เห็นได้ชัดเลยว่าการมาเยือนของเสี่ยวเชี่ยนครั้งนี้สร้างแรงโจมตีให้อาหญิงได้อย่างมหาศาล
ถ้าเสี่ยวเชี่ยนทำตามวิธีของตัวเองจริงๆ อาหญิงไม่มีทางสู้กลับได้เลยสักนิด แพ้ราบคาบ
อีกหลายวันข้างหน้าอาหญิงจะใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง
วิธีที่เสี่ยวเชี่ยนใช้กับเธออันที่จริงก็คือวิธีที่เธอทำกับเสี่ยวเชี่ยน
เพียงแต่อาหญิงไม่ได้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนสะเทือนเลยสักนิด แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับจับจุดอ่อนของเธอได้
เสี่ยวเชี่ยนออกมาจากที่อาหญิงก็ตรงไปที่เมืองQ เอาเสียงของอาหญิงที่บันทึกไว้มอบให้พ่ออวี๋แม่อวี๋
ตอนที่คุยกับอาหญิง เธอเลือกบันทึกเสียงเฉพาะตรงที่มีประโยชน์กับเธอ
หลังจากที่พ่ออวี๋แม่อวี๋ฟังจบก็โมโหสุดขีด โดยเฉพาะพ่ออวี๋ที่เป็นคนตรงไปตรงมา พอฟังจบก็พูดออกมาแค่ว่าไม่ได้เรื่อง แล้วถีบประตูเดินออกไปที่ห้องรับแขก
แม่อวี๋เองก็ไม่ได้โมโหน้อยไปกว่ากัน เสี่ยวเชี่ยนบันทึกได้มีคุณภาพเนื้อเน้นๆ ช่วงที่เธอพูดจาโจมตีอาหญิงถูกลดทอนออกไป แต่ช่วงที่อาหญิงยอมรับว่าทำเรื่องไม่ดีถูกเน้นออกมา
ใครฟังก็ต้องคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนเด็กดีปะทะกับอาหญิงที่ไม่รู้จักโต
พ่ออวี๋โมโหจนถีบประตูออกไปแล้ว ส่วนแม่อวี๋เดินไปเดินมาด้วยความโกรธ
“น่าโมโหที่สุด แย่มากจริงๆ”
“ความผิดหนูเองค่ะคุณน้า ถ้าหนูอดทนก็คงดี” เสี่ยวเชี่ยนขอโทษอย่างไม่มีความจริงใจสุดๆ
“นี่มันไม่ใช่ปัญหาของหนูตั้งแต่แรกแล้วจ้ะ หนูทำดีแล้ว น้าโกรธที่อาหญิงไม่รู้จักโตสักที อายุปาเข้าไปขนาดนี้แล้วทำไมถึงได้ทำเรื่องเด็กๆแบบนั้น? แย่ที่สุด”
แม่อวี๋โมโหมากไม่ไหวแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนยืนตรงก้มหน้า ทำท่าทางเป็นเด็กน่าสงสาร
แต่ในใจคิดว่า วิธีของเธอดูจะเป็นนางร้ายมากไปหน่อย แต่ทำไงได้ ใครใช้ให้อาหญิงแผนเยอะนัก มีแต่วิธีแบบนี้แหละถึงจะเอาอยู่
ทำตัวยืนอยู่ข้างศีลธรรม ทำตัวเองให้ชัดเจน สุดท้ายยังสามารถยืมมือของพ่ออวี๋แม่อวี๋จัดการอาหญิงได้ ความโกรธได้ระบายออกไปแล้ว ครั้งนี้อาหญิงได้กลัวจนหัวหดแน่
เรื่องนี้เสี่ยวเชี่ยนได้ประเมินส่วนได้ส่วนเสียไว้ก่อนแล้ว ถ้าทำตามวิธีที่เธอพูดทำลายชื่อเสียงของอาหญิงเอาให้ลุกขึ้นยืนไม่ได้อีก สะใจก็จริง แต่ผลที่ตามมาอาจมีมากกว่านั้น
ไม่มีกำแพงที่ลมผ่านไม่ได้ ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของพลตรีอวี๋ที่ให้ความสำคัญกับพี่น้อง เธอก็อาจจะกลายเป็นคนที่ใจไม้ไส้ระกำในสายตาตระกูลอวี๋
อวี๋หมิงหลางเป็นผู้ชายที่ปกป้องคนของตัวเอง เขาไม่มีทางว่าอะไรเธอเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขาจะคิดอย่างไร ต่อให้อาหญิงมีความผิดจริง แต่การที่เสี่ยวเชี่ยนข้ามหัวผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองไปจัดการอาหญิง จากคนที่มีเหตุผลก็อาจจะกลายเป็นไร้เหตุผลได้
การขู่อาหญิงเสร็จแล้วค่อยมาจัดการทางด้านพ่ออวี๋แม่อวี๋ ไม่เพียงแต่จะรับประกันเรื่องที่อาหญิงจะไม่ก่อเรื่องอีก ยังได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าพ่ออวี๋แม่อวี๋ด้วย อาหญิงเมื่อเทียบกับเสี่ยวเชี่ยนแล้วตอนนี้อยู่กันคนละระดับ
“ยังดีนะที่หนูเป็นเด็กฉลาด ไม่อย่างนั้นคนอย่างอาหญิงอาจจะไปก่อเรื่องอย่างอื่นอีก เรื่องนี้หนูจัดการได้ดีมากจ้ะ น้ารับรองนะว่าจะให้ความยุติธรรมกับหนู เรื่องที่เขาทำสมัยสาวๆน้าอดทนมาเกินพอ แต่เขาแก่แล้วกลับยังคิดไม่ได้ ยังกล้ายุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่นอีก น้าให้อภัยไม่ได้แล้ว”
แม่อวี๋แค้นอาหญิงทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้
“งั้นคุณลุงจะว่าอะไรหนูหรือเปล่าคะ?”
“เขาไม่พอใจก็ไม่มีประโยชน์ อาหญิงทำถึงขนาดนี้แล้วความผิดครึ่งหนึ่งก็มาจากพี่ที่ไม่ได้เรื่องอย่างพวกเขานั่นแหละ บอกให้หัดควบคุมน้องสาวตัวเองบ้างตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่ลงมือทำกัน แล้วเป็นไงล่ะ ตอนนี้งามหน้านัก สาเหตุที่แท้จริงก็ตาแก่นั่นแหละ”
แม่อวี๋เริ่มเสียงดัง พ่ออวี๋ที่สูบบุหรี่อย่างใจเย็นอยู่ในห้องรับแขกได้ยินเข้าจึงเดินเข้ามาด้วยความโมโหแล้วชี้แม่อวี๋
“ทำไมอะไรก็มาโยนที่ผมหมด เขาทำผิด คุณอยากจะว่าจะสอนก็ตามใจ แล้วผมไปเกี่ยวอะไรด้วย?”
“ตาแก่อย่ามาปัดความรับผิดชอบนะ เรื่องที่เขาทำคิดว่าแค่ดุแค่สอนแล้วจะจบเหรอ? นี่ถ้าเสี่ยวเชี่ยนไม่ฉลาด รู้จักหยุดเรื่องนี้ก่อนที่จะบานปลาย ไม่งั้นพวกเราไม่ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไปแล้วเหรอ? อวี๋เว่ยกั๋ว เรื่องนี้คุณคิดจะจัดการยังไง คุณให้ฉันอดทนมาทั้งชีวิตฉันก็ไม่พูดอะไร ถ้าคุณกล้าให้ลูกสะใภ้ฉันอดทนอีกล่ะก็ ฉันจะไม่อยู่กับคุณแล้ว”
พ่ออวี๋โมโหคิดจะปาบุหรี่ในมือทิ้ง แต่หันไปเห็นแม่อวี๋ถลึงตาใส่ กล้าทิ้งเรี่ยราดก็ลองดูสิ
พ่ออวี๋มองหารอบๆก็ไม่เห็นที่ทิ้งจึงสูบต่อเข้าไปเต็มปอดเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ จากนั้นจึงพูดต่อ “นี่คุณช่วยมีเหตุผลหน่อยได้ไหม? ผมพูดอะไรแล้วเหรออยู่ๆจะมาหาเรื่องไป? เรื่องความขัดแย้งข้างนอกพวกเราก็มานั่งหาวิธีช่วยกันแก้ไขสิ คุณอย่าเอะอะก็พูดเรื่องหย่า”
ก่อนหน้านี้แม่อวี๋ยังโมโหดุจฟ้าผ่า พอได้ยินพ่ออวี๋พูดแบบนี้อยู่ๆก็หัวเราะออกมา เสี่ยวเชี่ยนที่กำลังดูฉากนี้อย่างสนุกสนานถึงกับตกใจ
แม่อวี๋ชี้หน้าสามีแล้วพูดอย่างได้ใจ “อวี๋เว่ยกั๋ว เหล่าอวี๋ ในที่สุดก็ยอมรับแล้วว่าเขาเป็นคนนอก คุณไม่เข้าข้างเขาแล้วเหรอ? ไม่บอกว่าเขาเป็นคนในครอบครัวแล้วเหรอ?”
พ่ออวี๋รู้สึกอาย ยายแก่คนนี้นี่ อย่ามาคิดบัญชีต่อหน้าเด็กมันได้ไหม ช่วยไว้หน้ากันบ้าง…
“คือว่า งั้นหนูขอตัวหลบไปก่อนนะคะ” เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าตัวเองควรถอย แต่แม่อวี๋รั้งเธอไว้
“เสี่ยวเชี่ยนหนูไม่ต้องไป เรื่องนี้พวกเรามีเหตุผล แล้วหนูเป็นเจ้าทุกข์ทำไมต้องหลบ? อยู่ฟังตรงนี้นี่แหละ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่สอนพวกเราไว้ว่า คัดสิ่งไม่ดีทิ้งเหลือแต่สิ่งดีๆไว้ แยกของปลอมออกจากของจริง พัฒนาจากภายนอกสู่ภายใน ปัญหานี้ร้ายแรงมาก หลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องแก้ไข”
“ผู้นำที่ยิ่งใหญ่สอนพวกเราไว้ว่า ไม่มีความรักที่ไร้สาเหตุ ความเกลียดชังก็เช่นเดียวกัน ครั้งนี้เสี่ยวฝานทำผิดร้ายแรงจริงๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ก็ใช่ว่าจะสั่งสอนไม่ได้ พวกเราต้องตามหาสาเหตุ หาแรงจูงใจของเขาแล้วสั่งสอนให้ดี แก้ไขในสิ่งที่ผิด”
“ไปปกป้องไกลๆเลย ท่านผู้นำยังกล่าวอีกว่า ถ้าพวกมันจะบุกก็ต้องจัดการพวกมันให้สิ้นซาก เรื่องก็เป็นแบบนั้นนั่นแหละ ถ้าเขามาโจมตี พวกเราทำลายเขาซะ แล้วเขาก็จะสบาย จัดการได้น้อยก็สบายน้อย จัดการได้มากก็สบายมาก จัดการให้สิ้นซากได้ก็จะสบายสุดๆ ถ้าเขามาพวกเราก็จะสู้ สู่เพื่อชิงความสงบสุข”
เดินร่วมกันมาตั้งแต่ยุคสมัยสร้างประเทศ ท่องกันมาเป็นชุดๆ ไม่มีใครยอมใคร เสี่ยวเชี่ยนยืนฟังทั้งสนุกทั้งเพลิน
แม่อวี๋เถียงสู้จนพ่ออวี๋พูดไม่ออก ทำได้แค่สูบบุหรี่เข้าไปเต็มปอด พ่ออวี๋ที่อยู่ข้างนอกออกจะมีบารมี แต่กลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับปัญหาของน้องสาวตัวเอง แม่อวี๋จัดการเหยียบเขาเสียแบน พ่ออวี๋ไม่เคยจนมุมแบบนี้มาก่อน แต่ใครใช้ให้เขาเลี้ยงน้องจนเสียนิสัยแบบนี้ล่ะ
สถานการณ์ครอบครัวกำลังวิกฤต เสี่ยวเชี่ยนเห็นคนแก่ทั้งสองใกล้ได้ลงไม้ลงมือเต็มทีก็รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ตัวเองจะได้ทำตัวเป็นคนดี ได้เวลาทิ้งไพ่เพื่อจบเกม
ทั้งต้องปลอบให้แม่อวี๋สบายใจขึ้น ทั้งต้องดึงพ่ออวี๋ที่จุดยืนไม่ชัดเจนให้มาเป็นพวกให้ได้