บทที่ 76 เอาตำลึงเงินมาให้

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 76 เอาตำลึงเงินมาให้

ท่านหมอเมิ่งกังวลอยู่ไม่น้อยว่าจางซิ่วเอ๋อจะคิดว่าตนชักดาบ สีหน้าของเขาจึงดูกระวนกระวายเล็กน้อย

จางซิ่วเอ๋อได้ฟังก็หัวเราะ รับถุงเงินมาพลางเอ่ยยิ้ม ๆ “ท่านอาเมิ่ง พูดอะไรน่ะเจ้าคะ? มีผู้ใดบ้างที่ไม่มีเรื่องเร่งด่วน?”

“เช่นนั้นเจ้าลองนับดูว่าจำนวนถูกต้องไหม?” ท่านหมอเมิ่งถามด้วยความรู้สึกโล่งอก

จางซิ่วเอ๋อไม่อยากนับ แต่ก็คิดว่านับต่อหน้าดีกว่า ไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อใจท่านหมอเมิ่ง แต่การทำแบบนี้จะทำให้ท่านหมอเมิ่งสบายใจ

จางซิ่วเอ๋อหยิบตำลึงเงินออกมาและใส่กลับไปในถุง “จำนวนถูกต้องเจ้าค่ะ”

พูดตามตรงแล้ว ถึงท่านหมอเมิ่งจะไม่ได้เอาตำลึงเงินมาให้ แต่ในใจจางซิ่วเอ๋อก็ไม่กลัวเลยว่าท่านหมอเมิ่งจะไม่จ่าย ตั้งแต่พบกันแล้วหลายหน นางก็มองออกว่าท่านหมอเมิ่งเป็นคนอย่างไร

อีกอย่างตอนที่ท่านหมอเมิ่งเห็นงูนั่น หากเขาไม่บอกว่ามีมูลค่าแค่ไหน ต่อให้เขาซื้อในราคาไม่กี่เหรียญทองแดง นางก็ยังขายให้อยู่ดี

การที่เขาไม่ได้เอาตำลึงเงินมาให้ ก็หมายความว่าเขาไม่มีเวลาจริง ๆ

จางซิ่วเอ๋อทักทายอย่างสนิทสนม “ท่านอาเมิ่ง รบกวนท่านดูร่างกายชุนเถาให้หน่อยนะเจ้าคะ ส่วนข้าวเที่ยงก็กินที่บ้านข้าได้”

นางคิดว่าเมื่อวานนี้ตัวเองซื้อของกินกลับมาไม่น้อย เลี้ยงข้าวท่านหมอเมิ่งดี ๆ สักมื้อก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว

ถ้าไม่มีท่านหมอเมิ่ง พวกนางสองพี่น้องคงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายใจเหมือนเช่นตอนนี้ได้

ท่านหมอเมิ่งพยักหน้าและเดินตามจางซิ่วเอ๋อเข้าไปด้านใน ถ้าจางซิ่วเอ๋อพูดโท่ง ๆ ว่าจะเลี้ยงข้าว ท่านหมอเมิ่งต้องบอกปัดแน่ แต่พอบอกว่าให้ช่วยดูร่างกายชุนเถาให้ด้วย เขาก็จะไม่บอกปัด

จางซิ่วเอ๋อไม่รู้เลยว่า ตอนที่คุยกับท่านหมอเมิ่งในป่านั้นได้มีคนผู้หนึ่งมาเห็นเข้า

คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นแม่หลินนั่นเอง

แม่หลินจะมาอยู่ในป่าทำไมน่ะเหรอ?

นางไม่อยากเห็นจางซิ่วเอ๋อเลยสักนิด และไม่กล้าเข้าไปเพราะกลัวบ้านผีสิง แต่เช้านี้ตอนให้อาหารวัวข้างแม่น้ำ ลูกวัวบ้านนางไม่รู้ตื่นกลัวจากอะไร วิ่งเข้ามาในป่าแห่งนี้

ต่อให้แม่หลินกลัว ก็ตัดใจทิ้งลูกวัวของตัวเองไม่ได้ ถ้ามีคนอื่นจูงกลับไปต้องแย่แน่ ถึงตอนนั้นจะพาวัวกลับมาได้รึเปล่าก็ไม่รู้!

แม่หลินจึงไล่ตามมา!

นางเพิ่งจะหาลูกวัวตัวเองเจอและกำลังเดินกลับ ก็เห็นท่านหมอเมิ่งให้ตำลึงเงินกับจางซิ่วเอ๋อ อีกฝ่ายหนึ่งนับเงินเสร็จแล้วก็พาท่านหมอเมิ่งไปที่บ้านตัวเอง

ส่วนทั้งสองคนคุยอะไรกันนั้น? แม่หลินได้ยินไม่ถนัดเพราะอยู่ไกล

นางเบิกตากว้างอย่างกับตัวเองได้เห็นเรื่องใหญ่บางอย่าง!

รอจนจางซิ่วเอ๋อเดินออกไปไกล นางก็สบถอยู่ตรงนั้น “อายุแค่นี้ก็เอาอย่างแม่ม่ายหลิวแล้ว หน้าไม่อาย!”

จากนั้นนางก็มีรอยยิ้มตื่นเต้น ถ้าคนอื่นรู้เรื่องนี้เข้า บวกกับเรื่องที่จางซิ่วเอ๋อไปบ้านบัณฑิตจ้าว ไม่รู้ว่าคนในหมู่บ้านจะพูดถึงนังแพศยานี่อย่างไรบ้าง!

เรื่องบัณฑิตจ้าวที่แม่หลินพูดไป ถึงแม้จะมีคนแอบพูดถึงกัน แต่ชาวบ้านไม่ค่อยเชื่อ

ไม่มีสาเหตุอื่น เพราะบัณฑิตจ้าวจะตายแหล่มิตายแหล่อยู่แล้ว ต่อให้มีผู้หญิงไปหาถึงที่ บัณฑิตจ้าวก็ไม่มีแรงพอหรอก!

ตอนแรกแม่หลินรอดูความอับอายของจางซิ่วเอ๋อ แต่หลังจากนั้นกลับไม่เห็นอะไรเลย ทำให้แม่หลินไม่ค่อยพอใจนัก

ตอนนี้มาเห็นจางซิ่วเอ๋ออยู่กับท่านหมอเมิ่ง และอีกฝ่ายก็ให้ตำลึงเงินเป็นกำ แม่หลินจึงเลือดร้อนขึ้นมาอีกครั้ง

ตอนนี้นางต้องทำลายชื่อเสียงของจางซิ่วเอ๋อให้ได้

คิดจะแต่งเข้าบ้านนางรึ? ไม่มีทาง!

คิดจะแต่งกับคนอื่นรึ? ยิ่งไม่มีทาง!

ผู้หญิงหน้าด้านอย่างจางซิ่วเอ๋อต้องโดนจับไปใส่เล้าหมู! ให้ตาย ๆ ไปซะ

แม่หลินจูงลูกวัวนั่นออกไปอย่างอารมณ์ดี วางแผนในใจเรียบร้อยว่าเรื่องนี้นางแค่ไปพูดกับแม่ม่ายหลิว จากนั้นอีกไม่นานคนทั้งหมู่บ้านก็จะรู้

ถ้าจางซิ่วเอ๋อรู้ว่าแม่หลินเห็นอะไร ต้องบอกว่าคนที่ไม่อยากเห็นหน้ากลับได้เจอกันง่าย ๆ

ถ้าคนอื่นเจอเรื่องแบบนี้มากสุดก็แค่แปลกใจ แต่พออยู่ในสายตาแม่หลินกลับกลายเป็นการซื้อขายทางกาม

ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อยังไม่รู้แผนในใจของแม่หลิน หากรู้เข้าต้องพุ่งเข้าไปฉีกปากของแม่หลินที่เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีอย่างแน่นอน

ท่านหมอเมิ่งตรวจร่างกายให้จางชุนเถาแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “ช่วงนี้นางได้รับสารอาหารแล้ว อาการบาดเจ็บนี่ก็ไม่เป็นอะไรมากแล้ว ดีขึ้นจากที่ข้ามาดูคราวก่อนเยอะ แต่ถ้าบาดเจ็บถึงเอ็นถึงกระดูกต้องพักผ่อนร้อยวันอยู่ ระวังด้วยนะ”

รอยยิ้มจางชุนเถากว้างขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้นางเริ่มทำกับข้าวกับจางซิ่วเอ๋อแล้ว

จางซิ่วเอ๋อเห็นว่าอาการนางดีขึ้นมากจริง ๆ และได้รับการยืนยันจากท่านหมอเมิ่ง จึงให้จางชุนเถาช่วยตัวเองล้างผัก

แต่ที่บ้านมีแค่ผักกาดขาวกับผักป่า ของพวกนี้ทำกับเนื้อหมูไม่ค่อยอร่อย จางซิ่วเอ๋อคิดไปคิดมาจึงเดินออกไปข้างนอก คิดได้ว่าเมื่อวานเห็นถั่วฝักยาวขึ้นมากมายที่บ้านจวี๋ฮวา

นางน่าจะไปขอซื้อกับอีกฝ่ายได้

คิดดังนั้นแล้ว จางซิ่วเอ๋อก็กำชับให้ชุนเถาดูไฟไว้ เพราะในหม้อนึ่งหมั่นโถวอยู่

บ้านจวี๋ฮวาอยู่ไม่ไกลมาก นางจึงมาถึงในไม่นาน

จะว่าไปก็บังเอิญอยู่ที่จวี๋ฮวากำลังยืนเด็ดถั่วฝักยาวอยู่พอดี ไม่ทันที่จางซิ่วเอ๋อได้ทักทายนาง จวี๋ฮวาก็ยิ้ม “ซิ่วเอ๋อ เจ้ามาได้อย่างไร”

จางซิ่วเอ๋อมองจวี๋ฮวาเขิน ๆ พร้อมกล่าวยิ้ม ๆ “คืออย่างนี้ บ้านข้าไม่มีผักอะไร ข้าเห็นว่าถั่วฝักยาวบ้านเจ้างอกงามดี….”

จวี๋ฮวาผงะนิดหน่อย คิดไม่ถึงว่าจางซิ่วเอ๋อจะมาขอผักกันตรง ๆ แต่พริบตาเดียวนางก็คลี่ยิ้ม “ก็จริงอยู่ เจ้าเพิ่งไปอยู่ในป่าได้ไม่นาน ไม่มีผักอะไรให้กินแน่ ๆ เจ้าอยากกินอะไรก็มาเด็ดไปได้เลย”

“ข้าหมายความว่าจะซื้อถั่วฝักยาวของบ้านเจ้า ไม่กล้าเอาไปเฉย ๆ หรอก”จางซิ่วเอ๋อรีบบอก

“โอ๊ย ไม่ใช่ของมีราคาอะไรหรอกจ้ะ เจ้าอยากได้ก็มาเด็ดเลย ไม่ต้องพูดเรื่องเงิน” จวี๋ฮวาพูดไปพลางเทถั่วฝักยาวที่ตัวเองเด็ดใส่ในกะละมังใส่ตะกร้าไผ่ของจางซิ่วเอ๋อ

จางซิ่วเอ๋อยื่นมือจะให้เงิน แต่ไม่ว่าอย่างไรจวี๋ฮวาก็ไม่ยอมรับ

จางซิ่วเอ๋อก็ทำอะไรไม่ได้ รู้ว่าเงินตัวเองให้ออกไปไม่ได้แน่ ๆ ได้แต่กล่าวขอบคุณด้วยใบหน้าขึ้นสีชมพูระเรื่อ แล้วรีบเดินกลับไปอย่างเร่งรีบ ที่บ้านมีแขก นางจะมัวเสียเวลาข้างนอกนานไม่ได้

แต่นางจะเอาผักบ้านจวี๋ฮวาไปเปล่า ๆ ไม่ได้ จึงครุ่นคิดในใจว่าหากคราวหน้าตัวเองจับปลาได้จะเอาไปให้จวี๋ฮวาสักสองตัว ถือว่าเป็นการให้คืน ส่วนเรื่องมีราคามากกว่าถั่วฝักยาวนั้นช่างมันเถอะ เป็นเพื่อนบ้านต้องไปมาหาสู่กัน จวี๋ฮวาเป็นคนมีแม่สามี ตัวจวี๋ฮวานั้นใจกว้าง แต่ใครจะรู้ว่าคนในบ้านจวี๋ฮวานิสัยยังไง ถ้าจวี๋ฮวาต้องลำบากเพราะเรื่องนี้คงไม่ดี ให้ของกลับเยอะหน่อยเป็นการตอบแทนความหวังดีที่จวี๋ฮวามีให้นาง

แต่จางซิ่วเอ๋อจินตนาการเรื่องไปในทางที่ร้ายแรงเกินไป

…………………………………………