บทที่ 60 การผ่าตัดไส้ติ่งระดับแปดดาวแปดเพชร

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เฉินปิ่งเซิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย!

ความรู้สึกนี้มหัศจรรย์มาก ในตอนที่คุณตระหนักรู้เรื่องบางอย่างคุณจะรู้สึกสบายไปทั้งตัว เหมือนกับตอนคุณเรียนโจทย์ปัญหาฟังก์ชันจนพบกับคอขวด ผ่านไปนานก็ยังทะลวงคอขวดไปไม่ได้ แต่ข้อแนะนำและคำบรรยายของอาจารย์ทำให้คุณเข้าใจกระจ่างขึ้นมาโดยพลัน ความรู้สึกเหมือนทะลุผ่านหมอกหลายชั้นมาได้ ทำให้รู้สึกสบายจริงๆ!

ยิ่งเป็นศัลยแพทย์ก็ยิ่งเป็นเช่นนี้ ต้องการทะลวงคอขวดครั้งแล้วครั้งเล่า แบบนี้จึงจะพัฒนาตนเองได้ไม่หยุดหย่อน

หากต้องการทะลวงคอขวด จำเป็นต้องพบจุดอ่อนของตนเองเสียก่อน

คำวิจารณ์อันคมกริบของเฉินชางตรงจุดมาก แต่ละประโยคทำให้เฉินปิ่งเซิงรู้สึกเหมือนว่าหมอกที่บดบังสายตาเหล่านั้นกำลังสลายไป

เหล่าเฉินรู้สึกเบิกบานใจ แต่จู่ๆ สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นมา เมื่อคิดให้ละเอียดอีกครั้งก็เริ่มใจเย็นลง ใคร่ครวญปัญหาสำคัญในตอนนี้ก่อน เฉินชางรู้ได้อย่างไร?

เขาหันไปมองจางจื้อซิน พบว่าท่าทางของอีกฝ่ายค่อนข้างมีสีสัน สีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างงดงามเหมือนคนเป็นดาวน์ซินโดรมไปจนถึงคนเป็นอัลไซเมอร์ ตีความสีหน้าของศัลยแพทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เมื่อคิดดูแล้วก็เข้าใจว่าจางจื้อซินกำลังดื่มด่ำกับคำวิจารณ์เมื่อครู่นี้ของเฉินชางจึงไม่คิดรบกวน เพียงแต่สายตาที่ใช้มองเฉินชางลึกล้ำขึ้นเล็กน้อย

เด็กคนนี้…ตนประเมินพรสวรรค์ด้านการผ่าตัดของเขาต่ำเกินไป

แม้นี่เป็นแค่การผ่าตัดไส้ติ่ง แต่นั่นเป็นเพราะเขาเพิ่งเคยผ่าตัดไส้ติ่งอย่างเดียว!

*ถ้าหาก…*สายตาที่เฉินปิ่งเซิงใช้มองเฉินชางร้อนแรงยิ่งขึ้น ราวกับพบเป้าหมายใหม่!

เขาตัดสินใจแล้ว หลังจากผ่านช่วงนี้ไปเขาจะให้เฉินชางทำการผ่าตัดมากๆ สัมผัสกับการผ่าตัดใหม่ๆ ของศัลยแพทย์ให้มาก

ระหว่างมนุษย์เรามีช่องว่างอยู่บ้างจริงๆ เดิมทีคิดว่าช่องว่างของตนกับเฉินชางยังมีอยู่มาก แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว…

ผ่านไปนาน!

จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงทอดถอนใจดังมา!

เหล่าเฉินหันไปมอง เดิมทีคิดว่าเป็นจางจื้อซิน ผลกลับ…เห็นเฉินชางมองเหล่าจางอย่างทอดถอนใจ…

ภาพนี้ดูแปลกประหลาดจริงๆ

ตอนนี้เอง จู่ๆ จางจื้อซินก็หมุนตัวอย่างเบิกบานใจ มองเฉินชางและเฉินปิ่งเซิงด้วยรอยยิ้มหวาน

เขาไม่สนใจกระทั่งจะล้างมืออีก หันมากอดคอเฉินปิ่งเซิง พูดด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “เหล่าเฉิน ผมจะบอกอะไรคุณให้ คำพูดเมื่อครู่ของเสี่ยวเฉินทำให้ผมเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ถึงบางคำพูดของเขาจะไม่มีความหมาย คำพูดก็ดูไร้สาระ แต่บางประโยคก็มีเหตุผล!”

“ตอนนั้นผมรวมความรู้และประสบการณ์หลายปีของผมเข้าด้วยกันจนรู้สึกว่าระดับของตัวเองค่อยๆ เพิ่มขึ้น อีกเดี๋ยวตอนผ่าตัดผมจะอธิบายให้คุณฟัง จุ๊ๆ มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มากมายเลยทีเดียว”

“เสี่ยวเฉินไม่เลวเลย ผมว่าสายตาของคุณไม่เลวจริงๆ เรียนรู้ให้ดีๆ นะครับ อีกเดี๋ยวคุณทำการผ่าตัด ผมจะสอนคุณมือต่อมือเลย!”

เฉินชางตื่นตะลึง ผมพูดให้คุณฟังไปมากขนาดนั้น…คุณแค่บอกว่าผมมีวาทศิลป์ไม่มีประโยชน์อะไรอีก?

คุณมีมโนธรรมบ้างหรือเปล่า ผมวิจารณ์คุณไปแต่ละคำทั้งตรงจุดและคมกริบ แต่คุณมีพรสวรรค์จำกัด เรียนรู้ไม่ได้แล้วยังมาบอกว่าผมพูดจาเลอะเทอะอีก…

ช่างเถอะ!

พรสวรรค์ทางด้านศัลยกรรมทั่วไปของคุณมีจำกัด ไปเป็นหมอความงามของคุณต่อไปเถอะ…

เฉินชางถอนใจ

พึมพำในใจด้วยความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ น่าผิดหวังจริงๆ…

……

……

การผ่าตัดเคสที่สองเริ่มขึ้นแล้ว เฉินชางจ้องท้องผู้ป่วย สูดหายใจลึก

ตอนนี้เฉินปิ่งเซิงและจางจื้อซินจับจ้องมาที่เฉินชาง ไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงจ้องท้องจนนิ่งไปแบบนั้น

แต่ว่า!

พริบตาเดียว บรรยากาศของเฉินชางก็เปลี่ยนไป

จับมีดอย่างคล่องแคล่วคุ้นเคย กรีดลงไปเบาๆ ใช้มือจับด้ามค่อยๆ กดลงไป พริบตานั้นท้องก็เปิดออก!

เฉินปิ่งเซิงชะงักไปโดยพลัน เลือดล่ะ?

ทำไมถึงมีเลือดน้อยขนาดนั้น!

แต่ไม่นานเขาก็เห็นเลือดค่อยๆ ซึมออกมา ทว่ายังคงมีไม่มาก….

เหล่าเฉินเบิกตากว้าง รู้สึกเหลือเชื่อ นี่…ดูเหมือนจะทำได้คล่องมาก

เขายังพบอีกว่าวันนี้ท่าทางการจับมีดของเฉินชางเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่หยุด ตั้งแต่ผิวหนังไปจนถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง…แต่ละขั้นตอนมือของเฉินชางเปลี่ยนท่าทางการจับมีดอย่างเชี่ยวชาญ

นี่เหมือนมือใหม่ที่ไหนกัน?

ความรู้สึกนี้เหมือนจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดกำลังแสดงโชว์อยู่มากกว่า

พรสวรรค์ในด้านการผ่าตัดของเหล่าเฉินค่อนข้างยอดเยี่ยม มิฉะนั้นคงไม่ไต่เต้าจากแพทย์ดูแลไข้มาถึงระดับรองหัวหน้าแพทย์ได้หรอก

เขารู้จักการระดับทำงานของเฉินชางดี จนกระทั่งได้สัมผัสกับมีดเมื่อครู่นี้…แอบรู้สึกว่าอีกฝ่ายเก่งกว่าตัวเองไปแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินปิ่งเซิงก็เกิดความรู้สึกลึกซึ้งบางอย่าง เหมือนกับศิษย์เหนืออาจารย์ไปแล้ว? มีความรู้สึกยินดีและซับซ้อนเล็กน้อย

เฉินชางหลีกเลี่ยงเส้นเลือดที่ไม่จำเป็นต้องทำให้เสียหายไปได้อย่างหมดจด การลงมีดแม่นยำมาก

เพียงแต่เมื่อผ่าเปิดแล้ว…

จู่ๆ จางจื้อซินก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน คุณผ่าเปิดแผลเล็กไปหน่อยนะครับ อีกเดี๋ยวคุณจะทำงานไม่ได้”

จริงดังว่า แผลที่เฉินชางผ่าเปิดยาวประมาณสี่เซ็นติเมตร ไม่ได้กว้างมาก

เฉินชางพยักหน้า แต่เขาจงใจ เขาคิดว่าแค่นี้มากพอแล้ว

เรื่องการหาไส้ติ่งน่ะหรือ?

ไม่จำเป็นเลย การคลำไส้ติ่งไม่แตกต่างอะไรจากการคลำจมูก เรียบง่ายมาก ไส้ติ่งแต่ละประเภทถูกเฉินชางคลำหาออกมาได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงไส้ติ่งธรรมดานี้เลย คุ้นเคยยิ่งกว่ามือสองข้างของตนเสียอีก

การทำงานของเฉินชางดูธรรมดาและเรียบง่าย แต่ในความเรียบง่ายกลับมีความซับซ้อนผสมอยู่

เหล่าเฉินมองคล้ายถูกมอมเมา!

แม้แต่จางจื้อซินก็มองจนตาค้าง

เขาไม่ใช่คนโง่ ย่อมดูออกว่าการลงมือของเฉินชางคมกริบแค่ไหน!

ตอนนี้จางจื้อซินจึงค่อยรู้ว่าคำวิจารณ์ที่เฉินชางพูดกับตนเมื่อครู่นี้ไม่ได้ไร้สาระ ตนเองมีมันอยู่จริงๆ

ว่าแต่…เด็กคนนี้ร้ายกาจเพียงนี้เชียวหรือ?

ไส้ติ่งจะถูกเขาตัดออกมาราวตัดดอกไม้จริงหรือ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จางจื้อซินก็กลั้นใจสังเกตการทำงานทุกขั้นตอนของเฉินชางอย่างจริงจัง

หลิวเจี้ยนเป็นวิสัญญีแพทย์ ปกติไม่ชอบอยู่ในห้องผ่าตัด หลังจากรมยาเสร็จก็จะออกไปเลย แต่วันนี้เขาไม่ได้ออกไป กลับยืนอยู่ในห้องผ่าตัดมองการผ่าตัดไส้ติ่งอันสมบูรณ์แบบของเฉินชางอยู่เช่นนั้น หลังจากดูจบก็รู้สึกตื่นตะลึงหาใดเปรียบ

การผ่าตัดไส้ติ่งของเสี่ยวเฉินช่าง…ดีจริงๆ

เขาคิดคำบรรยายไม่ออก แต่เขาเคยเห็นการผ่าตัดมามาก การผ่าตัดเคสนี้ของเสี่ยวเฉินร้ายกาจมากจริงๆ

การผ่าตัดไส้ติ่งธรรมดาถึงกับทำให้หลิวเจี้ยนมองอย่างสนอกสนใจได้นานขนาดนี้

สุดท้ายเมื่อถึงขั้นเย็บผิดบริเวณผิวหนัง จางจื้อซินก็ยิ้มออกมา “เสี่ยวเฉิน เมื่อครู่คุณบอกว่าผมเย็บน่าเกลียดใช่หรือเปล่า? แต่ผมเป็นหมอความงามเฉพาะทาง คุณถึงกับพูดแบบนี้ออกมาได้ มาๆๆ ให้ผมดูคุณเย็บสักหน่อย”

เฉินชางยิ้มเล็กน้อย ทว่าเพราะสวมผ้าปิดปากทำให้มองไม่เห็น จึงจงใจส่งสายตาเป็นสัญญาณ “ดูให้ดีนะครับ!”

เขาถือเข็มถือแหนบไว้ในมือ เตรียมเย็บท้องได้ทุกเมื่อ!

ทักษะการเย็บผิวหนังของเฉินชางอยู่ในระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้นส่วนสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ตรงนี้ ส่วนสำคัญที่สุดก็คือเฉินชางเย็บแผลได้สวยมาก!

สุนทรียศาสตร์ในการเย็บแผลคือลักษณะพิเศษของเขาที่เกิดจาก [ดวงตาแห่งความงาม] เฉินชางสอดเข็มสอดด้ายอย่างเชี่ยวชาญ แทงเข้าไปที่ผิวหนัง ค่อยๆ ร่ายรำจนเกิดเป็นรอยเย็บจางๆ

นี่ทำให้จางจื้อซินที่เตรียมจะสั่งสอนเฉินชางต้องตื่นตะลึงไปในพริบตา!

เขายังไม่ทันพูดอะไร หลิวเจี้ยนวิสัญญีแพทย์ที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นมาก่อน “การเย็บนี้งดงามจริงๆ! เหล่าจาง คุณเป็นหมอความงามไม่ใช่หรือ? ทำไมผมรู้สึกว่าเขาเย็บสวยกว่าคุณอีกล่ะ!”

“เพียะๆๆ!” จางจื้อซินคล้ายได้ยินเสียงตบหน้าดังข้างหูตัวเองชัดเจน!

เมื่อย้อนคิดไปถึงเมื่อครู่นี้ที่เฉินชางวิจารณ์ว่าการเย็บแผลของเขาน่าเกลียด…จางจื้อซินพลันรู้สึกเศร้าใจ

เฉินปิ่งเซิงก็ถอนใจออกมา มองไปที่เหล่าจางอย่างเห็นใจ กล่าวปลอบใจว่า “ความจริง….คุณด้อยกว่านิดหน่อยเอง”

จางจื้อซินมองเฉินปิ่งเซิง เมื่อเห็นเฉินปิ่งเซิงปลอบใจตนก็ลอบพยักหน้าปลอบใจตัวเองบ้าง จางจื้อซินสู้ๆ! พวกคุณห่างกันไม่มาก นิดเดียวเท่านั้น จะต้องยืนหยัดตามไปให้ทัน!

มีบางคำที่เหล่าเฉินไม่ได้พูดออกไป เพียงแต่…นิดหน่อยของคุณมันค่อนข้างมากน่ะครับ

เมื่อเห็นจางจื้อซินเปี่ยมไปด้วยพลัง เหล่าเฉินก็ได้แต่ทอดถอนใจเบาๆ