ตอนที่ 35 เวลาที่ย้อนกลับ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

เสียงนั้นเกิดจากสาเหตุที่หม้อปรุงยาของมู่เฉียนซีระเบิด

มู่เฉียนซีไม่เป็นอะไร ตอนเกิดการระเบิดนางใช้พลังวิญญาณวารีปกป้องตัวเองไว้  หลิงซือหลินมีสภาพที่น่าสังเวชใจ  เขาคลานออกจากซากปรักหักพังด้วยความอับอาย แต่กลับถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

“ท่านผู้นำตระกูล ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?”

มู่เฉียนซีกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก พึมพำออกมาเบา ๆ “มัน… ระเบิดได้อย่างไร ?”

“ไฟก็ควบคุมอย่างสมบูรณ์ดี  อ่า…”

“หรือว่า… เอ่อ… ข้าไม่ได้คำนวณปริมาณวัตถุดิบผิดไปใช่หรือไม่… หรือว่าข้าจะไม่มีพรสวรรค์ด้านการปรุงยา และข้ากำลังเข้าสู่ทางตันของการปรุงยา”

หลิงซือหลินปลอบใจ “ท่านผู้นำ ไม่มีผู้ใดประสบความสำเร็จในการปรุงยาครั้งแรกหรอก  ครั้งแรกล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา ท่านอย่าได้เสียใจไปเลย”

“ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่จะมีอาจารย์คอยชี้นำอยู่ข้างกาย ท่านทำได้ถึงเพียงนี้  ทำได้ดีแล้ว”

คนในตระกูลมู่ก็กำลังพูดถึงเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้

“ให้ตายเถอะ! ระเบิดเกิดขึ้นได้อย่างไร ?”

“เย็นไว้ก่อน  ท่านผู้นำตระกูลดูเหมือนกำลังศึกษาการปรุงยา”

“ฮ่า ๆ ๆ นางเรียนการปรุงยา ไม่รู้โดนระเบิดตายหรือเปล่า ถ้าถูกระเบิดตายไปก็ดี” ผู้เฒ่ารองหัวเราะเสียงดัง

ในเวลาเดียวกัน  ยังมีอีกคนหนึ่งที่หัวเราะเสียงดังมากกว่าผู้เฒ่ารอง …อาถิง

“ฮ่า ๆ ๆ สตรีน่าตาย เจ้าก็ยังมีวันนี้กับเขาด้วยสินะ”

ใบหน้าของมู่เฉียนซีหม่นลง “หากเจ้ายังหัวเราะอีก ข้าจะทำให้เจ้าร้องไห้อย่างน่าเกลียด”

“ข้าคิดว่าเจ้ามีความเชี่ยวชาญทางด้านปรุงยาราวกับพลิกฝ่ามือ คิดไม่ถึงว่าความสามารถการปรุงยาของเจ้าเป็นเพียงมือใหม่” อาถิงจงใจแกล้งนาง  พูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

“ครั้งแรกแล้วอย่างไร ?  ครั้งต่อไปข้าจะไม่ล้มเหลวแน่”

ในโลกเดิมของนาง การปรุงยาที่แท้จริงสาบสูญหายไปหมดแล้ว  แม้นางจะมีสูตรปรุงยามากมาย ตำราขั้นพื้นฐานที่มีอยู่ในตระกูลมู่นั้นก็ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดข้อผิดพลาดจนหม้อปรุงยาระเบิด

“เดี๋ยวก่อน เพื่อไม่ให้เจ้าเสียหน้า เข้ามา ข้าจะแสดงอะไรให้เจ้าดู”

“เข้าไป ตอนนี้ข้าเข้าไปได้หรือ ?”

“เจ้ามีพันธสัญญากับข้า ถึงแม้ตอนนี้พลังข้าจะน้อย ทำให้ร่างของเจ้าเข้าไปไม่ได้ แต่ข้าส่งจิตสำนึกของเจ้าเข้าไปได้  มาสิ… ข้าจะให้เจ้าดูของดี รับรองว่าเจ้าจะไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง”

มู่เฉียนซีพูดติดตลกน้ำเสียงเย้าหยอก “หา! หากเจ้าต้องการให้ข้าเห็นสิ่งเล็ก ๆ ของเจ้า ข้าไม่สนใจหรอกนะ”

ใบหน้าอันงดงามของอาถิงแดงก่ำขึ้นทันที ถ้อยวจีพลันแข็งกร้าว “มู่เฉียนซี ไปตายเสีย! ของเจ้าสิเล็ก”

“แต่เดิมก็เป็นเช่นนั้น ยังจะไม่ยอมรับ” มู่เฉียนซีพึมพำ  นางเดินกลับไปยังที่พักของตน ตลอดทางก็ทะเลาะกับอาถิง

“ข้าไม่มีทางยอมรับ อย่างไรของข้าก็ไม่เล็ก”

“หึ!”

“เหอะ!”

เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีจากไปแล้ว หลิงซือหลินรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย  …ท่านผู้นำล้มเลิกปรุงยาแล้วหรือ ?  ถึงแม้ท่านจะไม่สามารถฝึกปรุงยาได้สำเร็จ ยาเหย้าจี้ของท่านผู้นำก็ทรงพลังมาก

เมื่อกลับมาถึงห้อง มู่เฉียนซีก็กำหนดจิตเข้าไปในศาลานิรันดร์  นางสามารถปล่อยตามใจให้ลอยไปกับสายธารา…

อาถิงสายหน้า  เข้ามายืนอยู่ข้างกายนาง ด้วงตาสีเขียวจ้องมองมู่เฉียนซี

“คราวก่อนเจ้าทำลำธารของข้าสกปรก ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะทำให้มันกลับมาสะอาดเหมือนเดิม  ข้าไม่อยากให้เจ้าเข้ามาเลยจริง ๆ  คราวก่อนที่เจ้าเข้ามา สำหรับข้าคือฝันร้าย เจ้ามันฝันร้ายโดยแท้”

มู่เฉียนซีโบกมือไม่ใส่ใจ “อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ บอกมาอยากให้ข้าดูอะไร”

“มาดูเอง มันเหมาะกับเจ้าจริง ๆ”

อาถิงเคาะนิ้วเท้าเบา ๆ บนผิวน้ำ  คลื่นธาราใสค่อย ๆ แยกออกจากกัน แสงสีเขียวระยิบระยับประกายล้อแสงบนพื้นผิว

ฉับพลันอาถิงพูดออกไป “ย้อนเวลา!”

ไม่มีภาพใดปรากฏออกมา หากแต่มีเสียงแปลกเล็ดลอดให้ได้ยิน

“อืม… อา… นายท่าน ท่านรุนแรงเกินไป”

“สาวงาม ให้ข้าได้ทำรุนแรงกับเจ้าให้มากกว่านี้เถอะ อืม… กำลังดี”

“อา…”

เสียงแหบพร่าและคำพูดหยาบช้า ทำให้มู่เฉียนซีใบหน้าหม่นคล้ำลงทันใด  นางถีบตรงไปที่อาถิงอย่างกรุ่นโกรธ เจ้าบ้านี่ให้นางมาดูอะไร ?

“เจ้าบ้า! หากเจ้าอยากจะดูฉากสวาทนี่ก็ดูไปคนเดียวเลย  ยังจะเรียกข้าเข้ามาดูอีก  เจ้าบ้า!  เจ้าบ้า!  เจ้าบ้า!  เจ้ามันรนหาที่…” มู่เฉียนซีหลับตาปี๋ ปากด่าทอไม่หยุด

อาถิงรีบหลบ มุมปากกระตุกปฏิเสธ

“ไม่ใช่ นี่เป็นความผิดพลาด ครั้งนี้เป็นความผิดพลาด”

ใครอยากให้นางเห็นฉากนั่นกัน ฉากที่ส่วนใหญ่เขาอยู่บนเตียงกับหญิงสาว  เขาย้อนเวลากลับไปเจอช่วงที่เขากับหญิงสาวอยู่ด้วยกันและกำลัง…กันพอดี  ให้ตาย… ครั้งนี้เขาขายหน้านัก!

คลื่นบนผิวน้ำกระเพื่อมอีกระลอก ภาพปรากฏชัดเจนขึ้น  อาถิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดมันกลับมาเป็นปกติแล้ว

“ดู… ตอนนี้เจ้าสามารถดูได้แล้ว”

มู่เฉียนซียังคุกรุ่น “ไม่! ข้าไม่ดู อยากดูเจ้าดูเอง  ลาก่อน”

อาถิงเห็นมู่เฉียนซีกำลังจะไปก็ร้อนใจ “ช้าก่อน!  ถ้าเจ้าไม่ดูจะเสียใจ”

มู่เฉียนซีหันกลับไป ก็เห็นภาพที่ปรากฏบนลำธาร  …เป็นภาพของชายสวมชุดสีขาวกำลังปรุงยา

ชายผู้สวมชุดคลุมสีขาวมีดวงตาคู่สวย เครื่องหน้ามีเสน่ห์  แต่ยามที่ยืนอยู่หน้าหม้อปรุงยา ใบหน้านั้นทาบทาเพียงความตั้งใจจริง

จากนั้น มู่เฉียนซีได้เห็นความชำนาญของเขา  ไม่ว่าจะแยกยา ล้างยา ผสมยา เผายา หลอมยา  การปรุงยาแต่ละขั้นตอนสมบูรณ์แบบไร้ที่ติเตียน

นี่คือการปรุงยาที่แท้จริง แต่เดิมมู่เฉียนซีแค่อยากทดลอง

เมื่อได้มาเห็นภาพชายคนนั้นที่แสดงการปรุงยา นางสนใจการปรุงยามากขึ้น ดวงตาสงบพลันเปลี่ยนเป็นเปล่งประกายกล้า

“สตรีน่าตาย  เจ้าอย่าได้ตาบอดไปชอบเขาเข้าล่ะ  หากเจ้าชอบเขา ทางที่ดีควรควักลูกตาตัวเองทั้งสองข้าง ชายผู้นี้ชอบทำร้ายสตรี ไม่ใช่สิ่งดีเลย” อาถิงกล่าวเตือน

มู่เฉียนซีมุมปากกระตุก เจ้าบ้าอาถิงนี่คิดไปถึงไหน

นางสนใจในการปรุงยาต่างหาก ส่วนบุคคล  เพียงรู้สึกว่ามีหน้าตาที่ดี  ถ้าเทียบกับอาถิงที่ดูอ่อนหัด ชายผู้นี้เป็นผู้ใหญ่ดูมีเสน่ห์มากกว่า แต่นางสนใจเกี่ยวกับการปรุงยามากกว่าสนใจบุรุษ

มู่เฉียนซีเย้าหยอก “เหอะ! อาถิง  เขาผู้นั้นหล่อเหลากว่าเจ้า  เจ้าอิจฉาล่ะสิ”

“ข้าไม่ได้อิจฉา” อาถิงพูดอย่างกรุ่นโกรธ

เขายื่นมือชี้ไปที่หม้อปรุงยาใบใหญ่ที่ชายคนนั้นใช้ “หม้อใหญ่นี้ เจ้าเคยเห็นไหม ?  มันคือหม้อเทพนิรันดร์ เป็นสิ่งที่นักปรุงยาปรารถนามากที่สุด หากเจ้าอยากอยู่ในเส้นทางการปรุงยา ในจุดสูงสุดเจ้าจำเป็นต้องหามันมาครอง”

ประกายตื่นตัวผุดในนัยน์ตามู่เฉียนซี  จุดสูงสุดของเส้นทางการปรุงยา จำเป็นต้องมีหม้อปรุงยาเทพนิรันดร์

มู่เฉียนซียิ้ม  กล่าวออกมา “อืม อาถิง ที่เจ้าแนะนำมา ถ้ามีโอกาสข้าจะหาวิธี  จะตามหามัน”

“จริงสิ  ม่านแสงนี้มันคือสิ่งใดกัน ? มันเหมือนการฉายภาพยนตร์ ช่างแปลกประหลาดดีแท้”

ทันทีที่มู่เฉียนซีพูดจบ แสงนั้นพลันหายไป

“แน่นอนว่ามันวิเศษมาก  ข้าใช้มันจำลองสิ่งที่อยู่ในความทรงจำของข้าได้” อาถิงกล่าว ยืดอกภาคภูมิใจ  จากนั้นเขาถามต่อ “ว่าแต่ภาพยนตร์คืออะไรรึ ?”

“ตอนนี้บอกเจ้าไม่ได้ ถึงจะให้บอกก็อธิบายไม่หมด ไว้วันหลังค่อยอธิบาย  ข้าเห็นชายผู้นี้ปรุงยาแล้วเกิดความคิด คันไม้คันมือ อยากไปปรุงยาบ้างแล้ว” มู่เฉียนซีพูดด้วยรอยยิ้ม

เห็นนางจากไป อาถิงรีบถาม “สตรีน่าตาย เจ้าคงไม่ได้ชอบฮู่เหม่ยจือจริง ๆ ใช่ไหม ?”

.