บทที่ 62 เทพธิดาจิงหง![รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 62 เทพธิดาจิงหง![รีไรท์]

“นี่มันหรือว่าคางคกน้ำแข็ง?”

ผู้อาวุโสเดินเข้ามา ในมือกำลังถือหยกที่ทำมาจากร่างกายอบอุ่น ความหนาวเหน็บเลยไม่มีผลกระทบใด ๆ กับเขา ผู้อาวุโสสายตาจ้องมองไปยังสิ่งเล็ก ๆ ที่อยู่ในกล่องผลึกแก้วและถามขึ้นด้วยความสงสัย

ฉู่ชวิ๋นผงกศีรษะลงเล็กน้อย ความอยากรู้อยากเห็นของผู้อาวุโสทำให้เขาอยากมองใกล้ ๆ กว่านี้ ผลปรากฏว่าคางคกน้ำแข็งกระโดดออกมาดวงตาที่เป็นเหมือนอัญมณีของมันเพ่งมองผู้อาวุโส ก่อนจะอ้าปากพ่นของเหลวสีขาวที่เย็นจัดออกมา

ผู้อาวุโสปัดมันออกไปทันที ก่อนจะยืนนิ่งจ้องมองไปยังคางคกตัวผู้ตัวนั้น

ที่พึ่งออกมาคือผลึกแก้วขาว ๆ ไม่เป็นมีอันตรายอะไร

ฉู่ชวิ๋นยิ้มพูดขึ้น “ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ ด้านที่ดีและด้านที่ร้าย ผลึกแก้วคือพลังของคางคกน้ำแข็ง มันพุ่งออกมาป้องกันตัวเอง”

จิ่วโยวเลื้อยอยู่บนบ่าของฉู่ชวิ๋นและส่ายหัวไปมา ราวกำลังขบขันท่าทีของเฒ่าขี้ขลาดคนเดิม ทำให้ผู้อาวุโสอับอายมาก ก่อนรู้จักกับฉู่ชวิ๋นมา เขามักทำตัวสงบนิ่ง ปล่อยวาง เหมือนคนที่มีอายุนับร้อยปี แต่ตอนนี้กลับตกใจทุกอย่างที่เห็นราวกับเด็กๆ ทำให้เขาอายมาก

เมื่อเจอคางคกน้ำแข็งแล้ว ก็ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้น

ก่อนจากมา ฉู่ชวิ๋นใช้ค่ายกลเก้ามังกรเพลิงสุริยันเผาซากศพทั้งหลาย

เมื่อดวงวิญญาณเหล่านั้นไปสู่สุคติ ร่างที่เหลืออยู่ก็ไม่มีประโยชน์ ซากศพนับร้อยรวมไปถึงนักพรตเต๋าผู้ชั่วร้ายถูกเผาทำลายทั้งหมด

…..

…..

พวกเขากลับมายังตระกูลฮวา ฮวาชิงหวู่พอเห็นพวกเขาก็มีความสุขมากพวกเขานำคางคกน้ำแข็งกลับมาด้วย

“ในที่สุด พวกคุณก็กลับมา” เมื่อกลับมาฉู่ชวิ๋นก็เปิดกล่องผลึกแก้วออก

“ฟิ้ว!”

คางคกน้ำแข็งกระโจนออกมาจากกล่องรวดเร็วปานสายฟ้า มันเร็วมากก็จริง แต่ฉู่ชวิ๋นยังคงรวดเร็วกว่า ฉู่ชวิ๋นใช้ลมปราณให้มันลอยอยู่กลางอากาศ

คางคกน้ำแข็งเริ่มเเสดงท่าทีเกรี้ยวกราดพ่นไอเย็นออกมาคล้ายงูพิษ พุ่งตรงดั่งลูกศรทิ่มแทงร่างของฉู่ชวิ๋น

หากเป็นคนธรรมดาคงถูกแช่แข็งตายในทันที! แต่ฉู่ชวิ๋นคือผู้ฝึกตนเป็นเซียน ลมปราณหมุนวนรอบตัวของฉู่ชวิ๋น ไอเย็นกระจัดกระจายออกไปจากร่างกายของเขาทันที

คางคกน้ำแข็งต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในฝ่ามือของฉู่ชวิ๋น แต่มันก็เปล่าประโยชน์

“แกรซซซซ!”

เสียงของคางคกน้ำแข็งไม่เหมือนกับคางคกทั่ว ๆ ไป เสียงร้องมันคล้ายกับคนคอแห้ง จะว่าไพเราะก็ไม่ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดมาก ฉู่ชวิ๋นรับรู้ถึงความโกรธในน้ำเสียงมัน น่าแปลกที่หลังจากมันหยุดร้องกลับได้ยินเสียงโครกครากจากร่างของแม่ของฮวาชิงหวู่

ฉู่ชวิ๋นทำท่าทีให้ผู้อาวุโสเงียบและคางคกตัวเมียก็ตื่นขึ้นหลังจากหลับใหลอย่างยาวนาน ขณะเดียวกัน ใบหน้าของแม่ฮวาชิงหวู่เริ่มสีหน้าซีดเผือด เส้นผมเต็มไปด้วยน้ำแข็งที่มองดูคล้ายสีเทา ๆ ทำให้ดวงตาของฮวาชิงหวู่แดงก่ำอยากจะร้องไห้ออกมา

ฉู่ชวิ๋นเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ เขาไม่กล้าประมาท เนื่องจากคางคกน้ำแข็งนี้แตกต่างจากสัตว์ร้ายตนอื่น ๆ มันเปราะบางแต่ทว่าอันตราย ถ้ามันระเบิดพลังออกมา ความหนาวเย็นจะเเช่แข็งคนรอบนี้ทันที

เขารวบรวมลมปราณไว้บนฝ่ามือ วางมือลงบนจุดตันเถียนของแม่ฮวาชิงหวู่แล้วค่อยบังคับให้คางคกตัวเมียออกมาทีละเล็กละน้อย ไม่ผลีผลาม

คางคกน้ำแข็งแม้จะดูแข็งแกร่ง แต่จริง ๆ แล้วอ่อนแอมาก มันค่อย ๆ จ้องรอโอกาสควบคุมอีกฝ่าย นั่นคือวิธีของมัน

ลมปราณบริสุทธิ์เริ่มไหวเวียนไปยังเส้นเลือดของแม่ฮวาชิงหวู่ ร่างกายเธอเต็มไปด้วยพิษไอเย็นจากคางคกน้ำแข็งที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน

ฉู่ชวิ๋นควบคุมลมปราณอย่างระมัดระวัง เขาไม่ได้บังคับให้คางคกน้ำแข็งตัวเมียออกมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังควบคุมพิษไอเย็นในร่างกายของแม่ฮวาชิงหวู่เอาไว้ ขั้นตอนนี้ต้องใช้พลังสมาธิขั้นสูงและกินเวลานาน เพราะถ้าคางคกตัวเมียโกรธขึ้นมาหรือพลังลมปราณมีไม่มากพอ แม่ของฮวาชิงหวู่ก็จะตายในทันที

จนกระทั่งหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ดวงตาของฉู่ชวิ๋นก็เปล่งประกาย เมื่อเห็นแม่ของฮวาชิงหวู่อ้าปากเล็กน้อย คล้ายมีอะไรอยู่ภายใน

“ฟิ้ว!”

เงาโปร่งแสงพุ่งออกมาจากปากของแม่ฮวาชิงหวู่ คางคกตัวเมียปรากฏตัว!แต่สีหน้าของฉู่ชวิ๋นก็เปลี่ยนไป เพราะคางคกตัวเมียพ่นไอเย็นใส่ฮวาชิงหวู่ทันที

ฮวาชิงหวู่ตัวแข็งทื่อ เสียง “กึก” ดังใต้ฝ่าเท้า! เท้าเธอถูกปกคลุมไปด้วยไอเย็นและน้ำแข็ง ก่อนที่ไอเย็นจะกระจายออกไปเป็นวงกว้าง

ชั่วพริบตา ร่างของฮวาชิงหวู่ก็ถูกน้ำแข็งเกาะตัวกลายเป็นก้อนประติมากรรมน้ำเเข็งที่สวยงาม ฉู่ชวิ๋นตกใจรีบก้าวเข้าไปช่วย เขาใช้ลมปราณไว้ในฝ่ามือละลายน้ำแข็ง

“เปรี๊ยะ” เสียงคล้ายกับแก้วแตกร้าวดังขึ้น น้ำแข็งที่ห่อหุ้มร่างของฮวาชิงหวู่เริ่มแตกร้าว

แต่แล้วคางคกตัวผู้ที่อยู่ในมือของฉู่ชวิ๋นร่ำร้องโหยหวนจากนั้นร่างกายของมันก็เริ่มละลายเพียงพริบตาเดียว มันก็กลายเป็นแอ่งน้ำเล็ก ๆ และซึมซับเข้าไปในตัวของฉู่ชวิ๋นอย่างรวดเร็ว

แขนของฉู่ชวิ๋นถูกแช่เเข็งลามไปจนเกือบทั่วทั้งร่าง

“ตู้ม!”

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกหนาวเหน็บ เขาทำลายน้ำแข็งให้แตกกระจาย แต่มันก็เริ่มจับแข็งตัวอีกครั้งจนลามไปทั้งแขน

“คุณหนู” หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นทันทีมันรวดเร็วมาก ผู้อาวุโสตื่นตกใจ ตอบสนองไม่ทันได้แต่มองไปยังฮวาชิงหวู่ที่กลายเป็นน้ำแข็ง

“ไปเฝ้าที่ประตู ห้ามให้ใครเข้ามาเด็ดขาด” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ผู้อาวุโสรู้ดีว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เขาเห็นใบหน้าของฉู่ชวิ๋นเคร่งเครียดจริงจังขนาดนี้เป็นครั้งแรก จึงไม่กล้าละเลยเขารีบออกไปทันที

“ตู้ม!”

ฉู่ชวิ๋นเริ่มทำลายน้ำแข็งที่แช่เแข็งฮวาชิงหวู่ แต่ขณะนี้ไอเย็นเริ่มลามไปยังคอของเขาแล้ว

“ตู้ม!”

ฉู่ชวิ๋นทำลายน้ำแข็งบนร่างตัวเองไป แต่ก็ถูกแช่แข็งอีกครั้ง

“บัดซบ” ฉู่ชวิ๋นสบถ! เขาพยายามโคจรลมปราณละลายน้ำแข็งบนร่าง

จะทำยังไงดี? ฉู่ชวิ๋นรู้สึกถึงความเย็นที่แล่นไปตามร่าง ตัวเขามีลมปราณคุ้มกาย แต่ฮวาชิงหวู่เป็นคนธรรมดา แถมตอนนี้ถูกพิษไอเย็นกัดกินไปแล้ว

ฉู่ชวิ๋นรวบรวมสติ ดูดไอเย็นจากฮวาชิงหวู่เข้ามาที่ร่างกายของตัวเองแทน ทันใดนั้น ฉู่ชวิ๋นก็ตะลึง ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยเหลือเชื่อ ไอเย็นที่ดูดกลืนโดยฉู่ชวิ๋นกลับคืนสู่ร่างของฮวาชิงหวู่อย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าเขาจะดูดไอเย็นของฮวาชิงหวู่เข้ามาในร่างตัวเอง แต่ร่างของฮวาชิงหวู่ก็ยังเป็นน้ำแข็งอยู่ดี ดวงตาของฉู่ชวิ๋นสั่นไหว ทันใดนั้นเขาก็อุทานออกมา

“กายทิพย์ ฮวาชิงหวู่มีกายทิพย์!” ดินแดนเซียนนั้นมีกายที่พิเศษอยู่ 10 ชนิด คนที่มีกายพิเศษเหล่านี้ล้วนแต่โดดเด่นในหมู่ผู้ฝึกตน และกายทิพย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ผู้ที่เกิดมาพร้อมร่างกายแบบนี้จะฝึกตนได้อย่างรวดเร็ว

กายทิพย์อยู่ในอันดับที่ 3 ในบรรดา 10 อันดับกายพิเศษต่างๆ ซึ่งร่างกายแบบนี้จะต่างจากร่างกายคนทั่วไป เพราะสามารถดูดซับลมปราณเข้ามาได้ด้วยตัวเอง

ผู้ฝึกตนทั่วไปต้องสัมผัสถึงฟ้าดินจากการใช้เคล็ดวิชาและนั่งสมาธิ จึงจะสามารถดูดซับลมปราณได้ แม้แต่ฉู่ชวิ๋นเองก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่กายทิพย์จะสามารถดูดซับลมปราณได้ทุกที่ทุกเวลา ผู้ที่มีกายทิพย์จึงฝึกตนได้รวดเร็วกว่าคนปกติหลายเท่า

นอกจากคู่บำเพ็ญเพียรของฉู่ชวิ๋น จิงหงที่มีกายทิพย์แล้ว เขาก็ไม่คาดคิดว่าในโลกนี้จะมีคนที่มีกายทิพย์อีก ซึ่งมันทำให้ ฉู่ชวิ๋นตกใจ ร่างกายของฮวาชิงหวู่ดูดซับความเย็นเข้าไปในร่างกายโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นแบบนี้ฉู่ชวิ๋นก็ขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจ

“ถ้าเธอตายไปแบบนี้ มันเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่” ฉู่ชวิ๋นพูดออกมา “ไม่สิ! มันอาจเป็นโชคชะตา!”

อันที่จริง คางคกน้ำแข็งนั้นเป็นสัตว์ตามธรรมชาติ ที่มีพลังหยินและความเย็น รวมเข้าด้วยกัน หากฉู่ชวิ๋นซึมซับมันเข้าไป เขาจะทะลวงเข้าสู่ขั้นสร้างรากฐานลมปราณได้อย่างง่ายดาย

ฉู่ชวิ๋นยิ้มอย่างขมขื่น ดูท่าที่เจ้าคนตระกูลหยุนพยายามทำเรื่องให้ยุ่งยากขนาดนี้ก็เพื่อจะได้แต่งงานกับฮวาชิงหวู่สินะ

ตอนนี้ ไอเย็นของคางคกตัวผู้ที่อยู่ในร่างกายของฉู่ชวิ๋นไหลเข้าสู่ร่างกายของฮวาชิงหวู่

ความเย็นทั้งสองมาบรรจบกันและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อวัยวะภายในของฮวาชิงหวู่ที่ถูกน้ำแข็งกัดกินค่อย ๆ ฟื้นตัว แม้เธอจะไม่รู้จักวิธีควบคุมลมปราณ แต่เธอก็มีกายทิพย์ร่างกายเธอตอบสนองกับพลังลมปราณ

ลมปราณไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเธอด้วยตัวเอง หล่อเลี้ยงทวารทั้งแปดและอบอุ่นไปถึงกระดูก

“สงบใจลงแล้วสัมผัสมัน นี่คือหนทางสู่การเป็นเซียน!” ฉู่ชวิ๋นชี้นิ้วไปที่ระหว่างคิ้วของฮวาชิงหวู่ เขาส่งวิธีฝึกตนเบื้องต้นเข้าสู่จิตใต้สำนึกของเธอ

ครู่ต่อมา ลมปราณที่อยู่โดยรอบ ๆ ต่างก็มารวมตัวกันที่นี่ ฉู่ชวิ๋นรู้สึกอิจฉาและประหลาดใจที่ฮวาชิงหวู่ที่เข้าใจวิธีการฝึกตนในเวลาอันสั้น

ลมปราณซึมซับเข้าสู่ร่างกายของเธอตามรูขุมขน ผิวของเธอคล้ายกับถูกเคลือบด้วยหยกมันวาว หน้าอกของเธอสั่นไหว ซึ่งถือว่าปกติมาก

ฉู่ชวิ๋นไม่กล้าประมาทจึงเฝ้าอยู่ข้างกายฮวาชิงหวู่ เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที

……

ผ่านไปไม่ถึง 3 ชั่วโมง ฮวาชิงหวู่ก็ลืมตาขึ้นมา ก่อนเห็นฉู่ชวิ๋นยิ้มให้อย่างสุภาพ

ในเวลานี้ ฮวาชิงหวู่รอบตัวเต็มไปด้วยลมปราณบริสุทธิ์ ทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากกว่าเดิม เธองดงามมาก แค่รอยยิ้มของเธอก็ทำให้โลกสดใสได้ในทันที แม้แต่ฉู่ชวิ๋ยยังตกตะลึงในความงดงามนี้

แต่ฉู่ชวิ๋นจิตใจกล้าแข็งจึงได้สติอย่างรวดเร็ว เขาแกล้งไอเพื่อกลบความเขินอายก่อนลุกขึ้นพูด “ไม่เลวนี่ ขนาดเพิ่งจะเริ่มฝึกเองนะ”

ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างชื่นชม เพราะในฐานะผู้ฝึกตนเป็นเซียน แม้ฮวาชิงหวู่จะพึ่งเข้าสู่ระดับแรก แต่เธอใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเข้าใจวิธีโคจรลมปราณ ถึงจะมีฉู่ชวิ๋นคอยชี้นำ แต่ก็ไม่เลวเลย หากเปรียบกับเขาตอนที่อยู่ต่างโลกกว่าจะเข้าถึงระดับเริ่มต้นก็ใช้เวลาถึง 1 เดือน

“เธอจะมาเป็นลูกศิษย์ของฉันไหมล่ะ?”

ฮวาชิงหวู่ลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจ ดวงตาสดใส ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง

“ฉันไม่ต้องการ!”

คำตอบนี้ทำให้ฉู่ชวิ๋นตกใจจนถามออกมา “ทำไมกัน?”

เขาไม่เคยรับลูกศิษย์มาก่อน หากไม่ใช่เพราะเข้าถูกใจ ฮวาชิงหวู่ ต่อให้มีพรสวรรค์มากแค่ไหนหรือมาต่อให้คุกเข่าขอร้อง เขาก็ไม่แลเลยแม้แต่น้อย

“ผู้ฝึกตนเป็นเซียน แต่งงานได้หรือเปล่า?” ฮวาชิงหวู่มองฉู่ชวิ๋นแล้วถามขึ้น

ตอนนี้แม้เธอจะเป็นผู้ฝึกตนเป็นเซียน แต่นอกจากวิธีโคจรลมปราณพื้นฐานแล้วเธอก็ไม่รู้อะไรอีกเลย เธอเป็นเหมือนผ้าสีขาวไร้สิ่งเจือปน

ฉู่ชวิ๋นชะงักไป ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงถามแบบนี้ หรือฮวาชิงหวู่กลัวว่าถ้าเป็นผู้ฝึกตนเป็นเซียนแล้วจะไม่ได้แต่งงาน?

เขารู้สึกขำขันนิดหน่อย ผู้ฝึกตนเป็นเซียนนั้นทำอะไรตามความต้องการ ของตัวเอง ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ใด ๆ

“ได้อยู่แล้วสิ กลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรไง”

“คู่บำเพ็ญเพียร! ฉันชอบชื่อนี้” ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของฮวาชิงหวู่จ้องมองฉู่ชวิ๋นแล้วพูดขึ้นมา

“ฉันไม่อยากเป็นลูกศิษย์ ฉันอยากเป็นคู่บำเพ็ญเพียรของคุณ”

ฉู่ชวิ๋นไม่คิดว่าเธอจะพูดเช่นนี้ เขาตกใจจนเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง แต่ฉากที่คุ้นเคยนี้ทำให้เขาตกอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำและหญิงสาวแสนงดงามก็ปรากฏในจิตใจของเขา

ณ บริเวณภูเขาสูงเหนือเมฆา ตั้งตระหง่านรูปลักษณ์คล้ายกับกระบี่ที่ปลายกระบี่ชี้ขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า

“ฉู่ชวิ๋น ข้าขอถามเจ้า เจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่? ถ้าเจ้าตกลง เจ้ากับข้าจะเข้าพิธีแต่งงานกันเลย ถ้าคำตอบคือไม่ ข้าจะฆ่าเจ้าซะ จากนั้นข้าจะฆ่าตัวตายตามเจ้าไป รอจนกว่าจะกลับชาติมาเกิดใหม่ แล้วข้าจะขอเจ้าแต่งงานอีกครั้งในชาติหน้า ให้เจ้าเป็นคู่บำเพ็ญเพียรของข้า”

เทพธิดาจิงหง ที่รู้จักกันในนามความงดงามแรกแย้มแห่งดินแดนเซียน พูดเสียงดังกังวานและไพเราะสั่นสะเทือนไปทั่วแดนดิน

“ข้า…ข้าตกลง!” ฉู่ชวิ๋นตอบ สายตาฉู่ชวิ๋นอ่อนโยนเหมือนสายน้ำ ก่อนจะกล่าวอย่างทึ่มทื่อต่อหน้าเทพธิดาจิงหง