บทที่ 71 ภารกิจกราบอาจารย์

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

[ติ๊ง! ภารกิจประจำวันสำเร็จ ได้รับรางวัล: ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี (ระดับสูง)]

เฉินชางได้ยินเสียงนี้พลันเบิกบานใจขึ้นมาทันที!

ได้รับทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี จะไม่ดีใจได้อย่างไรล่ะ?

แต่ในตอนที่เฉินชางกำลังกดรับอยู่นั้นเอง จู่ๆ ระบบก็ส่งเสียงเตือนขึ้นอีกครั้ง

เขาพบว่า…

ตนดีใจเร็วเกินไปหน่อย…

[ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี: ระดับสูง

คุณสมบัติพิเศษ: ได้รับทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการส่องกล้อง(ระดับสูง)]

ฮ่าๆๆ เขาควรดีใจเพิ่มขึ้นอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ถึงจะถูก!

ถึงอย่างไรนี่ก็เหมือนซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เป็นเรื่องมงคลสองชั้น

มีเรื่องดีขนาดนี้ด้วย!

การผ่าตัดถุงน้ำดีและการผ่าตัดไส้ติ่งไม่เหมือนกัน

หลายปีมานี้การผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องกลายเป็นการผ่าตัดที่เรียกว่าเป็น “มาตรฐานทองคำ” ในการรักษาถุงน้ำดีไปแล้ว มีเพียงสถานการณ์ที่ใช้การส่องกล้องผ่าตัดอย่างแม่นยำไม่ได้เท่านั้นจึงจะใช้การผ่าเปิดท้องเข้าช่วย

คิดไม่ถึงว่าการผ่าตัดถุงน้ำดีจะพ่วงทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องมาให้ด้วย

จะไม่ให้เฉินชางดีใจและกระตือรือร้นได้อย่างไร?

แต่นี่ก็เป็นเหมือนสัญญาณบอกใบ้เฉินชางว่าต่อไปอย่าได้ดีใจเร็วไปนัก

จะอย่างไรการเป็นมนุษย์ก็ต้องรู้จักถ่อมเนื้อถ่อมตัว

เรื่องดีๆ ถึงจะมาหา!

โอ้ คล้องจองอีกแล้ว

เฉินชางดีใจจริงๆ เพราะหากตอนนี้คุณทำได้เพียงผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการผ่าเปิดท้องตามปกติคงอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ไม่ได้จริงๆ ตอนนี้การผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้องกลายเป็นมาตรฐานทองคำที่แพร่หลายไปแล้ว

คุณทำไม่เป็นงั้นหรือ?

ถ้าเช่นนั้นก็ขออภัย ถอยไปซะ ผมจะเป็นศัลยแพทย์หลัก ส่วนคุณก็ถือคีมไปซะ!

ขณะที่เฉินชางกำลังจะผลักประตูเดินออกไปนั้นเอง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนเรียก

“เสี่ยวเฉิน เดี๋ยวก่อน”

เฉินชางหันไป พบว่าเป็นหลิวซือฉี

“ผู้อำนวยการหลิว? สวัสดีครับ”

หลิวซือฉีพยักหน้ายิ้ม “มาๆๆ เสี่ยวเฉิน ผมมีเรื่องอยากถามคุณหน่อย มานั่งนี่สิครับ”

เมื่อเฉินชางเดินเข้าไป พบว่ามีหลายคนนั่งอยู่ตรงข้ามเขา

เฉียนเลี่ยงพูดขึ้นว่า “หมอเฉิน เรื่องการผ่าตัดเมื่อกี้นี้ พวกเรามีคำถามบางอย่างอยากหารือกับคุณสักหน่อยน่ะครับ คุณมีเวลาหรือเปล่า?”

เฉินชางที่อยู่ในวงการศัลยแพทย์ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อเฉียนเลี่ยงมานานแล้ว เมื่อเห็นเฉียนเลี่ยงพูดแบบนี้จึงกล่าวอย่างถ่อมตัว “หัวหน้าเฉียนเกรงใจเกินไปแล้วครับ คุณมีอะไรก็ถามมาได้เลย”

เฉียนเลี่ยงพยักหน้า เก็บรอยยิ้มกลับมา บนใบหน้าพลันแปรเปลี่ยนไปจริงจังดั่งผู้มีความรู้ “หลักๆ ก็มีสามคำถาม อย่างแรกก็คือคุณรู้ได้ยังไงว่าผู้ป่วยคนแรกมีอาการลําไส้อักเสบนอกช่องท้อง?”

เฉินชางไม่คิดอะไรมาก พูดออกไปตามตรง “ประวัติผู้ป่วยเป็นบันทึกที่หมอบันทึกไปตามอาการที่ปรากฏอย่างแท้จริง  การสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเป็นข้อมูลเสริม จากการวิเคราะห์ประวัติผู้ป่วย ผมพบลักษณะพิเศษบางอย่างจึงตรวจบริเวณท้องให้แก่ผู้ป่วยเพิ่มเติมเพื่อทดสอบความคิดของผม นี่เป็นสาเหตุที่ผมผ่าเปิดท้องด้วยแผลประมาณสี่เซนติเมตร ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ ก่อนเริ่มผ่าตัดจะต้องหาวิธีรับมือทุกด้าน เพื่อป้องกันให้รอบด้าน”

เฉียนเลี่ยงตบมืออย่างพอใจ ดีมาก แต่จู่ๆ เขาก็มีสีหน้าเคร่งขรึมลง เอ่ยถามด้วยบรรยากาศกดดัน “ดีมาก! ในเมื่อคุณรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ให้บริการทางการแพทย์ก็คือความปลอดภัย ถ้างั้น…คำถามที่สองก็คือ ในการผ่าตัดเคสที่สอง ผู้ป่วยมีอาการไส้ติ่งอักเสบซึ่งมีภาวะเป็นหนอง ไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็ก ทำไมคุณถึงใช้มันอีก หรือคุณไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะเป็นการเพิ่มอันตรายให้แก่ผู้ป่วย?”

เฉินชางมองไปยังเฉียนเลี่ยงที่ถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึมแต่ไม่ได้เกรงกลัวอะไรนัก กลับพูดยิ้มๆ ว่า “ผมปรับปรุงการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กให้ดีขึ้นแล้วครับ จึงมั่นใจที่จะใช้มันกับไส้ติ่งที่มีภาวะอักเสบจนเป็นหนอง ดังนั้นผมจึงเลือกผ่าตัดด้วยแผลเล็ก”

เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา ในห้องสำนักงานพลันเงียบลง!

ผมปรับปรุงการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กให้ดีขึ้นแล้ว?

เฉินชางพูดว่าเขาปรับปรุงมันด้วยตัวเอง!

เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่?

ถึงกับปรับปรุงวิธีการผ่าตัดได้เชียว!

หลังจากคิดถึงปัญหานี้ ทุกคนก็ขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน ลมหายใจกระชั้นถี่ขึ้นเล็กน้อย

นี่คือพรสวรรค์หรือ?

อายุยังน้อยก็ปรับปรุงการผ่าตัดได้แล้ว!

อนาคต…ไม่จำกัดจริงๆ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ คนทั้งหลายก็ต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเฉินชาง!

ตอนแรกทุกคนคิดว่าเฉินชางเรียนวิธีการผ่าตัดมาจากคนอื่น คิดไม่ถึงว่า…จะเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาเอง

นี่แตกต่างกันมาก!

อย่างไรก็ตาม เฉียนเลี่ยงไม่ได้รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย กลับเคร่งขรึมยิ่งขึ้น ยืดตัวจ้องมองไปยังเฉินชาง ถามออกไปอย่างหนักแน่น “ปรับปรุง? คุณมั่นใจหรือว่าเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้น? ไม่ใช่เป็นการปรับปรุงให้แย่ลง? คุณมีข้อมูลที่จะพิสูจน์ความเป็นไปได้ของคุณหรือเปล่า? คุณได้วิเคราะห์อัตราความแม่นยำของคุณหรือเปล่า?”

“ผู้ที่ทำงานด้านการแพทย์จะไม่มีการปรับปรุงโดยทางทฤษฎีเท่านั้น การปรับปรุงใดๆ ก็ตามจำเป็นต้องวิเคราะห์ไปตามการปฏิบัติจริงนับครั้งไม่ถ้วน คุณทดสอบทางคลินิกแล้วหรือ? คุณวิเคราะห์หลายครั้งแล้วหรือ? คุณกับอาจารย์ผู้ชี้แนะของคุณเคยถกกันถึงปัญหานี้แล้วหรือ?”

ปัญหาต่างๆ ถูกถามออกมารวดเดียว เฉินชางถูกบรรยากาศของเฉียนเลี่ยงกดดันเข้าแล้วจริงๆ!

สิ่งที่เขาจะทำก็คือให้เฉินชางมีท่าทีเคร่งขรึมอย่างที่ผู้ทำงานทางการแพทย์สมควรมี

การแพทย์ก็คือวิทยาศาสตร์!

กระทั่ง…อันตรายกว่าวิทยาศาสตร์ทั่วไปด้วยซ้ำ!

ถึงแม้เฉียนเลี่ยงจะไม่รู้จักเฉินชาง แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างจากการผ่าตัดของเฉินชาง

นี่คือผู้เชี่ยวชาญ!

หากเฉินชางต้องการเดินในเส้นทางนี้ให้ไกลขึ้น ก็จำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ ให้มากขึ้น

ไม่กล่าวไม่ได้ว่า ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมศัลยแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง ประธานสมาคมด้านตับและถุงน้ำดี เฉียนเลี่ยงเป็นตัวแทนของอำนาจในวงการศัลยแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง

ที่เฉียนเลี่ยงทำแบบนี้ก็เพราะชื่นชมเฉินชาง!

หากเขาเป็นคนทั่วไปจะไม่พูดอะไรมากมาย แต่หลังจากเห็นการผ่าตัดของเฉินชางก็เกิดความรู้สึกชอบใจในฝีมือ ย่อมต้องสั่งสอนให้มากขึ้นเสียหน่อย

แม้จะเป็นหยกดิบก็ยังต้องเจียระไน!

ความโดดเด่นของเฉินชางค่อนข้างเด่นชัด ขาดแค่ความระมัดระวังและการอธิบายความรู้อย่างจริงจังเท่านั้น ซึ่งของเหล่านี้ถูกเฉียนเลี่ยงถามออกมาในรวดเดียว

เฉินชางสูดหายใจลึก ในสมองใคร่ครวญถึงคำพูดของเฉียนเลี่ยงไม่หยุด เขาเข้าใจดี เฉียนเลี่ยงไม่ได้กำลังกดดันตน แต่มีเจตนาผลักดันตน ความหมายของเฉียนเลี่ยงก็คือ คุณปรับปรุงการผ่าตัดแบบนี้ แม้จะแม่นยำและให้ผลดี แต่คุณต้องใช้ข้อมูลการผ่าตัดมากมายมาพิสูจน์ด้วย กล่าวให้ชัดเจนก็คือต้องใช้การผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วนมาเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ อย่างดีที่สุดอาจเข้าสู่วงการได้!

ศัลยแพทย์นับเป็นวงการหนึ่งจริงๆ!

คุณต้องเป็นที่รู้จักของคนอื่นถึงจะเข้าสู่วงการนี้ได้

ดังนั้นคำพูดของเฉียนเลี่ยงจึงชัดเจนมาก นั่นก็คือต้องการให้เฉินชางทำการเจียระไนการผ่าตัดแบบใหม่ของเขาและเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ดีๆ ออกมา!

เขาเงยหน้าขึ้นโค้งตัวอย่างจริงจัง “ขอบคุณอาจารย์เฉียนที่ชี้แนะ ผมเข้าใจแล้วครับ!”

เมื่อเฉินชางพูดเช่นนี้ออกมา คนรอบด้านต่างพากันยิ้ม

ทำไมพวกเขาจะไม่รู้เจตนาของเฉียนเลี่ยง

แน่นอนว่าไม่ได้อยากทำให้คนรุ่นหลังลำบากใจ ที่เขาทำเช่นนี้เพราะต้องการผลักดัน กระทั่งเกิดความรู้สึกชอบใจด้วยซ้ำ

ไม่ผิดไปจากที่คาด

ตอนนี้เฉียนเลี่ยงไม่มีบรรยากาศกดดันดังเช่นเมื่อครู่นี้แล้ว กลับมีสีหน้าอบอุ่น พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “คำถามที่สามและเป็นคำถามสุดท้าย คุณเรียนจบจากที่ไหน ใครเป็นอาจารย์ของคุณครับ?”

เฉินชางชะงัก ใบหน้าแดงเล็กน้อย เพราะจะอย่างไร…ปริญญาตรีของเขา พูดไปแล้วก็ไม่ได้น่าภูมิใจอะไรนัก เขายิ้มอย่างเขินอาย “ผมจบจากวิทยาลัยแพทย์ตงหยาง ส่วนอาจารย์…คือเฉินปิ่งเซิง!”

พวกเฉียนเลี่ยงสบตากัน วิทยาลัยแพทย์ตงหยางก็คือวิทยาลัยแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง เฉียนเลี่ยงเป็นรองผู้อำนวยการ ส่วน…เฉินปิ่งเซิงเป็นใครกัน? ทำไมพวกเขาไม่รู้จัก?

ทุกคนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่นานก็ยังไม่รู้ว่าใครคือเฉินปิ่งเซิง เฉินปิ่งเซิงคนนี้เป็นเทพเซียนมาจากที่ไหนกันแน่ถึงสอนลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ออกมาได้

ห่าวซวี่เลี่ยงเดินเข้ามาพอดีจึงพูดขึ้นว่า “เฉินปิ่งเซิงคือหมอในแผนกฉุกเฉินของพวกเราเองครับ”

เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนี้ ทุกคนพลันตบหน้าผาก

หลิวซือฉีคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที “คุณไม่เคยเรียนปริญญาโทหรือครับ?”

เฉินชางพยักหน้า พูดไปตามจริง “ครับ หลังจากจบปริญญาตรีจากวิทยาลัยแพทย์ตงหยางก็เข้าทำงานทันที”

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ทุกคนพลันเงียบไป

คนคนหนึ่งที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในระหว่างเรียนอาจไม่ได้สัมผัสกับการผ่าตัดด้วยซ้ำ ถึงกับปรับปรุงการผ่าตัดได้เชียว นี่มันยอดเยี่ยมกว่าผู้เชี่ยวชาญมากมายแค่ไหนกัน?

ผู้มีพรสวรรค์!

ไม่!

ควรเรียกว่าอัจฉริยะ!

เมื่อเฉียนเลี่ยงได้ฟังดวงตาพลันเปล่งประกายแวววาว มีท่าทางคล้ายกำลังครุ่นคิด ผ่านไปนานจึงค่อยพูดออกมา “กลับไปแล้วถ้ามีเวลาก็เขียนวิทยานิพนธ์มาให้ผมดูหน่อยนะครับ”

เฉินชางชะงัก จู่ๆ ก็พบว่ามีเครื่องหมายคำถามปรากฏเหนือศีรษะเฉียนเลี่ยง!

[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจกราบอาจารย์ การทดสอบของเฉียนเลี่ยง: เขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการผ่าตัดอันโดดเด่นออกมาให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากได้รับความเห็นชอบจากเฉียนเลี่ยง จะกระตุ้นภารกิจกราบอาจารย์ได้]

เมื่อเฉินชางอ่านจบ สีหน้าพลันกระตือรือร้นขึ้นมาทันที!

ผู้ที่เดินบนเส้นทางการแพทย์ต้องอ่านตำรา กราบไหว้อาจารย์ และทำการผ่าตัดให้มาก!

ตอนนี้การปรากฏตัวของเฉียนเลี่ยงทำให้ถนนสายใหญ่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเฉินชางแล้ว!