ตอนที่ 30 จะรังแก พวกเจ้าจะทำไม

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

พ่อบ้านไป๋พูดจบก็ได้ยินเสียงนายท่านกล่าว “เพิ่มเงิน”

ยาเหย้าจี้นี้ประหลาดนัก เมื่อเห็นผู้เป็นนายมีท่าทีสนใจ พ่อบ้านไป๋ถึงกับตื่นเต้น

ทว่าสุดท้ายซวนหยวนจิ่วเยี่ยกลับเอ่ย “แต่ไม่จำเป็นต้องประมูล”

แข่งราคาแต่ไม่ประมูล นี่มันขุดหลุมดักองค์ชายรัชทายาทชัด ๆ

องค์รัชทายาทมักจะต้องการยั่วยุนายท่านอยู่บ่อยครั้ง แต่นายท่านไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย  วันนี้นายท่านเป็นอะไรจึงสนใจอยากจะต่อกรกับเขาขึ้นมา

ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง พ่อบ้านไป๋กล่าวออกไป… “เจ็ดแสนเหรียญ!”

ประกายเย็นวาบปรากฏในแววตาของซวนหยวนหลี่ซาง  เป็นเขาจริง ๆ

ถึงแม้จะไม่สามารถต่อกรกับเขาซึ่ง ๆ หน้าได้ แต่ก็เพิ่มความยุ่งยากให้เขาคลายความเกลียดชังที่ตนมีลงไปได้เช่นกัน  ดังนั้นซวนหยวนหลี่ซางจึงเพิ่มราคาขึ้นไปอีก

“แปดแสนเหรียญ!”

มู่เฉียนซีมึนงงไปชั่วขณะ  คนของราชวงค์ฮุบเงินนางไปมากและซวนหยวนหลี่ซาง องค์รัชทายาทก็เป็นหนึ่งในนั้น นางวางแผนที่จะเพิ่มราคาขึ้นแข่งเพื่อหลอกเอาเงินของเขา ไม่คาดคิดว่าจะมีคนชิงลงมือก่อน

และเสียงนั้น… ไม่ใช่พ่อบ้านไป๋หรอกหรือ ?

จิ่วเยี่ยอยู่ห้องข้าง ๆ นี่เองรึ ?

“เก้าแสน!” พ่อบ้านไป๋กล่าวต่อ

“หนึ่งล้าน!” องค์รัชทายาทสู้ราคาด้วยน้ำเสียงทุ้ม  จากนั้นเขามองขึ้นไปข้างบน  เอ่ยปากขึ้นเสียงดัง “นี่คือราคาสูงสุดของข้าแล้ว หากน้องเก้าพอใจ สามารถเพิ่มราคาอีกได้”

“ซี้ดดดด!”

“เป็นเยี่ยอ๋องจริง ๆ”

“สวรรค์เป็นพยาน! เยี่ยอ๋องอยู่ที่นี่… บ้านประมูลแห่งนี้”

พวกเขากระซิบ ทุกคนหน้าซีดเผือด เกิดความเงียบชวนอึดอัด

พ่อบ้านไป๋หัวเราะ “องค์รัชทายาทกังวลเกินไปแล้ว ชายชราอย่างข้ารู้สึกเบื่อจึงเรียกราคาเพื่อความสนุก นายท่านของข้าหาได้สนใจยาเหย้าจี้นี้ ชายชรายกให้ท่านแล้วกัน”

ใบหน้าองค์รัชทายาทปกคลุมไปด้วยเมฆดำ ฝ่ามือกำแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกดังกรึบ

ซวนหยวนจิ่วเยี่ย เกลียดนัก!  ข้ารับใช้ข้างกายก็ช่างโอหังต่อหน้าเขา

มู่เฉียนซีเข้าใจในที่สุดว่าเหตุใดซวนหยวนหลี่เทียนจึงเกรงกลัวพ่อบ้านไป๋นัก ขนาดองค์รัชทายาทก็ยังกล้าต่อกรไม่มีข้อยกเว้น

จากนั้นการประมูลเหย้าจี้ขวดที่สองก็เริ่มขึ้น หลังจากแย่งกันก็เพิ่มราคาได้ในราคาหกแสน ไม่มีใครให้เกินราคาที่องค์รัชทายาทให้เลย

ขวดที่สามผ่านไป

ขวดที่สี่  ขวดที่ห้า…

มีการแย่งชิงกันอย่างต่อเนื่อง ต่างฝ่ายต่างดุเดือดเลือดพล่าน  เพียงยาเหย้าจี้ชนิดแรกที่ปล่อยออกประมูลไปครึ่งหนึ่ง มู่เฉียนซีก็ได้สามล้านเหรียญทองคำมาอยู่ในมือแล้ว

ท่านผู้เฒ่าอาวุโสที่กำลังหน้าแดงแย่งยาวิญญาณโลหิต ไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเขาได้พ่ายแพ้พนันให้กับมู่เฉียนซีเสียแล้ว

“ยาวิญญาณโลหิตขวดสุดท้าย เริ่มต้นเสนอราคาได้!” ไฉ่ซวนกล่าวเสียงดัง ใส่อารมณ์ยั่วเย้าเข้าไปเต็มที่

“หกแสนเหรียญ” เสียงใสที่ฟังดูสบาย ๆ ดังลอยมาจากชั้นสี่ ห้องของตระกูลโอวหยาง

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของมู่เฉียนซี   โอวหยางเหว่ย ในที่สุดเจ้าก็เคลื่อนไหว

ตระกูลโอวหยางเป็นตระกูลที่ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้เป็นการส่วนพระองค์ ในแคว้นจื่อเยี่ยถือว่ามีความโดดเด่นมาก  ตระกูลนี้มีฮองเฮามาสามรุ่น เป็นอีกตระกูลนอกเหนือจากเชื้อพระวงศ์ที่ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกร

ทันทีที่คุณหนูใหญ่โอวหยางเสนอราคา  แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าแย่งชิงกับนาง

หากแต่บนชั้นห้าพลันมีเสียงทุ้มสง่างามดังลอดออกมา เป็นเสียงฟังสบายไม่ต่างกัน “หกแสนหนึ่งหมื่น”

ความโกลาหลเข้าครอบงำผู้คนอีกครั้ง คนบนชั้นห้าเริ่มเคลื่อนไหวในที่สุด

ฟังจากน้ำเสียงเหมือนยังเด็กอยู่ เหตุใดจึงกล้าต่อกรกับคุณหนูใหญ่ผู้ดื้อรั้นแห่งตระกูลโอวหยาง  ช่างใจกล้าเพียงใดกัน

“เจ็ดแสน!” โอวหยางเหว่ยกัดฟันพูด นางตั้งใจแล้วว่าขวดสุดท้าย อย่างไรก็ต้องสู้

หากแต่เสียงนุ่มนวลยังกล่าวเพิ่มราคา

“เจ็ดแสนหนึ่งหมื่น”

“แปดแสน!”

“แปดแสนหนึ่งหมื่น”

โอวหยางเหว่ยโกรธมากจนจะระเบิด ยามที่ฝ่ายตรงข้ามกล่าวราคา จะเพิ่มเงินหนึ่งหมื่นเหรียญทุกคราไป  ราวกับว่าฝ่ายนั้นกำลังกลั่นแกล้งนาง

โอวหยางเหว่ยหรี่ตาแคบลง “ท่านคงมีฐานะสูงส่ง เหตุใดจึงต้องกลั่นแกล้งสตรีตัวเล็ก ๆ เช่นข้า!”

“ข้าเนี่ยน่ะรึกลั่นแกล้งเจ้า ?” มู่เฉียนซีถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น  นางเอ่ยต่อ “ง่ายมาก หากคุณหนูโอวหยางไม่มีเงินก็อย่าเพิ่มราคาสิ”

“ให้ตายเถอะ คนอย่างข้าจะไม่มีเงิน ไม่มีทาง!”

เป็นเวลานานแล้วที่นางโดนเปรียบเทียบเรื่องเงินโดยคนงี่เง่ามู่เฉียนซี มันทำให้นางอารมณ์เสีย  แต่ตอนนี้กลับมีคนมาบอกว่านางไม่มีเงิน โอวหยางเหว่ยย่อมไม่ยอม

“หนึ่งล้านเหรียญ!”

ราคาที่องค์รัชทายาทให้คือราคานี้ ไม่คิดว่าคุณหนูโอวหยางจะกล้าเสนอราคาที่มากกว่า

“หนึ่งล้านหนึ่งหมื่น”

“หนึ่งล้านหนึ่งแสน!”

“หนึ่งล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่น”

“…”

“…”

“สองล้านเหรียญ!”

โอวหยางเหว่ยตะโกนเพิ่มราคาขึ้นสูงลิ่ว สติกลับมาอีกทีทั่วทั้งร่างก็แทบสั่นประหนึ่งถูกลมหนาวพัดโบก

สวรรค์! สองล้านเหรียญ ต่อให้เป็นยาระดับสามก็ยังไม่คุ้มกับราคานี้  ไยคุณหนูโอวหยางจึง… โง่เง่า

มู่เฉียนซีหยอกล้อ “อ่า… ในเมื่อคุณหนูโอวหยางต้องการยาเหย้าจี้นี้ ข้าน้อยก็สละให้ท่านแล้วกัน”

ยาเหย้าจี้นี้ถูกขายในราคาสองล้านเหรียญท่ามกลางปากที่อ้าค้างของใครหลาย ๆ คน

คุณหนูโอวหยางเป็นคนโผงผาง ขนาดราคาสองเท่าขององค์รัชทายาทก็ตะโกนออกมาจนได้

‘เสียสติไปแล้วหรือไร ?!’ ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวใจของใครหลายคน หากแต่เงินที่เสียไปมิใช่ของพวกเขา เช่นนั้นก็ปล่อยไปเสีย รอชมสินค้าประมูลรายการต่อไปดีกว่า

ต่อไปเป็นยาวิญญาณเร่งความเร็วที่สามารถเพิ่มความเร็วการฝึกฝนได้สามถึงสี่เท่า  ทำให้คนแทบคลั่ง

หากนำยานี้ไปให้ลูกหลานที่บ้านใช้ ไม่แน่อาจจะมีอัจฉริยะเพิ่มขึ้น

โอวหยางกำมือแน่นจนเล็บมือจิกเข้าไปในเนื้อ  ยาวิญญาณเร่งความเร็วนี้มีประโยชน์กับนางมาก แต่ว่า…

นางใช้เงินไปแล้วสองล้าน  ตอนนี้นางไม่มีเงินเหลือ ทำได้เพียงแต่ใช้สายตาจ้องมองยาเหย้าจี้นี้ตกเป็นของผู้อื่น

องค์รัชทายาทเองก็แสนจะหดหู่  เพียงเขาเสนอราคา พ่อบ้านไป๋แห่งจวนเยี่ยอ๋องก็เพิ่มราคาสูงไปอีก

แม้ว่าท้ายที่สุดเขาก็ซื้อเหย้าจี้ได้ กลับต้องจ่ายแพงกว่าคนอื่นถึงสองเท่า

ซวนหยวนจิ่วเยี่ยไม่ปกปิดความทะเยอทะยานไว้ เขาอยากจะต่อกรกับตนโดยตรงใชไหม ?

‘ตำแหน่งองค์รัชทายาทเป็นของข้า บัลลังก์ก็เป็นของข้า ไม่ใช่ของเจ้า ซวนหยวนจิ่วเยี่ย…’ ซวนหยวนหลี่ซางกำหมัดแน่นพูดในใจ

ในที่สุด การประมูลยาอันดุเดือดก็สิ้นสุดลง  ผ่านไปสองก้านธูป ชายฉกรรจ์คนนั้นก็ถูกเชิญออกมาใหม่ ตอนนี้เขาได้รับการฟื้นฟูเหมือนกับคนไม่เป็นอะไร

มันยากที่จะคาดคิด ก่อนหน้านั้นสองก้านธูปเขายังอยู่ในสภาพครึ่งตายอยู่เลย

ไฉ่ซวนยิ้ม “การประมูลจะดำเนินต่อไป  ของประมูลครั้งต่อไปคือ หญ้าแห้งเทียนหม่า, หญ้าฟ้าหยกห่าวหยวน, ดอกไทซือเฟิ่ง, บัวโพธิสัตว์…”

ไฉ่ซวนบอกรายการหลายอย่างจนทุกคนที่ได้ยินต่างเวียนหัว

สมุนไพรวิญญาณระดับสอง สมุนไพรวิญญาณระดับสาม สมุนไพรวิญญาณระดับสี่ และยังมีสมุนไพรวิญญาณที่ไม่เคยได้ยินชื่ออีก บ้านประมูลอันดับหนึ่งบ้าไปแล้วหรือไร ?  สมุนไพรวิญญาณมูลค่ามหาศาลยังจะนำออกมาประมูลอีก

“นี่… เอ่อ… แยกประมูลหรือว่าไม่แยก ?” ใครคนหนึ่งเอ่ยถาม

เวลานี้ทุกคนพูดไม่ค่อยชัดแล้ว

ไฉ่ซวนกล่าว “คนที่นำมาประมูลบอกแล้ว ให้เสนอรายการสมุนไพรวิญญาณพวกนี้ประมูลเป็นชุดทีเดียว การประมูลเริ่มที่หนึ่งล้านขึ้นไป”

ดวงตาของมู่เฉียนซีเบิกกว้าง นางรู้สึกว่าคนที่ส่งมาคงจะเสียสติ เหตุใดจึงนำสมุนไพรวิญญาณจำนวนมากมาประมูลเป็นชุดเหมือนกับซื้อขายผักกาดขาวเช่นนี้

มันเป็นการกระทำที่แปลกเกินไป แต่นางดีใจมาก

มีสมุนไพรวิญญาณหลายตัวที่นางต้องการรวมอยู่ในชุดด้วย ส่วนเรื่องเงิน…

ครั้งนี้ประมูลยาเหย้าจี้ระดับต่ำนั้นได้เงินมามากมาย ถึงนางไม่ได้นำยาเหย้าจี้ระดับสูง ๆ มาประมูล  แต่นาง ผู้นำตระกูลมู่ย่อมไม่มีการขาดแคลนเงินทอง

ไม่ว่าจะเป็นองค์รัชทายาทหรือคุณหนูใหญ่โอวหยาง ผู้นำตระกูลมู่อย่างนางก็มีทรัพย์สินเงินทองสามารถทับถมพวกเขาได้สบาย

มู่เฉียนซีกล่าวออกไปว่า… “สิบล้าน ข้าต้องการ”

“ซี้ดดดด!”

ทุกคนสูดลมหายใจเข้า เพียงชั่วอึดใจเดียว ราคาเพิ่มเป็นสิบเท่าแล้ว

สิบล้าน!  ไม่มีใครสู้ราคานี้ได้

เนื่องจากไม่มีใครเพิ่มราคา การซื้อขายนี้เป็นอันตกลง

“เช่นนั้นสมุนไพรวิญญาณพวกนี้เป็นของคุณชายที่อยู่ชั้นห้า”

มู่เฉียนซีมีความสุขนัก  แววตาเปล่งประกายยามมองสมุนไพรวิญญาณพวกนี้  นางเคยเป็นหมอปีศาจ สิ่งที่นางชื่นชอบที่สุดคือวัตถุดิบยาชั้นดี

ภายห้องถัดไป มุมปากของซวนหยวนจิ่วเยี่ยโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย

ไฉ่ซวนพูดต่อ “ถัดไป สิ่งของที่จะนำออกประมูลคือ….”

.