บทที่ 60: ลัทธิยึดอาหารเป็นศูนย์กลาง

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END

บทที่ 60: ลัทธิยึดอาหารเป็นศูนย์กลาง

นิ้วสองนิ้วยื่นออกไปคีบที่ลูกอมเม็ดสีแดงอ่อน เปล่งประกายเจิดจ้าท่ามกลางความมืดมิด

นอร่านั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ ผิวขาวของเธอปกคลุมด้วยผ้าไหมสีดำบาง ๆ สวยงามราวกับงานศิลปะชั้นยอด แก้มอันแดงระเรื่อและแววตาอันเปล่งประกายของเธอเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นที่อยู่ภายในส่วนลึกของหัวใจ แม้แต่ริมฝีปากของเธอก็ยังยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

เธอช่างงดงามจริง ๆ

เมื่อมองไปที่ร่างของนอร่าภายใต้แสงไฟสลัว โรเอลก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ นอร่านั้นมีเสน่ห์เย้ายวนอันรุนแรง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอนั้นสนใจในตัวโรเอล

เดิมทีในเนื้อเรื่องหลักของเกมอาย ออฟ โครนิเคิล นอร่าได้บอกกับตัวเอกของเกมซึ่งป็นถึงองค์ชายของอีกอาณาจักร ให้เลียรองเท้าของเธอ โดยเน้นย้ำว่าเฉพาะที่เท้าเท่านั้นไม่ได้รวมถึงขา

ทว่าในตอนนี้เธอกลับยอมให้โรเอลเลียนิ้วของเธอ เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวให้สิทธิพิเศษแก่เขา

แล้วโรเอลหวั่นไหวต่อสิ่งนี้ไหมงั้นเหรอ?

เมื่อมองไปยังความงามอันน่าดึงดูด เขาก็กลายเป็นดั่งงูในสวนเอเดน มันคงเป็นเรื่องโกหกหากโรเอลบอกไปว่าตัวเขานั้นไม่ได้หวั่นไหว…เขานั้นกำลังถูกนอร่าดึงดูด ซึ่งมันเป็นหายนะสำหรับวายร้ายของเกมอย่างเขา!

โรเอลยังไม่ได้ลืมว่าสถานะในปัจจุบันของเขาคืออะไร เขายังคงอยู่ในสถานะกำลังพยายามที่จะปลดเดธแฟล็กออก ตอนนี้เขาจึงต้องตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ตรงกันข้ามกับโรเอลคนเดิมโดยสิ้นเชิงเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ปลอดภัยไว้ก่อนนั้นย่อมดีกว่าเสมอ

“เก็บมันไว้เถอะ ฉันไม่อยากกิน”

โรเอลหันหน้าหนีพร้อมกับตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เต็มใจสุด ๆ ด้วยความไม่เข้าใจปฏิกิริยาของเด็กชาย นอร่าจึงขมวดคิ้วอย่างงุนงง

“ทำไมล่ะ? ข้าเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าหวั่นไหว”

“ห๊ะ? ใคร ไหนใครหวั่นไหวกัน? หยุดพูดเรื่องไร้สาระน่า นอกจากนี้ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอล้างมือแล้วรึยัง ฉันไม่ชอบกินของที่คนอื่นถือไว้ในมือหรอกนะ”

“มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิว่าข้าล้างมือแล้ว! เจ้าไม่อยากกินมันจริง ๆ งั้นเหรอ?”

“ใช่”

คำตอบของเด็กชายผมดำทำให้ทูตสวรรค์ตัวน้อยไม่พอใจจนเธอเริ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง

“ข้าไม่เข้าใจเลย ทำไมเจ้าถึงได้ปฏิเสธและต่อต้านข้า? เจ้าไม่คิดแม้แต่จะกินลูกอมที่ข้าแกะให้ด้วยซ้ำ” เด็กสาวมองค้อนมาที่เขา

“ประเด็นหลักมันอยู่ที่ลูกอมจริง ๆ เรอะ? เธอก็แค่อยากเห็นฉันเลียมันขณะที่มันอยู่ในมือของเธอชัด ๆ!”

ข้อกล่าวหาที่โรเอลยัดให้กับนอร่า ทำให้ใบหน้าของนอร่าเริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อยจนเธอต้องรีบหลบสายตาเขา

“ละ… ลูกอมมันเป็นสิ่งสำคัญนะ! มันเป็นพรสำหรับปีใหม่เลยนะ!”

“แล้วทำไมเธอถึงไม่สั่งให้คนรับใช้เอามาให้ตรง ๆ ล่ะ?”

“หืม? โรเอล มือของเจ้าสะอาดแล้วรึยังเถอะ? ดูเหมือนข้าจะจำได้ว่า เจ้าเป็นคนที่ค่อนข้างหมกมุ่นกับสุขอนามัยนะ”

นอร่าเยาะเย้ยโรเอลด้วยคำพูดของตัวเขาเอง ทำให้เด็กชายทำได้เพียงแค่ต้องดึงมือของตัวเองกลับอย่างช้า ๆ

“เธอเอากระดาษห่อลูกอมกลับไปไว้เหมือนเดิม แล้วค่อยส่งให้ฉันก็ได้นี่”

“ข้าโยนกระดาษห่อลูกอมทิ้งไปแล้ว”

“ถ้างั้นเธอปาเข้ามาในปากของฉันแทนก็ได้”

“…เอ๋?”

“เธอมีความสามารถอยู่ที่ระดับแก่นแท้ 5 แล้วแท้ ๆ แต่ก็ยังปาสิ่งของได้ไม่แม่นงั้นเหรอ?” โรเอลพูดขึ้นอย่างหน้าตาเฉย

“ชิ…ก็ได้ เจ้าอ้าปากให้กว้าง ๆ ล่ะ”

นอร่าเดาะลิ้นของเธอด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะโยนลูกอมเข้าไปในปากของโรเอล

โรเอลดูดความหวานในลูกอมพลางจ้องมองไปที่เด็กสาวผมสีทองผู้พ่ายแพ้ด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ

หึ คิดจะสู้กับฉันงั้นเหรอ? เร็วไปร้อยปีน่า

โรเอลรู้สึกยินดีกับชัยชนะ ทว่าไม่ทันที่เขาจะได้รู้สึกถึงชัยชนะโดยสมบูรณ์ ทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนอร่า เด็กสาววางมือลงบนแก้มของเธอแล้วพูดประโยคที่บดขยี้ความสุขในชัยชนะของเด็กชายแหลกเป็นชิ้น ๆ

“นี่คือความสุขที่ได้ให้อาหารสัตว์เลี้ยงสินะ?”

“อึก! อะไรนะ…”

“เจ้าดูน่ารักมากเลยตอนที่อ้าปากกินลูกอมของข้าเข้าไป เหมือนกับสุนัขที่กำลังกัดลูกบอลอยู่ไม่มีผิด” นอร่าพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก

“บ้าที่สุด! นี่เธอหลอกฉันอย่างงั้นเหรอ!”

โรเอลผู้มากประสบการณ์ได้ถูกเธอปั่นหัวซะเละเทะ นี่ทำให้เขาอับอายเป็นอย่างมาก กลับกันแล้วนอร่านั้นพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“อันที่จริงแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ข้าค่อนข้างพอใจเลยทีเดียว คราวหน้าค่อยมาทำกันใหม่นะ”

“คราวหน้าเหรอ! อย่าแม้แต่จะคิดเลย!” เด็กชายโพล่งออกไปอย่างเหลืออด

“เห… ท่าทางหงุดหงิดของเจ้าในตอนนี้เองก็ไม่เลวเหมือนกันนะ” พูดจบนอร่าก็เผยยิ้มร้ายในแบบของเธอ ท่าทางพอใจไม่น้อย

ให้ตายสิ! ฉันเล่นไปตามเกมของเธอก็ไม่ได้! โกรธเธอก็ไม่ได้อีก! ทำไมการรับมือกับยัยนี่มันถึงได้ยากแบบนี้เนี่ย?

แม้รสชาติของลูกอมนั้นจะหอมหวานที่ปลายลิ้น แต่มันกลับขมขื่นไปถึงส่วนลึกของหัวใจ เขารู้สึกโกรธจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา แต่นอร่าก็อาจจะสนุกกับมันยิ่งกว่าเดิมถ้าเขาทำแบบนั้น

อ่า ช่าง ๆ มันไปซะ เราต้องไม่โกรธ ๆ สุขุมเข้าไว้สิตัวเรา!

หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ โรเอลก็กระโดดลงจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไป จากนั้นนอร่าก็ลุกขึ้นยืนเดินตามเขาไป

“เจ้าลุกขึ้นมาได้เวลาพอดีเลย ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วมากินข้าวด้วยกันเถอะ”

นอร่าเสนอขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะคืนดี

หึ ตบหัวแล้วลูบหลังงั้นเหรอ? คิดว่าฉันจะยอมเธอง่าย ๆ ขนาดนั้นเลยรึไง?

โรเอลตะคอกในใจอย่างเย็นชาโดยไม่ได้คิดถึงความปรารถนาดีของนอร่าเลยแม้แต่น้อย

“ข้าพาพ่อครัวจากพระราชวังมาด้วย วัตถุดิบเองก็สดใหม่นะ”

“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ!”

ในฐานะนักชิม โรเอลจะไม่พอใจกับอะไรก็ได้ตราบใดที่มันไม่ใช่อาหาร หากเทียบการใช้อารมณ์ฉุนเฉียวใส่นอร่า กับการตักอาหารอันโอชะเข้าปากแล้วนั้น อย่างหลังดูจะสำคัญกว่ามาก ดังนั้นพวกเขาสองคนจึงเดินไปที่ห้องอาหาร เข้าไปในที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อลิ้มรสอาหารรสเลิศ

คาเวียร์ไข่มุกดำจากทะเลเหนือ เนื้อแกะจากที่ราบสูงไฮด์ และวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงอีกมากมายถูกนำออกมาเสนอไปทีละอย่าง นำความอิ่มอกอิ่มใจมาสู่ลิ้นของโรเอล พาเขาไปถึงจุดสูงสุดใหม่ พวกมันช่างเป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าอาหารใด ๆ ที่เขาเคยได้สัมผัสมา

อาหารที่มีค่าที่สุดในมื้อเย็นทั้งหมดนี้ก็คือ เห็ดทรัฟเฟิลทองคำจากป่าใหญ่โพคลาร์ มันมีรูปลักษณ์ภายนอกอันสุกใสราวกับทองที่ส่องประกาย แต่เมื่อกัดเข้าไปก็จะเผยให้เห็นเนื้อมันวาวสีขาว กลิ่นอันล้ำลึกเป็นเอกลักษณ์ของมันทำให้เกิดการกระจายของรสชาติที่นักชิมทุกคนจะต้องพอใจอย่างง่ายดาย

ด้วยเหตุนี้เห็ดทรัฟเฟิลทองคำจึงได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในสามอันดับแรกของอาหารยอดนิยมในทวีปเซีย มันมีค่ามากเสียจนแม้แต่ตระกูลแอสคาร์ดก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อที่หามันมา

เงื่อนไขในการเติบโตของเห็ดทรัฟเฟิลทองคำเหล่านี้นั้นยุ่งยากมากเสียจนไม่สามารถเพาะปลูกได้ ดังนั้นจำนวนที่เก็บเกี่ยวได้ในแต่ละปีจึงมีจำนวนจำกัด พวกมันส่วนใหญ่ได้ถูกนำไปใช้ประกอบอาหารภายในอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของป่าใหญ่โพคลาร์เป็นที่เรียบร้อย โดยพวกเขาจะส่งออกไปยังอาณาจักรอื่น ๆ ในจำนวนที่เพียงพอต่อสมาชิกราชวงศ์ทั่วทวีปเท่านั้น

นี่แสดงให้เห็นว่าวัตถุดิบนี้มีคุณค่ามากเพียงใด ถ้าไม่ใช่เพราะนอร่า โรเอลอาจจะไม่มีวันได้ลิ้มรสมันตลอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ

เห็ดทรัฟเฟิลทองคำถูกย่างเบา ๆ โดยใช้น้ำมันที่ไม่มีรสชาติ จากนั้นก็เติมเต็มด้วยไวน์ผลไม้ที่ทำจากมะม่วง น้ำผึ้ง ขิง อัลมอนด์ สะระแหน่ ดอกส้ม และองุ่นขาว มันเป็นประสบการณ์การลิ้มรสอาหารอันเยี่ยมยอดโดยแท้จริง ระดับที่โรเอลแทบจะไม่สามารถชี้บอกข้อบกพร่องใด ๆ ออกมาได้เลย

ดวงตาของโรเอลหรี่ลงด้วยความสุข แววตาเป็นประกายวิบวับด้วยความยินดี เด็กสาวผมสีทองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาก็ยิ้มอย่างสนุกสนาน

“ปกติแล้วเจ้ารับมือได้ยากมาก… แต่มันก็ง่ายมากเช่นกันถ้าข้าล่อลวงเจ้าด้วยอาหารดี ๆ”

“มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของอาหารนะรู้ไหม ฉันมีข้อยกเว้นให้กับอาหารระดับนี้อยู่เสมอแหละ” เขาพูดกับนอร่าแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่จานอาหาร

“อย่างนั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเฝ้าระวังอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ในอนาคตซะแล้วสิ”

นอร่าอดไม่ได้ที่จะล้อเล่น ทว่าโรเอลไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเธอเท่าไหร่

“ไม่จำเป็นหรอก เห็นอย่างนี้ฉันก็หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองนะ อีกอย่างใครมันจะเสี่ยงมาเสียเงินพยายามล่อล่วงฉันกันเล่า”

“หืม? เจ้ายังไม่เปลี่ยนใจอีกงั้นเหรอ? เจ้าไม่คิดจะเข้าร่วมกองทหารศักดิ์สิทธิ์เหมือนท่านลุงคาร์เตอร์จริง ๆ งั้นเหรอ?”

“คนอ่อนแออย่างฉันที่ไม่สามารถก้าวไปไกลกว่าระดับแก่นแท้ 6 ได้ เข้าร่วมกองทัพไปก็ไม่มีความหมายน่า”

“ทหารมีอะไรมากกว่าการสู้รบตั้งเยอะแยะ เจ้าสามารถเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ออกคำสั่งก็ได้ทั้งนั้นแหละ ในวันนั้นเจ้าได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความกล้าในตอนที่ออกมาปกป้องอลิเซียจากบรอนและพรรคพวกของเขาแล้ว คนส่วนใหญ่ในกองทัพคาดหวังกับเจ้าไว้มากเลยทีเดียวล่ะ”

คำพูดของนอร่าทำให้โรเอลประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าการทะเลาะกันระหว่างตัวเขากับบรอนจะทำให้เกิดผลเช่นนี้ นอกจากนี้ตระกูลแอสคาร์ดเองก็ทำงานภายใต้กองทัพอยู่แล้ว มันจึงไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่หากสิ่งต่าง ๆ จะกลายเป็นแบบนั้น บางทีอาชีพทหารอาจจะเป็นผลดีสำหรับเขาก็ได้

เราควรจะลองดูดีไหมนะ?

โรเอลรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำแนะนำของนอร่า แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นสายตาแวววาวที่ซ่อนอยู่ภายในแววตาของเธอ

เดี๋ยวก่อน! นี่มันไม่ถูกต้อง นอร่ากำลังฝึกฝนอยู่ในกองทหารอัศวินศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เหรอ?

ชิ เราตกหลุมพรางของเธออีกแล้ว!

“ฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขานะที่คาดหวังในตัวฉัน แต่ฉันคงต้องขอผ่าน ฉันมันเป็นคนที่ไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไร อย่ามาเสียแรงกับฉันจะดีกว่า”

“หืม ขนาดนี้แล้วข้ายังไม่สามารถโน้มน้าวเจ้าได้อีกเหรอเนี่ย? หัวแข็งจริง ๆ เลยนะ”

เมื่อเห็นว่าแผนการของเธอล้มเหลว นอร่าก็ถอนหายใจยาวครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มให้ตัวเองอีกครั้ง

“เอาเถอะ ไม่สำคัญหรอก ยังไงซะพวกเราก็ยังมีเวลาอีกมาก”

มันคงไม่สนุกถ้าเกมจบเร็วเกินไปใช่ไหมล่ะ?

หลังจากนั้นนอร่าและโรเอลใช้เวลาในคืนแรกของปีใหม่ด้วยกันอย่างมีความสุข