บทที่ 64 บินเดี่ยว? บินเดี่ยว!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยกล้องมีความยอดเยี่ยมที่การผ่าตัดธรรมดาเทียบไม่ได้ แต่หลายปีมานี้พบว่าการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยกล้องมีข้อเสียมากขึ้นเรื่อยๆ

เนื่องจากตอนที่ผ่าตัดด้วยกล้อง เมื่อใช้กล้องเจาะและอัดก๊าซเข้าไป จะทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์และอุบัติเหตุมากมาย

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ทำงานด้านศัลยกรรมการผ่าตัดจึงเริ่มหันมาทำวิจัยกันมากขึ้น ทำให้มีวิธีการผ่าตัดหนึ่งที่เรียกว่า “การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็ก” เกิดขึ้นมา

วิธีการผ่าตัดแบบนี้ชดเชยข้อด้อยของแผลขนาดใหญ่แบบดั้งเดิมได้ อีกทั้งยังเติมเต็มความต้องการของผู้ป่วยได้ด้วย

เมื่อเห็นการผ่าตัดของเฉินชาง สายตาของหลี่เป่าซานถึงกับเปล่งประกาย ส่วนต้วนโปมองเหมือนกับมองคนรัก!

เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินชางจะใช้การผ่าตัดแบบนี้!

ตื่นเต้น!

คาดหวัง!

ทำไมถึงพูดแบบนี้น่ะหรือ?

เนื่องจากในปัจจุบัน โรงพยาบาลระดับรากหญ้าใช้การผ่าตัดด้วยกล้องน้อยมาก เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละด้านทำให้โรงพยาบาลต้องลงทุนมากทั้งยังเป็นภาระแก่ตัวผู้ป่วยอีกด้วย

ถ้าโรงพยาบาลของพวกเขาเริ่มทำการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กแบบนี้ ก็จะใช้การผ่าตัดชนิดนี้ดึงดูดผู้ป่วยได้มากขึ้น ใช้ยกระดับชื่อเสียงของโรงพยาบาลได้!

เขาถึงกับจินตนาการภาพการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กในอนาคตได้เลยทีเดียว

นี่ต้องเป็นเรื่องสุดยอดมากแน่!

ความจริงต้องกล่าวว่าในสายตาของต้วนโป การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันและการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบแบบง่ายๆ สมควรใช้การผ่าตัดด้วยแผลเล็กเช่นนี้ เนื่องจากมีข้อดีมากมาย เช่น ใช้เวลาน้อย ทำให้บาดเจ็บน้อย แผลเล็ก ใช้เวลาฟื้นตัวน้อย เป็นเทคนิคการผ่าตัดเล็กที่สมควรเผยแพร่ในโรงพยาบาล

แต่หมอระดับรากหญ้าไม่มีความสามารถนี้ เนื่องจากในปัจจุบันเทคนิคนี้เพิ่งปรากฏในเวลาสั้นๆ ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย อีกทั้งยังต้องการศัลยแพทย์ที่มีฝีมือสูง คนที่กล้าทำแบบนี้มีน้อยมาก

วิธีการของเฉินชางมั่นคงมาก ยกส่วนปลายไส้ติ่งขึ้นจนติดกับไส้ติ่งแล้วใช้มีดไฟฟ้าผ่าออก ในที่สุดก็ตัดไส้ติ่งออกมาได้!

เฉินชางค่อนข้างหวงมือของตนมาก ไม่ใช่แค่เพราะมือทั้งสองเป็นเหมือนแฟนสาวของเขา แต่สำหรับศัลยแพทย์ผู้ยอดเยี่ยมแล้วจำเป็นต้องมีมือที่ยืดหยุ่น นี่เป็นเงื่อนไขสำคัญ

ทุกคนที่อยู่รอบๆ มองเหมือนถูกมอมเมา พวกเขาคิดไม่ถึงว่าหมอเล็กๆ ของโรงพยาบาลอันดับสองจะยอดเยี่ยมขนาดนี้!

ทันใดนั้นทุกคนพากันพยักหน้าอย่างปลงอนิจจัง

สำหรับผู้แข็งแกร่ง ทุกคนมักให้ความเคารพเสมอ

ชั่วขณะนั้นเอง เฉินชางใช้ “การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็ก” ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่เลื่อมใส!

หลี่เป่าซานเป็นคนที่เคยเห็นโลกมามาก เขามีโอกาสเข้าร่วมการสัมมนาเล็กใหญ่อยู่บ่อยๆ ดังนั้นการผ่าตัดด้วยแผลเล็กจึงไม่นับเป็นเรื่องแปลกอะไร แต่ว่า…ไม่ใช่เรื่องแปลกเป็นคนละเรื่องกับทำได้หรือไม่

หลี่เป่าซานเองก็ทำได้ แต่หลี่เป่าซานทำน้อยมาก เนื่องจากโรงพยาบาลใหญ่อย่างโรงพยาบาลอันดับสองไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดเช่นนี้ โดยปกติหากไม่ทำการผ่าตัดไส้ติ่งแบบธรรมดาก็จะใช้การผ่าตัดด้วยกล้อง

ยิ่งไปกว่านั้น หมอส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลใหญ่สามอันดับแรกมักดูถูกการผ่าตัดเล็กๆ แบบนี้ จะไม่ยอมเสียพลังงานและเวลาไปกับเรียนรู้วิธีการผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แน่นอน

การเสียพลังงานมากมายไปกับการเรียนรู้การผ่าตัดเล็กๆ อย่างเดียว ทุกคนไม่โง่ทำแบบนั้นแน่

การผ่าตัดไส้ติ่งเคสหนึ่งจะทำเงินได้เท่าไหร่กันเชียว?

แล้วการผ่าตัดกระเพาะอาหารทำเงินได้มากเท่าไหร่?

เป็นเหตุผลที่ง่ายดายมาก

หลี่เป่าซานเคยเห็นการผ่าตัดแบบนี้มาแล้ว ดังนั้นจึงตื่นตะลึงยิ่งขึ้น เพราะเขาพบความแปลกประหลาดบางอย่าง เขาพบว่าการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กของเฉินชางนั้น เมื่อเทียบกับการผ่าตัดที่ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งทำในการประชุมที่เมืองหลวงแล้วยังดูยอดเยี่ยมกว่ามาก!

ถูกต้อง!

ดังนั้นหลี่เป่าซานจึงถูกการผ่าตัดของเฉินชางทำให้ตะลึงขึ้นมาจริงๆ

การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กไม่เหมาะกับโรงพยาบาลใหญ่สามอันดับแรก แต่สำหรับโรงพยาบาลระดับรากหญ้ากลับแตกต่างกันออกไป

เมื่อแบ่งระดับการรักษาแล้ว โรงพยาบาลระดับรากหญ้าจะมีเคสผ่าตัดเล็กๆ มากกว่า เช่นการผ่าตัดไส้ติ่ง การผ่าตัดถุงน้ำดี…โรคพวกนี้เป็นโรคที่พบเห็นได้ทั่วไป ถ้าคุณรักษาอาการป่วยเหล่านี้ได้ดี นั่นก็ถือเป็นท่าไม้ตายของคุณ!

หมอเล็กๆ พากันเบิกตากว้าง ทุกคนไม่ใช่คนโง่ ย่อมดูออกกันหมดแล้ว ถ้าตนเรียนรู้ได้ จะไม่กลายเป็นดาวรุ่งของแผนกศัลยกรรมเลยหรือ?

ทุกคนพากันหายใจกระชั้นถี่ อดรนทนไม่ไหวอยากเข้าไปเป็นผู้ช่วยเฉินชางแล้ว!

ส่วนต้วนโป ในฐานะที่เป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทั่วไปยิ่งรู้สึกกระตือรือร้นมากกว่า

ปีนี้ต้วนโปเพิ่งจะอายุเท่าไหร่กัน?

สามสิบเจ็ดปี!

วัยนี้เป็นวัยรุ่งโรจน์ของศัลยแพทย์คนหนึ่งพอดี เมื่อเห็นการผ่าตัดของเฉินชาง เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเผยแพร่เทคนิคของเฉินชางไปในแผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลประชาชนแห่งอำเภอหลานให้ได้

ต้องเชิญ “ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลอันดับสอง” คนนี้มาร่วมผ่าตัดบ่อยๆ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ต้วนโปก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นเล็กน้อย

หากตนพัฒนาแผนกศัลยกรรมทั่วไปให้กลายเป็นแผนกอันดับหนึ่งในอำเภอหลานได้ อนาคตคง…

……

……

หลังจากเฉินชางเย็บแผลเสร็จ ในตอนที่ผูกปมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว รอบด้านพลันมีเสียงตบมือดังขึ้น!ดังอย่างยาวนาน!

ตอนนี้ผู้ป่วยที่นอนอยู่บนเตียงยิ่งตื่นเต้นและดีใจมากกว่า คิดในใจว่า*“เสียงตบมือดังขนาดนี้ ดูท่าทางการผ่าตัดต้องไม่เลวแน่ ผู้เชี่ยวชาญ จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่นอน!”*

หลังจากผู้ป่วยถูกพาออกไป หลี่เป่าซานที่เคร่งขรึมมาโดยตลอดก็ชมเชยเฉินชางด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลว เสี่ยวเฉิน คุณซ่อนฝีมือไว้ลึกมากจริงๆ ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กได้ดีเยี่ยมขนาดนี้! ดูท่าทางเมื่อก่อนผมคงรู้จักคุณไม่พอจริงๆ คุณทำได้ไม่เลวเลย ผมถูกใจคุณจริงๆ คุณจะต้องอยู่ในแผนกฉุกเฉินต่อไปนะครับ!”

เฉินชางยิ้ม “ผมก็ทำได้แค่การผ่าตัดง่ายๆ เท่านั้นแหละครับ หัวหน้า คุณชมผมเกินไปแล้ว”

เมื่อต้วนโปได้ยินดังนั้นก็รีบเดินเข้ามา “เสี่ยวเฉินเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ยอดเยี่ยมมาก! ร้ายกาจจริงๆ นี่เป็นการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย!”

เฉินชางยิ้มเขินๆ

[ติ๊ง! ภารกิจแสดงฝีมือสำเร็จ ได้รับ: การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กพัฒนาขึ้นระดับหนึ่ง]

[ติ๊ง! การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กเป็นวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ ทักษะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความปลอดภัยระหว่างการผ่าตัด เสริมข้อด้อยในการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะช่วยขยายขอบเขตการทำงานของการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กได้อีกด้วย สร้างประโยชน์ในการผ่าตัดมากขึ้น]

เมื่อเสียงจบลง เฉินชางก็รู้สึกว่าในสมองมีข้อมูลหลายอย่างปรากฎ

เมื่อคิดถึงการผ่าตัดเมื่อครู่นี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ดูเหมือนจะมีจุดบกพร่องไม่น้อย!

นี่…มีวิธีการมากมายจริงๆ!

การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กมีข้อจำกัดมากมาย ถ้าปรับปรุงตามวิธีการพวกนี้จะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆ

ตอนเช้าผ่าตัดไปสี่เคส ตอนกลางวันกินข้าว ระหว่างกินข้าวทุกคนต่างถกกันถึงเทคนิคและวิธีการที่ใช้ในการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็ก

เฉินชางกลายเป็นจุดศูนย์กลางโดยไม่ต้องสงสัยเลย

ระหว่างกินข้าว ต้วนโปเดินมาหา รู้สึกเขินๆ เล็กน้อย…หลังจากลังเลครู่หนึ่งจึงมองไปที่เฉินชางแล้วพูดว่า “ผู้เชี่ยวชาญเสี่ยวเฉิน ผมวานอะไรคุณสักเรื่องได้หรือเปล่าครับ?”

เฉินชางยิ้ม “หัวหน้าต้วน คุณอย่าเรียกผมผู้เชี่ยววชาญเลย มันรู้สึกกระอักกระอ่วนแปลกๆ น่ะครับ”

ต้วนโปยิ้มตาม “ผู้เชี่ยวชาญก็คือผู้เชี่ยวชาญ ที่สมควรเรียกก็สมควรเรียก อีกอย่างถ้าผมไม่เรียกคุณว่าผู้เชี่ยวชาญผู้ป่วยคงรู้สึกไม่วางใจ! บางครั้งการเป็นหมอ ไม่เพียงแต่จะต้องมีเทคนิค แต่คุณต้องทำให้ผู้ป่วยไว้วางใจในตัวคุณด้วยนะครับ”

เฉินชางชะงักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะมีเหตุผล

ต้วนโปพูดต่อไป “คือแบบนี้น่ะครับ ผู้เชี่ยวชาญเสี่ยวเฉิน ผมขอเชิญคุณมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลของพวกเราได้หรือเปล่าครับ? คุณวางใจได้ ผมจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เชี่ยวชาญให้แน่!”