วนใหญ่ล้วนเพิ่งขึ้นเป็นระดับ 2 เท่านั้น ดังนั้นแค่มอนสเตอร์ระดับ 5 พวกเขาก็ไม่สามารถจัดการได้อยู่แล้ว แต่มอนสเตอร์ระดับ 7 นั้นมีความร้ายกาจกว่ามาก! มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถต้านทานได้!

แต่โชคยังดีที่พวกเขามีกันอยู่หลายคน!

ถ้าทำไม่ได้ก็ให้คนอื่นช่วยสิ ยังไงเสียระดับของพวกเขาก็ไม่ลดลงอยู่แล้วนี่

สุดท้ายแล้วพื้นที่ระดับ 7 ก็ถูกจัดการ มอนสเตอร์บริเวณนี้ถูกสังหารไปทีละตัว ๆ

หลังจากพื้นที่โดยรอบกลายเป็นสีแดงเลือด คนทั้งหมดก็ตระหนักขึ้นได้ว่า “ทำไมพวกนายถึงไม่จับกลุ่มกันฆ่ามอนสเตอร์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ล่ะ? ไม่อย่างนั้นระดับของพวกนายจะเพิ่มขึ้นเร็วขนาดไหน? โง่หรือเปล่าเนี่ย?”

กลุ่มคนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งยังคงมุ่งหน้าไปเรื่อย ๆ

พื้นที่มอนสเตอร์ระดับ 8 นั้นยากยิ่งกว่า

หลังจากที่ผ่านมาได้ ทั้งกลุ่มเหลือคนอยู่แค่ 1 ใน 5 เท่านั้น

จากน้อยไปถึงมาก เหล่าผู้จู่โจมหลักที่อยู่รอบนอกได้ตายกันหมดแล้ว และกลุ่มคนที่เหลืออยู่เป็นเพียงผู้เล่นระดับ 1 ที่ไม่ได้สร้างความเสียหายที่อยู่วงในเป็นส่วนใหญ่ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากจุดนี้เสียแล้ว

แต่พวกเขาจะทำได้หรือเปล่า?

พวกเขาเริ่มลังเลเล็กน้อย ผู้ที่มีพลังสูงสุดที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็อยู่แค่ระดับ 3 เท่านั้นและพวกที่อยู่ระดับ

สูง ๆ ก็ตายกันหมดแล้ว

พวกเขาแทบไม่กล้าที่จะพุ่งเข้าหาบอสด้วยซ้ำ

ถ้าหากตายก็จะไม่สามารถเริ่มเล่นใหม่ได้ มีแต่ต้องรอเข้าเกมอีกครั้งวันพรุ่งนี้เท่านั้น

ควรไปต่อหรือมองหาที่อื่นเพื่อเพิ่มระดับกันแน่?

ทันใดนั้นกลุ่มคนที่มุ่งหน้าไปจัดการบอสก็ชะลอฝีเท้าลงอย่างไม่คาดคิด

“เริ่มไม่โอเคแล้ว”

ซุนชือและจินฟานรู้สึกอับอายที่มีเลข 3 สีทองปรากฏอยู่บนอกของตัวเองมองหน้ากันและกันเมื่อเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ที่พวกเราพยายามมาทั้งหมดก็คือเพื่อไปเผชิญหน้ากับบอสระดับ 10 ถ้ามาถอยตอนนี้ทุกอย่างก็จบน่ะสิ

“ทางนี้…”

จินฟานที่คิดหาทางรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นกระซิบเข้าที่ข้างหูขอซุนชือ

จากนั้นทั้งคู่ก็ย่อตัวลง…

ท่ามกลางกลุ่มคนจำนวนมาก ทั้งสองค่อย ๆ เอาเศษดินขึ้นมาป้ายที่ใบหน้าและดาบของตนเอง จากนั้นจึงค่อย ๆ ย่องออกไปอยู่วงนอกของกลุ่มแล้วจึงยืดตัวขึ้น

ยกดาบในมือของตนชูขึ้นบนฟ้า

“สหาย!!!!!” จินฟานตะโกนเสียงดัง

“ทุกคน เรามาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าพวกเราถอย เราจะไปบอกกับผู้เล่นคนอื่นที่ตายไปก่อนหน้าว่ายังไง? ถ้าไม่อยากถูกหัวเราะเยาะ ตามฉันมาเร็ว!”

“ใช่!”

ซุนชือเองก็รีบตะโกนบ้าง “เราจะเป็นฮีโร่กัน! แต่พวกเราที่อยู่วงนอกต่างต่อสู้มานานเกินไปแล้ว มันถึงเวลาผลัดเปลี่ยนกันบ้างแล้วไม่ใช่หรือไง? ยังมีคนอีกมากมายที่ยังไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง! เราให้คนพวกนี้ได้รับประสบการณ์กันหน่อยเป็นไง!”

“ใช่!” จินฟานรีบตะโกนสนับสนุนเพื่อนของตนทันที

“พวกเราทั้งหมดคือพี่น้องกัน เรากลับเข้าไปอยู่ในวงและปล่อยให้พี่น้องที่ยังไม่มีโอกาสต่อสู้ได้แสดงฝีมือและให้ดาบของพวกเขาได้เปื้อนเลือดกันเถอะ!”

สิ้นเสียงพูด ผู้เข้าร่วมที่อยู่วงนอกทั้งหมดต่างหันหลังกลับและแทรกตัวเข้าไปใจกลางกลุ่มทันที

ส่วนกลุ่มคนที่อยู่ภายในวงและยังไม่ได้ลงมือสู้อะไรเลยทำได้เพียงออกมายังกรอบนอกอย่างไม่เต็มใจ

ซุนชือและจินฟานเองก็กลับไปยังใจกลางกลุ่มตามเดิม ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา จากนั้นจึงตะโกนเสียงดัง

“พวกเรา! บุก!!!”

กลุ่มผู้เล่นระดับสูงที่อยู่วงในและผู้เล่นระดับล่างที่อยู่วงนอกมุ่งหน้าไปยังจุดหมายอีกครั้ง

พวกเขาเดินเข้าสู่พื้นที่ระดับ 9 อย่างองอาจ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา กลุ่มผู้ที่เหลือรอด ซึ่งลดน้อยลงกว่าเดิมอีก 90% ต่างวิ่งออกมาอย่างหมดสภาพ พวกเขาถูกมอนสเตอร์ระดับ 9 ตามล่าจนต้องวิ่งออกมาจนถึงทางเข้าของเขตอสูรร้ายระดับ 10

เวลานี้ ผู้ที่รอดชีวิตทั้งหมดล้วนอยู่ระดับ 3 พวกเขามองไปยังเขตอสูรร้ายตรงหน้าตน

ในที่สุดก็มาถึงแล้ว!

เมื่อมองไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไป คนทั้งหมดก็พบว่าเบื้องหน้าของพวกตนมีทั้งเสือเขี้ยวดาบ เสือดาว สิงโตป่า และสัตว์ดุร้ายอีกมากมาย

ขณะนี้ มอนสเตอร์บอสแรคคูนที่เพิ่งคืนชีพกลับมาดูคล้ายกับผู้รักษาความปลอดภัยไม่มีผิด มันนั่งอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าเขตอสูรร้าย หมกมุ่นอยู่กับการขุดดิน

เมื่อเห็นบอสใหญ่ คนทั้งหมด รวมทั้งจินฟานและซุนชือต่างแววตาเป็นประกาย

ในที่สุด!

“ฆ่ามัน!!!!”

ซุนชือและจินฟานตะโกนเสียงดัง

พวกเขาพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

10 นาทีต่อมา ผู้เล่นทั้งหมดก็ถูกจัดการอย่างราบคาบ….

เจ้าบอสแรคคูนเหลือบตามองศพของผู้เล่นที่เกลื่อนไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะก้มหน้าขุดดินต่อไป

เหล่าผู้ที่ตายออกจากเกมต่างเข้าไปในฟอรัมโดยที่ยังสวมหมวกอยู่ พวกเขาพูดคุย แสดงความคิดเห็นกันอย่างบ้าคลั่ง!

“เจ้าบอสแรคคูนนั่นโหดสุด ๆ ไปเลยไม่ใช่เหรอ?”

“เทพ X ทำได้ยังไงกัน? ผู้เล่นระดับ 3 ที่ต่อยมอนสเตอร์บอสตายด้วยหมัดเดียว! ส่วนพวกเราทั้งหมดมีแต่ถูกฆ่า!”

คืนต่อมา

พวกเขาจับกลุ่มกันและมุ่งหน้าไปยังเขตอสูรร้ายอีกครั้ง

และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ทำให้พวกเขาผิดหวัง

พวกเขายังคงถูกฆ่ายกกลุ่มตามเดิม

“นี่มันยากเกินไปแล้ว ยากเกินไปจริง ๆ”

“เทพ X ทำไปได้ยังไงกันนะ? ขนาดวันนี้ฉันลองพยายามดู แต่ก็ยังเฉียดเข้าใกล้ตัวมันไม่ได้เลยสักนิด ทุกคนตายหมด!”

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มรวบรวมประสบการณ์ทั้งหมดและสรุปออกมา บางคนทำแม้กระทั่งวิเคราะห์วิดีโอต่อสู้ของผู้เล่น X อย่างละเอียด

แต่ยิ่งพวกเขาวิเคราะห์มันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งพบว่าผู้เล่น X นั้นแข็งแกร่งและน่าสงสัยเพียงใด

ณ เวลานั้น ทั้งภายในเกมและฟอรัม ผู้เล่น “X” ได้กลายเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ใจและกลายเป็นความหวังของคนจำนวนมากไปเสียแล้ว

เช้าตรู่ของวันเสาร์ ภายในโรงงานร้างแถบชานเมืองจี้หยาง

สมาชิกทีมทั้งห้าคนของหวังห่าวมารวมตัวกันอีกครั้ง

หลังจากที่ได้ฟังรายงานของคนทั้งหมด หวังห่าวก็พยักหน้าเบา ๆ

มันผ่านมาสามวันแล้ว แต่พวกเขากลับยังไม่พบเบาะแสอะไรเลย นับว่าเป็นโชคดีที่ทางห้องปฏิบัติการของศูนย์วิจัยได้เบาะแสบางอย่างมาเพิ่มเติม

“ตรวจสอบต่อไป” หวังห่าวเอ่ย

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดพยักหน้าอย่างหนักแน่น

ณ มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ซูเย่ก็รีบมุ่งหน้าไปที่ศูนย์การแพทย์ทันที