ตอนที่ 50 บังเอิญพบกันที่ร้านอาหาร

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

พนักงานหญิงวางสายแต่ใบหน้ายังแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มขณะกล่าวกับฟางเชา

“คุณผู้ชาย คุณอาจจะเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ เถ้าแก่ของพวกเราไม่เคยได้รับเงินมัดจำจากคุณ คุณไปเถอะค่ะ”

เย่เฉินบอกให้ฟางเชาไสหัวไป แต่หล่อนเป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ ย่อมไม่กล้าพูดแบบนั้นกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว

“อะไรนะ? คนสารเลวจงเหว่ยคิดจะเชิดเงินหรือไง?”

ใบหน้าฟางเชาบูดเบี้ยว

พนักงานหญิงกล่าว “เถ้าแก่พวกเราไม่ได้ชื่อจงเหว่ยนะคะ”

ฟางเชาถึงเพิ่งได้รู้ว่าร้านอวิ๋นจงอวิ๋นนี้ไม่ใช่ร้านในเครือของจงเหว่ย!

จงเหว่ยโทรหาเขาในเวลานี้พอดี “คุณชายฟาง ขอโทษด้วยนะครับ เมื่อครู่ยุ่งๆ คุณโทรหาผมมีอะไรเหรอครับ? คุณวางใจได้เลยนะครับ ผมตกแต่งสถานที่ในการขอแต่งงานเรียบร้อยแล้ว คุณจะมาตอนเที่ยงหรือตอนเย็นครับ?”

ฟางเชาอึกอัก “เอ่อ…เถ้าแก่จงครับ ผมเกรงว่าคงไปไม่ได้แล้ว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แฟนของผมจู่ๆ ก็อยากไปที่อื่น”

จงเหว่ยผิดหวังเล็กน้อย “อย่างนั้นเดี๋ยวผมคืนเงินมัดจำให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”

พอวางสายเสร็จฟางเชามองสถานที่แห่งนี้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาพบว่าในชั้นสองมีทะเลสาบแห่งหนึ่ง ภายในนั้นมีใบบัวปลอมที่สวยงามอย่างยิ่งแถมเหนือทะเลสาบแห่งนั้นยังมีห้องอยู่ด้วย

ห้องขนาดเล็กแห่งนี้สามารถเปิดหลังคาออกกลายเป็นบ้านที่ไม่มีหลังคา แต่ก็สามารถปิดมิดชิดได้เช่นกัน

ฟางเชาเดินไปแล้วกล่าวว่า “ตำแหน่งตรงนี้ไม่เลวเลย ผมจองแล้วกัน!”

พนักงานหญิงคนเดิมกล่าวตอบ “ขอโทษด้วยค่ะ คุณผู้ชาย ห้องนี้ถูกลูกค้าจองด้วยเงินหนึ่งแสนค่ะ เพราะนักร้องที่จ้างมาคืนนี้จะร้องเพลงที่นี่ทำให้ราคาสูงมาก”

อาหารเพียงมื้อเดียวแค่จองห้องก็ต้องใช้เงินถึงหนึ่งแสนหยวนออกจะแพงไปหน่อยจริงๆ แต่สำหรับฟางเชาแล้วเงินหนึ่งแสนไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรเสียหน่อย

ฟางเชาหยิบบัตร Shopping Card จากกินซ่ามูลค่าหนึ่งพันออกมาจากกระเป๋าเงิน ส่งให้พนักงานหญิงคนนั้นแล้วกล่าว “เอาเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าคนนั้นมาให้ฉันหน่อย”

……

19:00 น. ฟางเชาขับรถ BMW มาจอดที่ลานจอดรถที่เย่เฉินเพิ่งจะซื้อที่ดินมา

จากนั้นก็พาหวังเจียเหยาเดินเข้าไปในร้าน

ในเวลานี้ตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงห้าของร้านอาหารอวิ๋นจงอวิ๋นมีแขกนั่งอยู่เต็มไปหมด

พอย้อนมองโหลลวว่ายโหลวที่อยู่ตรงข้ามนั้นแทบไม่มีคนด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าโดนแย่งลูกค้ามาจนหมดแล้ว

จำเป็นต้องยอมรับว่าแรงดึงดูดของนักร้องนั้นค่อนข้างมากทีเดียว

ฟางเชาและหวังเจียเหยาเดินขึ้นมาที่ชั้นสองแล้วชี้ตำแหน่งพิเศษตรงกลางทะเลสาบในร้านแล้วกล่าว

“เจียเหยาผมใช้เงินหกแสนจองตำแหน่งที่ดีที่สุด! อีกเดี๋ยวนักร้องจะมาร้องเพลงตรงนี้ ถ้าเป็นคอนเสิร์ตล่ะก็ ที่นี่ก็คือที่นั่งในโซน VVIP เชียว!”

หวังเจียเหยากล่าว “กินข้าวแค่มื้อเดียวต้องใช้เงินหกแสนสิ้นเปลืองเกินไปหรือเปล่า?”

ปกติหวังเจียเหยาไม่ค่อยกินข้าวเย็นเท่าไหร่นัก เพราะถ้าผู้หญิงกินเยอะเกินไปจะทำให้อ้วนได้

ฟางเชากล่าวพร้อมส่งยิ้ม “หกแสนสำหรับตระกูลฟางของเราแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับหกสิบหยวนหรอก ฮ่าๆ ไม่ต้องเสียดายหรอก”

หวังเจียเหยาฟังฟางเชาอวดรวยใบหน้าก็ระบายยิ้มพลางกล่าว “ถึงมีเงินก็จะใช้สุรุ่ยสุร่ายไม่ได้นะ”

ฟางเชากล่าว “ครับผม ต่อไปพอเราแต่งงานกัน ฉันจะยกทรัพย์สินหลายพันล้านให้เธอเป็นคนจัดการทั้งหมดเลยดีไหม?”

พอหวังเจียเหยาได้ยินจำนวนหลายพันล้านใจก็ละโมบอยากได้ขึ้นมา

และในเวลานี้เองเย่เฉิน ฉินหงเหยียนและโจวหรงหรงก็มาถึงชั้นนี้เช่นกัน

“อ้าว เย่เฉิน คุณฉิน เลขาโจวบังเอิญอะไรแบบนี้”

ฟางเชาเห็นทั้งสามคนก็ทักทายพร้อมส่งยิ้มให้

เย่เฉินสบตาหวังเจียเหยาแล้วรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ทั้งสองคนไม่ได้ทักทายกันแต่อย่างใด

ฟางเชาถาม “คุณฉิน พวกคุณจองห้องไหนไว้เหรอ?”

ฉินหงเหยียนกล่าว “307”

ฟางเชาขมวดคิ้ว “ชั้นสามเหรอเนี่ย ตรงนั้นคงเห็นโชว์ไม่ค่อยชัดล่ะมั้ง ผมใช้เงินหกแสนจองที่นั่งตรงกลางทะเลสาบไว้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคุณฉินมาดูการแสดงกับผมตรงนั้นดีไหม?”

ฉินหงเหยียนหัวเราะเสียงเย็น “ไม่ต้องหรอก เดิมทีฉันและเย่เฉินจะกินข้าวตรงนั้นแต่ฉันไม่ชอบเพลงนี้เท่าไหร่ หนวกหูน่ะก็เลยขึ้นไปชั้นบน”

สิทธิ์ในการเลือกห้อง VIP ในร้านอาหารแห่งนี้เป็นคนแรกย่อมต้องอยู่ที่เถ้าแก่อย่างเย่เฉิน

ตำแหน่งที่ฟางเชาทุ่มเทพยายามที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่เย่เฉินไม่ต้องการ

ไม่ใช่แค่ฉินหงเหยียนไม่ค่อยชอบเท่านั้น เย่เฉินเองก็เฉยๆ กับเพลงนี้เช่นกัน

แต่ตอนนี้เพลงนี้ดังที่สุดแล้ว อีกทั้งยังเป็นรสนิยมของแขกที่มากินข้าวที่นี่ ดังนั้นถึงได้เชิญนักร้องมา

หากว่าเป็นร้านอาหารตะวันตกก็คงไม่เหมาะเพราะควรต้องเชิญนักร้องเพลงภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสมา

แต่นี่เป็นแผนการของเย่เฉิน

ที่ตั้งใจจะเปิดร้านอาหารจีนที่ชาวบ้านชาวช่องชอบมา แล้วค่อยขยายไปร้านอาหารตะวันตกจนไปถึงร้านอาหารญี่ปุ่น เย่เฉินต้องการจะผูกขาดร้านธุรกิจร้านอาหารในอวิ๋นโจว!

ในเวลานี้หวังเจียเหยาก็นึกถึงเรื่องที่คราวก่อนเย่เฉินช่วยเหลือตนเอง รู้ว่าเขายังรักตนเองอย่างลึกล้ำจึงกล่าวกับเย่เฉินว่า “เย่เฉิน อีกเดี๋ยวตอนที่มีการแสดง นายมาดูกับฉันก็ได้นะ”

ฟางเชาคิดไม่ถึงเลยว่าหวังเจียเหยาจะเชิญอดีตสามีมา เขาย่อมไม่อยากให้เย่เฉินมาอาศัยใบบุญแต่ก็ยังแสร้งทำใจกว้าง

“นั่นสิ เย่เฉิน ทั้งชีวิตนี้นายคงไม่เคยดูการแสดงสดใกล้ขนาดนี้ล่ะมั้ง เฮียจะให้นายได้อาศัยใบบุญ รอนักร้องร้องเพลงจบฉันจะให้นายถ่ายรูปคู่กับเขาน่าจะทำให้นายเอาไปอวดในโซเชียลได้นะ ฮ่าๆ”

ฟางเชาช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย กระทั่งเรื่องที่เย่เฉินเป็นคนจ้างนักร้องมาก็ยังไม่รู้

เย่เฉินไม่สนใจฟางเชาแล้วพูดกับหวังเจียเหยา “ไม่ต้องหรอก พวกคุณดูกันไปเถอะ”

พูดจบเขาก็เดินขึ้นตึกไป