ตอนที่ 189 น่าอึดอัดเกินไปแล้ว! / ตอนที่ 190 อธิบายอะไร

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 189 น่าอึดอัดเกินไปแล้ว! 

 

 

เงาร่างสูงโปร่งของอวี๋เยว่หานยืนอยู่ข้างหลังเสี่ยวลิ่วลิ่ว เขาสวมชุดไปรเวทสีขาวทั้งตัว แลดูเปล่งประกายทีเดียว 

 

 

การตัดเย็บง่ายและเรียบลื่น ขับเน้นให้รูปร่างของเขาสมบูรณ์แบบเข้าไปใหญ่ 

 

 

เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวสะอาดตาแบบนี้ ช่วยลดความเย็นชาบนใบหน้าของเขาลงไปได้อย่างน่าประหลาด 

 

 

ซิปเสื้อนอกบางๆ ถูกรูดขึ้นมาครึ่งหนึ่ง เสื้อยืดข้างในพิมพ์ลายการ์ตูนที่ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของเขา 

 

 

ทั้งหมดนี้เหมือนกับที่เสี่ยวลิ่วลิ่วสวมใส่อยู่เปี๊ยบ 

 

 

เป็นชุดพ่อลูก 

 

 

แค่มองจากท่าทางของทั้งคู่แค่ครั้งเดียว ก็รู้แล้วว่าเขาถูกเสี่ยวลิ่วลิ่วลากมา 

 

 

เวลานี้ มือข้างหนึ่งของเขาล้วงกระเป๋ากางเกง พลางเหลือบมองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย 

 

 

สายตาเย็นชาของเขาทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ตัวสั่นไปหมดแล้ว! 

 

 

หญิงสาวรีบตะเกียกตะกายลงจากเตียง แล้วยื่นมือไปจัดเสื้อผ้าบนตัวด้วยความเคร่งเครียด “คุณชาย อรุณสวัสดิ์!” 

 

 

“อีกสิบน่าทีจะเที่ยงแล้ว ไม่เช้าแล้วซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน” อวี๋เยว่หานยกมือขึ้นมามองนาฬิกาข้อมือเล็กน้อย และกล่าวอย่างเย็นชา 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” 

 

 

“สิบนาทีก็พอแล้ว ฉันจะไปจัดการตัวเองเดี๋ยวนี้ แล้วจะไปกินข้าวกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว!” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพลางพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ทันได้ใส่รองเท้าแตะด้วยซ้ำ และล้างหน้าบ้วนปากอย่างรวดเร็ว 

 

 

จากนั้นเธอก็กลับมาที่ห้อง หลังจากเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วก็หยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยนใส่ตามสัญชาตญาณ 

 

 

แต่เพิ่งถอดเสื้อผ้าไปได้ครึ่งหนึ่ง อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าสองพ่อลูกยังยืนอยู่หน้าประตูห้อง 

 

 

ท่าทางของเธอแข็งทื่อไปในทันที ก่อนจะหันไปมองอย่างลุกลี้ลุกลน 

 

 

ประตูห้องเปิดกว้าง ดวงตาโตสีดำขลับกำลังจ้องมองแผ่นหลังเกลี้ยงเกลาของเธอด้วยความตื่นเต้น 

 

 

ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าอวี๋เยว่หานมองเห็นแล้วแน่ๆ 

 

 

ทันใดนั้น สมองของเหนียนเสี่ยวมู่เหมือนถูกช้างเหยียบ สูญเสียความสามารถในการคิดวิเคราะห์ไปแล้ว 

 

 

ตอนนี้เธอต้องตะโกนว่าเขาว่าลามกสักครั้ง 

 

 

หรือควรก้มหน้าขอโทษ อธิบายกับเขาว่าเธอไม่ได้จงใจให้ท่า 

 

 

แต่สมองของเธอยังไม่ทันแยกแยะผลลัพธ์ของทั้งสองข้อเสร็จสิ้น อวี๋เยว่หานก็หลุบตาลง มุมปากยกขึ้นอย่างไม่เกรงใจ 

 

 

“เสียสายตา” 

 

 

จากนั้นเขาก็จูงเสี่ยวลิ่วลิ่วที่มีแต่ความสงสัยไม่จบสิ้นหมุนตัวจากไป 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !! 

 

 

 

 

 

เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย เธอก็ออกมาจากห้องของตัวเอง 

 

 

บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่สวมเสื้อผ้าเหมือนกันนั่งอยู่แล้ว 

 

 

อวี๋เยว่หานกำลังถือช้อน และซดน้ำแกงอย่างเชื่องช้า 

 

 

ใบหน้าสมบูรณ์แบบ โครงหน้าชัดเจน 

 

 

แสงที่ลอดมาจากหน้าต่างส่องบนใบหน้าของเขา สร้างเงาบนปีกจมูกของเขา ยิ่งทำให้เครื่องหน้าของเขาดูน่าหลงใหลเข้าไปใหญ่ 

 

 

ราวกับเป็นพรจากพระเจ้า 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองชายหนุ่มที่แสดงความสูงศักดิ์ออกมาในทุกท่วงท่า ในหัวพลันปรากฏคำตอบจากเพื่อนบนอินเทอร์เน็ต 

 

 

[มีแค่ฉันที่คิดว่าประธานชอบเจ้าของกระทู้ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นทำไมต้องอธิบายกับเธอด้วย ฉันนี่ฉลาดทีเดียว พบความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้เข้าแล้วใช่ไหม ฮ่าๆๆๆๆ] 

 

 

เหอะ! 

 

 

ผู้ชายที่ชอบคุณ จะบอกว่าเสียสายตาตอนมองคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าไหม 

 

 

ยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองฉลาดอีก 

 

 

คิดผิดถนัด! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กลอกตา แล้วมองไปทางเสี่ยวลิ่วลิ่วที่อยู่ข้างๆ เขา 

 

 

“พี่สาวคนสวย!” เสี่ยวลิ่วลิ่วกำลังถือช้อนขนาดเล็กซดน้ำแกง เมื่อเด็กหญิงมองเห็นเธอ ก็ยกแขนขึ้นด้วยความตื่นเต้น 

 

 

ดวงตากลมโตสะสวยคู่นั้นโค้งเว้าไปตามรอยยิ้ม 

 

 

พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ เห็นเธอยิ้มอย่างเบิกบานใจแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ดูเหมือนวันนี้คุณหนูจะตื่นเต้นมากเลยนะครับ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” 

 

 

วินาทีต่อมา เสี่ยวลิ่วลิ่วก็เชิดหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มกริ่ม “หนูกับปาปาไปดูพี่สาวคนสวยเปลี่ยนเสื้อผ้ามาล่ะ” 

 

 

“…” 

 

 

“ปาปาบอกว่าเสียสายตา เสียสายตาแปลว่าสวยใช่ไหม” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 190 อธิบายอะไร 

 

 

พ่อบ้าน “…” 

 

 

บรรยากาศในห้องอาหารเหมือนจะเปลี่ยนไปในทันที 

 

 

พ่อบ้านเบิกตาโพลงมองเสี่ยวลิ่วลิ่ว อ้าปากกว้างจนแทบจะกลืนไข่ไก่ลงไปได้ทั้งลูก เมื่อดึงสติกลับมาได้ เขาก็หันหน้าไปมองเหนียนเสี่ยวมู่อย่างแรง 

 

 

พ่อบ้านพิจารณาเหนียนเสี่ยวมู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับกำลังสืบเสาะว่าบนตัวเธอมีตรงไหนเห็นแล้วเสียสายตาบ้าง! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หน้าแดงในทันใด พร้อมกับรีบร้อนอธิบาย “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เสี่ยวลิ่วลิ่วยังเด็ก เธอเข้าใจผิด…” 

 

 

แต่ยังพูดไม่ทันจบ อวี๋เยว่หานก็เงยขึ้นมาเหลือบมองเธอโดยพลัน 

 

 

สายตาเยือกเย็นราวกับรำคาญที่เธอเอะอะจนเขากินข้าวไม่ลงแล้ว 

 

 

พ่อบ้านส่ายหน้า ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปด้วยใบหน้าสงสัยว่า ‘ผมไม่เข้าใจเลยว่าเด็กหนุ่มสาวอย่างพวกคุณกำลังเล่นอะไรกัน’ 

 

 

สายตาพ่อบ้านก่อนจะออกไปนั้น ชัดเจนว่ากำลังสงสัยว่าเหนียนเสี่ยวมู่ให้ท่าคุณชายของเขา แต่ทำไม่สำเร็จ 

 

 

“ทำไมเมื่อกี้คุณไม่ให้ฉันอธิบายกับพ่อบ้านล่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่เดินมาข้างหน้า ก่อนจึงเก้าอี้นั่งลงตรงหน้าเขา พลางถามแก้มป่อง 

 

 

“อธิบายอะไร” อวี๋เยว่หานวางช้อนลง แล้วเลิกคิ้วชำเลืองมองเธอครั้งหนึ่ง 

 

 

“…” 

 

 

“อธิบายว่าทำไมคุณถึงถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผมกับเสี่ยวลิ่วลิ่วโดยไม่พูดอะไรสักคำ” 

 

 

“…” 

 

 

“หรืออธิบายว่าตรงไหนบนตัวคุณทำให้ผมเสียสายตา” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !! 

 

 

รูปร่างของเธอมีส่วนโค้งเว้าชัดเจน มีตรงไหนให้เสียสายตากัน 

 

 

เรื่องนี้ฆ่าได้หยามไม่ได้นะ! 

 

 

เธอต้องกอดถังออกซิเจน แล้วตายไปด้วยกันกับเขา! 

 

 

อวี๋เยว่หานมองท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของเธอ และมีภาพเธอถอดเสื้อผ้าเมื่อครู่ปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง 

 

 

เรือนร่างระหง ผิวพรรณขาวผ่อง เปล่งประกายดุจคริสตัลท่ามกลางแสงอ่อนๆ 

 

 

แขนขาเล็กเรียว ทำให้เขาอยากจะโอบเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอกอย่างอดไม่อยู่ 

 

 

ในตอนนั้นสมองของเขาขาวโพลนไปชั่วขณะขริงๆ 

 

 

แต่พอได้สติกลับมา เขาก็เห็นเธอเหมือนกระต่ายที่กำลังตื่นกลัว กำลังเบิกตาโพลงมองเขาด้วยความหวาดกลัว 

 

 

ท่าทางเหมือนเมื่อวานที่เธอดื่มเยอะอย่างยิ่ง 

 

 

ทำให้เขาอยากจะขยี้หัวเล็กๆ ของเธออย่างมาก… 

 

 

อยากแกล้งเธอ 

 

 

อวี๋เยว่หานหลุบตา ก่อนจะคีบเนื้อใส่ในชามเล็กของเสี่ยวลิ่วลิ่ว “กินข้าว เดี๋ยวพวกเราจะไปเยี่ยมคุณทวดกัน” 

 

 

“พี่สาวคนสวยก็ไปด้วยใช่ไหม” เสี่ยวลิ่วลิ่วคาบเนื้อไว้ในปาก ถามเสียงอู้อี้ 

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังโกรธเลือดขึ้นหน้าก็เงยหน้าขึ้นทันที “อีกเดี๋ยวฉันมีนัดคุยเรื่องร่วมงานกับซ่างซิน” 

 

 

เธอพูดพร้อมกับมีความไม่มั่นใจผ่านสายตาไป 

 

 

คุณนายใหญ่ตระกูลอวี๋เหรอ 

 

 

หญิงชราคนที่จูงมือเธอ บอกให้เธอแต่งงานกับอวี๋เยว่หานตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน 

 

 

เธอหลบไม่ทันแล้ว ไหนเลยจะกล้าส่งตัวเองไปถึงหน้าประตูเอง 

 

 

ถ้าอวี๋เยว่หานพูดเรื่องเสียสายตาต่อหน้าคุณนายใหญ่ เธอจะยังมีชีวิตอยู่ได้ไหมล่ะ 

 

 

ไม่ไปๆ ให้ตายก็ไปไม่ได้ 

 

 

“คุยเรื่องงานในวันหยุดเนี่ยนะ?” อวี๋เยว่หานหันมามองเธอ สายตาเฉียบคมราวกับมองความคิดเธอทะลุปรุโปร่งทุกอย่าง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่รีบยืดตัวตรง ก่อนจะพยักอย่างแรง “ไม่ต้องออกไปข้างนอก แค่คุยกันออนไลน์ วีดิโอคอลเดี๋ยวนี้สะดวกมาก” 

 

 

คำพูดนี้เป็นความจริง 

 

 

ซ่างซินตกลงเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้ว บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าหวังว่าจะจัดการรายละเอียดทุกอย่างได้ทันทีอยู่แล้ว 

 

 

ต้องทำแผนงานโฆษณาอย่างเป็นทางการให้เสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์