บทที่ 75 เทพนักยิง
ในตอนนี้เฉินเฉียงไม่ได้กังวลเรื่องที่จะโดนโจรคนอื่นพบแต่อย่างใด นั่นก็เพราะกลุ่มโจรที่ยังอยู่ชั้นที่สองนั้นยังเต็มไปด้วยเสียงเอ็ดตะโรเฮฮา
หลังจากดูดกลืนพลังของจ้าวชั้นที่ห้าไปแล้ว เฉินเฉียงทำเพียงหันหลังออกมา แต่ตอนนั้นเขาก็ได้เหลือบไปเห็นแหวนวงน้อยๆที่อยู่ในมือ เขาจึงได้นำมันออกมาในทันที
ตอนแรก เฉินเฉียงคิดว่าจะมาเก็บกวาดหลังจากจัดการกับหัวหน้ากลุ่มโจรนี้ไปแล้ว
แต่เขาไม่นึกว่ากระบวนการกำจัดจะง่ายถึงขนาดนี้
แล้วทำไมเขาไม่ลองวางยาโจรที่อยู่ชั้นอื่นๆด้วยล่ะ
เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินเฉียงก็ได้ตรงไปยังกลุ่มโจรที่อยู่ชั้นต่อไป
เช่นเดียวกับชั้นแรก เฉินเฉียงรอคอยจังหวะที่จะวางยากลุ่มโจรที่อยู่ชั้นที่สอง
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เฉินเฉียงก็ได้วางยากลุ่มโจรบนชั้นสองจนหมดสิ้น
ต่อไปเป็นชั้นที่สาม
ทันทีที่เขาเดินขึ้นมาชั้นที่สาม เขาได้ยินเสียงหนึ่งที่ดังลั่น “ถัดไป”
หลังจากซ่อนตัวในความมืด เขาก็ค่อยๆตามเสียงนั้นไปเพื่อตรวจสอบดู
ที่กลางชั้นสามนี้ มีชายที่ดูทรงพลังและสูงกว่าใครยืนอยู่ เขาถือคันธนูสีดำที่มือซ้าย และเหนี่ยวรั้งสายธนูด้วยมือขวา ก่อนที่จะเล็งยิงไปยังผู้หญิงที่ถูกผูกมัดไว้กับเสาที่กลางโถง
ธนูที่ไม่มีลูก ไอ้หัวหน้าโจรนั่นจะทำอะไรกันแน่
ในขณะที่เฉินเฉียงกำลังสับสนอยู่นี้ หัวหน่วยโจรก็ได้ปล่อยมือขวาและยังเกิดประกายแสงสีขาวออกมา
“อ๊า…”
เสียงแหลมเรียวเล็กได้กรีดร้องออกมา และเป็นตอนนั้นที่หน้าอกของสาวน้อยก็ได้ปรากฏรูโหว่ขึ้น
เขาได้ใช้พลังงานสายเลือดเป็นลูกศรนั่นเอง
เฉินเฉียงถึงกับต้องเบิกตามองกว้าง
โจรกลุ่มนี้ไม่เพียงจะโหดร้ายเท่านั้น แต่ระดับการบ่มเพาะของพวกมันยังทรงพลังอย่างมาก เขาไม่แปลกใจเลยจริงๆที่ตึกจอมพลทั้งสองจะทำอะไรพวกมันไม่ได้
เหมือนหญิงสาวได้ตกตาย เหล่าลูกสมุนของมันก็ได้ส่งเสียงร้องเชียร์ดังลั่น “จ้าวชั้นที่สามมมม สุดยอดดดดดดด”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เฮ้ย เอาเนื้อย่างมา”
หลังจากพูดจบ จ้าวชั้นที่สามก็ได้ยกมืออันใหญ่โตเพื่อเก็บธนู ก่อนที่จะหยิบชามไวน์มาดื่มกิน
หากเทียบกับหัวหน้าหน่วยสองคนก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะแข็งแกร่งกว่าคนอื่นไม่น้อยทีเดียว
หัวหน้าหน่วยโจรตรงหน้าเขานี้สมควรจะเป็นหน่วยซุ่มยิงของกองโจรนี้
ถ้าเฉินเฉียงไม่ได้คิดที่จะใช้เลือดพิษของเขาและคิดจะสู้กันตรงๆล่ะก็ เกรงว่าเขาต้องตกตายตั้งแต่ไกลไม่ได้มีโอกาสเข้ามาใกล้ได้ถึงขนาดนี้
เมื่อหัวหน้าหน่วยคนนี้สั่งไวน์เพิ่ม เฉินเฉียงจึงได้นำไวน์เข้าไปสองไห
“ฮ่าฮ่า ดื่ม”
เฉินเฉียงที่จ้องมองการดื่มของจ้าวชั้นนั้น ได้ทำการจับจ้องจ้าวชั้นสามเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เฉินเฉียงคาดเอาไว้ จ้าวชั้นที่สามในทันทีที่ยกไวน์ซดเข้าปากไป เขาได้มองเฉินเฉียงด้วยท่าทีสงสัย
“ฮื้มมมม”
เมื่อเห็นสายตาของจ้าวชั้นที่สาม จิตใจของเฉินเฉียงก็เต้นไม่เป็นส่ำในทันใด
ในขณะเดียวกัน ลูกน้องของจ้าวชั้นที่สามก็ได้ล้มลงไปกองกับพื้นทีละคนสองคน
เฉินเฉียงที่อยู่ห่างเพียงครึ่งเมตร เมื่อเห็นว่าเรื่องไม่ได้เป็นไปดั่งที่คิด เขาก็ได้ใช้มือของตนที่กำลังถือไวน์อยู่นั้น เทเหล้ากรอกไปในปากที่กำลังจะพยายามพูดออกมาของจ้าวชั้นที่สาม
“แก อ๊อก เป็น อึ้ก ใคร”
จ้าวชั้นที่สามได้ตะโกนออกมาท่ามกลางไวน์ที่ไหลลงคอ
ด้วยเสียงนี้ดังพอที่จะก้องไปทั่วทั้งที่สามซึ่งกำลังเงียบงัน
ฉฺนเฉียงรู้แล้วว่าไม่ดีแน่จึงได้รีบใช้เคล็ดวิชาสะกดข่มวิญญาณมารสวรรค์ อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าค่าพลังจิตของชายคนนี้จะไม่ด้อยไปกว่าเฉินเฉียง เพียงชั่วพริบตา จ้าวชั้นที่สามก็ได้ฟื้นคืนสติ
ไม่ดีแล้ว
หัวหน้าหน่วยคนนี้มีดีที่การโจมตีระยะไกล แล้วเขาจะกล้าวิ่งไปรอบๆได้ยังไงกัน
เฉินเฉียงที่ตกอยู่ในสภาวะกดดันนี้ได้รีบดึงดาบดั้นเมฆออกมาในทันที ก่อนที่จะใช้กระบวนท่ามังกรสะบัดหางออกไป
จ้าวชั้นที่สามนั้นมีความแข็งแกร่งกว่าเฉินเฉียงมากนัก เมื่อดาบของเฉินเฉียงได้สัมผัสกับผิวของจ้าวชั้นที่สามก็ต้องกระเด็นออกมาด้วยชั้นพลังสายเลือดที่จ้าวชั้นสามดึงออกมาอย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม ไวน์พิษที่เฉินเฉียงได้กรอกลงไปหน้านี้ก็ได้สำแดงเดช เมื่อเขาได้เห็นว่ามุมปากของจ้าวชั้นที่สามมีเลือดไหล เขาก็ได้เหวียงดาบของตนอีกครั้ง
และด้วยการที่ถูกพิษ พลังสายเลือดของจ้าวชั้นที่สามจึงได้เกิดการแปรปรวนและไม่อาจคงรูปเอาไว้ได้ และนี่เองทำให้เขาถูกตัดขาดเป็นสองท่อนในทันที
เฉินเฉียงได้วางมือลงไปซากร่างของจ้าวชั้นที่สาม และเป็นตอนนี้ที่ระบบได้ดังขึ้นมา
ชื่อ เฉินเฉียง
ระดับ: นักรบสายเลือดระดับทหารขั้นสูง
การหลอมรวมทักษะ: 1
ค่าพลังงาน:0
ค่าการใช้ประโยชน์:0
ค่าความอดทน:190
ค่าความแข็งแกร่ง:172
ค่าความเร็ว:191
ค่าพลังจิต:120
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: หลอมเลือดทำลายล้างระดับต้น
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: ภาพวาดแห่งห้วงมหาสมุทร ระดับเริ่มเรียนรู้
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคฝึกฝนร่างกายพื้นฐาน ระดับต้น
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุแบบดั้งเดิม ระดับต้น
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: เทคนิคการยิงธนูของโฮ่วอี้(ผู้ดับตะวัน) ระดับต้น
ทักษะ: ไร้ตัวตน
ทักษะ: การตรวจสอบด้วยเสียง
ทักษะ: เพลิงดาบสายฟ้าทำลายวิญญาณระดับต้น
ทักษะ: ก้าวย่างสวรรค์ระดับสุดยอด
ทักษะ: ภาษาสัตว์
ทักษะ: แกะรอยด้วยกลิ่น
ทักษะ: ขุดรูระดับสุดยอด
ทักษะ: สื่อสารไร้สาย
ทักษะ: สะกดจิต ระดับต้น
ทักษะ: สะกดข่มวิญญาณมารสวรรค์ ระดับต้น
ทักษะ: แก่นแท้แห่งการเล่นแร่แปรธาตุ ระดับต้น
ทักษะ: รอบรู้สมุนไพร
ทักษะ: เพลงดาบลมเฉือน ระดับต้น
สายเลือด: ทมิฬระดับสูง
สายเลือด: พลังห้าธาตุระดับสูง
สายเลือด: ธาตุไม้เขียวระดับสูง
เพียงได้เห็นชื่อเคล็ดวิชาการบ่มเพาะนี้ เขาก็รู้ได้ในทันทีว่า เทคนิคการยิงธนูของโฮ่วอี้(ผู้ดับตะวัน) นั้นเป็นทักษะที่ต้องใช้ค่าพลังจิตที่สูงล้ำ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมจ้าวชั้นที่สามจึงรู้ตัวได้เร็วนัก
หลังจากดูดซับพลังงานมาแล้ว เฉินเฉียงก็ได้ฉกแหวนมิติมาตามระเบียบ
นั่นก็เพราะนี่คือเทคนิคการยิงธนู หากขาดธนูไปเคล็ดวิชานี้ก็ไร้ค่า
หลังจากเสร็จสิ้นแล้ว เฉินเฉียงยังคงซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไม่เร่งร้อนที่จะขึ้นไปยังชั้นถัดไป
นั่นก็เพราะเสียงของจ้าวชั้นที่สามที่พูดออกมาเมื่อครู่สมควรจะทำให้คนอื่นเริ่มตื่นตัวกันแล้ว
อย่างที่เขาคาดเอาไว้ มีโจรที่มีการบ่มเพาะระดับขั้นทหารขั้นกลางได้วิ่งเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากเห็นศพที่เกลื่อนกลาดทั่วชั้น โจรคนนี้ได้ตื่นตระหนกก่อนที่จะวิ่งหนีไป เฉินเฉียงที่เตรียมตัวอยู่ก่อนแล้วก็ได้ยิงลูกศรพลังสายเลือดด้วยธนูสีดำที่เขาพบ
“อั้ก”
ด้วยเทคนิคการยิงธนูนี้ทำให้เขาสามารถโจมตีได้ในระยะไกล
แต่ด้วยเสียงที่หลุดออกมาของโจรเมื่อครู่ สมควรที่จะทำให้เหล่าโจรที่อยู่ชั้นที่สี่รู้ตัวแล้ว
“แกเป็นใคร” ที่ชั้นที่สี่นี้มีขนาดเล็กกว่าชั้นสามพอสมควร ในทันทีที่เฉินเฉียงไปถึง เขาก็พบกับมังกรตาเดียวที่ยืนอยู่ท่ามกลางลูกน้องพร้อมจิตสังหารที่ฉายแววออกมาบนใบหน้า
เฉินเฉียงผู้ซึ่งไม่มีสิ่งใดที่ต้องเสวนากับคนเลวชาติพรรค์นี้ได้หยิบดาบดั้นเมฆของตนพุ่งเข้าใส่ในทันที
เพียงชั่วพริบตา เพียงการตวัดดาบของเฉินเฉียงเพียงไม่กี่กระบวนท่าก็ทำให้หัวของโจรสี่คนหลุดลอยไป
“แกนี่ช่างกล้าจริงๆ กับอีกแค่ขยะที่มีสายเลือดดีนิดหน่อยแต่กลับกล้ามาเหยียบเขตแดนหมอกโลหิตของพวกเรา”
“พวกแกถอยไปซะ และคอยดูข้าคนนี้หั่นร่างไอ้ระยำนี่”
เพียงสิ้นเสียงนี้ เหล่าลูกน้องของมังกรตาเดียวก็ได้หลีกทางให้
แต่เฉินเฉียงนั้นยังไม่คิดที่จะสู้กับมังกรตาเดียว
เมื่อเทียบกับหัวหน้าหน่วยคนอื่นแล้ว เฉินเฉียงรู้ดีว่าชายตรงหน้าแข็งแกร่งมากมายขนาดไหน เขาจึงเลือกที่จะใช้ท่าเท้าที่เหนือกว่า ไล่ล่าฆ่าสังหารเหล่าลูกน้องของมังกรตาเดียวด้วยดาบดั้นเมฆให้ตกตายไปตามๆกัน
“ไอ้ตัวขี้ขลาด”
เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ลูกน้องของมังกรตาเดียวก็ได้ตกตายไปจนหมด แต่มังกรตาเดียวยังไม่อาจจะแม้แต่จับชายเสื้อของเฉินเฉียงเลยด้วยซ้ำ
“น้องสอง เกิดอะไรขึ้น มันเป็นใคร แล้วน้องสาม น้องสี่ และน้องห้าล่ะ”
เสียงร้องอันตื่นตกใจนี้ทำให้มังกรตาเดียวเริ่มนึกถึงเหล่าน้องร่วมสาบานของมันในตอนนี้ คนที่พูดออกมานี้คือชายหัวล้านที่มีความสูงเกือบสองเมตร เขาได้ลงมาเพราะพบสิ่งปกติก็ได้เห็นกองซากศพ และเห็นมังกรตาเดียวไล่ตามชายหนุ่มอยู่ นี่จึงทำให้เขารีบตะโกนถามออกมาอย่างดังลั่น