เฉินชางอ่านบันทึกประวัติผู้ป่วยและรายงานการตรวจแต่ละประเภทที่อยู่ในมือ คิดเชื่อมโยงไปถึงการผ่าตัดไส้ติ่งนับครั้งไม่ถ้วนเหล่านั้น จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ผู้ป่วยเพิ่งจะอายุสิบสองปี มีอาการปวดบริเวณท้องน้อยด้านขวา ทำให้รู้สึกไม่ดีและคลื่นไส้อาเจียนมาสองวัน มีไข้หนึ่งวัน อาการปวดท้องเริ่มจากบริเวณสะดือและแพร่ไปยังท้องน้อยหลังผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมง จากนั้นก็ปวดต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการตรวจร่างกายครั้งก่อนๆ ไม่มีประวัติอาการป่วยที่คล้ายคลึงกัน ข้อมูลการตรวจร่างกาย…กล้ามเนื้อหดเกร็ง เจ็บปวดบริเวณท้องน้อยด้านขวา เมื่อกดแล้วมีอาการปวดที่จุดแมคเบอร์เนย์ชัดเจน เสียงแก๊สในท้องค่อนข้างอ่อน ผลตรวจกล้ามเนื้อโซแอส[1]เป็นบวก ผลการตรวจกล้ามเนื้อบริเวณช่องท้องเชิงกรานเป็นลบ…”
ไส้ติ่งไม่มีปัญหา!
แต่…เฉินชางยังสงสัย
จะเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะหรือไม่?
หรือจะเป็น…
เฉินชางคิดไปถึงโรคไส้ติ่งที่ค่อนข้างพิเศษอย่างหนึ่ง!
ตอนนี้วิสัญญีแพทย์เข้ามาเตรียมรมยาแล้ว เป็นหลิวเจี้ยนที่คุ้นเคยกันนั่นเอง
แต่วันนี้เป็นการแข่งขัน หลิวเจี้ยนจึงทำเพียงพยักหน้าไม่ได้พูดอะไร เตรียมตัวไปรมยาทันที
เฉินชางรีบพูดหยุดไว้ “พี่หลิว รอเดี๋ยวก่อนครับ ให้ผมตรวจสอบอีกสักครู่นะครับ”
หลิวเจี้ยนชะงักเล็กน้อย แต่ก็หยุดมือลง
เฉินชางเดินมาข้างๆ เด็กชาย เด็กชายมีท่าทางตึงเครียดชัดเจน เมื่อเห็นเฉินชางเดินเข้ามาก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก รีบหลับตาลงทันที
เฉินชางพูดขึ้นว่า “อีกเดี๋ยวหมอจะคลำท้องคุณหน่อยนะครับ ถ้าเจ็บให้รีบบอกหมอนะครับ”
พูดจบเฉินชางก็ใช้มือขวากดลงไปจากสะดือ วนไปตามเข็มนาฬิกา…
“เจ็บ!”
เขาเพิ่งจะกดลงไป เด็กชายก็ขมวดคิ้วร้องออกมา
เฉินชางพยักหน้า เปลี่ยนตำแหน่งกดต่อไป!
ผ่านไปหลายนาที ในใจของเฉินชางจึงเริ่มมีความคิดบางอย่าง
นี่คงเป็นอาการป่วยที่หาได้ยากอย่างหนึ่ง*“ไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้อง”*
อาการป่วยประเภทนี้พบได้น้อยมาก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความผิดปกติของช่องท้องในยามตั้งครรภ์ มีโอกาสเกิดประมาณสองถึงแปดเปอร์เซ็นต์
อาการไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้องเช่นนี้หากรักษาไม่ทันการณ์ อาการอักเสบจะแพร่ไปยังอวัยวะรอบๆ เช่น กรวยไต ไต หลอดเลือดบริเวณเชิงกราน เป็นต้น
พูดง่ายๆ ก็คืออาการป่วยนี้รับมือได้ยากมาก!
สำหรับคนอื่นอาจพูดได้ว่าเป็นเช่นนี้
แต่สำหรับเฉินชางแล้วกลับไม่มีความกดดันสักนิด
เขาหันไปพูดกับหลิวเจี้ยนว่า “พี่หลิว พร้อมแล้วครับ”
หลิวเจี้ยนพยักหน้าอย่างสงสัย “ไส้ติ่งอักเสบหรือ?”
เฉินชางพูดอย่างนิ่งเฉย “คงจะเป็นไส้ติ่งอักเสบแบบพิเศษครับ เป็นไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้อง!”
เมื่อหลิวเจี้ยนได้ฟังก็ขมวดคิ้ว
เนื่องจากไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้องแบบนี้ตรวจเจอก่อนการผ่าตัดยากมาก มักจะตรวจพบในขณะที่กำลังทำการผ่าตัดอยู่มากกว่า
ดังนั้นอาการป่วยนี้มักจะเตรียมตัวไม่ทัน ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา
หลิวเจี้ยนถามอย่างระมัดระวัง “คุณมั่นใจหรือ?”
เฉินชางพยักหน้า!
ในตอนที่หลิวเจี้ยนรมยาเขาตั้งใจมากเป็นพิเศษ ถึงอย่างไร…เขาจำได้ว่าตนเคยได้ยินอาจารย์ที่เมืองเอกพูดถึงไส้ติ่งอักเสบช่องท้องมาก่อน แต่ยังไม่เคยเจอกับตัว
ขณะเดียวกัน เมื่อคนทั้งหลายที่อยู่ในห้องสำนักงานเห็นภาพในจอก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ด้วยรอยยิ้ม กระทั่งเริ่มทำการตัดสิน ในใจของทุกคนมีความคิดของตนเองแล้ว แต่ยังคงพูดคุยแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันอย่างเป็นธรรมชาติ
“เบอร์หนึ่งดูเชี่ยวชาญมากนะครับ? วิธีการก็แม่นยำถูกต้อง เด็กคนนี้ใช้ได้เลย!”
“เบอร์สองเองก็ใช้ได้ แต่ความแม่นยำในการผ่าตัดไส้ติ่งยังด้อยกว่าเบอร์หนึ่งอยู่เล็กน้อย”
“หือ? ทำไมเบอร์สามยังไม่เริ่มอีก! ทำไม…กำลังตรวจร่างกายอยู่หรือ?”
จริงดังคาด เมื่อชายคนนั้นพูดจบ คนอื่นๆ ก็พากันสังเกตไปที่เบอร์สาม
เนื่องจากตอนนี้ทุกคนเริ่มผ่าตัดกันแล้ว เบอร์หนึ่งหาไส้ติ่งพบและเตรียมจะผ่าแล้วด้วยซ้ำ
แต่เบอร์สามกลับยังไม่เริ่ม!
ถ้ามองจากตรงนี้ก็ตัดสินความห่างชั้นได้ชัดเจนแล้ว!
แต่คนทั้งหลายเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่ผ่านประสบการณ์มามากมาย เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ปฏิกิริยาแรกก็คือหยิบประวัติคนไข้ของห้องผ่าตัดหมายเลขสามขึ้นมาอ่าน
เมื่อทุกคนหยิบขึ้นมาอ่านก็ดูเหมือนไม่มีอะไรแตกต่าง
เป็นไส้ติ่งอักเสบทั่วไปไม่ใช่หรือ?
หลิวซือฉีจำเฉินชางที่อยู่ในห้องเบอร์สามได้ เขามีความรู้สึกดีต่อเฉินชาง กระทั่ง…ตอนเห็นเฉินชาง เขาคิดจะประเมินคะแนนต่ำๆ ให้ด้วยซ้ำ!
จากนั้นก็ถือโอกาสแย่งตัวเฉินชางไป
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคิดเท่านั้น
ความจริงตั้งแต่ตอนเข้ามาเขาก็สังเกตเฉินชางอยู่ตลอด แต่…เมื่อเห็นว่าผ่านไปนานแล้วอีกฝ่ายยังไม่ลงมือผ่าตัด กระทั่งไม่ยอมให้วิสัญญีแพทย์รมยาก็ต้องรู้สึกแปลกใจ
นี่เขาจะทำอะไรกันแน่?
หรือเขาสงสัยอาการของผู้ป่วย?
เป็นไปไม่ได้!
โรงพยาบาลจะแยกแยะอาการไส้ติ่งอักเสบไม่ได้เชียวหรือ?
ดังนั้นตั้งแต่เริ่มต้นหลิวซือฉีก็หยิบประวัติผู้ป่วยฉบับคัดลอกมาพลิกอ่านไปสามสี่รอบแล้ว แต่จะอย่างไรก็เหมือนต้นแบบเหล่านั้น ไม่มีอะไรแปลกประหลาดเลย!
หรือเฉินชางทำได้แค่เย็บผิวหนัง? ตนประเมินเขาสูงไปหรือ?
หลิวซือฉีอดสงสัยในตัวเฉินชางไม่ได้
กรรมการทั้งห้าคนรวมไปถึงห่าวซวี่เลี่ยงพากันหยิบประวัติผู้ป่วยขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียด
ตั้งแต่การตรวจสอบทางเคมีไปถึงการอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง อ่านไปรอบหนึ่งแล้วแต่ก็ไม่พบอะไร!
ห่าวซวี่เลี่ยงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ถึงอย่างไรเฉินชางก็เป็นของจริง เป็นคนที่มีฝีมือน่าเชื่อถือ ยังดีที่ตัวเองไม่ได้พูดออกไป มิฉะนั้น…คงเสียหน้าแย่
ทุกคนพากันพลิกประวัติผู้ป่วยดูคนละรอบสองรอบแต่ก็ไม่ได้อะไร
ส่วนหลิวซือฉีที่อ่านประวัติผู้ป่วยไปแล้วห้าหกรอบเริ่มสังเกตเห็นข้อมูลอย่างหนึ่งแล้ว!
นั่นก็คือผู้ป่วยมีอาการเหมือนนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ!
แต่การอัลตร้าซาวด์กลับไม่มีผลของนิ่วปรากฏ
นี่…
หลิวซือฉีพลันตกใจ!
ไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้องหรือ?
เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้นมา หลิวซือฉีก็เข้าใจกระจ่าง
ตอนนี้คนที่อยู่รอบๆ เริ่มยอมแพ้กันแล้ว ต่างพากันส่ายศีรษะ
หลิวซือฉีเห็นดังนั้นจึงพูดกระตุ้นขึ้นมา “ทุกท่านว่าผู้ป่วยคนนี้มีโอกาสเป็นไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้องหรือเปล่าครับ?!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ทุกคนที่อยู่รอบด้านต่างพากันขมวดคิ้วทันที
ตอนนี้เอง เฉินชางเริ่มขยับมีดแล้ว!
มีดแรกค่อนข้างตื้น ดูธรรมดามาก เพิ่งจะผ่าชั้นผิวหนังไปเท่านั้น…
เฉินชางจำเป็นต้องระมัดระวังให้ดี ถ้าเป็นไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้อง จะต้องระวังไม่ให้อาการอักเสบแพร่กระจายไปจึงจะเป็นการดีที่สุด
แผลผ่าไม่ใหญ่มาก ประมาณสี่เซนติเมตรเท่านั้น
นี่เป็นสิ่งที่เฉินชางคำนวณมาแล้ว ถ้าแผลเล็กเกินไปจะเกิดความผิดพลาดได้ง่าย แต่แผลขนาดสี่เซนติเมตรไม่เล็กไม่ใหญ่ นับว่าพอดีสำหรับเฉินชาง!
หลังจากผ่าเสร็จก็มีกลิ่นเหม็นโชยออกมาทันที!
ในดวงตาของเฉินชางปรากฎลูกศรสีแดงขึ้น เขาตื่นตะลึงไปโดยพลัน!
ระบบมีความสามารถแบบนี้ด้วยหรือ? ช่วยเขาหาตำแหน่งของอาการได้ด้วย?
เฉินชางมองไปตามตำแหน่งนั้นเล็กน้อย เห็นไส้ติ่งสีแดงเข้มจริงๆ ตอนนี้มันมีอาการบวมและมีหนองไหลออกมา ทั้งยังมีกลิ่นเหม็นโชยออกมาด้วย
[ไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้อง ระดับ 29 มอนสเตอร์ระดับบอส!
ลักษณะพิเศษ: มีความสามารถในการแฝงตัวสูง แพร่กระจายได้ง่าย
ข้อเสนอแนะ: จัดการอย่างระวัง อย่าตัดโดยประมาท]
เป็นไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้องจริงๆ ด้วย!
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นระดับสูง!
ระดับยี่สิบเก้า มอนสเตอร์ประเภทบอส!
สังหารแล้วจะดรอปของหรือเปล่า?
เฉินชางรู้สึกยินดีในใจ ถึงอย่างไรตนก็วิเคราะห์และค้นพบด้วยตัวเอง ความยินดีของคนเป็นหมอก็มีเพียงเท่านี้เอง
ตอนนี้ในห้องสำนักงานเงียบงันไร้เสียง!
ทุกคนเอาแต่จ้องไปยังสถานการณ์ในห้องผ่าตัดเบอร์สาม
นี่จะดูเพ้อฝันเกินไปหรือเปล่า?
นี่เป็นการแสดงใช่หรือไม่?
ผ่าตัดไส้ติ่งมาหลายร้อยเคสก็ยังไม่เคยพบเรื่องน่าสนใจขนาดนี้ แต่ตอนนี้ได้เห็นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น…ดูเหมือนจะถูกหมอตัวเล็กๆ วินิจฉัยออกมาเองด้วย?
นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนพากันขมวดคิ้ว!
ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็อดถามไม่ได้ว่า “เขารู้ได้ยังไงว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้อง? ไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้องแบบนี้วินิจฉัยยากมาก…”
ประโยคนี้เหมือนพูดแทนความในใจของทุกคน!
ห่าวซวี่เลี่ยงแข็งทื่ออยู่กับที่ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ คิดในใจว่าเด็กคนนี้โชคร้ายขนาดนี้เลยหรือ?
ถึงกับเจอโรคแปลกๆ เข้าเสียได้!
หลิวซือฉีไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี ถึงอย่างไรก็เป็นไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้องจริงๆ ยังดีที่ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม มิฉะนั้น…หากอาการอักเสบแพร่กระจายออกไปคงไม่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นตัวหลังผ่าตัด
คนที่อยู่รอบๆ มองไปยังหลิวซือฉี ในดวงตาเต็มไปด้วยความแปลกใจ
ในที่สุดก็มีคนถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ “เหล่าหลิว…คุณจัดฉากหรือเปล่า?”
หลิวซือฉีถลึงตาอย่างโกรธเคือง “คุณสิจัดฉาก! ผมจะจัดฉากได้ยังไง!”
คนคนนั้นไม่ได้โกรธ พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “คุณรู้ได้ไงว่าอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบนอกช่องท้อง?”
หลิวซือฉียิ้มเย็นชา ชี้ไปยังประวัติผู้ป่วย “ก็อาศัยประสบการณ์น่ะสิ! เหมือนที่บอกว่าอ่านหนังสือร้อยเล่มไม่เท่าเห็นด้วยตาตัวเอง…ขอเพียงคุณพิจารณาประวัติผู้ป่วยอย่างจริงจัง อ่านให้มาก ย่อม…”
ทุกคนเห็นหลิวซือฉีแสร้งทำเป็นผู้มีความรู้ลึกซึ้งก็พากันสบตา ผ่านไปสามวินาที ในที่สุดก็พูดขึ้นอย่างอดไม่อยู่ “พูดภาษาคนหน่อยเถอะ!”
………..
[1] กล้ามเนื้อโซแอสหรือ PSOAS เป็นหนึ่งในกล้ามเนื้อที่ใหญ่และหนาที่สุดในร่างกาย ยึดติดกับกระดูกสันหลังส่วนหลัง โดยส่วนล่างจะยึดติดกับกระดูกต้นขา