เผยอวี้เฉิง “นายเป็นหนี้บุญคุณหลินเยียน…”
“ใช่…ใช่แล้ว…” เผยอวี่ถังพูดเนือยๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็เก็บไว้เถอะ” เผยอวี้เฉิงพูดพร้อมโยนโทรศัพท์มือถือคืนเขา
เผยอวี่ถังได้ยินแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อ
พี่…พี่ชายเขา…ยอมเสียสละตัวเอง…เพื่อทดแทนบุญคุณให้เขา!
เผยอวี่ถังตื่นเต้นมาก แค่นเสียงตอบรับที พลันพุ่งเข้าหา “พี่ชายใหญ่! พี่ยังรักผมอยู่จริงๆ ด้วย!!!”
เผยอวี้เฉิง:“……”
เขาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
……
เผยอวี่ถังฟังจบ ก็ออกไปอย่างปลื้มปีติ
เผยอวี้เฉิงกลับไปที่ห้องรับแขก เปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าขวดหนึ่งออกมา และในขณะนั้นเอง ความวิงเวียนอันคุ้นเคยได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
น้ำในมือที่เพิ่งเปิดฝาออก ร่วงลงพื้น กระเซ็นไปทั่ว…
จิตใต้สำนึกราวกับถูกเหวลึกกลืนกิน ค่อยๆ เข้าไปอยู่ท่ามกลางความมืด…
เผยอวี้เฉิงพยายามฝืนสติเสี้ยวสุดท้าย เดินเซไปที่โซฟาที่อยู่ตรงหน้า เพิ่งจะนั่งลงไป ร่างกายของเขาก็ล้มลง และหมดสติไปอย่างสิ้นเชิง…
……
คอนโดเจียงเฟิง
วังจิ่งหยางออกไปเลือกซื้อของทั้งบ่าย ในที่สุดก็ถือถุงเล็กถุงใหญ่กลับมา
“หลินเยียน ของที่เธอต้องการมาแล้ว เธอลองดูเอง…”
“ดีจังเลย!” หลินเยียนวางหนังสือเฉพาะทางลง แล้วเด้งตัวออกจากหน้าโต๊ะทำงาน
เปิดถุงดูก็พบว่า ของที่วังจิ่งหยางซื้อมาถือว่าครบ โดยทั่วไปแล้วถือว่ามีทุกอย่างในใบสั่งของเธอ
หลินเยียนอุ้มขึ้นมาอย่างสมบัติอันล้ำค่า พลันตรวจดูทีละอย่าง
ก็ไม่รู้ว่าแบบไหนที่ใช้ได้ผล?
ช่างเถอะ ไม่สนแล้ว ใช้ทั้งหมดเลยแล้วกัน!
หลินเยียนเริ่มจัดแจง แขวนดาบไม้ท้อและกระจกแปดเหลี่ยมขึ้นไปทั้งหมด ติดยันต์ทั่วบ้าน ร้อยกระเทียมแขวนคอตัวเอง…
วังจิ่งหยางที่มองอยู่ข้างๆ งงเป็นไก่ตาแตก “ครั้งนี้เธอเล่นบทอะไร..เป็นหมอผีเหรอ?”
หลินเยียนไม่ตอบ พลันหยิบยันต์สีเหลืองแผ่นหนึ่งขึ้นมายื่นให้วังจิ่งหยาง “ไอ้ลูกหมา มานี่ มาติดให้ฉันหน่อย ติดบนหน้าผากฉัน ด้านหน้านะ กลางๆ หน่อย ติดให้ตรงล่ะ!”
วังจิ่งหยาง “เธอจริงจังมั้ย?”
หลินเยียน “จริงจังมาก! รีบมา!”
วังจิ่งหยางถอนหายใจ เดินเข้าไปอย่างจนปัญญา รับกระดาษเหลืองที่ทำขึ้นอย่างหยาบกระด้าง “ฉันยอมเธอแล้วจริงๆ…”
“มาๆๆ…” หลินเยียนหลับตา ชี้หน้าผากตัวเองเร่ง
วังจิ่งหยาง:“……”
เหอะเหอะ ผู้หญิงคนอื่นล้วนหลับตาเพื่อจูบอันดูดดื่ม ส่วนเธอ กลับให้เขาทำเรื่องแบบนี้!
วังจิ่งหยางฉีกกาวสองหน้าด้านหลังกระดาษสีเหลืองออก หามุม เล็งที่หน้าผากของหลินเยียนแล้วแปะเข้าไป…
แต่แล้วในชั่ววินาทีที่กระดาษเหลืองในมือของวังจิ่งหยางกำลังจะสัมผัสกับหลินเยียน มือเล็กอันขาวเนียนของหญิงสาวพลันยกขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วคว้าข้อมือของเขาไว้อย่างแม่นยำ
“อ๊าก…”
ความเจ็บแผ่กระจายออกจากข้อมือ วังจิ่งหยางพลันร้องโอดครวญ “เยดเข้! เจ็บๆๆ! ปล่อย! ปล่อย! หลินเยียน! เธอทำอะไรเนี่ย!!!”
เห็นเพียงว่าหญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาที่ราวกับถูกน้ำแข็งปกคลุม
สายตาของหญิงสาวจ้องอยู่บนใบหน้าของวังจิ่งหยาง หรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะมองตามมือของวังจิ่งหยางลงไปหยุดอยู่บนกระดาษสีเหลืองในมือเขา…
กระดาษสีเหลืองอันหยาบกระด้าง มีตัวหนังสือที่เขียนด้วยปากกาสีแดง ยุกยิกเหมือนไส้เดือนจนอ่านไม่ออก…
จากนั้นดวงตาอันเย็นชาก็กวาดมองรอบๆ ห้องนิ่งๆ พลันเห็นดาบไม้ท้อที่แขวนอยู่บนหัวเตียง กระจกแปดเหลี่ยมที่ห้อยอยู่บนขอบประตู ยันต์ที่ติดเต็มห้อง รวมทั้ง…กระเทียม…พวงใหญ่อันหนักอึ้งบนคอตน…
มุมปากของหญิงสาวกระตุกขึ้นเบาๆ ที อย่างไม่ผิดสังเกต ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ ยื่นมือไปนวดระหว่างคิ้วของตน
ประเมินสติปัญญาของเธอสูงไป…จริงๆ…