ตอนที่ 73.1 รางวัลของพญายม (1)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สำหรับความระแวงเล็กน้อยของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งจวิ้นอวี๋จะไม่รู้ได้อย่างไร!

อีกอย่าง เขาทำตามคำพูดของเธอ ใบหน้าดูผ่อนคลาย ก่อนเอ่ยอย่างพอใจมากกว่า

 “อืม กระต่ายน้อยครั้งนี้เจ้าสร้างผลงานยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้ได้ฟังข้อชี้แนะของเจ้าก็เอ่ยปากชื่นชมไม่หยุด ยังตรัสว่าต้องให้รางวัลหนักแก่เจ้า!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาดีใจอย่างยิ่ง แม้กระทั่งเสี่ยวมู่จื่อที่อยู่ด้านข้างก็ดีใจไม่แพ้กัน

“เหอ ดหอ จริงหรือขอรับ!? แม้กระทั่งฮ่องเต้ยังชื่นชมไม่ขาดปาก”

นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุกคือยังจะประทานรางวัลใหญ่ให้กับเธอ สวรรค์! ครั้งนี้เธอต้องร่ำรวยเป็นแน่! เหอ เหอ

ยิ่งคิดเล่อเหยาเหยาดีใจราวภูเขาเงินทองปรากฏออกมาตรงหน้า นอกจากนี้ยังมีตั๋วเงินหล่นลงจากฟ้าไม่หยุด

สวรรค์!เงิน เงิน เงินทั้งนั้น…

เธอไม่เคยหลงใหลและโลภในทรัพย์สินเงินทอง! เพราะฐานะทางบ้านร่ำรวยอยู่แล้ว เธอจึงไม่มีสิ่งที่ต้องใช้จ่ายมากมาย

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอมาอยู่ในสมัยที่ไม่คุ้นเคยทุกอย่างแปลกตา ไม่มีครอบครัว ไม่รู้ว่าอดีตและสถานะของเจ้าของร่างนี้ อีกอย่างที่สำคัญคือเวลานี้เธอยังเป็นเพียงขันทีเล็กๆ เป็นบ่าวรับใช้คนหนึ่ง รับใช้คนอื่น หนึ่งเดือนได้รับเงินเพียงน้อยนิด ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอต้องโดนบีบคั้นอย่างหนักแน่!

ดังนั้นตอนนี้ หากได้รับรางวัลมากมาย ครึ่งชีวิตต่อไปของเธอก็จะหมดความกังวล!

ยิ่งคิดในใจเล่อเหยาเหยายิ่งตื่นเต้นดีใจ สายตาที่มองยังเหลิ่งจวิ้นอวี๋เป็นประกายวิบวับ จนแทบกลายเป็นพวงเงินทองแดง

เหลิ่งจวิ่นอวี๋เห็นเช่นนั้น ยิ้มที่มุกปากเล็กน้อย

อันที่จริงเขาเห็นคนละโมบมามากมาย แต่กลับไม่เคยเห็นใครน่าสนใจเช่นคนที่ละโมบตรงหน้านี้

เพียงในใจเขาคิดสิ่งใด ก็จะเปิดเผยออกมาทางใบหน้าจนหมด เวลานี้เขาต้องกำลังคิดถึงรางวัลที่เขาจะประทานให้อย่างแน่นอน!

เดิมทีตอนที่เขากลับมา ก็คิดว่าจะให้รางวัลเช่นไรกับขันทีน้อยตรงหน้านี้ เพราะเขาไม่เพียงแก้ไขความกลัดกลุ้มของเขา ฮ่องเต้และเหล่าขุนนาง กระทั่งทำให้ราษฎรผ่านพ้นความลำบากครั้งนี้ไปได้

ครั้งนี้เขาสร้างผลงานใหญ่หลวง หากเขาอยากได้สิ่งใด ตนก็จะให้เป็นรางวัลกับเขาอย่างดี เพราะถึงอย่างไรเขาสมควรที่จะได้รับ

ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมดเมื่อครู่ของเขา พอนึกว่าหลังเขาได้รับเงินวางแผนจะไปจากที่นี่ ทำให้เขาหดหู่และไม่พอใจอย่างมาก

ในใจอึดอัดราวมีก้อนสำลีอุดอยู่ด้านใน ความรู้สึกเช่นนี้เขาไม่ชอบใจยิ่งนัก

เพราะเขาไม่อยากให้เขาจากไป

เขาอยากให้เขาอยู่ต่อไป

ดังนั้น เขาจึงต้องหาวิธีหยุดความคิดที่จะไปจากที่นี่ของเขาถึงจะถูกต้อง!

พอคิดถึงเรื่องนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋หรี่ดวงตาเย็นชาลงเล็กน้อย แววตาเป็นประกายขึ้นมา

น่าเสียดายที่เวลานี้พวกเล่อเหยาเหยาที่มีท่าทางดีอกดีใจ กลับไม่รู้สึกตัวเลย ยังดีใจกับเงินที่จะได้รับมากมาย!

กระทั่งประโยคถัดมาของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ พลันดึงสติที่ล่องลอยของเล่อเหยาเหยากลับมา

 “ใช่ ข้าต้องให้รางวัลกระต่ายน้อยอย่างหนักถึงจะดี! พูดว่ากระต่ายน้อย เจ้าอยากได้รางวัลเป็นสิ่งใด!?”

น้ำเสียงชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าแฝงด้วยความสุขเจ็ดส่วน แหบพร่าสามส่วน ไพเราะซาบซึ้งยิ่งนัก

นอกจากนี้ เวลานี้บนใบหน้างดงามของเขา คิ้วกระบี่เลิกเอียงขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากกระจับเบาบาง เวลานี้โค้งขึ้นเล็กน้อย

แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่พญายมที่ท่าทางสง่างามสูงศักดิ์ แฝงความเกียจคร้านบางส่วนเช่นนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็น

นี่ มันมารร้ายชัดๆ

เล่อเหยาเหยามองอย่างใจเต้นระรัว

นอกจากนี้เมื่อถูกมองด้วยสายตาเกียจคร้านน่าหลงใหลของพญายม วิญญาณเธอคล้ายหลุดออกจากร่าง

สวรรค์ นี่มันยั่วยวนกันเกินไป จนเธอต้านทานไม่ไหวแล้ว!

แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เล่อเหยาเหยายังสะกดใจที่จ้องจะก่อการผิดศีลธรรม ก้มสองแก้มร้อนผ่าวลงต่ำ อันที่จริงหากถูกคนเห็นเข้า ว่าเธอที่เป็นขันที หน้าแดงต่อหน้าท่านอ๋อง คนอื่นจะคิดเช่นไร!?

แม้บางครั้งท่าทางของบ่าวรับใช้ผู้ชายจะดูเลวร้ายยิ่งกว่าเธอ แต่จะพูดอย่างไร เธอเป็นเพียงสาวน้อยไร้เดียงสาผู้หนึ่ง

แคกๆ อย่าต่อความยาวกว่านี้เลย!เวลานี้ควรที่จะคิดคือ ต้องการรางวัลเป็นสิ่งใด!

ความจริงเดิมทีเธออยากพูดไปว่า ให้พญายมให้เงินเป็นรางวัลแก่เธอ แต่พอนึกดูแล้ว หลังเอ่ยประโยคนี้จบพญายมจะคิดว่าเธอเห็นแก่เงินทองหรือไม่!?

นอกจากนี้ ความจริงสิ่งที่ขันทีน้อยเช่นเธอต้องการคือสิ่งใด ทุกคนต่างรู้กันดี โดยไม่ต้องพูดออกไป รวมทั้งพญายมฉลาดเฉลียว เขาต้องรู้แน่ว่าเธอต้องการเงิน ทว่าควรให้รางวัลเธอเท่าใด

ตนเอ่ยปากออกไป ไม่สู้ให้พญายมมอบให้เอง!

อีกอย่างเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล ต้องไม่ใช่เจ้านายที่ขี้เหนียวแน่!?

หลังคิดเรื่องนี้ได้ เล่อเหยาเหยาแสร้งทำท่าทางสุภาพถ่อมตัว ก้มหน้าหลบสายตาเอ่ยกับเหลิ่งจวิ้นอวี๋ว่า

 “ความจริงบ่าวไม่ได้คิดว่าจะได้รับรางวัลใดขอรับ เพียงช่วยแบ่งเบาท่านอ๋องได้ บ่าวก็มีความสุขแล้วขอรับ”

เหอะๆ ต้องเอ่ยพูดให้ดีก่อน เพราะถึงอย่างไรทุกคนชอบการประจบสอพลอ พญายมก็ไม่น่ายกเว้น!?

เล่อเหยาเหยายินดีในใจพลางก้มศีรษะลงต่ำ จึงมองไม่เห็นถึงอารมณ์บนใบหน้าเธอ แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ทว่าเพียงไหล่เล็กที่สั่นกระตุกเล็กน้อยของเธอ ชายหนุ่มยังคงล่วงรู้ความคิดในใจของเธอได้

รอยยิ้มจางๆ ที่มุกปากอดล้ำลึกขึ้นไม่ได้ ก่อนน้ำเสียงน่าหลงใหลจะพลันดังขึ้น

 “ข้าแต่ไหนแต่ไรตกรางวัลและลงโทษชัดเจน ครั้งนี้ไม่ยกเว้นเช่นกัน เมื่อเจ้าไม่คิดอยากได้รางวัลใด งั้นข้าลองขบคิดดูก่อนว่าควรให้รางวัลใดแก่เจ้าถึงจะเหมาะสม!?”

พูดถึงตรงนี้  พญายมพลันหยุดชะงักครู่หนึ่ง ราวกับไตร่ตรองบางสิ่ง ดวงตาเย็นชาแฝงรอยยิ้มจางๆ มองวนไปมาอยู่ที่ร่างเล็กบอบบางของเล่อเหยาเหยา ก่อนจะพึมพำออกมา

 “อืม เจ้าผอมเกินไป ปกติต้องกินแต่สิ่งไม่มีประโยชน์เป็นแน่”

แม้น้ำเสียงพญายมจะเบาอย่างยิ่ง แต่กลับมากพอที่ทำให้ทุกคนตรงที่นั้นได้ยิน นอกจากนี้ขณะที่ได้ยินประโยคนี้ของพญายม เล่อเหยาเหยาฉีกยิ้มกว้างจนแทบฉีกถึงใบหู

เหอ เหอ ใช่ เธอผอมมากจริง! ดังนั้นเขาต้องให้รางวัลกับเธออย่างดีแน่ เธอถึงจะมีเงินไปซื้อสิ่งของมาบำรุงร่างกาย!

มิฉะนั้น หน้าอกเล็กๆ ของเธอเมื่อไหร่จะเจริญเติบโต!?

แม้วันนี้เธอจะเป็นขันที มีหน้าอกเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่โดยธรรมชาติของผู้หญิง ต้องการหน้าอกที่ใหญ่โตสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว!เธอเองก็เช่นกัน!

ขณะเล่อเหยาเหยาเบิกบานใจ คิดว่าพญายมต้องให้รางวัลเธอมากมายเป็นแน่ คิดไม่ถึงว่าเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของพญายม เธอจะรู้สึกเพียงฟ้าผ่าลงมายังพื้น จนตกใจยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

 “เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าให้รางวัลเจ้าเป็นซุปรังนกถ้วยหนึ่งแล้วกัน! เจ้าจะได้บำรุงร่างกายให้ดี!”

พญายมเอ่ยอย่างมีเมตตายิ่งนัก แต่เล่อเหยาเหยาที่ได้ยิน กลับพลันสับสันทันที

 “อะ…อะไรนะขอรับ!? ซุปรังนกหนึ่งถ้วย?!”

เธอฟังไม่ผิดใช่หรือไม่!?

อาๆ

 “ไม่ใช่ถ้วยเดียว ควรต้องเป็นทุกวันให้ซุปรังนกหนึ่งถ้วย!”

เห็นเล่อเหยาเหยาตกตะลึงอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าเธอชื่นชอบรางวัลนี้ หรือว่าไม่ชื่นชอบ แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋คาดเดาว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง!

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาต้องหยุดความคิดไถ่ถอนตัวไปจากที่นี่ของเด็กน้อยผู้นี้ ทำให้เขาอยู่ในวังอ๋องนี้ไปตลอดชีวิต

อีกอย่าง เขาคิดจริงว่าเด็กน้อยผู้นี้ควรบำรุงร่างกายให้ดี เห็นรูปร่างบางราวกับลมพายุสามารถพัดพาไปได้แล้ว ทำให้เขากังวลยิ่งนัก

……………………………………………………………………….