ตอนที่ 129 ฮูหยินรองของสกุลฉิน (4)/ตอนที่ 130 ฮูหยินรองของสกุลฉิน (5)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 129 ฮูหยินรองของสกุลฉิน (4)

“ท่านพี่ ท่านก็รู้ว่าข้าไม่แข็งแรง ไม่อาจมีลูกหลานให้สกุลฉินได้ หากเขารับอนุสักคน ไม่แน่…สกุลฉินอาจมีลูกชายสืบสกุล”

แต่ฉินซวินเคยบอกไว้ว่า เขายอมเก็บเด็กกำพร้ามาเลี้ยงเป็นลูก แต่ไม่ยอมมีอนุเด็ดขาด

มันทำให้นางรู้สึกซาบซึ้ง และทำให้รู้สึกผิด

“ผิ่นเหยา เจ้าอย่าพูดแบบนี้เลย สกุลเราไม่ทำแบบนั้นหรอก ซวินเอ๋อร์รักเจ้าคนเดียวมาตลอด เจ้าให้เขามีอนุ มันไม่ใช่การช่วยเขา แต่เป็นการทำร้ายจิตใจเขานะ”

ฉินอี๋ขมวดคิ้ว นางกุมมือเว่ยผิ่นเหยาที่อ่อนปวกเปียกเสียจนแน่น น้ำเสียงฟังดูอ่อนโยน “อีกอย่าง ที่เจ้าตั้งครรภ์ไม่ได้ ก็เพราะสุขภาพเจ้าไม่แข็งแรง ถ้าเจ้ารักษาหายล่ะ? อนุพวกนั้นก็จะกลายเป็นพวกขวางหูขวางตาจริงไหม ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย?”

เว่ยผิ่นเหยาส่ายหน้า น้ำตาไหลออกจากขอบตาเป็นสาย “ข้าเป็นโรคมาแต่กำเนิด รักษามานานแล้วก็ไม่หายสักที ตอนนี้จะมีความหวังอะไร”

สมัยก่อน อนุของพ่อนางคิดจะแย่งความรัก จึงวางยาแม่ของนาง แม้จะรักษาชีวิตได้ แต่นางซึ่งอยู่ในครรภ์ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงทำให้เจ็บออดๆ แอดๆ ตั้งแต่เล็ก

ฉินซวินกลัวเรื่องนี้เช่นกัน กลัวว่านางจะต้องเป็นเหมือนแม่ของนาง ต่อให้นางตั้งครรภ์ไม่ได้ เขาก็ไม่คิดจะรับอนุ

“ยิ่งเจ้าคิดมาก สุขภาพเจ้าจะยิ่งถดถอย อีกอย่างซวินเอ๋อร์บอกไว้ อย่างมากก็แค่รับลูกบุญธรรมมาเลี้ยง ถ้ายังไม่ได้อีก ข้ากับพี่เขยของเจ้ามีลูกอีกสักคน ให้เขาแซ่ฉินก็ได้นี่? ทำไมเจ้าต้องคิดตัดพ้อตัวเองด้วย”

ถ้าฉินซวินรับอนุจริงๆ คนที่จะเจ็บช้ำที่สุดก็คือ…เว่ยผิ่นเหยา

สามีของตัวเองจะยอมให้คนอื่นมาแย่งไปได้อย่างไร

“ท่านพี่…” เว่ยผิ่นเหยาน้ำตาไหลนอง “ขอบคุณพวกท่าน ขอบคุณพวกท่านจริงๆ”

โดยทั่วไป หากฮูหยินรองอย่างนางไม่อาจมีบุตรได้ การที่สามีจะรับอนุก็เรื่องปกติ

แต่โชคดีที่นางได้พบกับคนสกุลฉิน!

ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากสกุลฉิน สามีของนาง…คงไม่ปฏิเสธการรับอนุอย่างสง่าผ่าเผยแบบนี้

ถ้าเป็นตระกูลทั่วๆ ไป ในบ้านคงมีผู้หญิงเต็มไปบ้านหมด

แต่สกุลฉินยิ่งดีกับนางเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจมากขึ้นเท่านั้น ทั้งยังเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ ไม่อาจมีลูกให้สกุลฉินได้

“น่าหลานฮูหยินขอรับ!”

จู่ๆ เสียงที่ดูรีบร้อนก็ดังมาจากข้างนอก

ฉินอี๋หันหน้าไปมอง เห็นทหารยามวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน เขาคุกเข่าลง “น่าหลานฮูหยิน องค์หญิงกำลังรออยู่ที่หน้าจวน ต้องการพบฮูหยินขอรับ”

“องค์หญิง? นางมาที่นี่ทำไม”

ฉินอี๋มองดูเว่ยผิ่นเหยาด้วยท่าทีกังวล

นางรับปากพ่อและสามีไว้แล้วว่าจะไม่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับองค์หญิง แต่องค์หญิงก่อเรื่องไว้มากมาย นางไม่อาจทำใจให้รู้สึกดีกับองค์หญิงได้

เว่ยผิ่นเหยาหน้าซีด เหมือนนางกำลังคิดถึงคำพูดที่เฟิงหรูชิงเคยพูดไว้

การที่นางไม่อาจมีลูกก็เจ็บปวดอยู่แล้ว แต่เฟิงหรูชิง…กลับย้ำซ้ำๆ กับนาง เย้ยหยันเหน็บแนมซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ทำให้ร่างกายจิตใจของนางเหนื่อยล้า ด้วยเหตุนี้ นางจึงไม่เข้าวังอีกเลย แม้เวลาอยู่ข้างนอกหากพบเฟิงหรูชิงก็จะเดินอ้อมไป

แต่ทำไมตอนนี้…นางถึงมาที่บ้านสกุลฉิน

“ฮูหยิน” ทหารยามมองดูฉินอี๋ด้วยความระมัดระวัง “ไม่เพียงองค์หญิงเท่านั้นที่มา คุณหนูไต้เอ๋อร์…ก็มาด้วยขอรับ”

เมื่อทหารยามพูดจบ ฉินอี๋ก็ลุกขึ้นทันที สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ

ไม่ว่าน่าหลานฉางเฉียนจะบอกนางหลายครั้งหลายหนว่าเฟิงหรูชิงไม่มีทางทำร้ายไต้เอ๋อร์อีก แต่นางไม่อาจเชื่อใจเฟิงหรูชิงได้อีกแล้ว

ไต้เอ๋อร์คือแก้วตาด้วยใจของนาง เป็นดั่งชีวิตของนาง!

……………………………………..

ตอนที่ 130 ฮูหยินรองของสกุลฉิน (5)

นางจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายลูกของนาง!

“ผิ่นเหยา”

แค่นึกถึงเว่ยผิ่นเหยาที่กำลังเศร้าเสียใจ ฉินอี๋รู้สึกลำบากใจที่จะหันหลังกลับไปมองนางเว่ยผิ่นเหยาส่ายหน้า

“ท่านพี่ ท่านรีบไปเถอะ อย่าให้องค์หญิงกับไต้เอ๋อร์ต้องรอนาน อีกอย่าง…นางเป็นถึงองค์หญิง ท่านพี่ก็อย่า…ชักสีหน้าใส่นางมาก”

“ข้ารู้”

ฉินอี๋หัวเราะฝืดๆ นางจะชักสีหน้าใส่เฟิงหรูชิงได้อย่างไร นางกลัวเฟิงหรูชิง…เสียสิไม่ว่า

เมื่อเห็นว่าเว่ยผิ่นเหยาไม่เป็นอะไรมาก ฉินอี๋ก็ค่อยๆ กลับหลังหันเดินออกจากห้องไป

เมื่อเดินผ่านลานสวน ฉินอี๋ก็มองไปเห็นน่าหลานไต้เอ๋อร์ที่ยิ้มมีความสุขอยู่ในอ้อมแขนของเฟิงหรูชิง

ใจที่เป็นกังวลของนางก็รู้สึกผ่อนคลายลง

อาจเป็นเหมือนที่สามีนางบอกไว้ องค์หญิงเปลี่ยนไปแล้ว? แต่ไม่ว่านางจะเปลี่ยนไปหรือไม่ พอนึกถึงสิ่งที่นางเคยทำ ฉินอี๋ก็รู้สึกเหมือนมีปมในใจ ไม่อาจแก้ให้คลายออกได้

“องค์หญิงเพคะ”

ฉินอี๋เดินเข้าไปใกล้ๆ เฟิงหรูชิง เมื่อนางเตรียมจะคารวะ เฟิงหรูชิงได้ปล่อยไต้เอ๋อร์ลง และประคองแขนของฉินอี๋เอาไว้

“ท่านป้าเป็นผู้ใหญ่ จะคารวะข้าได้อย่างไร ถ้าเสด็จพ่อมาเห็นเข้า คงจะตำหนิข้า”

ฉินอี๋ยิ้มน้อยๆ “องค์หญิงคือพระวงศ์ ส่วนหม่อมฉันคือขุนนาง ธรรมเนียมที่พึงปฏิบัติจะบกพร่องมิได้”

เฟิงหรูชิงถอนหายใจ

ดูท่าหากต้องการให้ป้าสะใภ้ยอมรับนาง คงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด

“ท่านป้า ข้ายังจำได้ว่าในวันเกิดตอนข้าอายุห้าขวบ ท่านป้าให้ของขวัญกับข้า ท่านแอบเอาอาวุธที่ท่านตาเก็บซ่อนไว้มานานมาให้ข้า แล้วท่านก็โดนท่านตาตำหนิ แล้วก็…เมื่อก่อนข้าพาพี่ชายไปปีนกำแพง แต่ไม่ทันระวังข้าเลยตกลงมาได้รับบาดเจ็บ ท่านป้าตีพี่ชายเสียจนลุกจากเตียงไม่ได้ถึงสองวัน แถมยังต่อว่าเขาที่ไม่ได้มาเป็นเบาะรองให้ข้าตอนที่ข้าตกลงมา”

“สำหรับข้า ท่านป้าไม่ต่างอะไรจากแม่ข้า แต่ตอนข้าเป็นเด็กยังไม่รู้จักคิด จึงทำร้ายจิตใจท่านป้า”

หญิงสาวแววตาบริสุทธิ์ สะอาดใสไร้มลทิน

ฉินอี๋มองดูเฟิงหรูชิง สีหน้าของนางเรียบเฉย “จริงอยู่ที่หม่อมฉันขโมยอาวุธของท่านพ่อ แต่…ท่านก็เกือบใช้อาวุธนั่น ทำให้ไต้เอ๋อร์ต้องบาดเจ็บ หากรู้แต่แรกว่าท่านจะทำเช่นนี้ ข้าคงไม่ขโมยของของท่านพ่อมาให้ท่าน”

เฟิงหรูชิงสีหน้าเจื่อน

นางระลึกความทรงจำ ดูเหมือนว่า…จะเกิดเหตุการณ์นั้นจริงๆ

ถ้าไม่เป็นเพราะท่านลุงเข้ามาทันเวลา องค์หญิงคนเดิมคงทำให้ไต้เอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว และกระบี่ที่ท่านตาใช้เงินจำนวนมากสั่งทำนั้น สุดท้ายก็ถูกท่านลุงที่กำลังโมโหทำลายจนหักเป็นเสี่ยงๆ

สาเหตุของเรื่องดังกล่าว มาจากการปั้นน้ำเป็นตัวของเฟิงหรูซวง องค์หญิงคนเดิมเพื่อปกป้องเฟิงหรูซวง นางจึงพุ่งเข้าไปใส่

ความจริงแล้ว เฟิงหรูชิงก็ไม่เข้าใจทั้งๆ ที่ไต้เอ๋อร์เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เหตุใดเฟิงหรูซวงจึงชอบหาเรื่องนาง

“เอ่อ…” เฟิงหรูชิงหัวเราะแบบฝืดๆ “ท่านป้า…”

“องค์หญิง นี่ก็เย็นมากแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”

ฉินอี๋ไม่อยากพูดให้มากความ

เฟิงหรูชิงทำผิดไว้มาก มากเสียจน…นางไม่อาจให้อภัย

“เดี๋ยวก่อน!” เฟิงหรูชิงเห็นฉินอี๋กำลังจะกลับ นางจึงรีบเดินเข้าไปยังบ้านสกุลฉิน นางยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านป้า ที่ข้ามาวันนี้หนึ่งก็เพื่อรับท่านกลับบ้าน สองเพื่อมาเยี่ยมฮูหยินรองสกุลฉิน ข้าเตรียมอาหารบำรุงสุขภาพมาให้นางด้วย”

ตั้งแต่แรก ฉินอี๋ก็สังเกตเห็นสำรับอาหารที่เฟิงหรูชิงถือมา แต่นางไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ได้ยินสิ่งที่เฟิงหรูชิงพูด สีหน้าของนางก็ดูเป็นกังวลขึ้นมาทันที

……………………………………..