บทที่ 76 คุณค่าของแม่กับลูก

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 76

คุณค่าของแม่กับลูก

“นึกว่าใคร? ที่แท้ก็เป็นซีเหยียนนี่เอง มีธุระอะไรถึงได้มาข้า?” ฮูหยินอวี้นั้นเหมาะสมแก่การเป็นผู้ปกครองจวนแห่งนี้จริงๆ นางนั้นกำลังจะฆ่าแม่และเด็กอยู่แท้ๆแต่กลับพูดจาอย่างใจเย็นอยู่ได้

หญิงสาวที่นั่งกองอยู่ที่พื้นนั้นเมื่อเห็นหลินซีเหยียน ก็รู้สึกราวกับพบผู้มาโปรด “ได้โปรดช่วยข้าด้วย ข้ายังไม่อยากตาย!”

“เงียบซะ ทำไมพวกเจ้าถึงยังไม่เอาตัวนางไปอีก” ฮูหยินอวี้มองกวาดด้วยสายตาที่เย็นชาทำให้เหล่าคนผู้ใต้บังคับบัญชาของนางพากันปิดปากหญิงสาวคนนั้นและเตรียมที่จะพาตัวนางไป

ในขณะที่พวกเขากำลังจะพาตัวไปนั้น หลินซีเหยียนก็ได้ออกมายืนขวาง

แต่ก่อนที่หลินซีเหยียนจะได้พูดอะไร ฮูหยินอวี้ก็ได้พูดขึ้นมาก่อน “ซีเหยียนเจ้าเชื่อที่ผู้หญิงบ้าคนนั้นพูดจริงๆเหรอ?”

“ผู้หญิงบ้า?” หลินซีเหยียนหรี่สายตาของนางแล้วถามอย่างมีนัย

ฮูหยินอวี้ผงกหัว “เจ้าก็รู้ว่าจวนมหาเสนาบดีนั้นสูงศักดิ์แค่ไหน? แต่ผู้หญิงคนนี้กลับใช้ท้องโตๆของนางหวังจะไต่เต้าขึ้นมา ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงจริงๆ”

“ดังนั้นฮูหยินอวี้ก็คิดที่จะลงมือทันทีโดยไม่แม้แต่จะไต่สวนเลยงั้นเหรอ? นี่มันจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยเหรอ?” หลินซีเหยียนยักคิ้วแล้วกล่าว และจ้องมองนางด้วยสายตาที่ประชดประชัน

ฮูหยินอวี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่นางรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหากไม่จัดการกับผู้หญิงท้องที่อยู่ตรงหน้านางเดี๋ยวนี้แล้ว นางจะต้องกลายมาเป็นขวากหนามของนางในภายภาคหน้าแน่ เมื่อคิดเช่นนี้แล้วฮูหยินอวี้ก็ได้กัดฟันกล่าว “ข้าเองก็รู้สึกเสียใจที่ต้องพูดเช่นนี้กับเจ้าที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่นี่คือวิธีจัดการกับผู้หญิงท้องเช่นนี้ที่เหล่าคุณผู้หญิงทั้งหลายเขาทำกัน แล้วในอนาคตเจ้าก็จะเข้าใจเอง”

แล้วที่มุมปากของหลินซีเหยียนก็ได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาและดวงตาของนางก็ได้จับจ้องไปที่ฮูหยินอวี้ด้วยแววตาที่สว่างวาบ และบรรยากาศที่หนาวเย็นนี้ก็ได้หนักอึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ “ฮูหยินอวี้คงจะลืมไปแล้วว่าที่ตัวเองมีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะเด็กในท้องเช่นกัน แล้วทำไมนางถึงไม่ได้สิทธิ์นั้นบ้าง?”

ในเวลานี้ฮูหยินอวี้เข้าใจแล้วว่าหลินซีเหยียนนั้นต้องการที่จะเก็บผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ นางจะต้องรีบตัดสินใจ หากว่านางกำจัดผู้หญิงคนนี้เดี๋ยวนี้ต่อให้ท่านหลินรู้เรื่องนี้ เขาก็จะไม่โทษนางเพื่อผู้หญิงที่ตายไปแล้วแน่นอน

“แต่ถ้าซีเหยียนยังยืนยันที่จะขัดขวางฮูหยินคนนี้จากการทำความสะอาดบ้านแล้วล่ะก็ เจ้าจะมาโทษข้าไม่ไว้หน้าเจ้าไม่ได้นะ” หลังจากที่ฮูหยินอวี้กล่าวจบนางก็ได้กะพริบตาให้กับข้ารับใช้ในเรือนของนาง

แล้วเหล่าข้ารับใช้ก็ได้พากันเดินล้อมหลินซีเหยียนเอาไว้ และพยายามที่จะจับกุมนาง หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มขึ้นมาอย่างดูถูก “ฮูหยินอวี้ ท่านคิดจะทำอะไรกับข้างั้นเหรอ?”

“ข้าก็แค่กลัวว่าเจ้าจะถูกหลอกด้วยเรื่องไร้สาระของผู้หญิงเสียสติคนนี้เท่านั้น” ฮูหยินอวี้ก็ได้กล่าวอย่างเมินเฉย แล้วก็กล่าวด้วยเสียงที่จริงจัง “เร็วเข้าสิ รีบกำจัดนางก่อนที่นายท่านจะกลับมา”

ผู้หญิงคนนั้นก็ได้มองดูคนที่กำลังจะมาจัดการกับนาง นางนั้นทำได้แค่จ้องไปที่หลินซีเหยียนเขม็งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็ครางออกมาด้วยปากที่ถูกปิดอยู่

“ฮูหยินอวี้คิดเหรอว่าคนเหล่านี้จะทำอะไรข้าได้?” หลินซีเหยียนกล่าวจบ ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะได้ไหวตัวทัน นางก็ได้โยนผงสีขาวเต็มมือออกไป แล้วทันใดนั้นเองผู้คนทั้งหมดรอบตัวนางก็ลงไปกองกับพื้นทันที โดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขานั้นเป็นหรือตาย

“หลิน…หลินซีเหยียน เจ้า….เจ้าคิดฆ่าคนอย่างนั้นเหรอ?” อย่างไรเสียฮูหยินอวี้นั้นก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากที่เห็นภาพเช่นนี้สีหน้าของนางก็ได้ซีดลงด้วยความกลัว

ในเวลานี้เองเสียงของมหาเสนาบดีหลินก็ได้ดังขึ้นมา “หลินซีเหยียน ลูกไม่รักดีเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

“ท่านหลิน” ฮูหยินอวี้ที่ได้ยินเสียงของมหาเสนาบดีหลินก็ได้มีแววตาความหวังขึ้นมาในดวงตาของนางทันที แล้วนางก็รีบวิ่งไปด้านหลังของมหาเสนาบดีหลินด้วยน้ำเสียงที่ร่ำไห้แล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านหลิน นางผู้หญิงบ้านั่นมาที่บ้านมหาเสนาบดีและคิดมักใหญ่ใฝ่สูง ข้าจึงได้คิดที่จะจัดการกับนางแต่ก็ไม่นึกว่าซีเหยียนกลับอยากที่จะจัดการกับข้าเช่นนี้”

เมื่อมหาเสนาบดีหลินได้ยินเข้าก็โกรธอย่างมาก เขาได้หยิบเอาไม้ที่วางอยู่ที่พื้นขึ้นมาแล้วฟาดไปที่หลินซีเหยียน แล้วแววตาที่เย็นชาของหลินซีเหยียนก็ได้ปรากฏขึ้นมาแล้วจากนั้นก็หลบออกข้างอย่างทันท่วงที

“ทำไมท่านมหาเสนาบดีหลินถึงได้โกรธข้าด้วย?” หลินซีเหยียนกล่าวอย่างเยาะเย้ยในขณะที่หลบการฟาดไม้เรียวของมหาเสนาบดีหลิน

“นังลูกไม่รักดี อวี้เหลียนนั้นเป็นนายหญิงของบ้านมหาเสนาบดี แล้วยังเป็นเหมือนแม่ของเจ้าครึ่งหนึ่ง แต่เจ้ากลับมีเจตนาที่จะฆ่านางเช่นนั้นรึ?” อย่างไรเสียมหาเสนาบดีหลินนั้นก็เป็นขุนนางคนหนึ่งร่างกายจึงไม่ไหวที่จะมากวัดแกว่งไม้เรียวเช่นนี้เป็นเวลานานๆ เขาเหวี่ยงไปได้สักพักก็ได้เริ่มเหนื่อยจัดและหอบตัวโยน

“ทำไมมหาเสนาบดีหลินถึงไม่คิดถามบ้างว่าทำไม? นอกจากนี้ข้าไม่ต้องการที่จะฆ่านางด้วย นางต่างหากที่สั่งให้คนที่นอนกองอยู่ที่พื้นพวกนี้มาทำร้ายข้า” แล้วหลินซีเหยียนก็ได้ยักไหล่ แล้วจากนั้นก็มองไปที่ผู้หญิงที่ถูกจับโดยข้ารับใช้สองคนแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “และท่านควรที่จะไปดูหน้าคนที่ฮูหยินอวี้บอกว่าเป็นผู้หญิงบ้าเสียก่อนนะ บางทีท่านจะอยากขอบคุณข้าขึ้นมาบ้าง”

“ท่านหลิน อย่าไปฟังที่หลินซีเหยียนพูดนะเจ้าคะ นางกำลังปรักปรำข้า” ฮูหยินอวี้ร้องกล่าว

มหาเสนาบดีหลินที่ได้ฟังที่หลินซีเหยียนกล่าวแล้วก็ได้มองไปที่ฮูหยินอวี้ จากนั้นก็เดินไปหาคนที่ถูกเรียกว่าผู้หญิงบ้า แล้วสายตาของเขาก็ได้เบิกกว้างขึ้นมาทันที “อินเอ๋อ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

แล้วผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าอินเอ๋อนั้นก็ได้เอาแต่ร้องไห้อย่างเงียบๆ เพราะว่ามีเศษผ้าที่ปิดปากนางเอาไว้อยู่ และเพราะใบหน้าสวยๆของนางต้องร้องไห้เช่นนี้ทำให้มหาเสนาบดีหลินรู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก

เขาจึงได้ค่อยๆแก้เชือกที่ถูกจับมัดอยู่แล้วจากนั้นก็ได้แก้ผ้าที่ปิดปากของนางอยู่ออก

“ท่านหลิน ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอกับท่านอีกแล้ว” อินเอ๋อก็ได้กอดมหาเสนาบดีหลิน เสียงของนางนั้นดูอ่อนระโหยมาก ซึ่งต่างไปจากน้ำเสียงที่ดุดันในตอนที่โต้เถียงกับฮูหยินอวี้เมื่อสักครู่

“อินเอ๋อไม่ต้องร้องนะ ว่าแต่เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” มหาเสนาบดีหลินกล่าวพร้อมกับคิ้วขมวด

แล้วแววตาคำนวณของอินเอ๋อก็ได้ฉายออกมา แล้วนางก็ได้สะอื้นแล้วกล่าว “เมื่อเช้าข้ารู้สึกไม่สบายจึงได้ไปหาท่านหมอ แล้วท่านหมอก็บอกว่าข้ากำลังตั้งท้องอยู่ การตั้งท้องก่อนที่จะแต่งงานเช่นนี้ไม่แคล้วข้าได้ถูกจับเข้าไปในกรงหมู ข้าที่ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีจึงได้มาหาท่าน แต่ก็ไม่คิดว่าฮูหยินของท่านนั้นคิดอยากที่จะฆ่าข้าเช่นนี้”

“อวี้เหลียน ไม่ใช่ว่าเจ้าควรที่จะให้คำอธิบายเรื่องนี้แก่ข้าสักหน่อยเหรอ?” ในเวลานี้มหาเสนาบดีหลินรู้สึกไม่พอใจ ฮูหยินอวี้ขึ้นมา ในเวลานี้เขากำลังสงสัยว่าผู้หญิงที่เขาชอบนั้นกำลังถูกทำร้ายโดยผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา

ฮูหยินอวี้นั้นรู้ว่าสถานการณ์ทำท่าจะไม่ค่อยดีแล้วจึงได้รีบไปกุมมือของมหาเสนาบดีหลินและผู้หญิงคนที่นางว่าเป็นบ้า ราวกับคิดเอาไว้แล้ว

แล้วฮูหยินอวี้ก็ได้กล่าวอย่างเย็นชา “ท่านหลิน ท่านเป็นถึงมหาเสนาบดีที่อยู่เหนือผู้คนเป็นหมื่นเป็นแสนคน แต่นางเป็นแค่ผู้หญิงบ้าที่ตั้งท้องโดยที่ไม่ได้แต่งงาน ถ้าหากข้าไม่จัดการกับนางให้ดีแล้ว คนภายนอกก็จะครหาท่านได้”

เมื่อมหาเสนาบดีหลินได้ยินเช่นนี้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าที่ ฮูหยินอวี้ว่ามานั้นก็มีเหตุผลอยู่ และความโกรธของเขาก็ได้ค่อยๆลดลงไป

ฮูหยินอวี้ก็ได้กล่าวขึ้นมา “ในเมื่อแม่นางคนนี้ตั้งท้องกับท่าน ข้าก็จะรับนางเข้ามา เพื่อไม่ให้เด็กในท้องของนางทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้ในอนาคต”

มหาเสนาบดีหลินก็รู้สึกยินดีขึ้นมาที่ได้ยินเช่นนั้น เขานั้นคิดที่จะรับอินเอ๋อเข้ามาในจวนนานแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกกับฮูหยินอวี้เช่นไรดี

จากนั้นเขาก็ได้มองไปที่ฮูหยินของเขาแล้วพูดออกมา “ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้เจ้าเป็นคนจัดการเรื่องนี้”

แล้วดวงตาของฮูหยินอวี้ก็ได้แสดงความสิ้นหวังอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ