หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.363 – ความตายได้มาเยือน

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น เวโรน่าก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะเดินเข้าไปหายี่ชา

 

“เชิญกล่าวมาได้เลย ทางราชวงศ์ฟูซีของเราไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับความน่าอับอาย!” เธอกล่าว

 

ยี่ชาเมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมเดินเข้ามาจริงๆ คิ้วของเธอก็ยกสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิด

 

ใกล้เข้าไป ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ

 

ภายใต้สายตาที่กำลังเฝ้ามองด้วยความสนใจของทุกผู้คน เวโรน่าได้เดินมาจนหยุดอยู่เบื้องหน้ายี่ชา

 

ด้วยระยะห่างระหว่างทั้งสองในเวลานี้ มันแคบจนเรียกได้ว่าไม่ถึงครึ่งเมตรด้วยซ้ำ!

 

ช่างโง่เขลา …

 

ยี่ชาพึมพำในจิตใจของเธอ

 

เวลานี้ มันก็เหมือนกับว่าอีกฝ่ายได้ยอมรับ พร้อมใจให้เธอลงมือสังหารตนเองแล้ว

 

และทันที่ที่เวโรน่าตาย ฟูซีก็จะตกอยู่ในความโกลาหล

 

จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ถูกคว้ามาอยู่ในมือของเธอตั้งนานแล้ว และหากฟูซีระส่ำระส่าย เธอก็จะใช้พลังอำนาจของตน กลืนกินดินแดนอันไพศาลของฟูซีมาไว้ในครอบครองเช่นกัน

 

ประชาชน ทรัพยากร ความมั่งคั่ง และมืออาชีพ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่เธอต้องการ

 

ยี่ชาค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ

 

เธอเอ่ยเสียงกระซิบว่า “เวโรน่า ข้าจะขอบอกเพียงสั้นๆว่า อีกาดำของเจ้าหรือไอ้ผู้พิทักษ์ในชุดเกราะทองคำน่ะ แท้จริงมันเป็นหัวขโมย! เขาได้ขโมยสมบัติของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ไป และเจ้าต้องพาตัวมันมาพบข้าทันที มิฉะนั้นก็จงอย่าหาว่าข้าไม่สุภาพ”

 

เวโรน่าเอ่ยถาม “สมบัติของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์? มันคืออะไรกัน?”

 

ยี่ชานิ่งงันไป ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ในงานเลี้ยงของมาดามดู่ เขาได้ขโมยภาพวาดไป”

 

“ภาพวาด?” เวโรน่ากล่าวด้วยความสงสัย

 

ยี่ชา “ภาพวาดของแอนนาและพระบิดา”

 

เวโรน่ามองยี่ชา รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ

 

เธอกล่าว “หากเป็นภาพใบนั้น ข้าจดจำได้ว่ามันเป็นภาพวาดของราชวงศ์ ครั้งหนึ่งองค์ราชาเคยให้มาดามดู่ยืมไปจัดแสดงในห้องนิทรรศการ แล้วสิ่งนี้กลายเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อใด?”

 

“อีกอย่าง ถึงอีกาดำจะเอาภาพวาดนั้นไปจริงๆ แล้วเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าอีกาดำไม่ได้มอบมันคืนให้แก่แอนนาแล้ว?”

 

“องค์หญิงแอนนาเป็นทายาทผู้สืบทอดสมบัติและความมั่งคั่งทั้งหมดของราชวงศ์ หากเธอต้องการสิ่งใด เธอก็ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นใดๆจากเจ้า และที่สำคัญก็คือ เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงมาชี้นิ้วสั่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของราชวงศ์?”

 

ถามไปประโยคเดียว โดนสวนกลับมาสองสามดอก ยี่ชาก็นิ่งงันไปครู่หนึ่ง

 

หากกล่าวกันตามปกติแล้ว นี่นับว่าเป็นข้อแก้ต่างที่สมบูรณ์แบบ

 

“ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมันอีกแล้ว” ยี่ชาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “แต่ผู้พิทักษ์ของเจ้าไม่เพียงแต่จะลักขโมยสิ่งของ แต่ยังได้ลงมือลอบสังหารข้าอีกด้วย!”

 

สิ้นประโยคนี้ ภายในห้องจัดเลี้ยงก็บังเกิดความวุ่นวายขึ้น

 

ยี่ชาจ้องมองเวโรน่า ปากอ้าขยับ เปล่งเสียงของมาทีละคำ ทีละคำ “จง-ให้มัน-ออกมา-พบ-กับข้า-ได้ยินไหม?”

 

“เจ้ากล่าวหาว่าเขาลอบสังหารเจ้า? นี่มันน่าสนใจจริงๆ”

 

สีหน้าประชดประชันของเวโรน่ายิ่งมายิ่งชัดเจนขึ้น

 

ต่อหน้าผู้คนทั้งหมด เธอค่อยๆกล่าวออกมาอย่างช้าๆ “เป็นที่ทราบกันดีว่า เทพอีกากับเทพสุนัขเป็นผู้อุปถัมภ์ของวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย เป็นผู้รับใช้ของเทพแห่งความตายที่หลับไหล”

 

“หากเจ้าบอกว่าอีกาดำคิดลอบสังหารเจ้า – นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็นแล้ว”

 

“สิ่งที่ควรจะเป็น?” ยี่ชาเอ่ยทวนซ้ำ

 

“ใช่ เพราะเจ้าขโมยสิทธิ์อำนาจของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ไป หมิ่นเกียรติแห่งพระผู้เป็นเจ้า เทพอีกาดำจึงต้องการที่จะลงโทษเจ้า แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”

 

“หากเจ้าเป็นพระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายจริงๆ แล้วอีกาดำจะนำความตายไปสู่เจ้าได้อย่างไร?”

 

เวโรน่าสังเกตสถานการณ์โดยรอบ ก่อนจะเปล่งวาจาลั่น “ แท้จริงแล้วเจ้าน่ะมันเป็นคนบาป! คนบาปที่คิดแย่งชิงอำนาจรัฐ! ดังนั้นเทพแห่งความตายจึงตัดสินอาญา นำความตายมาสู่เจ้า!”

 

ยี่ชาไม่สามารถยับยั้งเจตนาฆ่าในหัวใจของเธอได้อีกต่อไป  เธอยกมือขึ้นอีกครั้ง และกล่าวว่า “ช่างยโสนัก! รู้หรือไม่ว่าข้าก็สามารถนำความตายมาสู่พวกเจ้าได้เช่นกัน!”

 

ไพ่หลายใบปรากฏขึ้นในมือของเธอ

 

เธอกำลังคิดจะฆ่าเวโรน่า!

 

แต่พริบตานั้นเวโรน่าก็หายตัวไป

 

พร้อมกับสามเด็กหนุ่มที่มาปรากฏอยู่เบื้องหน้ายี่ชาแทน

 

กู่ฉิงซานผละสองมือของเขาลงจากไหล่ของซางหยิงฮ่าวและเย่เฟย์หยู

 

ด้วยร่างเงาแทนที่ พวกเขาได้ทำการแลกเปลี่ยนตำแหน่งกับเวโรน่า!

 

“อะไรกัน!”

 

รูม่านตาของยี่ชาเบิกกว้างขึ้น เผลออุทานออกไปโดยไม่รู้ตัว

 

เธอรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

ท่ามกลางช่วงเวลาที่กำลังเดือดพล่าน

 

ซางหยิงฮ่าวคว้าจับสองกริชสีเขียวอ่อนในมือ และวาดคมมีดโค้งเป็นรูปกากบาทตรงไปยังลำคอของยี่ชา

 

เย่เฟย์หยูตะคอกคำหนึ่ง สองมือประสานเข้าด้วยกัน ผลักดันเลือดสังหารสีแดงสดออกมา

 

ดาบยาวโผล่ออกมาเบื้องหน้ากู่ฉิงซาน เขาคว้าจับมัน และทิ่มตรงออกไป!

 

ทั้งสามโผล่ออกมาในเวลาเดียวกัน และระเบิดกระบวนท่าสังหารออกไป หมายจะฆ่าศัตรูตรงหน้าในคราเดียว!

 

ซางหยิงฮ่าวน่ะเป็นถึงราชานักฆ่าผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลกในด้านลอบสังหาร!

 

ส่วนเย่เฟย์หยูก็ดูจะเหนือล้ำยิ่งกว่าตัวตนที่ทรงพลังในขั้นห้าไปแล้ว เขาคือผีดิบนักฆ่าสุดแกร่งอย่างหาที่ใดเปรียบ!!

 

และสุดท้าย กู่ฉิงซาน เขาคือนักดาบนิรันดร์ในขอบเขตก้าวสู่เทพขั้นกลาง!!!

 

ผู้ฝึกดาบน่ะ จะสามารถระเบิดพลังที่แท้จริงของพวกเขาออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดก็ในการต่อสู้ระยะประชิดนี่แหละ ดังนั้นคงไม่ต้องกล่าวถึงกู่ฉิงซานที่ในเวลานี้อยู่ในขอบเขตนักดาบนิรันดร์

 

แม้กระทั่งผู้ฝึกยุทธที่มีขอบเขตสูงกว่านักดาบนิรันดร์ พวกเขาก็ยังไม่กล้าที่จะให้นักดาบนิรันดร์ย่างกรายเข้ามาในระยะประชิด!

 

การดำรงอยู่ของตัวตนทั้งสามได้ระเบิดการโจมตีในช่วงเวลาเดียวกัน ย่อมไม่มีใครในโลกสามารถต้านทานได้!

 

กระทั่งยี่ชาเองก็ไม่เว้น หากเธอตอบสนองผิดพลั้งไปแม้เพียงน้อย ก็ย่อมต้องถูกสังหารลงทันที!

 

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายที่ใกล้เข้ามา

 

ทันใดนั้นเอง จู่ๆไพ่ใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของยี่ชาอย่างกระทันหัน

 

มันคือไพ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสดใส … ไพ่ที่เธอพึ่งได้รับมันมาจากแอสเมิร์ด!

 

เปลวเพลิงสาดกระจายออกไปโดยสมบูรณ์

 

ไพ่ได้เผยถึงลักษณะที่แท้จริงของมันออกมา

 

เห็นแค่เพียงภายในไพ่ถูกวาดเป็นรูปนาฬิกาโบราณ

 

ขณะเดียวกันก็มีโครงกระดูกนับไม่ถ้วนที่กำลังปีนป่ายอยู่บนมัน ทั้งหมดพยายามอย่างสุดกำลังที่จะยื่นมือออกไปคว้าเข็มบนนาฬิกาไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว

 

‘ไพ่อสูรกาย: การแลกเปลี่ยนของปีศาจ’

 

“คำอธิบาย : เมื่อภัยคุกคามร้ายแรงเกิดขึ้น ศัตรูที่เริ่มโจมตีจะถูกแช่ให้คงสภาพอยู่ในสถานะเริ่มโจมตีเป็นเวลา 5 วินาที”

 

ทันทีที่ไพ่ถูกเปิดใช้งาน มันก็พลันแตกร้าว และกระจายเป็นสะเก็ดดาวไปทั่วบริเวณ

 

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นในจิตใจของยี่ชาอย่างรวดเร็ว

 

“ยี่ชา ความตายอันลึกล้ำกำลังย่างกรายมาหาตัวเจ้า”

 

“ไพ่ใบนี้เป็นของขวัญแห่งข้า และมันเพียงพอสำหรับเจ้าที่จะใช้เข่นฆ่าสังหารศัตรูที่เข้ามาคุกคาม!”

 

“จงจดจำเอาไว้ ขอให้เจ้าทุ่มสุดกำลังในช่วงเวลานี้!”

 

ห้าวินาที! ได้เริ่มนับขึ้นแล้ว!!

 

วินาทีแรก

 

ยี่ชาที่กำลังฟังเสียงของแอสเมิร์ดยังคงตกอยู่ในอาการช็อก

 

เธอเอื้อมมือไปจั่วไพ่ของตัวเองออกมาอย่างรวดเร็ว

 

ตรงข้ามกับเธอ กู่ฉิงซาน ซางหยิงฮ่าว เย่เฟย์หยูยังคงนิ่งงัน

 

บังเกิดการไหลเวียนของกระแสลมที่มองไม่เห็นห่อหุ้มทั้งสามเอาไว้ แน่นอนว่ามันรวมไปถึงกริช เลือดสังหาร และรัศมีดาบสีขาวนวลดั่งแสงจันทร์ ทั้งหมดทั้งมวลหยุดนิ่งอยู่กลางเวหาอย่างสิ้นเชิง มิอาจเขยื้อนได้แม้แต่น้อย

 

พวกเขาตกอยู่ในสถานะหยุดนิ่งของเวลา

 

และตรงข้ามกับพวกเขา ในวินาทีที่สอง ยี่ชาก็จั่วไพ่ทั้ง 11 ใบออกมาได้โดยสมบูรณ์!

 

วินาทีที่สอง ได้เริ่มนับขึ้นแล้ว!

 

ยี่ชาทิ้งไพ่ที่ไร้ประโยชน์ไปหลายใบ และเริ่มทำการจั่วไพ่ขึ้นมาอีกครั้ง

 

เวลาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย 5 วินาที โดยที่อีกฝ่ายไร้ซึ่งการต่อต้าน มันนับว่าเพียงพอแล้วที่เธอจะระเบิดพลังของตนออกมาอย่างเต็มกำลัง!

 

เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มฉกาจฉกรรจ์ “คิดลอบสังหารข้า? บังอาจนัก! จงตายเสีย!!”

 

วินาทีที่สาม ได้เริ่มนับขึ้นแล้ว!

 

ยี่ชากำลังปลุกเร้าแต้มพลังวิญญาณของเธอ และกระตุ้นไพ่ทั้ง 11 ใบในมือทีละใบ ทีละใบ

 

ส่วนทางฝั่งกู่ฉิงซาน ดาบอีกเล่มหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องรีรอให้ดาบเล่มนั้นเคลื่อนไหว

 

เหนือหัวของกู่ฉิงซาน จู่ๆก็ปรากฏม้วนคัมภีร์สีเลือดโผล่ออกมา!

 

“ช่วงเวลาว่างเปล่าของทวยเทพ”

 

“คำอธิบาย : เมื่อศัตรูเตรียมที่จะทำการโจมตีขั้นร้ายแรง สติอารมณ์และสภาวะจิตใจของศัตรูจะตกอยู่ในสถานะว่างเปล่าเป็นเวลา 3 วินาที”

 

ม้วนคัมภีร์สีเลือดสาดแสงสีแดงดุดันออกมา

 

เมื่อยี่ชาเห็นม้วนคัมภีร์นี้ เธอก็กรีดร้องออกมาราวกับเห็นภูติผี! “ไม่จริง! นั่นมันคัมภีร์ของชุดคลุมเลื -”

 

และในตอนนั้น เธอก็รู้สึกราวกับว่าถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างแรง ทั้งคนทั้งร่างไร้สตินิ่งงันไป

 

‘ช่วงเวลาว่างเปล่าของทวยเทพ’ เริ่มทำงาน!

 

สองมือที่กำลังจะเคลื่อนไหว นิ่งงันไปในวินาทีที่สี่!

 

ไพ่ทั้ง 11 ใบของยี่ชาร่วงตกกระจัดกระจายจากมือ และสลายหายไป

 

ภายในวินาทีนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างนิ่งงัน ตกอยู่ในสภาพมิอาจเคลื่อนไหวได้

 

วินาทีที่ห้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ปงงง!

 

ปงงง!

 

บังเกิดสองเสียงดังขึ้นเล็กน้อยในช่วงเวลาเดียวกัน

 

‘การแลกเปลี่ยนของปีศาจ’ และ ‘ช่วงเวลาว่างเปล่าของทวยเทพ’ ทั้งหมดแตกกระจายหายไปในเวลาเดียวกัน

 

ทั้งสองฝ่ายเรียกคืนความสามารถในการเคลื่อนไหวกลับมาได้อีกครั้ง

 

สามการโจมตีฟุ้งไปด้วยเจตนาฆ่าถลามาถึงตัวยี่ชา

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ยี่ชาก็ได้เตรียมความพร้อมไว้ก่อนแล้ว

 

เธอจั่วไพ่ออกมาอย่างเร่งร้อน ปากอ้าตะโกนขึ้นในเวลาเดียวกัน “ฮัทท์!”

 

ฮัทท์คือนักรบที่ทรงพลังที่สุดของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์

 

ตราบใดที่เขาก้าวเข้ามารับหน้าแทนตน ยี่ชาก็จะมีเวลามากพอที่จะใช้งานไพ่ของตัวเอง

 

ยี่ชาเชื่อมั่นว่ามันต้องเป็นแบบนั้น

 

ไพ่ใบแรกปรากฏขึ้นในมือของเธอ

 

แต่การจู่โจมแรกของซางหยิงฮ่าวก็ได้มาถึงแล้วเช่นกัน!

 

“จงขับไล่!”

 

ยี่ชายกไพ่ขึ้นแล้วตะโกน

 

ซางหยิงฮ่าวถูกตีกระแทกด้วยบางสิ่ง พุ่งฟิ้ว!ปลิวกระเด็นออกไป

 

“จงกระจาย!” ยี่ชาจั่วไพ่ใบที่สองออกมา

 

บังเกิดพลังสายลมอันอ่อนนุ่ม พัดพาเอาเลือดสังหารและเย่เฟย์หยูโบยบินห่างออกไป

 

ยี่ชาปลีกตัวถอยออกมา

 

เธอต้องการจะให้ฮัทท์สลับหน้าที่รับมือกับกู่ฉิงซานแทนตนเอง

 

ตราบใดที่ฮัทท์หยุดการโจมตีจากดาบยาวของกู่ฉิงซานได้ ตนก็จะมีเวลามากพอที่จะจั่วไพ่ออกมาอีกสองใบ!

 

และด้วยไพ่สองใบนี้ ตนก็จะพอมีเวลาได้พักหายใจเสียที

 

–อย่างไรก็ตาม มันกลับไม่มีใครโผล่ออกมา

 

ปลายดาบยาวของกู่ฉิงซาน … เจาะ! ทะลวงเข้าไปในหน้าอกของเธอ!

 

สีหน้าของยี่ชาแปรเปลี่ยนกลับกลายครั้งใหญ่ เธอจำต้องเสี่ยงชีวิตจั่วไพ่ขึ้นมาอีกใบหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

สายตาสาดลงบนไพ่ใบนั้น และสีหน้าของเธอก็เผยถึงความสุขชั่วครู่หนึ่ง

 

นี่คือไพ่ป้องกัน

 

ตราบใดที่ฮัทท์ก้าวออกมา และถูกหนุนเสริมด้วยไพ่ใบนี้ เขาก็จะรับมือกับศัตรูตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย

 

ยี่ชากระตุ้นไพ่ป้องกันใบนี้ทันที

 

ในเวลาเดียวกัน โล่ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเธอในทันใด

 

ปุ!

 

ทว่ากลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เพราะดาบที่สมควรจะอยู่ข้างหน้า กลับแทงทะลุอกมาจากทางเบื้องหลังเธอ!

 

ยี่ชาแข็งค้าง

 

นี่เป็นดาบที่คุกคามถึงชีวิต

 

‘เทคนิคลับแห่งดาบ กลืนกินหวนกลับ!’

 

เบื้องหลังเธอ … ไม่ได้มีไพ่ป้องกัน ..

 

เธอใช้มือคว้าจับปลายดาบ ที่ยามนี้ทิ่มแทงผ่านหัวใจเธอทะลุออกมาจากอก และพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะหันคอมองไปยังทิศทางที่ฮัทท์ยืนอยู่

 

มันก็จริงที่เปลวเพลิงสีขาวบริสุทธิ์กำลังเผาไหม้อยู่ในมือของสาวกศักดิ์สิทธิ์ฮัทท์ แต่ทว่า … เขากลับยังคงยืนอยู่อย่างเงียบๆ

 

เขายับยั้งตนเอง และเลือกที่จะไม่ก้าวเข้าไปร่วมต่อสู้

 

และค่อยๆถอยห่างไกลออกไป

 

“นั่นเจ้า … เพราะเหตุใด?”

 

สองตาของฮัทท์แดงก่ำ สองมือกำแน่น ปากเปล่งวาจาด้วยเจตนาร้าย “แกฆ่าน้องชายฉัน ทั้งๆที่เขาอุทิศตนและภักดีเสมอมา แต่แก ..แก … แกกลับฆ่าเขา!”