ตอนที่ 151 แสวงหาผลประโยชน์จากแผนการชั่วร้าย / ตอนที่ 152 ติดกับอีกแล้ว

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 151 แสวงหาผลประโยชน์จากแผนการชั่วร้าย

 

 

ในตอนที่อวี๋กานกานพาฟังจือหันออกมาจากบ่อนไพ่ ฝนด้านนอกได้หยุดตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลู่เสวี่ยเฉินรออยู่บนรถ นั่งไขว่ห้างเล่นมือ ปรายตามามองพวกเขาที่กำลังก้าวเท้าขึ้นรถ อดที่จะแซวไม่ได้ “น้องกานกาน มีใครไม่รู้นึกว่าคุณโดนคนอื่นลักพาตัวไปแล้ว รีบร้อนลงจากรถไปตามหา”

 

 

อวี๋กานกานชำเลืองไปมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ พลันรู้สึกใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมา เมื่อครู่ที่บ่อนไพ่หลังจากที่ฟังจือหันปรากฏตัว บรรดาคุณป้าก็ไม่ได้ยุ่งวุ่นแนะนำคู่เดทให้เธออีก แต่เปลี่ยนเป็นหยอกล้อเธอกับฟังจือหันแทน แต่งงานเมื่อไร จะมีลูกเมื่อไร ถ้าในอนาคตมีลูกชายก็ให้มาแต่งกับหลานสาวของพวกเขา แต่ถ้ามีลูกสาวก็ให้แต่งกับหลานชายของพวกเขา

 

 

ระหว่างเธอกับฟังจือหันยังไม่มีแม้แต่สัญญาณเริ่มต้น จะไปถึงขั้นมีลูกได้อย่างไร อวี๋กานกานไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ทันทีได้คลิปวิดีโอก็รีบชิ่งออกมาทันที ชวนให้รู้สึกฉุกละหุก โชคดีที่เธอนัดไว้กับแม่เฉินล่วงหน้าแล้วว่า รอให้เธอจัดการเรื่องที่คลินิกให้เรียบร้อย เธอจะเชิญบรรดาป้าๆ มาเลี้ยงขอบคุณสักมื้อ

 

 

เพื่อผ่อนคลายความรู้สึกอึดอัดอวี๋กานกานยิ้มแป้น พูดกับลู่เสวี่ยเฉิน “คุณลู่ ฉันเจอของเด็ดที่เป็นประโยชน์อย่างหนึ่ง บางทีอาจจะสามารถช่วยพวกเราได้” อวี๋กานกานเขย่ามือถือของตนเองไปมา

 

 

“โอ้ว้าว ของเด็ดของดีอะไร” แม้ว่าลู่เสวี่ยเฉินจะมีสีหน้าท่าทีสนอกสนใจ แต่ที่จริงแล้วเขากลับไม่ได้รู้สึกว่าอวี๋กานกานจะหาของที่เป็นประโยชน์อะไรมาได้ คงไม่ใช่ว่าปลาคาร์ป[1]นำโชคประทับร่าง ไปเจอคนกลุ่มหนึ่งกำลังปรึกษาหารือเรื่องแผนการชั่วอยู่แล้วถูกเธอถ่ายอัดไว้ได้อย่างพอดิบพอดีหรอกนะ

 

 

อวี๋กานกานเปิดคลิปวิดีโอในโทรทัศน์มือถือ วางไว้ตรงกลางเพื่อที่จะได้มองเห็นกันทั้งสามคน ในคลิปวิดีโอประตูห้องถูกเปิดออก มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้อง ตามมาด้วยหญิงวัยกลางคนที่เดินตามมาติดๆ ทั้งยังคว้าแขนของผู้หญิงคนแรกไว้ “แกจะไปไหน แกนังลูกอกตัญญู ฉันให้กำเนิดแกมาอย่างลำบากยากเข็ญ เลี้ยงดูแกเพื่อให้แกมาทำแบบนี้กับฉันงั้นเหรอ”

 

 

หญิงสาวหัวเราะเสียงเย็น กล่าว “แม่ให้กำเนิดหนูเลี้ยงหนูก็จริง แต่แม่ก็ฆ่าพ่อ เงินพวกนี้เป็นเงินของหนูและย่า หนูจะไม่ให้แม่และพี่สักบาทเดียว”

 

 

ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งออกมาจากห้อง “แกนังบ้า แกรีบโอนเงินกลับมาให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”

 

 

 หญิงสาวตอบ “ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าพี่ไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของพ่อ พ่อก็คงไม่โกรธจนสิ้นใจตาย พี่ยังกล้ามาถามเอาเงินจากฉันอยู่อีกเหรอ”

 

 

ชายหนุ่มพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว “ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน คุณหนูเฉียวก็คงไม่มาร่วมมือกับพวกเรา คิดอยากจะฮุบเงินทั้งหมดคนเดียวงั้นเหรอ ไม่มีทาง!”

 

 

“แต่ฉันเป็นคนไปประท้วงที่อวี้หมิงถาง พี่กลัวเสียหน้าไม่กล้าไป มีสิทธิ์อะไร ทำไมฉันถึงต้องให้เงินพี่ด้วย” หญิงสาวสะบัดมือของผู้เป็นแม่อย่างแรง จากนั้นเดินจากไปด้วยความโมโหเดือดดาล

 

 

หญิงวัยกลางคนดิ้นกระทืบเท้าเร่าๆ ตะโกนด่าเสียงดัง “นังเด็กเวร แกมันชั่วจริงๆ ฉันเป็นแม่แท้ๆ ของแกนะ แกไม่กลัวจะถูกฟ้าผ่าลงโทษบ้างหรือไง!”

 

 

 

 

คลิปวิดีโอไม่ได้ยืดยาว บทสนทนาก็ไม่ได้เยอะ แต่สามารถเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าการตายของจูซื่อนั้นผิดปกติ อีกทั้งเบื้องหลังยังมีคุณหนูเฉียวอีกหนึ่งคนที่ให้เงินพวกเขาเพื่อไปประท้วงก่อเหตุวุ่นวายที่อวี้หมิงถาง

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินดูจบแล้ว หัวเราะเสียงเย็น “สันดานเลวของมนุษย์ ในยามที่มีผลประโยชน์ให้ฉกฉวย จะขาดซึ่งคุณธรรมขั้นพื้นฐาน” 

 

 

ฟังจือหันมองลู่เสวี่ยเฉิน เอ่ยเสียงเรียบ “ที่เหลือยกให้เป็นหน้าที่ของนาย”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินตะลึงงงไปขณะหนึ่งถึงจะเข้าใจ ขบฟันกรอด กล่าว “นี่เป็นเพราะพวกเรารู้ถึงต้นสายปลายเหตุอยู่ก่อนแล้ว ได้ฟังแล้วจึงสามารถเชื่อมโยงไปยังแซ่เฉียวได้ว่าเธอแอบวางแผนอยู่เบื้องหลัง แต่คนนอกจะไม่คิดแบบนี้นะสิ”

 

 

ฟังจือหันยกยิ้มมุมปาก “แค่ใช้ได้ก็พอ”

 

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] ปลาคาร์ป เป็นสัตว์มงคลที่นำมาซึ่งโชคลาภ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 152 ติดกับอีกแล้ว

 

 

อวี๋กานกานมองพวกเขาด้วยความสงสัยใคร่รู้ ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด เธอมองลู่เสวี่ยเฉินสลับไปมากับฟังจือหัน “พวกนายคุยเรื่องอะไรกัน อะไรใช้ได้”

 

 

ชายหนุ่มเย็นชาฟังจือหัน ริมฝีปากบางของเขาขยับพูด “คุณลู่คนนี้เขามีคอนเนคชั่นและเส้นสายอยู่บ้าง หลังจากที่ดูคลิปนี้แล้ว เขาตัดสินใจจะช่วยคุณแก้ไขปัญหาเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้เอง”

 

 

อวี๋กานกานทั้งประหลาดใจและดีใจในคราเดียวกัน เธอมองไปยังลู่เสวี่ยเฉินด้วยสีหน้าซาบซึ้ง กล่าว “จริงเหรอ คุณลู่ งั้นต้องรบกวนคุณแล้ว ช่วยฉันเอาคลิปวิดีโอนี้ไปเผยแพร่ที”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินอ้าปาก บนใบหน้าที่งดงามยิ่งกว่าสตรีไม่มีวี่แววของความเล่นสนุกให้เห็น เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “แค่เปิดเผยคลิปวิดีโอนี้ช่วยอะไรไม่ได้หรอก น้องกานกาน”

 

 

“นี่มันยุคไซเบอร์ไม่ใช่เหรอ คลิปวิดีโอนี้น่าจะช่วยฉันพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้?”

 

 

“ยุคไซเบอร์ก็มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าการควบคุมคอมเมนต์[1]”

 

 

จริงด้วยสมัยนี้อาชีพรับจ้างโพสต์ข้อความในอินเทอร์เน็ตกำลังแพร่หลาย ไม่มีทางที่เฉียวพั๋นเอ๋อร์จะอยู่เฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไรแน่ อวี๋กานกานขมวดคิ้ว พึมพำกับตัวเอง “งั้นจะทำยังไงดี”

 

 

ดวงตาล้ำลึกของฟังจือหันจ้องไปที่อวี๋กานกาน นิ้วมือเรียวยาวดีดเข้าไปที่หน้าผากของเธอหนึ่งที “ในเมื่อคุณลู่ตกลงรับปากช่วยคุณแล้ว แน่นอนว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เขาจัดการได้สบายๆ”

 

 

หึหึ~ แผนยั่วยุให้ฮึกเหิม ลู่เสวี่ยเฉินมองฟังจือหันด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าฟังจือหันนั่งอยู่บนรถด้วยกันกับเขา เมื่อเห็นว่าอวี๋กานกานหายไปนานแล้วยังไม่กลับมาจึงลงไปตามหาด้วยความเป็นห่วง ไม่เช่นนั้นเขาคงคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนที่ฟังจือหันวางไว้อยู่ก่อนแล้ว

 

 

น้องกานกานนี่ดวงดีจริงๆ แต่ทว่าการที่เธอได้มารู้จักกับฟังจือหัน นั้นต่างหากที่เป็นเรื่องซวยในชีวิต คนอย่างหมอนี่ร้ายทั้งภายนอกและภายใน น้องกานกานเหมือนเป็นยาที่วางอยู่ในอุ้งมือของฟังจือหัน ใช้วิธีต้มกบด้วยน้ำอุ่น[2] ตอนที่เธอไม่สามารถโดดออกจากฝ่ามือของฟังจือหันได้ เธอจะเพิ่งพบว่าตัวเองได้ถูกความร้อนจากอุ้งมือของฟังจือหันต้มจนสุกแล้ว รอเพียงแค่ถูกรับประทาน

 

 

อวี๋กานกานเห็นว่าลู่เสวี่ยเฉินมีสีหน้าเคร่งเครียด นึกว่าเขาไม่อยากช่วย เธอจึงยิ้มแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ คุณลู่เองก็ค่อนข้างยุ่ง ฉันจัดการด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินเต็มใจที่จะช่วยอวี๋กานกานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่สบอารมณ์ที่ตนเองแพ้ให้กับฟังจือหัน ครั้งนี้ยังถูกอวี๋กานกานทำกับเขาเหมือนเป็นคนอื่นคนไกล เขารีบพูด “ผมไม่ยุ่ง แค่เรื่องหมูๆ”

 

 

อวี๋กานกานนึกว่าเขาแค่พูดตามมารยาท “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ มันจะรบกวนคุณเกินไปเปล่าๆ”

 

 

“ไม่…”

 

 

มุมปากของฟังจือหันหลุดรอยยิ้มขบขันออกมา ลู่เสวี่ยเฉินที่กำลังจะรับปากอวี๋กานกานอย่างใจป้ำ เมื่อเห็นว่ามุมปากของฟังจือหันยกยิ้มขึ้น เขาก็รีบปิดปากทันที ไม่ปกติ ทำไมถึงรู้สึกว่าพวกเขาสองคนกำลังร่วมมือกันปั่นหัวเขา

 

 

ทันใดนั้นเอง ฟังจือหันก็หันไปพูดกับอวี๋กานกาน “เข้าไม่กล้ารับหน้าที่นี้ เพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี แล้วจะเข้าหน้าคุณไม่ติด”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินมีเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาแล้ว เขาหัวเราะหึหึสองครั้ง “ผมเป็นใคร ผมลู่เสวี่ยเฉินนะครับ เรื่องหมูๆ แค่นี้ น้องกานกานวางใจได้เลย ให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”

 

 

หลังพูดจบลู่เสวี่ยฉันอยากจะตีตัวเองให้ตาย ตอนแรกยังรู้อยู่เลยว่ามีใครบางคนต้องการใช้แผนยั่วยุให้ฮึกเหิม ทำไมถึงวนกลับมาตกหลุมพรางได้ล่ะเนี่ย ร้ายกาจ!

 

 

 

 

อวี๋กานกานกลับมาถึงคลินิก นั่งอยู่บนโซฟา หยิบมือถือขึ้นมาเข้าอินเทอร์เน็ต ความคิดเห็นของคนที่มีต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งหมดล้วนเทไปทางเห็นใจจูซื่อและครอบครัวของเขา ประณามอวี๋กานกานว่าไม่ใช่คน ไม่มีมโนธรรม เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา ควรจะตกนรกขุมที่สิบแปด

 

 

เมื่อเห็นถ้อยคำโจมตีที่หยาบโลนเหล่านั้น จะบอกว่าไม่รู้สึกเลยก็เป็นไปไม่ได้ มีใครคนไหนที่ถูกด่าทอถึงขั้นนี้แล้วยังไม่รู้สึกอะไรได้อยู่ เธอนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เคยดูเมื่อนานมาแล้ว

 

 

เหตุเกิดบนรถประจำทางเนื่องจากนางเอกไม่ได้ลุกให้ผู้สูงอายุคนหนึ่งนั่ง ถูก “เครื่องล่าเนื้อมนุษย์[3]” อีกทั้งจู่ๆ ก็ยังกลายไปเป็นมือที่สามของคนอื่น ในอินเทอร์เน็ตต่างพากันรุมประณามเธอ เพื่อสนองความโกรธแค้นของทุกคน นักข่าวในช่องโทรทัศน์ยังจงใจไม่ฉายคลิปวิดีโอขอโทษของเธอ สุดท้ายผลักนางเอกให้ไปยืนอยู่บนเส้นทางมรณะ

 

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] การจงใจให้เห็นแต่คอมเมนต์ดีๆ ลบคอมเมนต์ที่ตัวเองไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นออก มักใช้กับพวกแฟนเพจดารา ศิลปิน

 

 

[2] ต้มกบด้วยน้ำอุ่น เป็นการใช้น้ำอุ่นค่อยๆ ต้มกบ กว่ากบจะรู้ตัวว่าร่างกายก็สุกไปกว่าครึ่งแล้ว อุปมาถึง การหลอกให้ตายใจ

 

 

[3] เครื่องล่าเนื้อมนุษย์ ถูกสืบประวัติจากอินเทอร์เน็ตจนทราบถึงตัวตนจริงๆ