บทที่ 53 คนทั่วไป[รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 53 คนทั่วไป[รีไรท์]

“นี่มันอะไรกัน ผู้หญิงคนนี้เก่งกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” นักพนันหนุ่มความตกใจจนได้แต่บ่นพึมพำ

อันที่จริงเขาคิดจะเข้าไปสนับสนุน แต่ทว่าเพียงแค่กะพริบตา ทุกคนก็กลับไปนั่งอยู่ที่เดิมแล้ว ราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยเคลื่อนไหวมาก่อน “บ้าจริง ดูท่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีแล้วสิ เมื่อกี้แค่พริบตาเดียวเองนะ”

นักพนันหญิงหันหน้าไปจ้องคำพูดลวก ๆ ของนักพนันหนุ่ม แล้วสายตาก็มองมาที่ร่างของฉู่ชวิ๋น ด้วยแววตาที่ตกใจกลัว ชายหน้าบากใบหน้าโง่งม มือแข็งกระด้างค้างบนอากาศท่าทางน่าขัน

“คุณชายท่านนี้ จุดประสงค์ของการมาในวันนี้ไม่ใช่เพราะเงินใช่ไหม?” แววตาเป็นประกายของชายชราถลึงตาจ้องมองฉู่ชวิ๋นและพูดขึ้นมา

“มาเพราะคนคนหนึ่ง” ฉู่ชวิ๋นตอบแบบกระชับได้ใจความ

“มาเพราะคนคนหนึ่ง? สามารถบอกมาได้หรือไม่?”

“เขา” ฉู่ชวิ๋นชี้นิ้วไปยังชายหน้าบาก

“ฉัน?” ใบหน้าของชายหน้าบากเต็มไปด้วยความแปลกใจ

ฉู่ชวิ๋นค่อย ๆ ยืนขึ้นและถอดหน้ากากออก “เออ แกนั่นแหละ!”

เมื่อใบหน้าที่แท้จริงของฉู่ชวิ๋นถูกเปิดเผย สีหน้าของชายหน้าบากก็เปลี่ยนไปทันทีและหายใจเข้าออกแรง ๆ ฉู่ชวิ๋นแววตาเปลี่ยนไป เขาคาดไม่ถึงว่าชายหน้าบากจะรู้จักเขา ดูท่าแล้วการเดินทางครั้งนี้จะไม่สูญเปล่าจริง ๆ

ในสถานการณ์นี้ยังมีอีกคนที่สีหน้าเปลี่ยนไป นั่นก็คือหงหลิง นอกจากเฉินฮั่นหลงแล้ว เธอคือคนที่รู้ว่าฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งขนาดไหน?

“บ้าจริง หล่อกว่าฉันจริงด้วยว่ะ” นักพนันหนุ่มจ้องมองโฉมหน้าของฉู่ชวิ๋นแล้วพึมพำ แต่คำพูดของเขาก็ถูกทุกคนเมินเฉย

ฉู่ชวิ๋นมองชายหน้าบากเงียบๆ ฉู่ชวิ๋นคิดว่าครั้งนี้อาจจะได้อะไรกลับไปก็ได้ ทางด้านชายหน้าบากก็มองฉู่ชวิ๋นอยู่เช่นกัน สีหน้าเปลี่ยนจากตกใจไปเป็นปกติ ในที่สุดก็ยิ้มมุมปากออกมา

“งั้นเหรอแบบนี้เอง ดูท่าวันนี้ฉันเองก็โชคเข้าข้างมากเหมือนกันนี่หว่า”

“โชคเข้าข้าง? ทำไมถึงไม่คิดว่าหายนะมาถึงแล้วล่ะ?” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยตอบเสียงเรียบ

“ฮ่า ๆ” ชายหน้าบากหัวเราะเสียงดัง

“ผู้รู้ย่อมรู้ตัว วันนี้แกหายนะมาถึงตัวแล้วจริงๆ นั่นแหละ”

“แกอยากฆ่าฉัน?” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างหยอกล้อ

“รู้ตัวก็ดีแล้ว ใช่ แกพูดถูกวันนี้แกต้องตาย!”

“ฉันขอรู้เหตุผลได้หรือเปล่า?” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างเรียบเฉย

“เหตุผลก็คือมีคนอยากให้แกตาย ที่จริงแกควรตายไปตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ฉันให้อิสระกับแกมาตั้งนานขนาดนี้ แกควรพอใจได้แล้ว เพราะงั้นตาย!” ชายหน้าบากกระโดดแล้วพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นอย่างรวดเร็ว

พอนักพนันหนุ่มรู้สึกตัวก็จะถลันพุ่งออกไปช่วย ทว่าถูกเฉินฮั่นหลงดึงตัวเอาไว้

“คุณไม่ห่วงเขาหรือไง?” นักพนันชายตกใจที่เฉินฮั่นหลงห้ามเข้า

เฉินฮั่นหลงหัวเราะขึ้นแล้วพูดว่า “บนโลกใบนี้ไม่มีใครทำอะไรนายท่านได้ ดูไปเถอะเดี๋ยวก็รู้เอง”

ชายหน้าบากพุ่งมาถึงตรงหน้าฉู่ชวิ๋น เขาชกหมัดที่รุนแรงไปยังตำแหน่งหัวใจของฉู่ชวิ๋น ถ้าหากว่าโดนหมัดนี้เข้าจริง ๆ คงเจ็บปวดมาก ราวกับว่าฉู่ชวิ๋นมองไม่เห็นหมัดที่จู่โจมมา จนโดนหมัดกระแทกเข้าเต็มๆ

“ปัง!” เสียงอันน่าอึดอัดทำให้ผู้คนใจเต้นแรงไปวูบหนึ่ง

เมื่อหมัดกระแทกเข้าที่หัวใจ ชายหน้าบากก็หัวเราะออกมาอย่างโหดเหี้ยม แต่เพียงพริบตาเขาก็ต้องตกตะลึง สายตาเหมือนมองเห็นผี

“ตึกตึก….”

เขาถอยหลังไปหลายก้าวถึงจะตั้งตัวได้ แขนขวาสั่นร้าว ชายหน้าบากมองไปที่ฉู่ชวิ๋นด้วยความตกใจ พลังหมัดของเขาสามารถทำลายกระดานไม้เป็นสิบอัน เขาได้ชกใส่หัวใจของฉู่ชวิ๋นแต่ทำไมเหมือนชกเหล็ก ถ้าไม่ใช่ว่าเขาออมแรงได้ทันแขนขวาของเขาคงหักไปแล้ว ตอนนี้แขนด้านขวาของเขายังคงชาอยู่เลย ตกตะลึง! ผู้คนต่างก็ตกตะลึงกันหมด

“ดูเหมือนว่าแกจะฆ่าฉันไม่ได้แล้วนะ!” ฉู่ชวิ๋นพูดเบาๆ

“ตู้ม!”

เกิดการระเบิดในอากาศดังขึ้น เมื่อทุกคนหันไปตามเสียง ก็พบแค่ชายชราที่กำลังพาชายหน้าบากที่อยู่ในสภาพมึนงงถอยห่างออกไปนับ 10 เมตร

ฉู่ชวิ๋นเอามือข้างหนึ่งไขว้หลัง แล้วมองพวกเขาอย่างใจเย็น สีหน้าของชายหน้าบากดูตกใจกลัว เมื่อกี้ถ้าไม่ได้ชายชราช่วยไว้ เขาต้องตายอย่างแน่นอน!

“คุณช่วยเขาไม่ได้หรอกนะ” ฉู่ชวิ๋นมองชายชราแล้วพูดขึ้นมา

“แม้จะช่วยไม่ได้ก็ต้องลองดู ถึงยังไงเขาก็ถือเป็นลูกศิษย์ของฉันครึ่งหนึ่ง” น้ำเสียงของชายชราเป็นปกติ แต่บีบรัดไปทั้งตัวและหัวใจ เมื่อกี้เพียงปะทะกันง่าย ๆ ก็ทำให้ชายชราหวาดกลัวจนตัวสั่น คนหนุ่มสามารถแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ

“ได้ งั้นผมจะให้โอกาสคุณ” สายตาของฉู่ชวิ๋นเริ่มเย็นชา

“ตู้ม!”

ลมปราณรอบตัวชายชราปรากฏออกมา รอบกายราวกับพายุเฮอริเคนชายหน้าบากถูกผลักดันออกไป ตอนนี้ ความเร็วของชายชราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้คนรอบ ๆ บริเวณเกรงกลัว ฉู่ชวิ๋นหรี่ตาแล้วชกหมัดออกไปร่างกายสั่นไหวขณะลมปราณล้อมรอบ

“ตู้ม..ตู้ม…”

ร่างของทั้งสองเต็มไปด้วยพลังลมปราณ หมัดและเท้าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนเกิดลมแรงกระจายออกไปทั่วทิศ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้พนันก็ถูกทำลายลง เฉินฮั่นหลงและคนอื่น ๆ ทำได้เพียงถอยออกมาห่าง ๆ

“ปัง!”

มีร่างหนึ่งลอยกระเด็นออกมา นั่นก็คือชายชรา ชายชราหมุนตัวกลางอากาศก่อนเท้าจะค่อย ๆ ลอยลงบนพื้นอย่างนิ่มนวล ผมบนหัวชายชรายุ่งเหยิงกระจัดกระจายและมีเลือดไหลออกที่มุมปาก ถ้าสังเกตดูฉู่ชวิ๋นดี ๆ จะเห็นว่าเขาใช้มือแค่ข้างเดียวเท่านั้น! หลังจากนั้นลมปราณรอบกายก็เบาลง

“นับเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์จริง ๆ” ชายชราไอออกมาหนึ่งครั้งแล้วพูดขึ้น

“ฉันบอกแล้ว คุณช่วยเขาไม่ได้” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา

“ยังไงก็ต้องช่วย” ชายชราไม่พูดอะไรมากมาย ร่างกายของเขาสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง เขาโผเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นอย่างไม่คิดชีวิต

“ตู้ม!” เสื้อของฉู่ชวิ๋นถูกลมปราณทำให้ฉีกขาด ดวงตาเขาเริ่มเย็นชา ใครที่กล้าขัดขวางไม่ให้เขาตามหาพ่อแม่ มันคนนั้นคือศัตรูของเขา!

ชายชราคือคนแรกในโลกนี้ที่เขาเห็นว่ามีลมปราณ ถ้าก่อนหน้านี้ขอเรียนกับเขา เขาอาจจะช่วยฝึกฝนให้ แต่ตอนนี้มันไม่ทันแล้ว! ฉู่ชวิ๋นชกออกไปหนึ่งหมัด ด้วยพลังที่แท้จริง

“ปัง!”

หมัดทั้งสองชกออกไปพร้อมกัน ลมพัดโหมกระหน่ำ

“กร๊อบ”

เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้น ชายชราปลิวไปกระแทกกำแพงและร่วงออกมาจนกำแพงเป็นรูปคน ชายชรายืนพิงผนัง กระอักเลือดออกมาคำโต แขนขวาไร้ซึ่งกำลัง เขาไม่เพียงแต่จะได้รับบาดเจ็บแต่ยังแขนหักอีกด้วย

ชายชราประเมินฉู่ชวิ๋นผิด คราแรกดูเหมือนว่าเขาจะมีพลังมากกว่า แต่หมัดสองหมัดนี้ทำให้เขารู้ว่าเขาคิดผิด ยังดีที่หมัดนี้ของฉู่ชวิ๋นมีเมตตา มิฉะนั้นคงถูกทำลายอวัยวะภายในจนหมดแน่ ในยุคนี้เรารู้หน้าไม่อาจรู้ใจคนได้เลย น่ากลัวจริงๆ

เมื่อเห็นชายชราล้มเหลว ชายหน้าบาก ก็เริ่มมีอาการโศกเศร้าเสียใจราวกับเห็นบิดามารดาเสียชีวิต และเมื่อชายคนนั้นได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของเฉินฮั่นหลง เพียงวูบเดียวความคิดชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นในใจ

ทันใดนั้น เขาก็พุ่งตัวเข้าไปปล่อยหมัดใส่เฉินฮั่นหลง ก่อนจะจับตัวเฉินฮั่นหลงไว้เป็นตัวประกัน เพื่อต้องการบังคับให้ฉู่ชวิ๋นยอมแพ้ แต่น่าเสียดาย แม้จะดูเป็นความคิดที่ดี แต่ในความจริงแล้ว มันก็ยังเป็นได้เพียงแค่ความคิดเท่านั้น

“กร๊อบ!”

เสียงแตกหักดังกึกก้อง ใบหน้าและกระดูกตามร่างกาย เริ่มมีแผลระบม ด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ทำให้ร่างลอยกระเด็นไปที่ชนกับผนังและภาพตรงหน้า ทำให้หลายคนต่างเริ่มรู้สึกหวาดกลัว

ชายหน้าบากเป็น หมดแรงเขาพยายามถมเลือดออกจากปาก สายตาจ้องมองไปยังฉู่ชวิ๋น ซึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาหาเขา ความรู้สึกที่ว่า โอกาสรอดชีวิต เริ่มค่อย ๆ สูญหายไปการโจมตีเมื่อกี้ไม่เพียงจะรุนแรงแต่ยังส่งผลไปถึงอวัยวะภายใน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการกระแทก เขาเริ่มรู้ตัวว่าแล้วว่า คงไม่รอดเป็นแน่

“ฮ่าฮ่า….” ชายหน้าบากส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“ตลกมากไหม?” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยปากขึ้นด้วยเสียงเรียบๆ

“ตลกสิ ตลกมาก…เลยล่ะ…” ชายหน้าบาก กระอักเลือดออกมาครั้งหนึ่ง แต่ยังพยายามทำให้อารมณ์เย็นลงและพูดต่อ

“ฉันหัวเราะให้กับความโง่เขลาของตัวฉันเอง ฉันควรจะฆ่าแกตั้งแต่ตอนที่แกเพิ่งเข้าคุกซะ ฉันเสียใจ ทำไมฉันให้โอกาสแกได้โต้ตอบวะ? แต่ฉันก็รู้สึกตกใจจริง ๆ ถูกจำคุกมา 3 ปี ทำยังไงถึงเปลี่ยนจากหนอนแมลงกลายเป็นยอดฝีมือแบบนี้ได้ล่ะ?”

ทุกคนต่างพากันตกใจ นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว ติดคุกอะไรกัน ใครจะสามารถจับคนแบบนี้เอาไว้ได้?

“ดูแล้วแกคงรู้เรื่องอยู่ไม่น้อยเลยนะ?” น้ำเสียงของฉู่ชวิ๋นเย็นชา แม้กระทั่งจังหวะการพูดก็ยังไม่เปลี่ยนไป

“แน่นอนฉันรู้ อีกทั้งยังรู้อีกเยอะมาก เพราะในปีนั้น ฉันนี่แหละเป็นคนส่งแกเข้าคุกเองกับมือ คิดถึงสภาพน่าเวทนาของแกตอนนั้นแล้ว ฮ่าฮ่า….” ชายหน้าบาก หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะจนแทบจะหายใจไม่ทัน

“ทำไม?” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างเย็นชา

“ฮ่าฮ่า……” ชายหน้าบาก มองฉู่ชวิ๋นด้วยความสงสาร

“3 ปีแห่งการถูกจำคุก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าทำไมตัวเองถึงถูกจับเข้าคุก แกนี่ช่างเป็นหนอนแมลงที่น่าสงสารเสียจริง ๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่เอาจริง ๆ นะ ฉันไม่คิดจะบอกแกหรอก!”

“ฉู่ชวิ๋น แกมันตัวซวย แกไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แกควรจะตายไปตั้งนานแล้ว การมีชีวิตอยู่ของแกเป็นบ่อเกิดของหายนะ แม้แต่พ่อแม่ของแกยังต้องมาร่อนเร่ พเนจรไร้ที่อยู่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้!”

เป็นครั้งแรกที่อารมณ์ของฉู่ชวิ๋นมีการเปลี่ยนแปลง ใบหน้าแสดงออกถึงความเจ็บปวด สองมือกำหมัดแน่นจนเล็บมือจิกเข้ากับฝ่ามือจนเลือดออก และยิ่งเห็นปฏิกิริยาของฉู่ชวิ๋น ชายหน้าบากเป็นก็ยิ่งหัวเราะดังขึ้นกว่าเดิม

“ฉู่ชวิ๋นฉันจะบอกให้นะ แกไม่มีวันจะสู้เขาได้ เขาคือฟ้า ส่วนแกเป็นแค่ฝุ่นที่น่ารังเกียจ ไม่ช้าก็เร็วแกตายด้วยน้ำมือของเขาอยู่ดี ฉันจะรอแกอยู่ในนรก ฮ่าๆ” ร่างกายของชายหน้าบากเป็น แข็งทื่อโดยที่มุมปากมีเลือดสีดำไหลออกมา

ฉู่ชวิ๋นตั้งสติได้ทันที เขาพุ่งเข้าไปราวกับสายฟ้า มือข้างหนึ่งแตะไปที่บนหัวของชายหน้าบากอย่างรวดเร็ว

“ทักษะดูดจิตวิญญาณ”

แต่ฉู่ชวิ๋นก็ต้องชักมือกลับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ช่างเป็นยาพิษที่รุนแรงจริงๆ เมื่อโดนมันเข้าก็ตายทันที แม้ว่าเขาจะอยากยืดชีวิตของชายคนนี้เอาไว้ ก็ทำได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เขาได้ความทรงจำสั้น ๆ จากสมองของชายหน้าบาก

ภาพนั้นคือห้องที่กว้างใหญ่โตหรูหราห้องหนึ่ง มีหนุ่มน้อยรูปหล่อท่าทางเอื่อยเฉื่อยคนหนึ่ง กำลังยืนสั่นอยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวสวยอีกคน ดวงตามันเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมขณะกำลังยิ้มและภาพนั้นก็ค่อย ๆ สลายหายไปพร้อมกับชีวิตของชายหน้าบาก เมื่อเขาเสียชีวิตลง ฉู่ชวิ๋นก็ได้รับข้อมูลมาเพียงเท่านี้

“โธ่เว้ย….”

ฉู่ชวิ๋นอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาจนแผ่นดินยังต้องสั่นไหว ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร? มัน คือ ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังใช่ไหม?