ตอนที่ 72 แทงคนรู้สึกสบายใจแค่ชั่วขณะ

แม่สาวเข็มเงิน

ตอนที่ 72 แทงคนรู้สึกสบายใจแค่ชั่วขณะ

เมื่อถึงเวลาที่ตกลงกับใครบางคนไว้เมื่อคืนนี้ เจียงป่าวชิงก็เดินมาที่หน้าประตูบ้านข้าง ๆ จากนั้นก็เคาะประตู

ไม่นานก็มีหญิงสาวที่แต่งตัวเหมือนสาวชาวไร่มาเปิดประตูให้

เจียงป่าวชิงตกตะลึงเล็กน้อย

หญิงสาวผู้นี้น่าจะสิบหกหรือสิบเจ็ดปี แม้ว่านางจะแต่งตัวธรรมดา แต่รูปลักษณ์ของนางกลับน่ารักราวกับดอกกุหลาบพันปีที่มีน้ำค้างในตอนเช้าตรู่ รูปร่างของนางอรชรอ้อนแอ้น สามารถพูดได้เลยว่านางเป็นสาวน้อยที่น่าหลงไหลคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

นางสังเกตเจียงป่าวชิงเล็กน้อย “เจ้าคือแม่นางเจียงหรือเจียงป่าวชิงใช่หรือไม่ ?”

เจียงป่าวชิงพยักหน้า

สาวน้อยคนนั้นก็พยักหน้าเช่นกัน “เชิญเจ้าเข้ามาได้เลย”

เจียงป่าวชิงเดินตามสาวน้อยคนนั้นเข้าไปในบ้าน  ห้องที่สาวน้อยพาเจียงป่าวชิงเข้าไปไม่ใช่ห้องที่เจอกันเมื่อวาน แต่เป็นห้องที่อยู่ด้านหลังห้องหลัก

ตอนที่อยู่นอกประตู สาวน้อยก็รายงานให้คนข้างในทราบ “ท่านชาย แม่นางเจียงมาแล้วเจ้าค่ะ”

ไม่นาน เสียงของไป๋จีก็ดังมาจากข้างใน “ฝูฉู นายท่านบอกว่าให้เจ้าพาแม่นางเจียงเข้ามาเลย”

เจียงป่าวชิงเข้าไปในห้องและพบว่าภายในห้องให้ความรู้สึกเหมือนกับห้องเมื่อวานที่ภายนอกดูธรรมดา แต่ภายในกลับเหมือนอีกดินแดนหนึ่งทำนองนั้น

ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย เพียงแค่ตู้ยาติดผนังสามด้านอย่างเดียว ก็ทำให้เจียงป่าวชิงพูดไม่ออกแล้ว

ชายหนุ่มบนรถเข็นมองเจียงป่าวชิงด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

สาวน้อยที่พาเจียงป่าวชิงเข้ามาในห้องคือฝูฉู นางทำความเคารพชายหนุ่มบนรถเข็นอย่างนอบน้อม “ท่านชายต้องการชาไหมเจ้าคะ ?”

ชายหนุ่มบนรถเข็นพูดขึ้น “ไม่จำเป็น จะได้ไม่ต้องทำลายสิ่งของตามอำเภอใจ”

เจียงป่าวชิงส่งเสียงหัวเราะในใจเล็กน้อย ทำเหมือนว่านางสนใจอย่างนั้นแหละ

เจียงป่าวชิงอยากมองไอ้โรคจิตที่นั่งรถเข็นอย่างเหยียดหยามด้วยท่าทางที่โหดเหี้ยม แต่นางนั้นตัวเล็กและผอมมากจริง ๆ แม้ว่านางจะยืน ก็ยังเตี้ยกว่าชายหนุ่มบนรถเข็นที่นั่งอยู่บนพื้นที่ยุบตัวตั้งครึ่งศีรษะ

ไม่เพียงแต่ภาพรวมของเขาจะแข็งแกร่งกว่านาง ส่วนสูงของเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่านางด้วยเช่นกัน นี่ทำให้เจียงป่าวชิงอยากหลั่งน้ำตาออกมาจริง ๆ

หลังจากตำหนิในใจแล้ว เจียงป่าวชิงยังคงอดทนต่อการยั่วยุของผู้ป่วยด้วยจรรยาบรรณในวิชาชีพ นางหมุนตัวไปหาไป๋จีช้า ๆ “จัดเตรียมของที่ข้าให้พวกเจ้าเตรียมเมื่อคืนแล้วหรือยัง ?”

ไป๋จีพยักหน้าก่อนจะชี้เครื่องปรุงยาที่วางอยู่บนโต๊ะยา “จัดเตรียมครบเรียบร้อยแล้ว”

เจียงป่าวชิงเดินไปเปิดห่อยา นางพลิกดูคร่าว ๆ จากนั้นก็ดมนิดหน่อยและเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น “นี่เป็นเครื่องปรุงยาชั้นดีทั้งหมดเลย คุณสมบัติยาเพียงพอมาก ไม่เลวเลยนะ”

แววตาของชายหนุ่มบนรถเข็นเผยความเยาะเย้ยออกมาให้เห็น

เจียงป่าวชิงเด็กคนนี้ สามารถแยกแยะเครื่องปรุงยาได้ชำนาญใช่เล่น แสดงว่าต้องตรวจสอบและแยกแยะเครื่องปรุงยาเป็นจำนวนมาก ถึงจะสามารถบรรลุระดับนี้ได้ แต่เขานั้นสงสัยจริง ๆ ว่าหญิงสาวชาวนาธรรมดา ๆ จะชำนาญแบบนี้ได้อย่างไรในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

ดูเหมือนเจียงป่าวชิงจะมองเห็นอะไรบางอย่างได้จากในแววตาของชายหนุ่มบนรถเข็น นางจึงเบะปากใส่เขาเล็กน้อย “ข้าก็เคยบอกแล้วอย่างไรเล่าว่าข้ามีพรสวรรค์ที่ผิดปกติ”

เหอะ!

เจียงป่าวชิงขี้เกียจจะสนใจเขา จึงสูดหายใจเข้าลึกและหลับตาทั้งอย่างนั้น

จากนั้น เจียงป่าวชิงก็ตรวจสอบเครื่องปรุงยาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีความผิดพลาดอะไร นางก็พยักหน้าและกำชับไป๋จีเกี่ยวกับวิธีจัดการเครื่องปรุงยาเหล่านี้

ไป๋จีพยักหน้าให้ฝูฉูเล็กน้อย ฝูฉูโค้งตัวคำนับก่อนจะหอบเครื่องปรุงยาห่อหนึ่งออกไปจัดการด้านนอก

เจียงป่าวชิงพูดขึ้น “เวลาในการที่เจ้าถูกพิษนานเกินไป ใบสั่งยาที่สั่งไว้เมื่อคืนคือการขับพิษออก ลองดูผลลัพธ์ก่อนเถอะ จากนั้นก็ค่อยปรับใบสั่งยาทีละนิด”

ไป๋จีพูดขึ้น “อืม ลำบากแม่นางเจียงแล้วล่ะนะ”

เจียงป่าวชิงกะพริบตาปริบ ๆ “รู้ว่าข้าลำบากก็ดี ต่อไปก็รบกวนอย่าได้เอาดาบมาจี้คอข้าอีก น่ากลัวจะตายชัก”

ไป๋จีพูดอย่างเกรงใจ “ตอนนี้แม่นางเจียงเป็นหมอของนายท่านของข้าแล้ว ต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว เจ้าวางใจได้”

เจียงป่าวชิงมองชายหนุ่มบนรถเข็นอีกครั้ง “อ้อ และรบกวนพี่ชายคนนี้อย่าได้ใช้มีดสั้นแทงไหล่ข้าอีกเช่นกัน แทงคนรู้สึกสบายใจแค่ชั่วขณะ แต่จะนึกเสียใจเมื่อจะเรียกใช้นะข้าขอบอก เจ้าดูสิ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าแทงไหล่ข้า อัตราความเร็วของการฝังเข็มก็คงจะเร็วกว่านี้ไปแล้ว”

ชายหนุ่มบนรถเข็นยกยิ้มมุมปาก เขาพูดอย่างเย้าหยอก “หากเจ้าพูดออกมาอีกเพียงคำเดียว ไม่แน่ข้าอาจจะรำคาญและแทงไหล่ซ้ายของเจ้าอีกก็เป็นได้”

เจียงป่าวชิงแลบลิ้นใส่เขาแล้วก็เดินไปที่ด้านหลังโต๊ะหนังสือที่อยู่ด้านหน้าตู้ยา อาจเป็นเพราะสะดวกสำหรับนางในการออกใบสั่งยา บนโต๊ะจึงจัดวางสิ่งของสี่อย่างที่ห้องหนังสือควรมีไว้ก่อนแล้ว เจียงป่าวชิงไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรต่อสิ่งของสี่อย่างนี้ แต่เมื่อเห็นแบบของมัน นางก็ดูออกแล้วว่านี่ไม่ใช่สิ่งของราคาถูกเลย

และไม่รู้ว่าถึงตอนนั้น นางจะสามารถนำกลับไปให้เจียงหยุนชานใช้ได้หรือเปล่า

เวลานี้หมึกถูกบดเสร็จแล้ว เมื่อมาอยู่ในแท่นฝนหมึกจึงดูเหมือนหยกสีดำที่กำลังไหลไปมา ทั้งยังมีกลิ่นอ่อน ๆ ของดอกเหมยด้วย เจียงป่าวชิงคลี่กระดาษออก หยิบพู่กันขึ้นมา จากนั้นก็วาดอะไรสักอย่างลงไปบนกระดาษด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เดิมที ชายหนุ่มบนรถเข็นไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา แต่ตอนที่เขาเห็นเจียงป่าวชิงกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะหนังสือด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจัง สีหน้าของเขาก็ชะงักไปเล็กน้อย

ไม่นานนัก เจียงป่าวชิงก็หยุดเขียน นางวางพู่กันลงบนที่ใส่พู่กันข้าง ๆ จากนั้นก็เป่าลมลงไปบนกระดาษอย่างระมัดระวังและเรียกให้ไป๋จีเข้ามาดู

ไป๋จียื่นศีรษะเข้าไปดูและพบว่าเป็นเข็มชนิดต่าง ๆ เขามองเจียงป่าวชิงด้วยสีหน้าลังเลก่อนจะถามออกมา “แม่นางเจียง นี่คืออะไรหรือ ?”

น้ำเสียงของเจียงป่าวชิงมีความเสียดายอยู่เล็กน้อย “ไหล่ขวาได้รับบาดเจ็บจึงวาดได้ไม่แม่นยำสักเท่าไหร่ เจ้าไปหาร้านขายเครื่องเงินที่ค่อนข้างเชื่อถือได้เถอะ จากนั้นก็ให้พวกเขาทำเข็มเหล่านี้ตามลักษณะขนาดและปริมาณบนภาพวาดอย่างเคร่งครัด” นางหยุดพูดและชะงักไปเล็กน้อย “จำไว้ว่าปลายเข็มต้องไม่แหลมจนเกินไป ไม่อย่างนั้นจะงอได้ง่าย อีกอย่าง ด้ามเข็มจำเป็นต้องตั้งตรง ผิวเรียบและได้สัดส่วนพอดี  เรื่องนี้มันเกี่ยวกับการรักษาในอีกครึ่งเดือนหลังของนายท่านของเจ้า เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?”

เมื่อไป๋จีได้ยินว่าเข็มเหล่านี้มีความสำคัญมาก สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้น จากนั้นเขาก็พยักหน้าราวกับรับปากทำนองนั้น “แม่นางเจียงไม่ต้องห่วง ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”

เจียงป่าวชิงรู้สึกพอใจมาก

จะไม่พอใจได้อย่างไรเล่า ?  อันที่จริง การรักษาขาเขานั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เข็มชุดใหญ่ขนาดนี้หรอก แต่ถ้ามีข้อได้เปรียบ มีหรือว่านางจะไม่ใช้ประโยชน์จากตรงนั้น สามารถจัดทำเข็มเงินทั้งชุดได้ด้วยการยืมน้ำมือของนายทุนที่สั่งนางอย่างชั่วร้ายผู้นี้ เจียงป่าวชิงก็แทบจะอยากส่งเสียงหัวเราะออกมาสักสองสามที

พอใจ!

นางรู้สึกพอใจมากจริง ๆ!

ในขณะนั้นเอง ฝูฉูก็เดินถือถังน้ำที่ทำจากไม้เข้ามา นี่ไม่ใช่ถังไม้ธรรมดา มันเป็นถังเนื้อต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีสีทองซึ่งถูกแกะสลักอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นหรือรูปร่าง ก็ล้วนมีความเรียบง่ายอย่างเป็นธรรมชาติ

น้ำที่บรรจุอยู่ภายในถังก็ใช่ว่าจะเป็นน้ำธรรมดาทั่วไป นี่เป็นน้ำผสมยาที่ต้มมาจากยาจีนห่อนั้น มันกำลังส่งกลิ่นที่ไม่ค่อยน่าดมออกมา

แต่ฝูฉู นางกลับทำเหมือนไม่ได้กลิ่นอย่างไรอย่างนั้น นางวางถังยาลงตรงหน้าชายหนุ่มบนรถเข็นอย่างเงียบ ๆ

ไป๋จีถอดรองเท้ากับถุงเท้าให้ชายหนุ่ม จากนั้นเขาก็วางขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มลงไปในถังไม้

ทันใดนั้น สีหน้าที่นิ่งมาโดยตลอดของชายหนุ่มพลันแข็งทื่อไปทันที

ไป๋จีตกใจรีบถามขึ้น “นายท่าน เป็นอะไรไปขอรับ ?”

เจียงป่าวชิงอธิบายอยู่ด้านข้าง “ถึงอย่างไรก็เป็นการขับพิษ ต้องขับพิษที่ซึมลึกเข้าไปในผิวหนังเหล่านั้นออกมา เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ทว่าความเจ็บนี่แหละถือเป็นเรื่องดี เพราะสามารถยืนยันได้ว่ามันมีผลต่อพิษที่อยู่ในร่างกายของเจ้านายของเจ้าจริง ๆ”

พูดมาถึงตรงนี้ เจียงป่าวชิงก็มองริมฝีปากที่ถูกกัดจนขาวซีดเล็กน้อยของชายหนุ่มคนนั้น นางขมวดคิ้วและอดที่จะรู้สึกแปลกใจในใจอย่างเสียไม่ได้

เมื่อสักครู่ที่นางบอกว่า ‘เจ็บเล็กน้อย’ อันที่จริงคือเป็นการพูดอย่างนิ่มนวลเท่านั้น

ถ้าหากดูจากจุดชีพจร ชายคนนี้คงจะถูกพิษไม่น้อยกว่าหกถึงเจ็ดปีแล้ว สารพิษกับขาของเขาแทบจะพูดได้ว่ารวมเป็นหนึ่งเดียวกันไปแล้ว เส้นเอ็น กระดูก และเนื้อของเขาก็สามารถพูดได้ว่าในตัวเจ้ามีข้า ในตัวข้ามีเจ้าทำนองนั้น

ลองคิดดูว่าการดึงเลือดและเนื้อออกมาทีละชิ้น จะมีความรู้สึกอย่างไร ?

ชายผู้นี้ได้รับความเจ็บปวดอย่างกะทันหันเช่นนี้ แต่เขากลับยังคงอดทนได้โดยไม่ส่งเสียงอะไรออกมาเลยสักคำ เห็นดังนั้น เจียงป่าวชิงรู้สึกนับถือเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง