เมื่อได้ยินคำพูดของราชาปีศาจอำมหิต ราชาปีศาจทั้งหลายก็ตกใจ
นั่นสิ แผนการของพวกเขามีแค่จักรพรรดิปีศาจกับราชาปีศาจทั้งหกเท่านั้นที่รู้ นักพรตพวกนี้รู้ได้อย่างไร
เว้นเสียแต่ว่า…มีหนอนบ่อนไส้ในหมู่พวกเขา!
ราชาปีศาจทั้งสี่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
สุดท้าย พวกเขาก็พากันจับจ้องที่ราชาปีศาจปัญญาเป็นตาเดียว
ราชาปีศาจปัญญาพรั่นใจ “พวกเจ้ามองข้าทำไม”
ราชาปีศาจโทสะฮึดฮัดในลำคอ “ก่อนออกปฏิบัติการครั้งนี้ ราชาปีศาจทั้งห้าคนล้วนอยู่กับจักรพรรดิปีศาจ มีแต่เจ้าที่ออกไปทำภารกิจ ‘วางเหยื่อล่อ’ หากถามว่าผู้ใดเป็นไส้ศึก ก็มีแต่เจ้าที่มีโอกาส!”
ราชาปีศาจอนยะเบิกตากว้าง ตะคอกเสียงดังว่า “ปัญญา เจ้ามีอะไรจะพูดอีกไหม!”
“พวกเจ้าสงสัยข้างั้นหรือ! ข้าทำภารกิจครั้งนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้าไม่ละอายใจต่อจักรพรรดิปีศาจ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!” ราชาปีศาจปัญญาตวาดเสียงเกรี้ยว
ชั่วชีวิตนี้เขากระทำการอย่างเที่ยงธรรมซื่อตรง ไม่คิดว่าจะถูกราชาปีศาจตนอื่นสงสัย จะสะกดกลั้นอารมณ์ได้อย่างไร
นักพรตทั้งหลายสัมผัสได้ว่าเกิดความขัดแย้งภายในหมู่ราชาปีศาจ จึงไม่รีบร้อนบุกจู่โจม
เมื่ออันหลินได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ดวงตาก็เป็นประกายวาบ โพล่งออกมาเสียงดังว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับราชาปีศาจปัญญา ราชาปีศาจนิรนามอีกตนต่างหากที่บอกแผนการของพวกเจ้าให้พวกเรารู้!”
ราชาปีศาจปัญญาได้ฟังก็ดีใจ ไม่คิดว่านักพรตคนนี้จะออกหน้าปกป้องเขา จึงพูดอย่างซาบซึ้งใจว่า “เจ้าดูสิ นักพรตคนนี้พูดเช่นนี้แล้ว เรื่องนี้จะโทษข้าอีกหรือ”
แต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ สายตาของราชาปีศาจสามคนที่เหลือเยือกเย็นกว่าเดิม
ถึงขั้นว่า แผ่รังสีอำมหิตแล้ว!
“แม้แต่นักพรตมนุษย์ยังเข้าข้างเจ้า พวกเจ้าช่างสนิทสนมกันเหลือเกิน…”
ราชาปีศาจอำมหิตแค่นยิ้มแล้วพูดขึ้นมาช้าๆ กระบี่ของเขาเริ่มมีไอทมิฬลอยออกมาแล้ว
จิตสังหารของราชาปีศาจอีกสองคนก็เริ่มพลุ่งพล่าน เห็นได้ชัดว่าพร้อมจะลงมือแล้ว
แต่เป้าหมายไม่ใช่นักพรตมนุษย์ แต่เป็นราชาปีศาจปัญญา…
ราชาปีศาจปัญญาน้ำตารื้นชื้น เขารู้สึกว่าตัวเองถูกใส่ร้ายป้ายสี ต่อให้มีร้อยปากก็แก้ต่างลำบาก
จากนั้น เถียนหลิงหลิงทำท่าเหมือนความแตก ตะโกนลั่นว่า “ท่านลุงปัญญา ในเมื่อความแตกแล้ว ท่านเลิกเล่นละครได้แล้ว รีบมาจัดการราชาปีศาจสามคนนั้นกับพวกเราเถอะ ไม่ต้องห่วง พวกเขาหนีไม่พ้นแน่!”
เมื่อราชาปีศาจปัญญาได้ยินก็แน่นหน้าอก ราวกับมีสัตว์นับหมื่นตัวเหยียบย่ำผ่านไป
เล่นละครงั้นหรือ ข้าเล่นละครที่ไหนกัน!
ไหนจะเรียกว่าท่านลุงปัญญาอีก
บัดซบ การทักทายแบบนี้ จะทำข้าตายเอานะ!
“หึๆ ราชาปีศาจปัญญา…เล่นละครได้ดีนี่ ตอนนี้ยังทำหน้าเป็นผู้บริสุทธิ์อีก แสดงได้สมจริงยิ่งนัก” ราชาปีศาจอำมหิตชูกระบี่ขึ้นสูงพร้อมกับแสยะยิ้ม
“ประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ไม่คิดว่าเจ้าจะซ่อนได้แนบเนียนเช่นนี้…” กะโหลกสีเลือดของราชาปีศาจอนยะปล่อยลำแสงสีแดงอันน่าสะพรึงออกมา
“อดพูดไม่ได้จริงๆ ว่า ฝีมือการแสดงของเจ้าแนบเนียนนัก พวกเราสามคนถูกเจ้าหลอกหมดเลย!” กรงเล็บสีดำของราชาปีศาจโทสะดังกรอบแกรบ เริ่มรวบรวมพลัง
ราชาปีศาจปัญญาจะร้องไห้แล้ว
เขาไม่คิดเลยว่า ในสายตาคนอื่น ฝีมือการแสดงอันสุดยอดของเขา จะทำให้อยู่ในสภาพเช่นตอนนี้…
“ข้าสาบานว่า หากราชาปีศาจปัญญาคนนี้ทรยศหักหลัง ขอให้ฟ้าผ่า!”
ราชาปีศาจปัญญาเทหมดหน้าตักแล้ว ร้อยปากแก้ต่างไม่ได้ ก็จำใจต้องใช้คำสาบานมาพิสูจน์ตัวเอง
ครืน!
สายฟ้าสีน้ำเงินเส้นหนึ่งพุ่งลงมา ฟาดราชาปีศาจปัญญาเข้าอย่างจังจนเนื้อตัวไหม้เกรียม
…
บัดซบ!
คราวนี้ไม่ใช่แค่เผ่าพันธุ์ปีศาจที่งงเป็นไก่ตาแตก แม้แต่นักพรตมนุษย์ก็นิ่งอึ้งกันหมด
ถูกฟ้าผ่าจริงๆ งั้นเหรอ!
แม้แต่เถียนหลิงหลิงที่ป้ายสีราชาปีศาจปัญญาก็เบิกตากว้าง ตกอยู่ในภวังค์
ราชาปีศาจปัญญาดำเกรียมไปทั้งตัว ควันดำลอยออกมาจากปาก อยากพูดเพียงคำว่า ระยำเอ๊ย!
แน่นอนว่า สายฟ้านี้ไม่ได้ผ่าลงมาโดยไม่มีสาเหตุ
มันเป็นทางหนีทีไล่ที่อันหลินใช้คาถาเรียกสายฟ้าตระเตรียมไว้นานแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ใช้ประโยชน์ที่นี่…
อัสนีมรรควิถีของเขา เป็นวรยุทธ์แก่นแท้แห่งอัสนี กระบวนท่าที่ถือกำเนิดจากมันจะธรรมดาได้อย่างไร
คาถาเรียกสายฟ้า สามารถพรางตานักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ เรียกอัสนีสวรรค์โดยไม่มีใครรู้ได้ และสามารถกักเก็บพลังได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย!
แน่นอนว่า การโจมตีเมื่อครู่นี้เป็นคาถาเรียกสายฟ้าที่กักเก็บพลังมาอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว
ราชาปีศาจปัญญามีพลังแก่กล้า สายฟ้าทำให้เขาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผลลัพธ์ไม่เด่นชัดมากนัก
แต่ว่า สาเหตุการกำเนิดของมันกลับชัดเจนอย่างยิ่ง…
“หากข้าบอกว่านี่เป็นเหตุบังเอิญ พวกเจ้าจะเชื่อไหม” ราชาปีศาจปัญญาสั่นเทิ้ม
เมื่อให้สัตย์สาบานก็โดนฟ้าผ่า เขารู้สึกเหมือนตัวเองจะคลุ้มคลั่งแล้ว!
ราชาปีศาจอำมหิตแหงนหน้ามองฟ้า “ผู้ที่สามารถตบตาพวกเราทุกคน สำแดงอัสนีสวรรค์ฉับพลันได้ มีเพียงจักรพรรดิปีศาจที่ทำได้! เขาให้สัญญาณพวกเราแล้ว…ปัญญา เจ้าตายเสียเถอะ!”
ราชาปีศาจปัญญาอยากชี้แจง แต่กระบี่ของราชาปีศาจอำมหิตเริ่มเงื้อขึ้นแล้ว กะโหลกสีเลือดของราชาปีศาจอนยะกำลังจะลอยไปหาเขา ราชาปีศาจโทสะยื่นกรงเล็บปีศาจดำทะมึนออกไปแล้ว!
ราชาปีศาจปัญญาเข้าตาจน!
ขณะนั้นเอง อันหลินก็ตะโกนลั่นว่า “ทุกคนลุยเลย! สหายปัญญาเป็นอันตรายแล้ว!”
จากนั้น นักพรตมนุษย์ก็ให้ความร่วมมือ พากันนำอาวุธออกมา “ลุย! ปกป้องสหายปัญญา!”
พวกเขาเริ่มพุ่งเข้าใส่นักพรตปีศาจ
ราชาปีศาจปัญญารู้สึกเลือดขึ้นหน้า เขาจะร้องไห้แล้วจริงๆ
สหายปัญญา? ข้าไปเป็นสหายของพวกเจ้าตั้งแต่เมื่อใด!
นักพรตมนุษย์พวกนี้เป็นนักแสดงรางวัลออสการ์กันหมดหรือไง!
ข้ายกถ้วยรางวัลให้พวกเจ้าดีไหม ขอร้องพวกเจ้าปล่อยข้าไปเถอะ!
ราชาปีศาจสามตนพบว่าเหล่านักพรตมนุษย์ เริ่มต่อสู้เพื่อปกป้องคุ้มครองราชาปีศาจปัญญา แต่ละคนเดือดดาลอย่างยิ่ง ต่างก็ใช้ท่าไม้ตายแล้ว!
ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็จำต้องกำจัดราชาปีศาจปัญญาคนนี้โดยไว มิเช่นนั้นก็ยากจะลบล้างความเคียดแค้นในใจของพวกเขาได้!
สงครามแพ้ได้ ไส้ศึกจำต้องสังหาร!
“กระบี่อัคคีอนธาการ!” ราชาปีศาจอนยะตวัดกระบี่ปล่อยเปลวไฟสีดำออกมา ทลายพลังคุ้มกันกายของราชาปีศาจปัญญา
ราชาปีศาจปัญญากระอักเลือดกระเด็นออกไป จากนั้น เขาก็เห็นกะโหลกสีเลือดขนาดหนึ่งจั้งกำลังอ้าปากจะกัดเขา
“พลังเนตรสีชาด!” ดวงตาสีแดงของราชาปีศาจปัญญาระเบิดแสงสีแดงออกมา ทำให้กะโหลกสีเลือดถอยออกไป
ในเวลาเดียวกัน ราชาปีศาจโทสะก็มาโผล่ข้างหลังราชาปีศาจปัญญา กรงเล็บสีดำปักลงแผ่นหลังของราชาปีศาจปัญญาราวกับเป็นกระบี่คม
“เจ้าคนทรยศ ตายเสียเถอะ!”
ราชาปีศาจโทสะคำรามลั่นแล้วฉีกร่างทันที!
แควก!
ร่างของราชาปีศาจปัญญาถูกฉีกเป็นสองท่อนทันที!
เลือดสีดำโปรยปราย โรยราเช่นเดียวกับชีวิตของเขา
กรงเล็บฉีกมารของราชาปีศาจโทสะประสบผลสำเร็จแล้ว!
เมื่อราชาปีศาจทั้งหลายเห็นคนทรยศสิ้น ก็รู้สึกโล่งอก สบายใจขึ้นมากทีเดียว มีบางคนถึงขั้นว่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
เพราะผู้พิทักษ์โลกและนักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณคนอื่น ‘มาสายไปหนึ่งก้าว’ เห็นสหายปัญญาตายต่อหน้าต่อตา ก็ตีอกชกหัว เสียใจเป็นที่สุด
นักแสดงยอดฝีมือแห่งยุค ราชาปีศาจปัญญาสิ้นใจเสียแล้ว!
นักแสดงทั้งหลายโกรธแค้น ต่อสู้จนนัยตาแดงก่ำ!
สงครามนี้ยังคงดำเนินต่อไป!
…………………………………..