บทที่ 51 พื้นที่ทำงานแคบจัง!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

กว่างโจว เทียนหาวสตูดิโอ

ด้านนอกของตึกสำนักงาน เสี่ยวลู่กับคนอื่นๆ กำลังตื่นตะลึง

ตึกสำนักงานทั้งเจ็ดชั้นเป็นของเทียนหัวสตูดิโอ! ยิ่งใหญ่จริงๆ!

ตรงทางเข้ามีป้ายเทียนหัวสตูดิโอ รอบๆ ตึกเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า บรรยากาศดูดีมาก

บริษัทเกมที่สามารถสร้างตึกเป็นของตัวเองได้ต้องไม่ขัดสนเรื่องเงินทองแน่!

สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาต่างนึกสงสัยว่าถ้าได้ทำงานในสถานที่แบบนี้จะเป็นอย่างไร

แต่เผยเชียนกลับนิ่งเฉย

เขามาที่นี่เพื่อผลาญเงิน การศึกษาดูงานเป็นแค่ข้ออ้าง อีกอย่างที่นี่ก็แค่มีพื้นที่มากกว่า ไม่เห็นมีอะไรต้องอิจฉา

เมื่อพวกเผยเชียนมาถึงทางเข้า พวกเขาก็พบกับคนจากเทียนหัวสตูดิโอที่มารอต้อนรับ

“ยินดีต้อนรับครับเลขาซิน! ท่านนี้คือบอสเผยใช่ไหมครับ สวัสดีครับ! ผมเป็นฝ่ายประสานงานของเทียนหัวสตูดิโอชื่อซุนฉี!”

คนที่มารอต้อนรับอายุประมาณยี่สิบหกปี

เผยเชียนได้ยินมาว่าโจวมู่หยัน โปรดิวเซอร์ของเทียนหัวสตูดิโอจะมาพบพวกเขาเช่นกัน แต่ด้วยสถานะของอีกฝ่าย พวกเผยเชียนยังไม่ถึงระดับที่เขาจะลงมาต้อนรับถึงทางเข้าด้วยตนเอง

ซุนฉีเดินนำทุกคนไปตามทางขณะแนะนำสิ่งต่างๆ ไปด้วย

“นี่คือป่าไผ่ตรงหน้าทางเข้าครับ เราสร้างไว้เพราะมีโปรเจ็กต์เกมสไตล์ย้อนยุค อ้อ ตรงนู้นมีกู่เจิงด้วยครับ บางทีก็จะมีสาวสวมชุดพื้นเมืองมาดีดด้วย”

“ตรงสุดทางด้านนู้นเป็นที่จอดรถ เพราะมีบางคนขับรถมาทำงาน”

“ถัดไปเป็นล็อบบี้หลัก เดี๋ยวผมพาทุกท่านไปที่พื้นที่รับรองเพื่อพบกับทีมคุมโปรเจ็กต์นะครับ”

เผยเชียนตรวจดูรอบๆ

บริษัทใหญ่นี่ช่างหรูหราโอ่อ่าจริงๆ!

พวกเขาน่าจะเสียเงินไปเยอะเพื่อสร้างที่แห่งนี้ขึ้น

ถ้าสร้างตึกสำนักงานเป็นของตัวเอง พวกเขาก็สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตลอด อย่างเช่น ปลูกป่าไผ่ หรือปรับเปลี่ยนรูปปั้น ทั้งหมดล้วนต้องใช้เงินมากโข ทีนี้เขาก็ไม่ต้องห่วงเรื่องผลาญเงินอีก!

แต่ก็แน่นอนว่าต้องมีเงินสักสิบถึงยี่สิบล้านถึงจะสร้างตึกสำนักงานแบบนี้ได้ ตอนนี้เผยเชียนมีเงินไม่พอ

เงินทุนระบบที่ระบบให้มาอยู่ที่ห้าแสนหยวน ถึงเกมที่เผยเชียนสร้างมาจะทำเงินให้ได้เยอะเสียจนอยากอ้วก แต่ยอดรวมก็แค่ประมาณหลักล้าน

ถ้าเขาสามารถทำรายได้หลักสิบหรือร้อยล้านต่อปี เผยเชียนก็จะสามารถสร้างตึกสำนักงานได้ในอนาคต

แต่เขาก็หวังว่าคงจะไม่เป็นอย่างนั้น…

ชายหนุ่มอยากให้บริษัทเสียเงินหลักล้านต่อปี มากกว่าได้เงินหลักสิบหรือหลักร้อยล้านต่อปี

ถ้าเสียเงินได้หลักล้านก็จะแปลงมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลโดยคูณเพิ่มไปอีกสิบเท่า แต่ถ้าดันทำเงินได้ละก็…

เลขาซินเคยไปเยี่ยมเยียนบริษัทหลายแห่งจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเช่นกัน

แต่คนอื่นๆ อย่าง หวงซื่อปั๋ว เสี่ยวลู่ และหม่าหยางต่างมองไปรอบๆ ด้วยดวงตาเป็นประกาย พวกเขาเป็นเหมือนพวกบ้านนอกที่เข้ากรุงเป็นครั้งแรก เห็นอะไรก็น่าตื่นตาตื่นใจไปหมด

แต่ก็แน่นอน ถ้าว่ากันตามตรง สวัสดิการของบริษัทเถิงต๋านั้นดีกว่าเทียนหัวสตูดิโอ

ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานหรือสเป็กคอมพิวเตอร์ ไม่มีบริษัทไหนในประเทศหรือแม้แต่ต่างประเทศที่ทุ่มทุนเท่าบริษัทเถิงต๋า

แต่เพราะบริษัทนี้มีตึกสำนักงานเป็นของตัวเอง และมีพื้นที่กว้างกว่า จึงดูดีกว่าในสายตาของคนนอก!

ทุกคนรู้สึกภูมิใจเล็กน้อยเมื่อไปถึงโต๊ะต้อนรับ

พลิกกลับมาชนะ!

โต๊ะรับรองของบริษัทเถิงต๋ามีคู่แฝดที่แค่หน้าตาก็ชนะพนักงานรับรองของเทียนหาวสตูดิโอขาดลอย เรื่องนี้พวกเขาชนะ!

ซุนฉีพาทุกคนไปที่ชั้นสี่เพื่อพบโจวมู่หยัน โปรดิวเซอร์ของเทียนหัวสตูดิโอ

เขาใส่สูทสบายๆ ซึ่งก็ถือเป็นชุดสุภาพในวงการเกมแล้ว

แต่พอเห็นกลุ่มคนที่ขึ้นมาหา สายตาเขาก็พุ่งไปทางเผยเชียนทันที

แม่ง สูทสั่งตัดเลยนะ!

โจวมู่หยันมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าสูทที่เผยเชียนใส่เป็นของราคาแพง น่าจะราคาหลักหมื่นเป็นอย่างต่ำ!

เขากลายเป็นฝ่ายที่รู้สึกกดดันขึ้นมาแทน รู้สึกเหมือนว่าตัวเองแพ้ในแง่ภาพลักษณ์…

ขณะเดียวกัน เขาก็นึกอิจฉาที่อีกฝ่ายเป็นถึงบอสที่สร้างเกมประสบความสำเร็จอย่างแม่ทัพผี ทั้งๆ ที่ยังดูอ่อนวัยเหมือนเด็กฝึกงาน!

หรือหมอนี่จะเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวย

ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่

ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะมีปัญญาซื้อเสื้อผ้าแบบนี้

เจ้าของบริษัทเปิดใหม่ส่วนใหญ่จะขี้งก อีกอย่างเสื้อผ้าราคาแพงก็ไม่ได้จำเป็นในอุตสาหกรรมเกม

ทั้งสองทักทายกันตามมารยาท “ผมได้ยินเกี่ยวกับคุณมาเยอะเลยครับ”

แต่จริงๆ แล้วไม่มีใครรู้เรื่องของอีกฝ่ายเลย…

เผยเชียนไม่รู้ว่าเทียนหัวสตูดิโอผลิตเกมอะไรบ้าง โจวมู่หยันรู้แค่ว่าเผยเชียนเป็นคนสร้างเกมแม่ทัพผี นอกจากนั้นก็ไม่รู้อะไรเลย

เพราะทั้งสองไม่รู้จักกันจึงไม่ได้เอ่ยยกยออะไรอีกฝ่าย จากนั้นโจวมู่หยันก็พาพวกเขาเดินชมรอบสตูดิโอ

“ตรงนี้เป็นบริเวณที่เราใช้อัดเสียง สตูดิโออยู่ถัดไป”

“แน่นอนว่าเราทำเพลงในเกมกับเสียงเอฟเฟ็กต์ทั้งหมดเองโดยเฉพาะ”

“ตรงนี้เป็นโซนทำงาน ตรงนั้นคือทีมงานภาพของเรา กำลังวาดภาพออริจินัลกันอยู่”

“ส่วนตรงนี้คือจุดที่เราใช้อบรมเรื่องความรู้เกี่ยวกับการออกแบบเกม”

“นี่คือชุดคอสเพลย์ที่เซเลบริตี้ที่เราจ้างมาใส่ เสร็จแล้วก็เก็บเอาไว้ตรงนี้ตั้งแต่ตอนนั้น”

“ผนังตรงนี้เป็นจุดแสดงสินค้าจากตัวเกมของเรา”

“ตรงนี้คือมุมพักผ่อน ส่วนตรงนู้นคือโรงอาหาร…”

โจวมู่หยันพาพวกเผยเชียนเดินรอบๆ ขณะเดียวกันก็แอบดูปฏิกิริยาของพวกเขา

เทียนหัวสตูดิโอถือเป็นบริษัทเก่าแก่ในตลาดเกมภายในประเทศ รูปแบบการทำงานของพวกเขาจะเป็นไปตามธรรมเนียมดั้งเดิม คือมีสตูดิโออัดเสียงและทีมงานภาพเป็นของตัวเอง เกือบทุกส่วนในเกมสร้างเองหมด ไม่เหมือนบริษัทเถิงต๋าที่ซื้อทรัพยากรงานภาพและเสียงจากเว็บไซต์รวมทรัพยากร

โจวมู่หยันแปลกใจเมื่อเห็นเสี่ยวลู่และคนอื่นๆ ที่ตื่นเต้นกันตอนอยู่หน้าตึกไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร…

ทำไมกลับกันล่ะ

ก่อนหน้านี้มีนักศึกษามาดูงานเหมือนกัน ถึงพวกเขาจะไม่แสดงอาการอะไรตอนอยู่ด้านนอก แต่พอเข้ามาด้านในก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่

นั่นก็เพราะในบริษัทของเขามีมุมพักผ่อน โรงอาหาร ห้องครัว และห้องสันทนาการ ถือเป็นสภาพแวดล้อมการทำงานที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้พวกนักศึกษาตื่นเต้นกันใหญ่เมื่อได้เห็นห้องต่างๆ และฝันอยากเข้ามาทำงานในบริษัทของเขา

แต่ทำไมพวกคนจากบริษัทเถิงต๋าถึงไม่ได้ดูตื่นเต้นอะไรเลย

ดูสิ นี่ห้องสันทนาการเลยนะ! มุมพักผ่อนก็มี!

ทีวีจอใหญ่นี่สวยใช่ไหมล่ะ โซฟาก็นั่งสบาย

ทำไมพวกนายไม่แสดงอาการอะไรกันเลยล่ะ!

โจวมู่หยันงงไปหมด

แต่เป็นเรื่องปกติที่พวกเผยเชียนจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร

พอได้เห็นห้องสันทนาการกับมุมจิบกาแฟ หลายคนก็ผุดคิดขึ้นมาเหมือนกันหมด

แค่นี้เองหรือ

กล้าเรียกที่อุดอู้แบบนี้ว่าเป็นห้องสันทนาการหรือ มีแค่ทีวีจอเล็กๆ กับเกมเครื่องเดียวเนี่ยนะ

มุมจิบกาแฟก็มีขนมแค่ไม่กี่ห่อ แถมมีป้ายติดไว้ด้วยว่าพนักงานคนหนึ่งกินได้เท่าไหร่ พวกนายกล้าเรียกว่าเป็นมุมจิบกาแฟจริงๆ หรือ

โม้มาตั้งนาน แต่ทุกอย่างที่มีสู้ของบริษัทเถิงต๋าไม่ได้เลย!

แน่นอนว่าพวกเขาพูดออกไปแบบนั้นไม่ได้ ทำได้แค่รู้สึกผิดหวังอยู่ในใจ…

เป็นอะไรที่น่าผิดหวังสุดๆ!

นี่คือสภาพแวดล้อมการทำงานของบริษัทเกมชั้นแนวหน้าหรือ

ต่างกับที่บริษัทเถิงต๋าราวฟ้ากับเหว!

ถึงภายนอกจะดูดี แต่ข้างในกลับช่างน่าเวทนา!

พวกเขาดูเฉยเมย

หม่าหยางนึกคำสั่งของเผยเชียนขึ้นได้ เขาคิดว่าถึงเวลาให้พิสูจน์ตัวเองแล้ว

เขาจะให้สถานการณ์กระอักกระอ่วนไปมากกว่านี้ไม่ได้! หม่าหยางต้องถามคำถามแสดงความคิดเห็น!

คิดได้แบบนั้น เขาก็มองไปที่โซนทำงานซึ่งแน่นขนัดพร้อมถามออกไปอย่างไม่คิดอะไร “โห วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่หรือครับ ทำไมมีคนอยู่ทำงานล่วงเวลาเยอะจัง”

โจวมู่หยันอึ้งไป

นั่นมันคำถามบ้าอะไร

ทุกบริษัทเกมในประเทศทำงานตามระบบ 996 หมด! ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันทำงาน แกคิดว่าฉันจะมาพาแกเดินชมสตูดิโอหรือ

คำถามของหม่าหยางฟังดูโง่เสียจนโจวมู่หยันไม่รู้จะตอบอย่างไร…

หวงซื่อปั๋วรีบตอบทันทีเพื่อแก้สถานการณ์ “อ๋อ ปกติก็ทำงานล่วงเวลากันแบบนี้แหละครับ”

หม่าหยางพยักหน้า “อ๋อ พวกเขาจะได้เงินล่วงเวลากันด้วยนี่เนอะ มีพนักงานทำงานล่วงเวลาเยอะขนาดนี้ บริษัทก็ต้องจ่ายค่าล่วงเวลาเยอะทุกเดือนเลยสิครับ”

ค่าล่วงเวลาหรือ

โจวมู่หยันยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่

เขางงมากว่าไอ้หน้าใหญ่นี่มาจากไหนกัน!

ทำไมไอ้นี่ถึงพูดเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวงการนี้เลย

บริษัทเกมไหนกันจะจ่ายเงินล่วงเวลา ระบบ 996 เป็นเรื่องปกติของทุกบริษัท!

พอเห็นสีหน้าแปลกๆ ของโจวมู่หยัน หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ ก็เข้าใจสถานการณ์ทันที

แต่หม่าหยางไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เขาทำท่าเหมือนจะถามคำถามเพิ่มอีกด้วยซ้ำ

เผยเชียนดึงหม่าหยางออกมาทันที

ไอ้บ้า! ถามอะไรออกไปเนี่ย!

ฉันบอกให้แกถามคำถาม ไม่ใช่สร้างปัญหา! ขืนถามไปอีก โจวมู่หยันได้ถีบแกออกจากตึกแน่!

เราไม่ได้บินมาไกลเพื่อสร้างศัตรูนะ!

หม่าหยางยักไหล่ ไม่เข้าใจว่าทำไมเผยเชียนถึงดึงเขาออกมา

ฉันถามอะไรผิด ที่พูดไปก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือ

โชคดีที่เขาไม่ได้โง่ขนาดที่จะถามอะไรต่อและเงียบไป

โจวมู่หยันพูดอะไรไม่ออก แต่เขาก็เป็นมืออาชีพพอที่จะมองข้ามเรื่องน่ารำคาญนี้ไปและแนะนำสตูดิโอต่อ

แต่ความตื่นเต้นของพวกเผยเชียนก็เลือนหายไปแล้วตั้งแต่ได้เห็นความเป็นจริง ท่าทีของทุกคนดูเฉยเมย

โจวมู่หยันไม่พอใจเรื่องนี้มาก ทุกคนควรจะตื่นเต้นและอิจฉาสิ

เขามั่นใจว่าสภาพแวดล้อมการทำงานของเทียนหัวสตูดิโอนั้นดีกว่าร้อยละเก้าสิบของบริษัทเกมภายในประเทศ

เป็นเรื่องแปลกมากที่พวกเขาไม่นึกอิจฉา

เสี่ยวลู่มองโซนทำงานแล้วพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว “โซนทำงานดูคับแคบจัง…”

……………….