ตอนที่ 29 การประมูลยาอันดุเดือด

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“คุณหนูใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เห็นบ้านประมูลอันดับหนึ่งสุภาพกับคนธรรมดา  ต่อให้เป็นองค์รัชทายาทมาเอง ก็ยังไม่ได้การต้อนรับเช่นนี้! เขาเป็นผู้ใดกัน ?”

โอวหยางเหว่ยขมวดคิ้วมุ่น “คงเป็นคนที่บ้านประมูลอันดับหนึ่งให้ความสำคัญ”

เพียงแต่สายตาของคนผู้นั้นที่มองมาทำให้นางรู้สึกไม่ดี

สถานที่จัดประมูลของบ้านประมูลอันดับหนึ่งในแคว้นจื่อเยี่ยมีทั้งหมดหกชั้น  ชั้นหกเป็นห้องทำงาน ตั้งแต่ชั้นห้าลงไปเป็นที่สำหรับแขก

พนักงานพามู่เฉียนซีมายังห้องพิเศษชั้นห้า และชั้นห้าอีกห้องหนึ่งก็มีแขกเข้ามา

ไฟในห้องพิเศษสองห้องสว่างวาบขึ้นพร้อมกัน  เกิดเสียงฮือฮาในหมู่ผู้คนข้างล่างทันที

“เกิดอะไรขึ้น ? สองห้องนี้ว่างมาหลายปีแล้วไม่ใช่รึ ?”

“น่าแปลก เปิดทีก็เปิดสองห้องพร้อมกัน”

“…”

ในแคว้นจื่อเยี่ยทั้งหมด คงมีเพียงสามคนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำให้ห้องพิเศษนี้เปิดไฟได้  คนแรกคือฮ่องเต้ของแคว้นจื่อเยี่ย  คนที่สองคือคุณชายสามแห่งตระกูลมู่ มู่อวู่ซวง  และคนสุดท้ายคือเยี่ยอ๋องผู้ลึกลับ

ฮ่องเต้ไม่ได้มา คุณชายสามแห่งตระกูลมู่ก็เดินไม่สะดวก ไม่สามารถร่วมงานประมูลได้ เป็นไปได้หรือไม่ที่เยี่ยอ๋องอยู่ที่นี่

ชั่วขณะนั้น พวกเขาทุกคนต่างรู้สึกถึงความเย็นวาบทั่วแผ่นหลัง  แต่หากเยี่ยอ๋องมาที่นี่ แล้วอีกคนล่ะเป็นผู้ใด ?

ขณะที่ทุกคนกำลังคิดจนหัวแทบระเบิดแต่ก็คิดไม่ออกว่าแขกอีกคนคือผู้ใดอยู่นั้น การประมูลก็ได้เริ่มขึ้น

หญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงสั้นสีแดงเพลิงปรากฏตัวขึ้นอย่างเฉิดฉายบนเวทีการประมูล เรือนร่างเซ็กซี่ยวนเย้าดึงดูดสายตาคนส่วนใหญ่  สายตาของสตรีผู้นั้นสามารถดึงดูดวิญญาณเหล่าบุรุษน้อยใหญ่ให้ลอยละล่องตามไปได้ นางคือหัวหน้านักปรุงยาของบ้านประมูลอันดับหนึ่ง—ไฉ่ซวน

สาวใช้ที่อยู่ข้างกายของโอวหยางเหว่ยสบถด่า “นางจิ้งจอกไร้ยางอาย! กล้ามากที่แต่งกายล่อเสือล่อตะเข้”

ไฉ่ซวนยิ้ม เอ่ยขึ้น “คิดว่าทุกท่านคงสงสัยว่าเหตุใดบ้านประมูลอันดับหนึ่งของพวกเราจึงเลื่อนเวลาการประมูลเข้ามาก่อนกำหนด  บังเอิญว่าบ้านประมูลของพวกเราได้รับของมีค่ามากมาย และพวกเรารอคอยไม่ไหวที่จะแบ่งปันให้กับทุกท่านได้เชยชม”

— แปะ! แปะ! แปะ! —

หญิงสาวปรบมือเรียวสวยเป็นจังหวะ จากนั้นก็มีหญิงสาวสวมชุดขาวนำขวดยาขึ้นมาวางโชว์

ขวดยา!

เสียงผู้คนดังระงม มีคนถามด้วยความตื่นเต้น “เป็นไปได้ไหมว่าวันนี้มีคนนำยาระดับสองมาเข้าประมูล ?”

“ต้องเป็นยาระดับสองแน่นอน  มิเช่นนั้นบ้านประมูลอันดับหนึ่งแห่งนี้คงไม่เลื่อนเวลาการประมูลเข้ามาแน่”

“ดีมาก! ไม่มียาระดับสองเข้ามาประมูลเกือบครึ่งปีแล้ว ข้าไม่คิดว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เห็น”

“…”

ทุกคนตื่นเต้นยินดี  ทุกครั้งที่แคว้นจื่อเยี่ยปรากฏยาระดับสองในงานประมูล มักจะมีการแย่งชิงกันระหว่างผู้มีอำนาจเสมอ  การเป็นนักปรุงยานั้นยากนัก นักปรุงยาของดินแดนนี้จึงมีน้อย

ยาระดับสองก็จัดได้ว่าหายาก

ไฉ่ซวนยิ้ม “เอาล่ะ… คิดว่าทุกท่านคงเดาผิดแล้ว ยาในขวดนี้มิใช่ยาลูกกลอนระดับสอง แต่เป็นยาเหย้าจี้*ระดับต่ำ”

[*药剂 (เหย้าจี้) ในเรื่องนี้หมายถึงยาสมุนไพรยุคใหม่, ส่วนยาลูกกลอน ที่กล่าวถึงในเรื่องนี้จะเป็นยาเม็ดกลม ๆ แบบโบราณ]

“อะไรกัน ? ยาเหย้าจี้ระดับต่ำ!”

“เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ? เหตุใดจึงนำยาระดับต่ำออกประมูล ?”

“ใช่ ได้ยินไม่ผิดแน่ ของแบบนั้นแม้แต่ยาลูกกลอนระดับหนึ่งยังเทียบไม่ได้ จะมีคุณสมบัติอะไรเพียงพอให้นำเข้ามาประมูลที่นี่ ?”

“แม่นางไฉ่ซวน เจ้าแน่ใจหรือ ? นี่โรงประมูลไม่ได้ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม ?”

ทุกคนเบิกตากว้าง สีหน้าบ่งบอกอาการคาดไม่ถึง ต่างตะลึงลานจ้องมองใบหน้าไฉ่ซวน

ริมฝีปากแดงเผยรอยยิ้มน้อยก่อนที่ไฉ่ซวนจะเอ่ยขึ้น “ขอใช้ชื่อเสียงของบ้านประมูลอันดับหนึ่งในการรับประกัน พวกเราไม่ได้ล้อทุกท่านเล่น ยาเหย้าจี้ระดับต่ำที่นำออกมาประมูลในครั้งนี้เทียบเท่าได้กับยาลูกกลอนระดับสอง อีกทั้งประสิทธิภาพยังดีกว่ายาลูกกลอนระดับสองอย่างยิ่ง”

“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน  เหย้าจี้ระดับต่ำจะมาเทียบเท่ากับยาลูกกลอนระดับสองได้อย่างไร”

“ใช่!”

“…”

การปรากฏตัวของยาเหย้าจี้ระดับต่ำโจมตีความรู้ของพวกเขาแทบทุกคน

มู่เฉียนซีมองการตอบสนองของพวกเขาก็ส่ายศีรษะ  เจ้าคนพวกนี้ไม่สงบกันเลย

ไม่ใช่ว่านางหลอมยาลูกกลอนระดับสูงไม่เป็น แต่เป็นเพราะตระกูลมู่มีเพียงสูตรยาลูกกลอนระดับหนึ่ง  หลอมยาลูกกลอนระดับหนึ่งก็ขายไม่ได้เงินสักเท่าไหร่ นางยังเก็บได้ไม่ถึงสามล้านเหรียญทองคำ

ดังนั้นนางจึงใช้วิธีการสมัยปัจจุบันมาหลอมยาเหย้าจี้ระดับต่ำ เพราะยาเหย้าจี้บางชนิดมีสรรพคุณเทียบเท่ากับยาลูกกลอนระดับสองของดินแดนนี้ จึงจะเพียงพอที่นางจะรวบรวมเงินครบสามล้านเหรียญทองคำ

ยาเหย้าจี้และยาลูกกลอนมีข้อดีต่างกัน นางยังวางแผนไว้ว่าจะหาสูตรยาลูกกลอนระดับสูงมาเรียนรู้การปรุงยาเพิ่มเติมหลังจากนี้

ไฉ่ซวนกล่าว “ข้ารู้ว่าทุกท่านคงยากที่จะเชื่อ ยาเหย้าจี้ขวดนี้มีชื่อว่ายาวิญญาณโลหิต  หากได้รับบาดแผลไม่ถึงแก่ชีวิต เมื่อกินมันเข้าไปก็จะหยุดเลือดได้ทันที และในสองเค่อจะกลับฟื้นฟูเป็นปกติ”

ยาช่วยชีวิต!

ในเวลานั้นก็มีคนพูดขึ้น “เป็นไปไม่ได้ ? ยาเหย้าจี้ระดับต่ำจะมีสรรพคุณถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ถึงจะเป็นยาระดับสามก็ยังต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามจึงจะกลับคืนสู่สภาพเดิม”

“หยุดเลือดทันที มันช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อดีแท้”

ไฉ่ซวนยิ้ม กล่าวต่อ “ข้ารู้ว่าทุกท่านต้องไม่เชื่อ ดังนั้นบ้านประมูลอันดับหนึ่งของพวกเราจึงจะทำการทดสอบให้ได้ยลกับตา …เชิญคนเข้ามาได้”

ชายฉกรรจ์นายหนึ่งถูกเชิญขึ้นมา ร่างของเขาถูกสัตว์ร้ายกัด เลือดยังคงไหลไม่หยุด

นี่คือสิ่งที่มู่เฉียนซีสั่งไว้ เพื่อที่จะโน้มน้าวใจให้คนเหล่านี้เชื่อในสรรพคุณของยาเหย้าจี้ตัวนี้  พวกเขาจำต้องหาคนที่ได้รับบาดเจ็บมาทดลองให้ประจักษ์แก่สายตา

ไฉ่ซวนกล่าวไปว่า… “นี่คือคนรับส่งสินค้าของบ้านประมูลอันดับหนึ่งของพวกเรา เขาเพิ่งเข้าป่าและได้พบกับสัตว์อสูรระดับสูง  มันทำร้ายจนเขาบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้เราจะให้เขากินยาเหย้าจี้ตัวนี้ พวกท่านสามารถดูผลลัพธ์ได้เลย!”

หลังจากที่ชายฉกรรจ์คนนั้นกินยาเข้าไป เลือดก็หยุดไหลทันที  นับเป็นปรากฏการณ์แปลกประหลาดดีแท้!

สวรรค์! นั่นมันท้าทายฟ้าดินเกินไป  ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามหลายคนก็เชื่อในสรรพคุณของยานี้แล้ว…

อีกทั้งบ้านประมูลอันดับหนึ่งเป็นหอการค้าแห่งแรกในเซี่ยโจว พวกเขาคงไม่นำชื่อเสียงมาล้อเล่นกับผู้เข้าร่วมประมูล  ทุกคนให้ความสนใจยาเหย้าจี้ ยาที่มหัศจรรย์!

ผู้ฝึกตนได้รับบาดเจ็บต่างเป็นเรื่องยากจะหลีกเลี่ยง  ยาเหย้าจี้ที่สามารถห้ามเลือดได้อย่างรวดเร็วนี้สำคัญกับผู้ฝึกตนมาก เปรียบเสมือนยาช่วยชีวิต

ผู้คนเต็มไปด้วยคลื่นอารมณ์ปรารถนาที่จะได้ครอบครองยามหัศจรรย์  มีคนรอไม่ไหวตะโกนขึ้นมา “แม่นางไฉ่ซวน รีบเริ่มการประมูลเร็วเถอะ!”

“โอ้สวรรค์!  เมื่อครู่ใช้ไปแล้วขวดหนึ่ง คงไม่มีแล้วหรือเปล่า ?” ใครบางคนพูดออกมาด้วยความกลัว  ครั้งที่แล้วมียาระดับสองให้ประมูลเพียงแค่หนึ่งเม็ด

ผู้บรรยายยิ้ม  เปล่งเสียงกล่าวออกไป “เย็นไว้! ทุกท่านมิต้องตกใจ แม้จะใช้ไปแล้วขวดหนึ่ง แต่ยังเหลืออีกเก้าขวด ทุกท่านยังมีโอกาสแย่งชิง”

“ราคาประมูลยาวิญญาณโลหิตเริ่มต้นที่หนึ่งแสนเหรียญทองคำ ทุกท่านสามารถเพิ่มราคาได้เลย  ข้าขอกล่าวทิ้งท้ายไว้เพียง… แย่งชิงได้จงแย่งชิง!”

สิ้นเสียงผู้บรรยาย  ผู้สนใจคนแรกก็เพิ่มราคา “สองแสนเหรียญ!”

“สองแสนหนึ่งหมื่นเหรียญ!”

“สองแสนสอง!”

“สามแสน!”

แม้ยานี้จะมีราคาแพงแค่ไหน แต่ก็ไม่มีค่าเท่ากับชีวิตคน เช่นนั้นแล้วคนเหล่านี้จึงไม่ได้กังวลเรื่องราคาเลย

ราคามีแต่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าที่ชั้นสี่ยังไม่มีใครได้แข่งราคา จนกระทั่งเสียงก้องกังวานดังขึ้น

“ห้าแสน!”

“ซี้ดดดด”

ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างตื่นตะลึงพรึงเพริด  มีคนเริ่มพูดขึ้น “นั่นเป็นเสียงขององค์รัชทายาท!”

“ข้าไม่คิดว่าองค์รัชทายาทจะสนใจยาเหย้าจี้นี้ด้วย”

ซวนหยวนหลี่ซาง องค์รัชทายาทแห่งแคว้นจื่อเยี่ย เป็นพี่ชายพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ของซวนหยวนหลี่เทียน และเป็นอัจฉริยะคนแรกของแคว้นจื่อเยี่ย  ในวัยเยาว์ เขาเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตระดับเก้า ทั้งยังเป็นผู้ใช้ธาตุวายุ

เมื่อองค์รัชทายาทเสนอราคาเพิ่ม ใครจะกล้าฝ่าอันตรายยื้อแย่งกับองค์รัชทายาท!

จังหวะนั้นเองที่องค์รัชทายาทกวาดสายตาไปยังห้องชั้นห้า แววตากะพริบสว่าง มืดหม่นสลับกันไป

“นายท่าน เหย้าจี้ระดับต่ำที่เทียบเท่ากับยาระดับสองช่างหาได้ยากนัก  ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” พ่อบ้านไป๋ยืนกระซิบข้างกายจิ่วเยี่ย

.