ตอนที่ 58 แบบนี้ไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์!

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่เผยอวี้เฉิงฟื้นขึ้นมา ก็พบว่า… 

 

 

           จิตใต้สำนึกของเขาเข้ามาอยู่ในร่างกายของหลินเยียนอีกครั้ง 

 

 

           จากนั้นก็เห็นของแปลกๆ เต็มห้อง… 

 

 

           เมื่อตระหนักได้ว่ายัยผู้หญิงคนนี้เห็นตนเป็นตัวอะไร ความรู้สึกของเผยอวี้เฉิงก็อยากจะเปรียบเปรย 

 

 

           วังจิ่งหยางกุมข้อมือที่เจ็บแปลบ พร้อมต่อว่าอย่างโศกเศร้าเสียใจ “เว้ย หลินเยียน เธอเป็นคนบอกให้ฉันติดไม่ใช่เหรอ? จะเอายังไงอีก?” 

 

 

           เผยอวี้เฉิงกวาดสายตามองเขานิ่งๆ แวบหนึ่ง “มีบุหรี่มั้ย?” 

 

 

           สายตาที่จู่ๆ ก็ดูห่างเหินขึ้นมา ทำให้วังจิ่งหยางอดอึ้งไม่ได้ พลันเอ่ยอย่างแคลงใจ “บุหรี่เหรอ? เธอสูบบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?” 

 

 

           เผยอวี้เฉิงเงียบ เดินไปนั่งลงหน้าโต๊ะทำงานแล้วพลิกดูหนังสือเฉพาะทางบนโต๊ะ 

 

 

           วังจิ่งหยางยื่นบุหรี่มวนหนึ่งให้ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ผู้หญิงอย่าสูบบุหรี่เลยดีกว่า…” 

 

 

           อีกฝ่ายรับไปเงียบๆ วังจิ่งหยางจึงโน้มเข้าไป จุดบุหรี่ให้เธอ 

 

 

           วังจิ่งหยางเห็นหญิงสาวคีบบุหรี่มวนนั้นด้วยท่าทีดูชำนาญอย่างมาก  

 

 

           หลังจากเผยอวี้เฉิงรับบุหรี่ไป ก็ไม่ได้สูบ เพียงวางไว้บนมือ ให้มันมอดไหม้เงียบๆ ราวกับกำลังใช้วิธีนี้ผ่อนคลายความเครียดและใช้ความคิด 

 

 

           “เธอ…เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” วังจิ่งหยางรู้สึกว่าอาการของหลินเยียนดูแปลกๆ จึงไม่กล้าพูดอะไร 

 

 

           หรือซ้อมบทจนเพี้ยนไปแล้ว? 

 

 

           “นายไปได้แล้ว” 

 

 

           “ได้ มีอะไรเธอเรียกฉันนะ…” 

 

 

           “เดี๋ยวก่อน” วังจิ่งหยางกำลังจะไป ก็ถูกเรียกตัวเอาไว้ จากนั้นหญิงสาวพลันชี้พวกของที่รกอยู่ในห้อง “เอาของพวกนี้ออกไปด้วย” 

 

 

           วังจิ่งหยางอกแทบแตก “ห๊ะ! เอาจริงเหรอ! เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า! ฉันอุตส่าห์ลำบากไปซื้อมา เธอไม่เอาแล้วงั้นเหรอ?” 

 

 

           เผยอวี้เฉิงกวาดสายตามองเขานิ่ง “เปลี่ยนใจง่ายและเอาแต่ใจ เป็นสิทธิ์ของผู้หญิง” 

 

 

วังจิ่งหยาง:“……” 

 

 

           เอาเถอะ เขากลับเถียงไม่ออก… 

 

 

           หลังจากวังจิ่งหยางออกไป หางตาของเผยอวี้เฉิงก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นขาวที่แปะอยู่หน้ากระจก บนกระดาษเป็นลายมือของหลินเยียน ใช้ปากกาสีแดงเขียนตัวหนังสือตัวใหญ่ๆ สีแดงสดเอาไว้  

 

 

           เผยอวี้เฉิงยื่นมือไปแกะกระดาษแผ่นนั้นออก จึงเห็นบนกระดาษเขียนว่า… 

 

 

           ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นปีศาจมาจากไหน! 

 

 

           แต่ถ้าเธอควบคุมร่างกายของฉันอีก ขอให้คุณทำตามข้อตกลงดังต่อไปนี้! 

 

 

           มิฉะนั้น ฉันกับเธอได้พินาศไปพร้อมกันแน่! (วาดรูปมีดเอาไว้) 

 

 

           ข้อหนึ่ง ห้ามเข้าใกล้เผยหนานซวี่ในระยะสิบเก้า! 

 

 

           ข้อสอง ห้ามเข้าใกล้เสิ่นจาวมู่ในระยะสิบเก้า! 

 

 

           ข้อสาม ห้ามเข้าใกล้เว่ยสวีเฟิงในระยะสิบเก้า! 

 

 

           ข้อสี่ ห้ามเข้าใกล้ถังจยาเยี่ยในระยะสิบเก้า 

 

 

           ข้อห้า ห้ามเข้าใกล้หันอี้เซวียนในระยะสิบก้าว! 

 

 

           ข้อหก ห้ามเข้าใกล้เผยอวี้เฉิงเกินสิบก้าว! ห้ามเข้าใกล้เผยอวี้เฉิงเกินสิบก้าว! ห้ามเข้าใกล้เผยอวี้เฉิงเกินสิบก้าว! 

 

 

…… 

 

 

           หลินเยียนรู้สึกว่าจิตใต้สำนึกของตนราวกับตกอยู่ท่ามกลางความอลหม่าน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดก็ค่อยๆ ตื่นจากท่ามกลางความมืดมน และทันทีที่รู้สึกตัว เธอก็พบว่า… 

 

 

           ร่างกายของตนนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งถือ ‘ใบเตือน’ ที่เขียนขึ้นก่อนหน้านี้ ในขณะที่มืออีกข้างถือบุหรี่ที่มอดไหม้ไปกว่าครึ่งมวน 

 

 

           และเธอได้ค้นพบอย่างระทึกว่า ร่างกายของเธอถูกควบคุมอีกแล้ว! 

 

 

           เซ่นของมากมายขนาดนั้นไปพร้อมกัน ไอ้คนนี้กลับไม่กลัวเลยสักนิด ทั้งยังเข้าควบคุมร่างกายของเธอในช่วงสถานการณ์แบบนี้! 

 

 

           “เธอๆๆๆ…เธออีกแล้วเหรอ!?” 

 

 

           “เธอไม่กลัวของพวกนี้เลยเหรอ?” 

 

 

           “แบบนี้มันไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์!” 

 

 

           เผยอวี้เฉิงได้ยินเสียงที่ดังมาจากในห้วงความคิด รู้ว่าจิตใต้สำนึกของหญิงสาวรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง จึงหัวเราะเยาะ “ตรงกันข้าม” 

 

 

           หลินเยียน “…!!!” 

 

 

           ไอ้คนนี้คุยกับตนได้จริงๆ ด้วย! 

 

 

           ตรงกันข้ามหมายความว่าไง? 

 

 

           ไม่กลัวของพวกนี้จึงจะเรียกว่าถูกหลักวิทยาศาสตร์งั้นเหรอ? 

 

 

           คิดๆ ดูแล้ว…ก็เหมือนจะถูกนะ… 

 

 

           ของพวกนั้นไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์เลยจริงๆ …ความจริงเธอเองก็แค่ดันทุรัง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าไม่ช่วยอะไร!