ตอนที่ 125 บุญคุณความแค้นมลายไปไวดุจสายลมพัดผ่าน (2)/ตอนที่ 126 ฮูหยินรองของสกุลฉิน (1)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 125 บุญคุณความแค้นมลายไปไวดุจสายลมพัดผ่าน (2)

เมื่อได้ยินคำสั่งสอนจากน่าหลานฉางเฉียน เฟิงหรูชิงไม่รู้สึกโกรธแต่กลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

นานแค่ไหนแล้ว ในความทรงจำขององค์หญิงคนเดิมที่ไม่ได้รับการสั่งสอนแบบนี้

เมื่อครั้งยังเด็ก ทุกครั้งที่องค์หญิงคนเดิมทำความผิด น่าหลานฉางเฉียนจะคอยตำหนิคอยสั่งสอนนางด้วยท่าทีจริงจัง แต่น่าเสียดาย สมัยนั้นองค์หญิงคนเดิมยังเด็กเกินไป ไม่เข้าใจเหตุผล ตั้งแต่ได้รู้จักกับหรงกุ้ยเฟยที่ตามใจนางทุกอย่าง นางก็รู้สึกรำคาญเวลาแม่ทัพน่าหลานตำหนิสั่งสอน

บวกกับการที่แม่ทัพน่าหลานไม่มีเวลาคอยชี้แนะสั่งสอนนางเป็นประจำ ส่วนเสด็จพ่อก็ยุ่งกับงานราชกิจ ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนนางได้ตลอด นางจึงค่อยๆ ถูกหรงกุ้ยเฟยหว่านล้อมครอบงำ เมื่อน่าหลานฉางเฉียนสั่งสอนนางอีกครั้ง เขากลับเป็นฝ่ายถูกองค์หญิงคนเดิมด่ากลับไม่เหลือชิ้นดี

หลังจากนั้นไม่นาน น่าหลานฉางเฉียนก็เลิกสั่งสอนนาง

ตอนนี้ เขายอมสั่งสอนนางอีก แสดงให้เห็นว่าเขาหายโกรธแล้ว

“ท่านยิ้มอะไร” น่าหลานฉางเฉียนเห็นว่าในสถานการณ์แบบนี้ เฟิงหรูชิงยังยิ้มออกมาได้ เขาจึงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม

เฟิงหรูชิงยิ้มและส่ายหน้า “ท่านลุง เสด็จพ่อข้าเป็นฮ่องเต้มีราชกิจมากมายต้องสะสาง เสด็จแม่ข้าก็สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ข้าอายุยังน้อย ข้าโชคดีที่ตอนเด็กๆ มีท่านคอยอบรมสั่งสอน แต่เพราะข้ายังเด็กไม่รู้ความ เลยรำคาญท่าน และยังหลงเชื่อหรงกุ้ยเฟย ที่ผ่านมาทำให้พวกท่านต้องผิดหวัง ต่อไปข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วเจ้าค่ะ”

น่าหลานฉางเฉียนตกใจตัวเกร็งไปหมด

สมัยนั้น เขามีเพียงลูกชายที่ชื่อน่าหลานจิ้งเพียงคนเดียว สำหรับเขาแล้ว เฟิงหรูชิงก็เปรียบเหมือนลูกสาวของเขา

ตอนเฟิงหรูชิงยังเล็กๆ เป็นเด็กที่ฉลาดและน่ารัก แต่พอได้เจอกับหรงกุ้ยเฟย ทุกอย่าง…ก็เปลี่ยนแปลงไป

“ความจริงแล้ว เป็นความผิดของข้าเอง” น่าหลานฉางเฉียนยิ้มเจื่อนๆ “หากข้ามีเวลาอยู่เป็นเพื่อนท่านมากกว่านี้ หากตอนนั้น…ข้าออกจากวังเป็นเพื่อนท่าน ท่านคงไม่มีโอกาสปล่อยให้หรงกุ้ยเฟยใช้ท่านเป็นสะพาน และคงไม่กลายเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนั้น”

“ท่านลุง ท่านคิดว่า…หากท่านขัดขวางการออกนอกวังเพียงลำพังของข้าได้ เฟิงหรูซวงก็จะไม่มีโอกาสช่วยข้าไว้ และข้าจะไม่รู้สึกซาบซึ้งน้ำใจของหรงกุ้ยเฟยใช่หรือไม่” เฟิงหรูชิงกลั้นยิ้มไม่อยู่ “ท่านคิดผิดแล้วล่ะ ไม่ว่าอย่างไร เฟิงหรูซวง…ก็จะช่วยข้าจนได้นั่นแหละ!”

คนที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่คนโง่ พวกเขาเข้าใจความหมายของสิ่งที่เฟิงหรูชิงพูด ไม่มีใครฟังไม่ออกว่ามันคืออะไร

“ชิงเอ๋อร์ เจ้าหมายความว่า…” แม่ทัพเฒ่าสีหน้าเคร่งขรึม เขากุมมือของเฟิงหรูชิงไว้แน่นและหายใจแรงด้วยอารมณ์โกรธ “ตอนนั้นที่เจ้าโดนลอบสังหาร เป็นฝีมือคนของหรงกุ้ยเฟยใช่หรือไม่”

เฟิงหรูชิงสีหน้าจริงจัง “ถ้าข้าไม่เข้าใจคนอย่างเฟิงหรูซวง ข้าอาจคิดว่าคนอย่างนางจะยอมสละชีวิตเพื่อช่วยข้า แต่ผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ จะยอมเสียสละตน…เพื่อคุณธรรมได้อย่างไร ก็เมื่อนางไม่ใช่คนแบบนั้น ข้าก็สงสัยแล้วล่ะว่าเป็นใครที่คิดลอบสังหารข้าตอนนั้น”

แม้แต่เสด็จพ่อก็ตามหามือลอบสังหารนั่นไม่ได้ ดังนั้น หรงกุ้ยเฟยคงไม่ธรรมดาอย่างที่ใครๆ คิด

เบื้องหลังของนาง คงมีคนที่เฟิงหรูชิงไม่รู้จักแน่นอน!

น่าหลานฉางเฉียนกำมือแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโมโหและร้ายกาจ

“หลิวหรง!”

ถ้าเรื่องในตอนนั้นเป็นฝีมือของนางจริงๆ นางก็เกือบจะทำลายชีวิตทั้งชีวิตของชิงเอ๋อร์ไปแล้ว

เขาไม่ยอมปล่อยนางไปเด็ดขาด ไม่ว่าเบื้องหลังของนางจะมีใครคอยให้ท้าย หลิวหรงสมควรตาย!

“ท่านลุง ไม่คุยเรื่องนี้ดีกว่าเจ้าค่ะ” เฟิงหรูชิงมองไปรอบๆ แล้วถาม “ทำไมข้าไม่เห็นท่านป้าเลยเจ้าคะ”

ด้วยใจรักที่ท่านป้ามีต่อไต้เอ๋อร์ การที่ไต้เอ๋อร์หนีออกไปนอกจวนแม่ทัพ นางต้องร้อนใจจนแทบบ้าแน่นอน ตอนนี้ไต้เอ๋อร์กลับมาแล้ว นางควรจะเป็นคนแรกที่ปรากฏตัว แต่จนถึงตอนนี้ นางยังไม่เห็นแม้แต่เงาของท่านป้า

…………………………………

ตอนที่ 126 ฮูหยินรองของสกุลฉิน (1)

น่าหลานฉางเฉียนอึ้ง เขาถอนหายใจด้วยความรู้สึกจนใจ

“ฮูหยินรองของสกุลฉินไม่สบาย เช้าวันนี้ป้าสะใภ้ของเจ้ารีบกลับไปที่บ้านสกุลฉิน ยังไม่กลับมา ข้าได้กำชับกับคนอื่นไว้ว่าอย่าให้นางรู้เรื่องไต้เอ๋อร์ เกรงว่า…ตอนนี้นางคงยังไม่รู้เรื่อง”

เฟิงหรูชิงเงียบ

ฉินเยว่ป้าสะใภ้เป็นคุณหนูใหญ่ของสกุลฉิน ฮูหยินรองของสกุลฉินก็คือน้องสะใภ้ของนาง นางเป็นคนขี้โรค ตั้งครรภ์ไม่สำเร็จสักที ทำให้คนสกุลฉินต้องเป็นกังวลมาตลอด

ต่อให้เป็นเช่นนั้นสกุลฉินก็ไม่ทอดทิ้งนาง ยิ่งไปกว่านั้นคุณชายฉินหลินของสกุลฉินก็ไม่คิดจะมีอนุภรรยา

“ท่านลุง ข้าหายตัวไปทั้งวัน เสด็จพ่อคงเป็นห่วงมาก ข้าขอกลับไปที่วังหลวงก่อน จากนั้น…ข้าค่อยไปเยี่ยมฮูหยินรองที่บ้านสกุลฉินสักหน่อย”

“เจ้า…จะไปบ้านสกุลฉิน?” น่าหลานฉางเฉียนรู้สึกเป็นกังวัล หน้านิ่วคิ้วขมวด

เฟิงหรูชิงอดยิ้มไม่ได้ “ท่านลุงกังวลว่าข้าจะเยาะเย้ยฮูหยินรองว่าเป็นแม่ไก่ไม่ออกไข่เหมือนเมื่อก่อนใช่หรือไม่”

ในฐานะที่ฮูหยินรองเป็นคนของสกุลฉิน แม้ปัญหาสุขภาพจะทำให้นางออกจากบ้านน้อยครั้ง แต่นางก็มักเจอเฟิงหรูชิงอยู่เสมอและเฟิงหรูชิงก็ชอบพูดเสียดสีนางเป็นประจำ มีครั้งหนึ่งที่นางยั่วโมโหฮูหยินรองจนแทบเป็นลมหมดสติไป

“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” น่าหลานฉางเฉียนมีสีหน้าแบบคนทำอะไรไม่ถูก “ข้าเป็นกังวลว่า… ฮูหยินรองกลัวเจ้า พอเห็นเจ้า…จะยิ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ”

เฟิงหรูชิงรู้สึกเซ็ง องค์หญิงคนเดิมก่อกรรมไว้มากมายเหลือเกิน ทำให้นางต้องมาคอยตามแก้

“ท่านลุง ให้ไต้เอ๋อร์ไปเป็นเพื่อนข้าก็พอ” เฟิงหรูชิงยิ้มและลูบหัวไต้เอ๋อร์ “มีไต้เอ๋อร์ไปด้วย พวกเขาคงไม่ไล่ข้าออกมา”

ขอเพียงได้เจอกับฮูหยินรอง…เรื่องอื่นๆ ก็เป็นเรื่องง่าย

ข่าวการกลับมาอย่างปลอดภัยของเฟิงหรูชิง กำลังเป็นที่โจษจันในวังหลวง มีทั้งคนที่รู้สึกโล่งอก และมีทั้งคนที่รู้สึกเสียดาย สำหรับหรงกุ้ยเฟยแล้ว นางโมโหเสียจนเกือบทำเครื่องกระเบื้องแตกจนหมดห้อง

นางโมโห! โมโหที่เฟิงหรูชิงไม่ตายๆ ไปเสียที? และโมโหที่เฟิงหรูชิงไม่เชื่อฟังนางเหมือนเมื่อก่อน!

นางอุตส่าห์วางแผนมานานหลายปี จึงทำให้ปีนป่ายมาอยู่ในตำแหน่งนี้ แต่จู่ๆ เฟิงหรูชิงกลับคิดได้ทำให้ความพยายามทั้งหมดของนางต้องพังไม่เป็นท่า!

นางจะไม่โมโหได้อย่างไร

“เฟิงหรูชิง! สิ่งที่น่าหลานเยียนติดค้างข้า ข้าจะทวงคืนจากเจ้า!”

แววตาของหลิวหรงเปลี่ยนไปดูมีประกายของความชั่วร้าย สีหน้าอันโหดเหี้ยมของนางช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน

เมื่อยี่สิบปีก่อน นางตกหลุมรักคนผู้หนึ่งทันทีเมื่อแรกเห็น

ในวันนั้นชายหนุ่มมากความสามารถและมีฐานะต่างรวมตัวกัน หนึ่งในนั้นมีเฟิงเทียนอวี้เมื่อครั้งยังเป็นรัชทายาทรวมอยู่ด้วย

เขาเป็นผู้มีความสามารถโดดเด่นเหนือใคร ใบหน้าที่สง่างามทำให้คนอื่นๆ กลายเป็นแค่ไม้ประดับทำให้เขายิ่งดูโดดเด่นขึ้นเท่านั้น

แต่น่าเสียดาย…

ในสายตาของชายผู้นี้ กลับมีน่าหลานเยียนคุณหนูใหญ่ของจวนแม่ทัพอยู่เพียงผู้เดียว!

ชายหนุ่มมากความสามารถและฐานะสูงส่งกับหญิงที่กริยามารยาทงดงามมากด้วยความสามารถ เมื่อเขาสองคนยืนคู่กันช่างดูเหมาะสมยิ่งนัก ส่วนนาง…ช่างแตกต่างราวฟ้ากับดิน

ทั้งๆ ที่นางเป็นคนชอบเขาก่อน ทำไม…ในสายตาของเขาจึงมีเพียงน่าหลานเยียน

นางรู้สึกเจ็บใจ!

ดังนั้นพ่อของนางกับบรรดาขุนนางใหญ่ทั้งหลายจึงร่วมมือกันบีบบังคับให้เฟิงเทียนอวี้รับนางเป็นสนมในพิธีสถาปนาฮองเฮา

ขุนนางทั้งหลายล้วนมีแผนของตัวเอง การจะส่งสาวงามให้ได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับฝ่าบาท พวกเขาจึงร่วมมือกันได้ง่ายแบบนี้

ขณะนั้นเฟิงเทียนอวี้ยังเป็นเพียงชายหนุ่ม พระราชบิดาก็สวรรคตแล้ว เขาจึงไร้ที่พึ่งพิงและบารมีก็ยังมีไม่มากพอ ไม่อาจต้านทานเหล่าขุนนางได้ เป็นโอกาสดีที่คนพวกนั้นจะกดดันเขา

……………………….