ตอนที่ 56 : เริ่มการแข่งขันอสูรนัดแก้ตัว
เมื่อตกลงเรื่องนี้กันเสร็จแล้ว ครูก็ได้พากลุ่มนักเรียนของตนกลับเข้าไปในเมือง เพราะมันไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่นาน ๆ
เมื่อเข้ามาในเมืองแล้ว รถโรงเรียนก็จอดรออยู่ รถที่ใช้น้ำมันนั้นมีน้อย นอกจากรถบัสแล้ว ดังนั้นจึงมีรถไฟคอยบริการผู้คน
ที่ประตูเมือง มีฐานของทหารที่คอยดูแลกำแพงอยู่
ฐานนี้คือที่พักของทีมลาดตระเวนของเมืองอรุณ ส่วนลานนั้นได้กลายเป็นที่จอดรถ, เครื่องบินและจุดรวมพลของทหารแทน
เมืองอรุณก่อตั้งมาแค่ไม่กี่สิบปี มันได้รับการโจมตีจากสัตว์อสูรอยู่หลายครั้ง
สัตว์อสูรจำนวนมากภายใต้การนำของสัตว์อสูรระดับสูงได้แห่กันเข้ามาไม่ต่างจากฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้า
ถ้าไม่ใช่เพราะกำแพงเมือง งั้นผู้คนในเมืองคงได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ดังนั้นจึงมีการจ้างทหารรับจ้างเพื่อกำจัดสัตว์อสูรด้านนอกเมือง หนึ่งก็เพื่อเก็บวัสดุของมัน อีกอย่างคือป้องกันสัตว์อสูรเติบโตเร็วเกินไป จนทำให้พวกมันแห่กันมาโจมตีเมืองอีกครั้ง
การปรากฏตัวของฝูงสัตว์อสูรนั้นจะทำให้เมืองอรุณได้รับความเสียหายอย่างมาก นี่ไม่ต้องพูดถึงคนที่เสียชีวิตเลย แค่อาวุธและกำแพงที่เสียหายก็ทำให้เสียเงินจำนวนมากแล้ว
ไม่มีใครต้องการให้ฝูงสัตว์อสูรแห่กันมา เมื่อพวกมันแห่กันมาแล้ว ทุกคนในเมืองจะอยู่ด้วยความกังวล
ครูและนักเรียนกลุ่มแรกได้ขึ้นรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปที่โรงเรียน
เกือบ 2 ชั่วโมงต่อมาหลังจากที่มาถึงหน้าโรงเรียน ทุกคนก็ได้ลงจากรถ
พวกตระกูลที่ร่ำรวยได้ส่งรถมารับลูกของตนที่นี่ ส่วนพวกเด็กทั่วไปก็พากันพักที่โรงเรียนก่อนคืนหนึ่ง
หวังเย่าไม่ได้เลือกที่จะกลับห้องพักเพราะเขากังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง
วันต่อมาโรงเรียนก็มีการเปิดรับสมัครเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนทั้ง 400 คนมีสิทธิ์เลือกมหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการได้
แม้ว่าในใจหวังเย่าอยากจะเข้ามหาวิทยาลัย แต่มันก็ต้องใช้เงินก้อนโต ดังนั้นเขาต้องคิดทบทวนเรื่องนี้ให้ดี
“มหาวิทยาลัยหัวเซี่ยเป็นตัวเลือกแรกของฉัน ตามด้วยมหาวิทยาลัยอรุณ ยังไงซะฉันก็คุ้นเคยกับที่นี่ แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยตัดขวางก็ถือว่าดี”
หวังเย่ารีบกรอกข้อมูลของตนลงไปทันที
มหาวิทยาลัยตัดขวางอยู่ใกล้กับเทือกเขาตัดขวาง สภาพแวดล้อมที่นั่นย่ำแย่มีแต่ความหนาวเย็น มีคนไม่มากที่เลือกจะเรียนที่นั่น มันแทบจะถือว่าเป็นที่รวมตัวของสัตว์อสูรก็ว่าได้
ส่วนมหาวิทยาลัยสันเรือง, มหาวิทยาลัยเขานภาและที่อื่น ๆ ล้วนอยู่ไกลจากที่นี่มาก
เทือกเขาตัดขวางอยู่ใกล้กับที่ราบสูงทิเบตและภูเขาหิมาลัย ถือว่าเป็นสรวงสวรรค์ของเหล่าสัตว์อสูร หวังเย่ามีระบบคอยช่วยเหลือ หากไปที่นั่นก็เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่า
เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จเขาก็ได้กลับไปที่คลับเพื่อเรียนเรื่องการใช้มีดและธนูต่อ
พริบตาเดียวก็ผ่านไป 3 วัน การแข่งขันอสูรนัดแก้ตัวของเมืองอรุณก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้มีแค่พวกที่เลือกเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้นทีมีสิทธิ์เข้าร่วมได้
มันมีโรงเรียนกว่า 56 แห่งในเมืองโดยแต่ละโรงเรียนนั้นมีคนหลายร้อยคน หากทุกคนเข้าร่วมการแข่งขัน งั้นมันก็ถือว่าเป็นงานใหญ่
แต่นักเรียนส่วนมากนั้นรู้ตัวเองดี
การแข่งขันครั้งนี้ก็เพื่อเลือกนักเรียนที่โดดเด่นเข้าร่วมมหาวิทยาลัยชั้นนำ
ผลลัพธ์ของการแข่งขันนี้จะถูกบันทึกไว้ในอินเตอร์เน็ตเพื่อที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะได้พิจารณาข้อมูลเหล่านี้ในการรับคน
การแข่งขันจัดขึ้นที่ใจกลางเมืองอรุณ โดมแสงคือตึกที่รูปร่างเหมือนกับรังนกซึ่งจุคนได้กว่าแสนคน
หวังเย่าได้เดินตามครูจากโรงเรียนศิลาศักดิ์สิทธิ์เพื่อไปยังโดมแสงโดยมีคนอื่นอีกกว่า 200 คนที่คิดจะเข้าร่วมการแข่งขันนี้
ตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากทั้งคนดูและคนสำคัญจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาตรวจสอบการแข่งขันนี้
ในโดมแห่งนี้มีลาน 10 แห่งที่ใช้สำหรับการทดสอบ
ระบบการแข่งขันนี้ก็ง่าย ๆ มันมีการคัดตกรอบ แต่ละคนจะมีโอกาสแค่ 3 ครั้ง จะต้องชนะอย่างน้อย 1 หรือ 2 ครั้งเพื่อเข้ารอบต่อไป ไม่งั้นแล้วก็ถือว่าตกรอบ
หวังเย่านั่งรออยู่อย่างเงียบ ๆ และพูดคุยกับจ้าวเมิ่งซี
ทุกคนได้หมายเลขของตัวเอง จากนั้นทางผู้จัดจะหาคู่ต่อสู้ให้ ดังนั้นมันจึงแทบไม่มีปัญหากับระบบการจัดการนี้
ไม่นานที่ลานด้านบนก็มีชายวัยกลางคนเดินขึ้นมา เขาแผ่พลังที่น่ากดดันออกมา
“นั่นพ่อของจ้าวเมิ่งซี” หลายคนพากันอุทานออกมา
หวังเย่าเองก็มองไปที่ชายวัยกลางคนก่อนจะสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่คุ้นเคย เขาน่าจะเป็นชายที่สวมหน้ากากดาบในตลาดมืดวันนั้น
“ไม่คิดเลยว่าพ่อของเธอ จ้าวจวินจ่าง จะเป็นเจ้าภาพของการแข่งขันนี้” หวังเย่ายิ้มออกมา
จ้าวเมิ่งซีพยักหน้าและพูดขึ้น “การแข่งขันนี้ถือว่าเป็นการทดสอบที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้เป็นนักเรียนชั้นนำ แต่ก็อาจจะได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยทั้ง 36 แห่ง ตราบใดที่ทำได้ดีก็เพียงพอแล้ว มันอาจจะมีกองกำลังอื่นที่เล็งเห็นถึงความสามารถของเด็กและรับไปฝึก ฝ่ายกองทัพของพ่อเองก็ต้องการทหาร ดังนั้นพวกเขาจึงมาเลือกคนจากที่นี่ไปทุกปี”
หวังเย่าแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
เมื่อลองคิดดูแล้วมันมีกองกำลังกี่แห่งกันในเมืองอรุณ ส่วนมากแล้วต่างก็ฝึกคนของตัวเองทั้งนั้น
ยกตัวอย่างเช่นกองกำลัง 4 ดาวอย่างกองกำลังกระทิงที่ควรจะมีทหารของตัวเอง ไม่งั้นแล้วคงไม่มีใครคอยปกป้องทรัพย์สินของพวกเขาเอาไว้
แม้ว่าจะมีทรัพยากรไม่มากในเขตลับ แต่แค่พื้นที่อีกฝั่งของมิติก็ล้ำค่าอย่างมากแล้ว หากจำเป็นมันก็ย้ายผู้คนเข้าไปพักอาศัยด้านในได้
นอกจากกองกำลังทหารรับจ้าง, กองกำลังเมือง, กองกำลังทหาร, ตำรวจและหน่วยงานทางการอื่น ๆ แล้ว ทุกปีก็จะมีการรับคนจากกองกำลังอื่น ๆ อยู่ด้วย
ดังนั้นตราบใดที่มีความสามารถ งั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะตกงาน
จ้าวจวินจ่างได้ประกาศชื่อของจ้าวเฮยหลง เขาเดินขึ้นมาบนเวทีแล้วมองไปรอบ ๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้ทุกคนต้องใจสั่น ตอนนั้นทุกคนต่างก็พากันเงียบไป
หวังเย่าทึ่ง ชายคนนี้แข็งแกร่งจริง ๆ แค่มองก็ทำให้ทุกคนเงียบได้แล้ว รึว่าจ้าวเฮยหลงจะใช้สกิลของอสูรถึงทำแบบนี้ได้?
หวังเย่าเชื่อว่าคงจะเป็นอย่างหลังมากกว่า
“ การแข่งขันของผู้ใช้อสูรในวันนี้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว ฉัน จ้าวเฮยหลง หัวหน้ากองกำลังมังกรดำของเมืองอรุณจะเป็นผู้ดูแลการแข่งขันครั้งนี้ หวังว่าพวกเธอจะทำให้ดีที่สุด “
“ในเวลาเดียวกันในฐานะผู้ตรวจสอบของฝ่ายทหารแล้ว ฉันจะมาคัดเลือกคนเพื่อเข้าร่วมกองกำลังทหารด้วย ตราบใดที่ทำได้ดีพอ พวกเธอก็จะถูกเลือกอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วยังมีตัวแทนของกองกำลังอื่น ๆ มาที่นี่ด้วย ดังนั้นแสดงความสามารถทั้งหมดของตัวเองออกมาเพื่ออนาคตของพวกเธอเอง”
“ฉันจะไม่พูดไร้สาระแล้ว ฉันขอประกาศเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ”