ตอนที่ 149 ไปที่ไหนทุกคนก็รักใคร่เอ็นดู / ตอนที่ 150 ปลาคาร์ปนำโชคอวี๋กานกาน

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 149 ไปที่ไหนทุกคนก็รักใคร่เอ็นดู

 

 

ป้าหลิวถาม “ยังรักษาให้หายได้ใช่ไหม”

 

 

อวี๋กานกานตอบ “นวดเป็นประจำสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครั้งร่วมกับการฝังเข็ม ครึ่งปีน่าจะหายกลับมาเป็นปกติได้ค่ะ ต่อให้ไม่ถึงขั้นหายเป็นปกติ เมื่อฝนตกก็จะไม่รู้สึกเจ็บจนทนไม่ไหวเหมือนตอนนี้ค่ะ”

 

 

“ขอบคุณมากจริงๆ” ป้าหลิวซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง หันไปมองแม่เฉิน “เหล่าเฉิน ยัยหนูนี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่เธอหามาจากที่ไหนกัน ถ้ารักษาโรคเรื้อรังของฉันได้ ฉันจะขอบคุณเธออย่างงามเลยล่ะ”

 

 

แม่เฉินเล่นไพ่นกกระจอกพร้อมกับหัวเราะไปด้วย “เมื่อก่อนลูกชายฉันเปิดร้านอยู่ถนนหนานเจิ้น ปลาน้อยกับคุณปู่ของเธอมีคลินิกอยู่ที่นั่น คนทั้งถนนหนานเจิ้นมีใครไม่รู้บ้างว่าวิชาแพทย์ของสองปู่หลานนี้เก่งกาจ ตอนนั้นฉันหกล้มมีอาการบาดเจ็บที่ขา ใครๆ ก็บอกว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอก็เห็นแล้วนี่ จะลมพัดหรือฝนตกฉันก็ไม่กลัว”

 

 

อวี๋กานกานพูดอย่างเหนียมอาย “แม่เฉินคะ นั้นเป็นเพราะคุณป้าให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาและฟื้นฟูจึงทำให้ไม่หลงเหลืออาการบาดเจ็บ” แม่เฉินชมเกินไปแล้ว เธอเขินอายสุดๆ ที่จริงเธอเองก็เป็นแค่หมอธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเท่านั้นเอง

 

 

แม่เฉินเห็นว่าหลังจากที่อวี๋กานกานช่วยตรวจเสร็จแล้ว ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอดูอึดอัดใจลำบากใจ นั่งเงียบไม่รู้ว่าจะเริ่มถามที่ตรงไหน แม่เฉินจึงออกโรงช่วยเธอถาม “พวกเธอรู้เรื่องของบ้านจูซื่อนั่นไหม”

 

 

สามีของหญิงวัยกลางคนที่เสียชีวิตก็คือจูซื่อ ป้าหลิวที่ไม่ได้ร่วมวงเล่นไพ่ด้วย ตอนนี้ก้นของเธอไม่เจ็บปวดมากแล้ว ตอบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “รู้จักสิ เรื่องนี้ดังกระฉ่อนอยู่นะ ได้ยินมาว่าเขากินยาของหมอไร้ศีลธรรมคนหนึ่งจนม่องเท่งไปแล้ว”

 

 

ป้าหวงจั่วไพ่ขึ้นมาหนึ่งใบ ถอนหายใจ “น่าสงสารเหมือนกันนะ จูซื่ออายุยังไม่ถึงหกสิบเลย ทั้งลูกชายและลูกสาวก็ยังไม่ได้แต่งงาน”

 

 

แม่เฉินทิ้งไพ่ลงไปหนึ่งใบ กล่าว “ไม่ใช่ว่ากินยาจีนหรอกเหรอ ยาจีนออกฤทธิ์อย่างอ่อนโยนทั้งนั้น เป็นไปได้ยังไงที่กินแค่สองชุดก็สามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ฉันว่านะมันต้องมีอะไรบางอย่าง”

 

 

ป้าหวงสงสัย “เป็นงั้นเหรอ”

 

 

ไม่ต้องรอให้แม่เฉินเอ่ยปากพูด ป้าจางที่นั่งอยู่ข้างๆ พลันพูดขึ้นมา “เป็นไปได้นะ” เธอกดเสียงต่ำ พูดอย่างมีลับๆ ล่อๆ “บ้านของจูซื่ออยู่ข้างๆ บ้านฉัน ก่อนหน้านี้ไปตรวจมาพบว่าป่วยเป็นโรคหัวใจ อีกทั้งยังพบว่าลูกชายของเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตัวเอง ฉันเดาว่าเขาน่าจะโมโหจนขาดใจตาย วันนี้ตอนเช้าลูกสาวของเขาโมโหโกรธเกรี้ยวเดินออกจากบ้าน ยืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้านตะโกนว่าแม่เป็นคนฆ่าพ่อ ทั้งยังบอกอีกว่าพี่ชายไม่ใช่พี่แท้ๆ ของเธอ ฉะนั้นค่าชดเชยของพ่อทั้งหมดต้องตกเป็นของเธอและย่า แม่และพี่อย่าคิดแม้แต่จะได้สักสตางค์เดียว ฉันว่าน่าจะประสงค์ร้ายจงใจก่อเรื่องให้วุ่นวายนะสิไม่ว่า”

 

 

อวี๋กานกานได้ยินแล้วก็รู้สึกแอบตกตะลึงอยู่ในใจ แม่เฉินเจ็บปวดหัวใจแทนอวี๋กานกาน ทุบโต๊ะด้วยความโมโหเดือดดาล “ฉันรู้อยู่แล้ว กลั่นแกล้งปลาน้อยของพวกเราที่เป็นเด็กใสๆ ซื่อๆ”

 

 

บรรดาคุณป้าหันมามองแม่เฉินด้วยความประหลาดใจเป็นตาเดียว “หมอคนนั้นที่จ่ายยาผิดคือปลาน้อยเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานอธิบาย “ยานั้นหนูไม่ได้เป็นคนสั่งจ่ายค่ะ ช่วงนั้นหนูไม่อยู่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหนูที่มาดูแลคลินิกแทน จากนั้นเธอจ่ายยาแก้ปวดให้จูซื่อไปสองสามชุด มียาตัวหนึ่งที่ฤทธิ์ค่อนข้างแรง แต่ยาตัวอื่นมีฤทธิ์อ่อนทั้งหมด ตามหลักแล้วไม่มีทางที่จะรับประทานเข้าไปแล้วถึงขั้นเสียชีวิตได้”

 

 

ป้าหลิวนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่อวี๋กานกานตรวจชีพจรให้เธอ เธอสนับสนุนเข้าข้างอวี๋กานกานทันที “กินแค่ยาจีน ไม่ได้ขึ้นเขียงผ่าตัดเสียหน่อย จะมากล่าวหาว่าฆ่าคนตายได้ยังไง แค่ดูก็รู้แล้วว่าพวกเขาไปหาหนูเพื่อขู่เอาค่าชดใช้”

 

 

แม่เฉินพูดกับป้าจาง “ต้องเปิดโปงพวกเขาให้ได้ ประตูหน้าบ้านเธอน่าจะมีกล้องวงจรปิดนะ น่าจะบันทึกภาพตอนนั้นไว้ได้ ให้ลูกชายเธอช่วยเอาคลิปออกมาจากกล้องหน่อยได้ไหม”

 

 

อวี๋กานกานที่นั่งอยู่ข้างๆ มองป้าจางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง “ได้ไหมคะ ป้าจาง ป้าช่วยหนูหน่อยได้ไหมคะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 150 ปลาคาร์ปนำโชคอวี๋กานกาน

 

 

ป้าจางค่อนข้างลังเล แม่เฉินและป้าหลิวพยายามพูดเกลี้ยกล่อมอยู่ข้างหูป้าจาง ในที่สุดป้าจางก็ยอมตกลง โทรศัพท์ไปหาลูกชายของตัวเอง “ฮัลโหลลูก คลิปวิดีโอเมื่อเช้าที่เพื่อนข้างบ้านทะเลาะกัน เอ็งไปเอามาแล้วส่งมาให้แม่หน่อยสิ…จะถามอะไรทำไมเยอะแยะ ส่งมาให้แม่ก็พอ…” หลังจากที่วางสายแล้ว ป้าจางก็หันมาพูดกับอวี๋กานกาน “เดี๋ยวเขาส่งมาให้ป้าทางวีแชทแล้วเดี๋ยวป้าแชร์ให้หนู”

 

 

อวี๋กานกานลุกขึ้นยืน โค้งตัวลงต่ำ รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง “ขอบคุณคุณป้านะคะ ในอนาคตถ้าคุณป้ามาตรวจกับหนูที่คลินิก หนูสัญญาว่าจะไม่คิดเงินสักบาทเดียว”

 

 

แม่เฉินหัวเราะอย่างร่าเริง กล่าว “แบบนั้นไม่ได้หรอก จะยอมให้หนูขาดทุนได้ยังไง เก็บราคาต้นทุนสักนิดสักหน่อยเถอะ”

 

 

ป้าหวงที่นั่งอยู่ข้างๆ พลันหัวเราะดังลั่น “ไอหยา โทษทีๆ ฉันชนะอีกแล้ว”

 

 

ป้าหลิวลุกขึ้นยืน หัวเราะเหอะๆ เบ้ปากกล่าว “เหล่าหวง ก่อนหน้านี้ไม่เห็นเธอจะชนะสักตา แต่หลังจากที่ปลาน้อยมานั่งด้านหลัง เธอก็มือขึ้นชนะตลอดเลยนะ”

 

 

ป้าจางที่อยู่อีกโต๊ะหนึ่งกวักมือเรียกอวี๋กานกาน “มาๆ มานั่งข้างป้านี่ วันนี้ป้ายังไม่ชนะสักตาเลย ลองทดสอบหนูหน่อยสิว่าถ้าหนูมานั่งข้างป้าแล้วป้าจะชนะไหม”

 

 

“หนูว่าบังเอิญแน่ๆ ค่ะ ป้าหวงคงมือขึ้น” ถึงแม้อวี๋กานกานจะพูดแบบนี้ แต่ก็ยังเปลี่ยนที่ไปนั่งข้างป้าจาง ยิ้มแล้วกล่าว “ถ้าไม่ชนะ คุณป้าอย่าโทษหนูนะคะ”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ชนะก็คิดเสียว่าวันนี้มือไม่ขึ้น ป้าวางแผนไว้แล้วถ้าตานี้เสียอีกก็ไม่เล่นแล้ว…” ป้าจางจั่วไพ่ขึ้นมาหนึ่งใบ ยังพูดไม่ทันจบดี ป้าจางก็ล้มไพ่ตรงหน้าทั้งหมดลงทันที “โทษที ฉันชนะ”

 

 

ป้าจางยื่นมือมาโอบอวี๋กานกานเบาๆ “ปลาน้อยหนูนี่ดวงดีจริงๆ”

 

 

ป้าจงกวักมือเรียกผู้อาวุโสอวี๋กานกาน “มาๆ มานั่งข้างป้า”

 

 

ป้าจางพูดห้าม “เธอจะรีบไปไหน ฉันเพิ่งจะชนะได้ตาเดียวเอง ดูพวกเธอสิชนะไปตั้งกี่ตาแล้ว ให้ฉันอีกสักตาสองตาจะเป็นไรไป นั่งลงๆ นั่งข้างป้า”

 

 

อวี๋กานกานเก้ๆ กังๆ ทำตัวไม่ถูก นี่มันต้องเป็นแค่เรื่องบังเอิญแน่ๆ แต่หลังจากที่เธอนั่งลงข้างป้าจาง สองตาต่อมาก็เป็นป้าจางที่กินเรียบ

 

 

ป้าจางนับเงิน ยิ้มอย่างมีความสุขพลางถามอวี๋กานกาน “ปลาน้อยหนูมีแฟนแล้วหรือยังจ้ะ ลูกชายป้ายังไม่มีแฟนนะ เขาเป็นอัจฉริยะทางด้านไอที รายได้ต่อปีเกินล้านหยวน หนูลองพิจารณาดูหน่อยไหม” สาวน้อยที่ดวงดีขนาดนี้ ได้แต่งเข้าบ้านคงสุขสมฤดีไม่น้อย

 

 

ป้าจงทิ้งไพ่ลงไปหนึ่งใบ กล่าว “ป่าว่าหลานชายป้าเหมาะกว่านะ หน้าตาดีเหมือนกับดาราไม่มีผิด รูปลักษณ์หน้าตาเหมาะสมกับปลาน้อย หนุ่มหล่อสาวงาม”

 

 

ป้าจางถลึงตาใส่ป้าจง ส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจกล่าว “เธอหมายถึงลูกชายฉันไม่หล่ออย่างงั้นเหรอ ลูกชายฉันไม่หล่อตรงไหน หล่อกว่าลูกชายเธอตั้งเยอะ”

 

 

ป้าหลิวที่ยืนอยู่ข้างๆ ส่ายมือไปมา กล่าว “พวกเธอไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ฉันว่าลูกชายฉันเหมาะสมกว่า ปลาน้อยลูกชายป้าปีนี้อายุยี่สิบห้าปี เป็นเจ้าของบริษัท ป้าโทรหาเขาตอนนี้ให้เขาลองมาเจอหนูดีไหม”

 

 

อวี๋กานกานหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก “…”

 

 

ทำไมจู่ๆ ถึงต่างพากันนัดดูตัวให้เธอ อวี๋กานกานรีบเอื้อมมือไปห้ามป้าหลิว “ยะ อย่าเลยค่ะ”

 

 

ทันใดนั้นประตูของบ่อนก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำยำเดินย่างเท้าเข้ามาอย่างสุขุมเยือกเย็น แสงสว่างภายในห้องส่องกระทบลงบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ราวกับเทพยดาสมบูรณ์แบบที่อยู่ในโลกของเทพนิยาย ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยออร่าองอาจน่าเกรงขาม

 

 

เมื่ออวี๋กานกานเห็นเขา เธอรู้สึกราวกับว่ามีพระมาโปรด รีบพูดกับคุณป้าทุกคน “ขอโทษนะคะ พะ…เพื่อนของหนูมาตามน่ะค่ะ”