ตอนที่ 39 ทำไมเธอถึงมาอยู่บนเตียงของฮ่อหยุนเฉิงได้

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

อยู่ด้วยกันบ้านนายสิ!
ซูฉิงจ้องเขาเขม็ง แล้วก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว
อพาร์ทเม้นของฮ่อหยุนเฉิงปกติแล้วจะมีแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดอยู่แล้ว บางครั้งฮ่อหยุนเฉิงก็จะให้แม่บ้านทำความสะอาดทำอาหารไว้รอเขากลับมากิน ด้วยเหตุนี้แม่บ้านทำความสะอาดเสร็จแล้วมักจะเตรียมวัตถุดิบเอาไว้ในตู้เย็นพร้อมไว้อยู่แล้ว
ซูฉิงเปิดตู้เย็นออก ก็เห็นวัตถุดิบที่อยู่ภายในเยอะแยะไปหมด
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ซูฉิงคิดจะทำบะหมี่ และก็อาหารง่ายๆ อีกสองอย่าง
หล่อนหยิบเอาวัตถุดิบออกมา แล้วเอาไปล้าง จากนั้นก็เริ่มลงมือทำอาหาร
ฮ่อหยุนเฉิงที่หลังจากกินยาเรียบร้อยแล้ว ก็มองไปทางในครัว
จากมุมที่เขายืนอยู่ สามารถมองเห็นเบื้องหลังของซูฉิง
ที่ตอนนี้หล่อนสวมเสื้อกันเปื้อน กำลังยุ่งกับการทำอาหารอยู่ในครัวอย่างขะมักเขม้น เหมือนภรรยาที่กำลังเตรียมอาหารเย็นให้กับสามี
ภาพนี้ดูคุ้นเคยมาก และรู้สึกอบอุ่น
ฮ่อหยุนเฉิงก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในใจ แล้วก็อดที่จะลุกขึ้นเดินเข้าในครัว
ทันใดนั้นคำพูดของคุณปู่ก็ลอยมาที่ข้างหูของฮ่อหยุนเฉิง “ฉิงฉิงเป็นคนดี ขอแค่นายใช้ใจเวลาที่อยู่กับเธอก็จะเห็นความดีของเธอ หยุนเฉิง นายอย่าพลาดผู้หญิงที่ดีย่างฉิงฉิงไปนะ”
บางที เขาก็ควรที่จะใช้ชีวิตดีๆ กับซูฉิง ลองเรียนรู้เธอดู
ซูฉิงที่เตรียมที่ตักอาหารออกจากหม้อทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงคุ้นหูของฮ่อหยุนเฉิงดังอยู่ด้านหลังหล่อน “ต้องการให้ฉันช่วยอะไรมั้ย”
ซูฉิงหันกลับไป ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงพิงอยู่ขอบประตู มือล้วงถุงกางเกง ดูมาดแมนอบอุ่น ริมฝีปากเซ็กซี่อมยิ้ม แววตานิ่งขรึมมองมายังเธอ
แววตาของเขาเหมือนกับกระแสน้ำวนที่ทำให้คนหลงเข้าไปแล้วหาทางออกไม่เจอ
ซูฉิงที่ถูกฮ่อหยุนเฉิงมองจนไม่เป็นตัวของตัวเอง หลบสายตาของเขาทำเป็นหันไปมองที่ขาของเขา คิ้วขมวด “ขาของนายไม่ใช่ว่าเดินเองไม่ได้หรอ”
ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างเป็นการเป็นงานว่า”ดังนั้น ต้องการให้เธอพยุงฉันไปที่ห้องอาหาร”
“ไปเองสิ ฉันยุ่งอยู่นะ” ซูฉิงไม่มีอารมณ์แล้วก็ผลักเขาไปออกจากประตูห้องครัว แล้วก็ปิดประตูเสียงดังปั้ง
ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะออกมอง ที่เห็นซูฉิงโกรธแทบจะระเบิด
“นายลองชิมดูสิ “ซูฉิงเอาชายพร้อมกับตะเกียบยื่นไปตรงหน้าของฮ่อหยุนเฉิง “ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วทำอะไรไม่ได้มาก ก็เลยทำแค่บะหมี่ กินนี้ก็แล้วกัน”
ฮ่อหยุนเฉิงก้มหน้ามองบะหมี่ที่อยู่ตรงหน้า ด้วยสายตาเซอร์ไพรส์
กลิ่นหอมฉุย ไม่เลวเลยจริงๆ
ฮ่อหยุนเฉิงมองดูผู้หญิงมองดูอย่างลุ้นๆ ก็ยกยิ้มขึ้นมา
คู่หมั้นของเขา ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้เลย
ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น อย่างเช่นพวกสวีหว่านเอ๋อร์ เซี่ยซิงซิง ต่อหน้าเขาก็ทำเป็นสงวนตัว ทำเป็นอ้อน คิดแต่จะหาเรื่องทำให้ตนเป็นจุดสนใจของเขา
แต่เขาก็ไม่สนใจ
ซูฉิงกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย แล้วก็เงยหน้าขึ้นมา
ฮ่อหยุนเฉิงมองหน้าเธอคิ้วขมวด และถ้วยบะหมี่ที่อยู่ตรงหน้าเขา ตะเกียบไม่ขยับเลย
“ทำไมนายไม่กินล่ะ ” ซูฉิงถามอย่างสงสัย “หรือว่าไม่ถูกปากนายหรรอ”
ฮ่อหยุนเฉิงส่ายหน้า แล้วก็ยกมือขวาขึ้นมาแกว่งต่อหน้าซูฉิง
“นายใช้มือซ้ายได้นี่!”ซูฉิงถูกสายตาแหลมคมมองอยู่
ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเรียบ”มือข้างซ้าย? ไม่ชินไง”
“งั้นก็ไม่ต้องกินหรอ”
“ใครจะไม่กิน ” ฮ่อหยุนเฉิงจับหมับเข้าที่ชามบะหมี่ที่ซูฉิงจะเอาไว้ มองตานิ่ง พูดเสียงดังว่า “เธอป้อนฉัน”
ซูฉิง:???
“ไม่ใช่บอกว่าจะตอบแทนบุญคุณที่ฉันช่วยชีวิตหรอ ” สีหน้าฮ่อหยุนเฉิงนิ่งขรึม พูดเสียงเรียบออกมา
แต่ว่าก็แค่พูดเล่นๆ เท่านั้น แต่เธอถือเป็นจริงเป็นจัง……
ซูฉิงมองที่แผลของฮ่อหยุนเฉิง ก็หมดความอดทน “ก็ได้……….”
ใครใช้ให้ฮ่อหยุนเฉิงมารับมีดแทนหล่อนล่ะ
มองผู้หญิงตรงหน้าที่ทำท่าทางเหมือนไม่อยากทำ ฮ่อหยุนเฉิงที่สายตานิ่ง ซูฉิงก็หยิบตะเกียบมา แล้วก็ยิ้มกระหยิ่มแล้วพูดว่า”ฉันล้อเธอเล่นน่า ฉันกินเองได้”
ซูฉิงพ่นลมหายใจออกมา ปกติผู้ชายคนนี้ก็มีหน้านิ่งอยู่แล้ว แล้วมาพูดล้อเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่
มือข้างซ้ายของเขานั้นไม่ค่อยถนัด ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกว่าต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการจะใช้ตะเกียบกินบะหมี่ แล้วผ้าเช็ดปากเช็ดมุมปาก “รสชาติไม่เลว”
“นายชอบก็ดีแล้ว “ซูฉิงลุกขึ้นยืน เตรียมจะเอาชามกับตะเกียบไปล้าง
“วางเอาไว้ตรงนั้นเถอะ พรุ่งนี้จะมีแม่บ้านมาเก็บกวาด” นิ้วเรียวยาวของฮ่อหยุนเฉิงนวดตรงขมับ “ฉันเหนื่อยแล้ว”
“งั้นฉันพยุงนายกลับไปพักในห้อง “ซูฉิงก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว อยากจะรีบพักผ่อน
เพราะว่าพรุ่งนี้ยังมีงานอีกเยอะที่ต้องทำ
“อืม ” ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียงตอบเบาๆ
ซูฉิงที่ใช้พลังมหาศาลกว่าจะพยุงฮ่อหยุนเฉิงเข้ามาในห้องนอนของเขา
พอผลักประตูออก ซูฉิงที่คิดว่าจะพยุงฮ่อหยุนเฉิงไปที่เตียง และตอนที่เดินผ่านห้องน้ำ ฮ่อหยุนเฉิงก็หยุดเดินกะทันหัน “ฉันขออาบน้ำก่อน ”
ซูฉิงแววตาสั่นไหว พูดออกมา”นายคงไม่ใช่ว่าจะให้ฉันช่วยอาบน้ำใช่มั้ย?!”
ฮ่อหยุนเฉิงมองผู้หญิงที่มอยู่ข้างๆ ที่มองเขาอย่างระมัดระวัง เขาใช้ซ้ายมือข้างซ้ายปลดเนกไทออก ยกยิ้มพูดเป็นเล่นว่า “เธอช่วยฉันเปิดน้ำ”
ซูฉิงไปช่วยฮ่อหยุนเฉิงอย่างจนใจ ทดสอบอุณหภูมิอุ่นของน้ำ “โอเคแล้ว นายไปอาบเถอะ”
เสียงน้ำกระทบพื้นที่ดังออกมาจากห้องน้ำ ซูฉิงนั่งอยู่บนโซฟา เดิมคิดว่ารอให้ฮ่อหยุนเฉิงอาบน้ำเสร็จ จะถามเขาว่าจะให้ตนนอนห้องไหน และผลปรากฏว่ามันเหนื่อยเกินไป ก็เผลอนอนหลับบนโซฟาแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงที่อาบน้ำเสร็จแล้ว ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นซูฉิงนอนหลับอยู่บนโซฟา หายใจแผ่วเบาอยู่ในห้อง
ผิวของหล่อนเรียบเนียน คิ้วโก่งโค้ง โคมไฟส่องสะท้อนขนตางอนของหล่อนและใบหน้าเรียว
ฮ่อหยุนเฉิยยกยิ้ม แววตาดูอบอุ่นม โค้งตยลงไปอุ้มซูฉิง
แล้วก็เดินพาเธอไปที่เตียงอย่างระมัดระวัง จากนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็ห่มผ้าให้เธอ แล้วก็นอนข้างซูฉิง
“เจ้าหมี มาให้ฉันกอดหน่อย”ซูฉิงที่ฝันว่าตัวเองกำลังกอดตุ๊กตาหมีของตัวเองอยู่ พร้อมพับพูดพึมพำ พลิกตัวมาแล้วก็คว้าฮ่อหยุนเฉิงเข้ามากอด
ตัวฮ่อหยุนเฉิงแข็งทื่อ ความรู้สึกอย่างนี้……มันคุ้นเคยมาก
เขายื่นมือออกไปลูบผลของซูฉิงเบาๆ แววตากะพริบ “ถังถัง ไม่ใช่เธอจริงๆ หรอ”
เช้าวันต่อมา แสงสว่างสาดส่องเข้ามาบนเตียง
ซูฉิงที่ถูกแสงอาทิตย์แยงตา ก็กะพริบตาตื่น
สิ่งที่ดึงดูดตาของหล่อนคือโคมไฟคริสตอลหรูข้างบน
หล่อนกำลังอยู่ที่ไหน
ซูฉิงลุกขึ้นกะทันหัน มองไปรอบๆ ก็เห็นว่าตัวเองอยู่บนเตียงของฮ่อหยุนเฉิง!
พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น
ซูฉิงนวดขมับตัวเอง ความทรงจำเมื่อคืนก็ค่อยๆ กลับมา
หล่อนจำได้ว่า เมื่อคืนฮ่อหยุนเฉิงเข้ามาขวางมีดแทนหล่อน แล้วหลังจากที่หล่อนพาเขากลับมาแล้ว ก็มากินข้าวเขาก็ไปอาบน้ำ
แล้วหลังจากนั้นล่ะ
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมหล่อนถึงจำไม่ได้เลยนะ
ทำไมหล่อนถึงได้มาอยู่บนเตียงของฮ่อหยุนเฉิงได้ ? !
ภายในบ้านมีเพียงหล่อนกับฮ่อหยุนเฉิงสองคน ไม่ใช่ว่าหล่อนวิ่งขึ้นมาบนเตียงของฮ่อหยุนเฉิงเอง งั้นก็ต้องเป็น…….ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มหล่อนขึ้นมางั้นหรอ?